จังหวัดชัยภูมิ ใช้มาตรการเบาไปหาหนัก แก้ปัญหาสร้างบ้าน ขุดสระ
ปลูกต้นไม้ หวังเงินชดเชย สร้างอ่างเก็บน้ำ ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ
ยืนยันข่าวชดเชยหลังละล้าน เป็นไปไม่ได้
ออกประกาศเตือนประชาชนอย่างหลงเชื่อ
เมื่อเวลา 09.00น. วันนี้ นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผวจ.ชัยภูมิ
เรียกประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีก่อสร้างบ้าน
ขุดสระและสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ เพื่อหวังเงินค่าชดเชย เวนคืน
จากการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำโปร่งขุนเพชร และอ่างเก็บน้ำยางนาดี
จังหวัดชัยภูมิ โดยมีว่าที่ร้อยตรีไพเจน มากสุวรรณ รองอธิบดีกรมชลประทาน
ร่วมประชุมด้วย หลังพบว่ามีกลุ่มนายทุนนอกพื้นที่อย่างน้อย 10 กว่าคน
เข้ามากว้านซื้อที่ดิน ในพื้นที่ก่อสร้างเขื่อนดังกล่าว สร้างบ้าน ขุดสระ
ปลูกต้นไม้ ขายต่อมือ ปล่อยข่าวว่า จะได้รับเงินชดเชยหลังละ 1 ล้านบาท
ทำให้ตอนนี้มีคนหลังเชื่อ และกู้เงินนอกระบบไปซื้อจำนวนมาก
เบื้องต้นได้สั่งการให้นายอำเภอทั้ง 3 อำเภอ คือบ้านเขว้า หนองบัวระเหว
และเทพสถิต ลงไปชี้แจงทำความเข้าใจในพื้นที่ด้วยตนเอง
ทางราชการไม่มีระเบียบจ่ายเงินชดเชยมากขนาดนั้น
พร้อมเร่งตรวจสอบการออกบ้านเลขที่ และการย้ายเข้าทะเบียนบ้านผิดปกติ
ขณะนี้พบที่อำเภอหนองบัวระเหว จำนวน 200 กว่าราย
หากพบว่าเป็นขบวนการย้ายเพื่อหวังเงินชดเชย
มีประวัติทำอย่างนี้ที่เขื่อนอื่นๆ ถือว่ามีเจตนาทุจจริต สามารถเพิกถอน
และดำเนินคดีได้
อย่างไรก็ตาม ผวจ.ชัยภูมิ กล่าวว่าขณะนี้มีรายชื่อกลุ่มทุนในมือแล้ว
13 ราย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งสืบสวน สอบสวน ทางลึก
หากพบว่ามีพฤติกรรมกว้านซื้อที่ สร้างบ้าน หวังเงินชดเชย
จากการก่อสร้างเขื่อน จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด ในส่วนของชาวบ้าน
ที่ตกเป็นเหยื่อ หรือมีพื้นที่ครอบครองถูกต้อง
ตอนนี้ต้องให้หยุดการสร้างบ้าน ขุดสระ เอาไว้ทั้งหมด เริ่มจากเบาไปหาหนัก
ห้ามแล้วยังทำต้องดำเนินการตามกฎหมาย
กรมชลประทานในฐานะผู้ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ ต้องเป็นผู้เสียหาย
แจ้งความดำเนินคดี เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติ
ทั้งงบประมาณที่ต้องจ่ายชดเชย และการเสียโอกาสจากการสร้างอ่างเก็บน้ำ
ช่วยภัยแล้ง และแก้ปัญหาน้ำท่วม
สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น