รองนายกรัฐมนตรี และประธาน กบอ. ลงพื้นที่ชัยภูมิ
ติดตามปัญหาการสร้างบ้าน และการออกเลขที่บ้าน
ในพื้นที่ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำโปร่งขุนเพชร และอ่างเก็บน้ำยางนาดี ยืนยัน
การจ่ายเงินชดเชย ยึดภาพถ่ายทางดาวเทียม สร้างบ้าน
โอนย้ายชื่อเข้มมาผิดปกติ อาจวืดเงินค่าชดเชย
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 13 มิ.ย.56 นายปลอดประสพ สุรัสวดี
รองนายกรัฐมนตรีและประธาน กบอ. พร้อมด้วยนายจิรายุ นันท์ธราธร
ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 14
และคณะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ เพื่อติดตามปัญหาการสร้างบ้าน
และการออกเลขที่บ้าน ในพื้นที่ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำโปร่งขุนเพชร
และอ่างเก็บน้ำยางนาดี เพื่อหวังเงินค่าชดเชย โดยเข้ารับฟังบรรยายสรุปจาก
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ห้องประชุม อบต.วังตะเฆ่ อ.หนองบัวระเหว
มีนายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อม
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มพลังมวลชนกว่า
1,000 คน ชูป้ายสนับสนุนการสร้างอ่างเก็บน้ำช่วยภัยแล้ง น้ำท่วม ของรัฐบาล
และต่อต้านกลุ่มคนที่เข้ามาฉวยโอกาส ขณะเดียวกันได้มีตัวแทน
เข้ายื่นหนังสือ
เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ชัยภูมิ
โดยเร็ว
จากนั้น ได้เดินทางลงพื้นที่ บ้านกระจวน หมู่ที่ 4 คุ้มโคกกระโดน
ต.วังตะเฆ่ อ.หนองบัวระเหว พบกับแกนนำ และพบกับกลุ่มชาวบ้าน ซึ่งจุดนี้
เป็นพื้นที่น้ำท่วม และมีการสร้างบ้านลักษณะชั่วคราว จำนวน 220 หลัง
ในพื้นที่ของกรมชลประทาน ซึ่งกรมป่าไม้
ได้มอบพื้นที่ให้เพื่อดำเนินการสร้างอ่างเก็บน้ำโปร่งขุนเพชร
ขนาดความจุประมาณ 74 ล้านลูกบาศก์เมตร ล่าสุด มติ ครม. สัญจร ที่สุรินทร์
ให้ชลประทานก่อสร้างต่อ โดยใช้งบประมาณกว่า 809 ล้านบาท
จากโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรีและประธาน กบอ. เปิดเผยว่า
ข้อเท็จจริงก็คือ ที่ตรงนี้เป็นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ไม่มีเอกสารสิทธิ์
แต่ก็มีภาพถ่ายทางดาวเทียม ที่สามารถบอกได้ว่า หมู่บ้านนี้เกิดขึ้นเมื่อใด
ตั้งแต่หลังแรก จนถึงหลังสุดท้าย มีข้อมูลทั้งหมด เมื่อมีบ้าน
มีคนเข้ามาอยู่ แล้วก็จะเกิดน้ำท่วมเมื่อสร้างอ่างเก็บน้ำ
รัฐบาลมีหน้าที่ช่วยประชาชน โดยยึดตามมติ ครม. ซึ่งระเบียบตรงนี้ให้ช่วยได้
เป็นเงินค่าชดเชย ซึ่งคนเหล่านี้จะต้องออกมาแสดงตัว
ซึ่งจะได้รับการช่วยเหลือ ในเรื่องของการ เข้ามาอยู่อาศัย ทำประโยชน์ที่ดิน
แต่ไม่ได้ค่าที่ดิน เพราะเป็นที่ป่าสงวน ส่วนปัญหาการโอนย้ายทะเบียนบ้าน
จากที่อื่นเข้ามาอยู่ อย่างกะทันหัน จำนวนมาก ส่อเจตนา
เพื่อรับเงินค่าชดเชยนั้น คาดว่า
กลุ่มคนกลุ่มนี้อาจจะไม่ได้รับเงินค่าชดเชย
หรือได้รับแต่ได้เพียงค่ารื้อถอน ไม่ได้ค่าทำมาหากิน ตรงนี้มีระเบียบชัดเจน
ใครที่จะมากระทำการก่อสร้างบ้านบุกรุกพื้นที่อีกก็จะต้องดำเนินการตามกฏหมาย
ทันที
รวมทั้งคนที่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องออกบ้านเลขที่ก็ให้เป็นเรื่องดำเนินการทาง
วินัย และคดีอาญาทั้งหมดด้วยต่อไป ซึ่งต่อไปทาง
กบอ.คงไม่ต้องมาตรวจสอบปัญหาเรื่องนี้อีก
และจะเร่งเดินหน้าทุกโครงการบริหารจัดการน้ำทั้งหมดทั่วประเทศต่อไป
อีกพื้นที่ ที่เกิดกรณีคล้ายกัน คือ การสร้างบ้าน ปลูกต้นไม้
ขุดสระน้ำ ในพื้นที่ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำยางนาดี
ที่ตรงนั้นเป็นที่เอกสารสิทธิ์ถูกต้อง
ก็จะได้รับเงินช่วยเหลือแบบที่มีเอกสารสิทธิ์ ได้ทั้งค่าชดเชยที่ดิน
ค่าอาคารบ้านพัก ค่าขนย้าย สิ่งที่จะต้องตรวจสอบก่อนจ่ายเงินช่วยเหลือคือ
วันเวลา ของการก่อสร้าง สร้างโดยบริสุทธิ์ อยู่อาศัยปกติ
หรือจงใจมาสร้างเพื่อหวังเงินชดเชย เรื่องนี้ต้องพิสูจน์
และชาวบ้านก็ต้องยอมรับ เพราะหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ไปทุกแห่ง
ที่จะมีการสร้างโครงการใหญ่ๆ บ้านเมืองเราจะอยู่ได้อย่างไร
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด ในการตรวจสอบสิ่งปลูกสร้าง
และการออกเลขที่บ้าน จนถึงขณะนี้ จังหวัดชัยภูมิได้สรุปตัวเลข
ในพื้นที่อ่างเก็บน้ำโปร่งขุนเพชร มีการปลูกสร้างบ้าน จำนวน 413 หลัง
ออกบ้านเลขที่ไปแล้ว 257 หลัง ขุดสระน้ำ 82 สระ ต้นไม้ 45,815 ต้น
สิ่งปลูกสร้างอานๆอีก 21 แห่ง ส่วนในพื้นที่อ่างเก็บน้ำยางนาดี
การการปลูกสร้างบ้าน 331 หลัง ออกบ้านเลขที่แล้ว 111 หลัง สระน้ำ 149 สระ
ต้นไม้ 21,539 ต้น
สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น