เมื่อเวลา 13.00น. วันที่ 10 ตุลาคม 2556 นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและช่วยเหลือผู้ประสบอุทก ภัยในพื้นที่ จังหวัดชัยภูมิ โดยมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัย ในพื้นที่ตำบลละหาน อ.จัตุรัส และตำบลบ้านค่าย อ.เมืองชัยภูมิ จำนวน 2,000 ถุง หลังได้รับความเดือดร้อนจากภาวะฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก ทำให้ปริมาณน้ำในลำน้ำชีเพิ่มสูง ไหลเอ่อเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร บ้านเรือน สิ่งสาธารณูปโภคได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ กองทัพภาค 2 ยังส่งชุดผลิตน้ำดื่ม และชุดประกอบอาหาร สำหรับประชาชนในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม อีกด้วย นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผวจ.ชัยภูมิ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ได้คลี่คลายแล้ว 9 อำเภอ ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังใน 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองชัยภูมิ หนองบัวระเหว บ้านเขว้า จัตุรัส เนินสง่า คอนสวรรค์ บำเหน็จณรงค์ ซึ่งแนวโน้มสถานการณ์ในภาพรวมระดับน้ำลดลง ซึ่งน้ำท่วมปีนี้ เกิดขึ้นใน 16 อำเภอ 112 ตำบล 1,237 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 105,075 ครัวเรือน 285,928 คน พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบ 501,475 ไร่
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า รัฐบาล โดยการนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความเป็นห่วงประชาชนที่ปรบภัย ได้มอบหมายให้รองนายกฯและรัฐมนตรี เดินทางมาพบปะ เยี่ยมเยือน และมอบสิ่งของช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ประสานการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยหน่วยงานทหารในพื้นที่ และเร่งฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ส่วนพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว ให้จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายเพื่อรวบรวมจัดทำฐานข้อมูลการช่วยเหลือครอบคลุมทุกด้าน สอดคล้องกับสภาพเสียหายจริงและเป็นไปตามขั้นตอนหลักเกณฑ์ของระเบียบกระทรวงการคลังฯ กรณีงบประมาณช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด ไม่เพียงพอ สามารถขอขยายวงเงินทดรองราชการเพิ่มเติมได้
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า รัฐบาล โดยการนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความเป็นห่วงประชาชนที่ปรบภัย ได้มอบหมายให้รองนายกฯและรัฐมนตรี เดินทางมาพบปะ เยี่ยมเยือน และมอบสิ่งของช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ประสานการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยหน่วยงานทหารในพื้นที่ และเร่งฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ส่วนพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว ให้จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายเพื่อรวบรวมจัดทำฐานข้อมูลการช่วยเหลือครอบคลุมทุกด้าน สอดคล้องกับสภาพเสียหายจริงและเป็นไปตามขั้นตอนหลักเกณฑ์ของระเบียบกระทรวงการคลังฯ กรณีงบประมาณช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด ไม่เพียงพอ สามารถขอขยายวงเงินทดรองราชการเพิ่มเติมได้
สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น