รังไหมนอกจากจะถูกนำมาผลิตเป็นผ้าไหมที่ขึ้นชื่อของ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา มานานนับ 100 ปี แล้ว รังไหมเมื่อนำมาผสมผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ความเป็นเลิศ ด้านมอยส์เจอไรเซอร์ ของรังไหมก็มีไม่แพ้กัน จึงเป็นโอกาสในการต่อยอดผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเกษตรกรกลุ่มทอผ้าไหม อย่างเช่น กลุ่มหัตถศิลป์ชุมชนโนนตูม อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ที่นำเอาโปรตีนคุณภาพสูงจากส่วนของใยไหมและรังไหมที่ หรือที่กลุ่มผูทอผ้าไหมเรียกกว่า กาวไหม ที่เหลือจากการผลิตเส้นไหมมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากโปรตีนไหม ซึ่งได้การรับรองมาตรฐาน มผช. (มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน) และผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติทางจุลชีวิทยาจากกองเครื่องสำอางและวัตถุอันตราย กระทรวงสาธารณสุข กระทั่งได้รับรางวัลเป็นสินค้าโอท็อประดับ 5 ดาว
นาง วิจิตรา กาญจนวัฒนา ประธานกลุ่มหัตถศิลป์ชุมชนโนนตูม อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา กล่าวว่า กาวไหมจากรังไหมที่ทางกลุ่มหัตถศิลป์ชุมชนโนนตูม นำมาสกัดเป็นส่วนผสมในรูปของผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ซึ่งจากการศึกษา ทำให้รู้ว่ากาวไหมที่ได้จากรังไหมมีโปรตีนบริสุทธิ์จากธรรมชาติมากถึง 18 ชนิด มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มสารอาหารให้เซลล์ที่สร้าง Collagen และ Elastin ซึ่งเป็นสารใยโปรตีนที่ช่วยบำรุงผิว ทำให้ริ้วรอยต่างๆลดลงและโปรตีนจากกาวไหมยังช่วยต้านแบคทีเรียและต้านไวรัสลดอาการอักเสบของเซลล์ ลดปริมาณเชื้อโรคที่ผิวหนัง ส่งผลให้แผลหายเร็ว ลดอาการอักเสบจากสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ จึงเกิดไอเดียนำกาวไหมมารีไซเคิลให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่อยอดผลิตภัณฑ์ใหม่มากมาย อาทิ ชุดบำรุงผิวหน้า ประกอบด้วย สบู่โปรตีนไหมน้ำแร่ผสมขมิ้น สบู่โปรตีนไหมผสมเปลือกมังคุด สบู่โปรตีนไหมผสมสารสกัดมัลเบอรี่ ครีมบำรุงผิวโปรตีนไหม และรังไหม สครับผิว ขจัดสิวเสี้ยน ส่วนชุดบำรุงผิวกาย ประกอบด้วย โลชั่นบำรุงผิวโปรตีนไหม ผสมสารสกัดจากมัลเบอรี่ รากหม่อน โลชั่นบำรุงผิวโปรตีนไหม โลชั่นบำรุงผิวโปรตีนไหม ผสมมะหาด นอกจากจะนำกาวไหม ที่ได้จากรังไหมมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแล้ว กาวไหมยังสามารถแปรูปนำมาผสมในอาหารได้อีก อาทิ กาแฟ และไอศกรีม ซึ่งกาวไหมมีโปรตีนสูง ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย อีกทั้ง กาวไหมยังสามารถนำมาเป็นส่วนผสมกับสมุนไพรใช้ในการนวดเพื่อคลายกล้ามเนื้อและคลายเครียดได้อีกด้วย
ธรรมชาติของรังไหม มีโปรตีนบริสุทธิ์ธรรมชาติที่เราอาจมองไม่เห็น แต่งานวิจัยของต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่นและจีน ต่างยอมรับว่า รังไหมเป็นสุดยอดโปรตีนธรรมชาติ สามารถนำมาสกัดเป็นผงไหมในผลิตภัณฑ์เวชสำอางหรือส่วนผสมในเครื่องดื่ม ซึ่งผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์จากรังไหม สามารถติดต่อไปที่ กลุ่มหัตถศิลป์ชุมชนโนนตูม อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา 397 ม.10 ถ.ศรีพลรัตน์ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา หมายเลขโทรศัพท์ 081-9672039
นาง วิจิตรา กาญจนวัฒนา ประธานกลุ่มหัตถศิลป์ชุมชนโนนตูม อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา กล่าวว่า กาวไหมจากรังไหมที่ทางกลุ่มหัตถศิลป์ชุมชนโนนตูม นำมาสกัดเป็นส่วนผสมในรูปของผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ซึ่งจากการศึกษา ทำให้รู้ว่ากาวไหมที่ได้จากรังไหมมีโปรตีนบริสุทธิ์จากธรรมชาติมากถึง 18 ชนิด มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มสารอาหารให้เซลล์ที่สร้าง Collagen และ Elastin ซึ่งเป็นสารใยโปรตีนที่ช่วยบำรุงผิว ทำให้ริ้วรอยต่างๆลดลงและโปรตีนจากกาวไหมยังช่วยต้านแบคทีเรียและต้านไวรัสลดอาการอักเสบของเซลล์ ลดปริมาณเชื้อโรคที่ผิวหนัง ส่งผลให้แผลหายเร็ว ลดอาการอักเสบจากสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ จึงเกิดไอเดียนำกาวไหมมารีไซเคิลให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่อยอดผลิตภัณฑ์ใหม่มากมาย อาทิ ชุดบำรุงผิวหน้า ประกอบด้วย สบู่โปรตีนไหมน้ำแร่ผสมขมิ้น สบู่โปรตีนไหมผสมเปลือกมังคุด สบู่โปรตีนไหมผสมสารสกัดมัลเบอรี่ ครีมบำรุงผิวโปรตีนไหม และรังไหม สครับผิว ขจัดสิวเสี้ยน ส่วนชุดบำรุงผิวกาย ประกอบด้วย โลชั่นบำรุงผิวโปรตีนไหม ผสมสารสกัดจากมัลเบอรี่ รากหม่อน โลชั่นบำรุงผิวโปรตีนไหม โลชั่นบำรุงผิวโปรตีนไหม ผสมมะหาด นอกจากจะนำกาวไหม ที่ได้จากรังไหมมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแล้ว กาวไหมยังสามารถแปรูปนำมาผสมในอาหารได้อีก อาทิ กาแฟ และไอศกรีม ซึ่งกาวไหมมีโปรตีนสูง ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย อีกทั้ง กาวไหมยังสามารถนำมาเป็นส่วนผสมกับสมุนไพรใช้ในการนวดเพื่อคลายกล้ามเนื้อและคลายเครียดได้อีกด้วย
ธรรมชาติของรังไหม มีโปรตีนบริสุทธิ์ธรรมชาติที่เราอาจมองไม่เห็น แต่งานวิจัยของต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่นและจีน ต่างยอมรับว่า รังไหมเป็นสุดยอดโปรตีนธรรมชาติ สามารถนำมาสกัดเป็นผงไหมในผลิตภัณฑ์เวชสำอางหรือส่วนผสมในเครื่องดื่ม ซึ่งผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์จากรังไหม สามารถติดต่อไปที่ กลุ่มหัตถศิลป์ชุมชนโนนตูม อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา 397 ม.10 ถ.ศรีพลรัตน์ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา หมายเลขโทรศัพท์ 081-9672039
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น