นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 นครราชสีมา ว่า โรคพยาธิใบไม้ตับ เป็นปัญหาสำคัญในพื้นที่ภาคอีสานก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างมากแก่คนอีสาน ทั้งในด้านแรงงาน เศรษฐกิจ และสังคม ปัจจุบันยังมีผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดีรายใหม่เพิ่มมากขึ้น โดยพบว่ามีผู้เสียชีวิตมากที่สุดคือ ภาคอีสาน ส่วนสาเหตุเกิดจากกินปลาน้ำจืดเกล็ดขาว และปลาพื้นบ้านในทุ่งนา ซึ่งมีพยาธิตัวอ่อน คนที่มีพยาธิชนิดนี้จะแพร่เชื้อได้นานถึง 30 ปี ผู้ป่วยจะเบื่ออาหารน้ำหนักลด ท้องอืด ตับโต อาหารไม่ย่อย จุกเสียดและรู้สึกแน่นท้องที่ใต้ชายโครงขวา อาการมักเกิดขึ้นตอนบ่ายๆ นานประมาณ 1 - 3 ชั่วโมง มีอาการรู้สึก "ออกร้อน” ที่ผิวหนังหน้าท้องด้านขวาหรือที่หลังหากมีอาการเหล่านี้ขอให้รีบพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาโดยเร็ว
ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 นครราชสีมา ได้แนะนำ วิธีการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับที่สำคัญที่สุดและได้ผลดีที่สุด คือการกินปลาที่ปรุงสุก 100 เปอร์เซ็นต์ ด้วยความร้อน และถ่ายอุจจาระลงส้วม หลีกเลี่ยงการถ่ายลงน้ำ หรือไปทุ่ง หากจำเป็นให้ขุดหลุมฝังกลบ หรือส้วมมือถือ แล้วฝังในดินเมื่อเสร็จกิจ ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่เมื่อออกจากห้องน้ำห้องส้วมหลังถ่ายอุจจาระและก่อนรับประทานอาหาร ล้างผักสดให้สะอาด ควรตรวจหาไข่หนอนพยาธิในอุจจาระอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หากตรวจพบหนอนพยาธิ ต้องกินยารักษาทุกครั้งให้หายขาด และจะต้องไม่กินดิบซ้ำอีกหากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลฮ็อตไลน์ กระทรวงสาธารณสุข โทร 1422
ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 นครราชสีมา ได้แนะนำ วิธีการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับที่สำคัญที่สุดและได้ผลดีที่สุด คือการกินปลาที่ปรุงสุก 100 เปอร์เซ็นต์ ด้วยความร้อน และถ่ายอุจจาระลงส้วม หลีกเลี่ยงการถ่ายลงน้ำ หรือไปทุ่ง หากจำเป็นให้ขุดหลุมฝังกลบ หรือส้วมมือถือ แล้วฝังในดินเมื่อเสร็จกิจ ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่เมื่อออกจากห้องน้ำห้องส้วมหลังถ่ายอุจจาระและก่อนรับประทานอาหาร ล้างผักสดให้สะอาด ควรตรวจหาไข่หนอนพยาธิในอุจจาระอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หากตรวจพบหนอนพยาธิ ต้องกินยารักษาทุกครั้งให้หายขาด และจะต้องไม่กินดิบซ้ำอีกหากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลฮ็อตไลน์ กระทรวงสาธารณสุข โทร 1422
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น