วันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2557

สภาเกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ เตือนภัยเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาและสัตว์น้ำอื่น ๆ ระวังโรคระบาดช่วงอากาศแปรปรวน

นายทองคำ ปิ่นแก้ว หัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ เปิดเปยว่าขณะนี้สภาพอากาศในพื้นที่ภาคอีสานตอนใต้มีความแปรปรวน หนาวเย็น และบางพื้นที่มีฝนตก ดังนั้น จึงขอแจ้งเตือนภัยมายังเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงปลา และสัตว์น้ำอื่น ๆ ทั้งในเชิงพาณิชย์ และเพื่อบริโภคที่แจ้งขึ้นทะเบียนไว้กว่า 12,916 ราย ทั้งจังหวัดสุรินทร์ ให้หมั่นตรวจตรา เพิ่มความระมัดระวัง ดูแลรักษาสุขภาพปลาและสัตว์น้ำอื่น ๆ ที่เกษตรกรเลี้ยงในกระชังและบ่อดิน เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวนและหนาวเย็นดังกล่าว จะทำให้ปลา และสัตว์น้ำกินอาหารได้น้อยลง มีภูมิต้านทานต่ำ สุขภาพอ่อนแอ เอื้อต่อการเกิดโรคระบาดได้ง่าย และเป็นแผลตามลำตัวที่เกิดจากแบคทีเรีย โดยจะพบทุกปีในช่วงที่มีอากาศหนาวเย็น และสร้างความเสียหายให้แก่เกษตรกรในหลายพื้นที่ ดังนั้น

เพื่อช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากสภาพอากาศหนาวเย็นดังกล่าว เกษตรกรควรทำ การป้องกันโดยการนำปูนขาว หรือเกลือมาละลายน้ำเทลงในบ่อ บ่อละ 50-60 กิโลกรัมต่อ 1 ไร่ ทั้งไม่ควรสูบน้ำเข้า-ออกภายในบ่อ และไม่ควรย้ายหรือลำเลียงปลาและสัตว์น้ำอื่น ๆ ไปยังที่อื่นโดยเด็ดขาด และให้ลดปริมาณอาหารในช่วงที่มีอุณหภูมิต่ำ เนื่องจากปลาเกิดความเครียดกินอาหารน้อย อาหารที่เหลือจะเกิดการเน่าเสียเป็นกรดแก๊ส น้ำขาดออกซิเจนส่งผลกระทบต่อปลาและสัตว์น้ำที่เกษตรกรเลี้ยงได้ ทั้งนี้ หากเกษตรกรรายใดพบปลาและสัตว์น้ำในกระชังหรือบ่อตายจำนวนมากและมีความผิดปกติที่ต้องสงสัยว่าจะเป็นโรคระบาด ให้รีบตักออกจากกระชังและบ่อแล้วรีบทำลาย ห้ามนำไปรับประทานเพราะอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และไม่ควรนำไปทิ้งตามสระ หรือคลองน้ำธรรมชาติ จากนั้นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ประมงอำเภอ หรือสำนักงานประมงจังหวัด เพื่อจะได้เข้าไปตรวจสอบควบคุมป้องกันเชื้อโรคอย่างเร่งด่วน ก่อนที่จะเกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง และเพื่อเป็นการรักษาสิทธิประโยชน์ที่เกษตรกรพึงจะได้รับจากหน่วยงานของทางราชการในกรณีประสบภัยพิบัติ หรือเกิดโรคระบาดต่าง ๆ ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาและสัตว์น้ำอื่น ๆ ในกระชังหรือบ่อดินได้รับความเสียหาย ดังนั้น

จึงขอให้เกษตรกรที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน จำนวนหมื่นกว่ารายรีบไปแจ้งขึ้นทะเบียนที่สำนักงานประมงอำเภอหรือสำนักงานประมงจังหวัดโดยเร็ว และหากเกษตรกรรายใดที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนจะเสียสิทธิการได้รับการช่วยเหลือหรือชดเชยจากหน่วยงานภาครัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น