เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 มีนาคม 2557 บริเวณลำน้ำทวน อำเภอเมืองยโสธร นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ "ปวงประชาเป็นสุข ด้วย พระบารมี” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า จังหวัดยโสธร เป็นจังหวัดที่ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม โดยมีพืชเศรษฐกิจหลักที่สำคัญ คือ ข้าวหอมมะลิ ซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็งที่สร้างรายได้ให้แก่จังหวัดยโสธรเป็นอย่างมา แต่อย่างไรก็ตามจังหวัดยโสธรก็ยังมีจุดอ่อน คือ การขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรกรรมและมีพื้นที่ชลประทานไม่เพียงพอกับความต้องการ จึงจำเป็นต้องพัฒนาวัชพืชตามแหล่งน้ำ เพื่อไม่ให้กีดขวางเส้นทางไกลของน้ำ การป้องกันบรรเทาปัญหาอุทกภัย และการกักเก็บน้ำไว้ใช้ได้ตลอดปี เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งซ้ำซาก แต่หากจังหวัดจะพัฒนาแหล่งน้ำโดยใช้เครื่องจักรเพียงอย่างเดียวจะมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูงมาก และจะไม่ส่งเสริมให้ประชาชนในท้องถิ่นเกิดความรู้สึกรักหวงแหนและใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า เพื่อให้การอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการน้ำเป็นไปตามบูรณาการร่วมกัน ทุกภาคส่วน มุ่งเน้นส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในท้องถิ่นเป็นหลัก แก้ไขปัญหาความเดือดร้อน และสร้างคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและสมดุล จึงจำเป็นต้องพัฒนาแหล่งน้ำตามธรรมชาติที่สำคัญ ส่วนราชการและภาคเอกชนในจังหวัดยโสธร ร่วมบูรณาการในการดำเนินการดังกล่าว
นอกจากนี้จังหวัด ยังได้พัฒนาลำน้ำทวนให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติแห่งใหม่ของจังหวัดยโสธร โดยได้มีการปรับปรุงภูมิทัศน์และสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับใช้ในการจัดแสดงนิทรรศการแหล่งเรียนรู้ทางด้านศิลปะ ประเพณี วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นเกี่ยวกับจังหวัดยโสธร อาทิเช่น อาคารพญานาค อาคารพญาคันคาก และประติมากรรมบั้งไป แต่ในปัจจุบันลำน้ำทวนมีสภาพปกคลุมไปด้วยวัชพืชบนผิวน้ำที่เกิดขึ้นอย่างหนาแน่น และกีดขวางทางไหลของน้ำ ส่งผลให้ประชาชนไม่สามารถใช้ประโยชน์จากลำน้ำทวนได้อย่างเต็มที่ และทำให้ภูมิทัศน์ขาดความสวยงาม รวมทั้งมีมลภาวะจากกลิ่นเหม็นเน่าของวัชพืช จึงได้จัดโครงการพัฒนาและฟื้นฟูลำน้ำทวนเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการน้อมนำแนวพระราชดำริในการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการน้ำมาประยุกต์ปรับใช้เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน สมดุล โดยการกำจัดวัชพืชทั้งบนผิวน้ำและที่มาราหยั่งลึก ในการดำเนินงานใช้วิธีการบริหารงานแบบบูรณาการร่วมกันทุกภาคส่วน และมุ่งเน้นส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในท้องถิ่นเป็นหลัก
นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า จังหวัดยโสธร เป็นจังหวัดที่ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม โดยมีพืชเศรษฐกิจหลักที่สำคัญ คือ ข้าวหอมมะลิ ซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็งที่สร้างรายได้ให้แก่จังหวัดยโสธรเป็นอย่างมา แต่อย่างไรก็ตามจังหวัดยโสธรก็ยังมีจุดอ่อน คือ การขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรกรรมและมีพื้นที่ชลประทานไม่เพียงพอกับความต้องการ จึงจำเป็นต้องพัฒนาวัชพืชตามแหล่งน้ำ เพื่อไม่ให้กีดขวางเส้นทางไกลของน้ำ การป้องกันบรรเทาปัญหาอุทกภัย และการกักเก็บน้ำไว้ใช้ได้ตลอดปี เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งซ้ำซาก แต่หากจังหวัดจะพัฒนาแหล่งน้ำโดยใช้เครื่องจักรเพียงอย่างเดียวจะมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูงมาก และจะไม่ส่งเสริมให้ประชาชนในท้องถิ่นเกิดความรู้สึกรักหวงแหนและใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า เพื่อให้การอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการน้ำเป็นไปตามบูรณาการร่วมกัน ทุกภาคส่วน มุ่งเน้นส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในท้องถิ่นเป็นหลัก แก้ไขปัญหาความเดือดร้อน และสร้างคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและสมดุล จึงจำเป็นต้องพัฒนาแหล่งน้ำตามธรรมชาติที่สำคัญ ส่วนราชการและภาคเอกชนในจังหวัดยโสธร ร่วมบูรณาการในการดำเนินการดังกล่าว
นอกจากนี้จังหวัด ยังได้พัฒนาลำน้ำทวนให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติแห่งใหม่ของจังหวัดยโสธร โดยได้มีการปรับปรุงภูมิทัศน์และสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับใช้ในการจัดแสดงนิทรรศการแหล่งเรียนรู้ทางด้านศิลปะ ประเพณี วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นเกี่ยวกับจังหวัดยโสธร อาทิเช่น อาคารพญานาค อาคารพญาคันคาก และประติมากรรมบั้งไป แต่ในปัจจุบันลำน้ำทวนมีสภาพปกคลุมไปด้วยวัชพืชบนผิวน้ำที่เกิดขึ้นอย่างหนาแน่น และกีดขวางทางไหลของน้ำ ส่งผลให้ประชาชนไม่สามารถใช้ประโยชน์จากลำน้ำทวนได้อย่างเต็มที่ และทำให้ภูมิทัศน์ขาดความสวยงาม รวมทั้งมีมลภาวะจากกลิ่นเหม็นเน่าของวัชพืช จึงได้จัดโครงการพัฒนาและฟื้นฟูลำน้ำทวนเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการน้อมนำแนวพระราชดำริในการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการน้ำมาประยุกต์ปรับใช้เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน สมดุล โดยการกำจัดวัชพืชทั้งบนผิวน้ำและที่มาราหยั่งลึก ในการดำเนินงานใช้วิธีการบริหารงานแบบบูรณาการร่วมกันทุกภาคส่วน และมุ่งเน้นส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในท้องถิ่นเป็นหลัก
ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช ศรีแก่นจันทร์
24 มีนาคม 2557
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น