จาการที่จังหวัดสุรินทร์ประเทศไทยและจังหวัดอุดรมีชัยประเทศกัมพูชาที่มีแนวเขตแดนติดกัน ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ของประชาชนทั้งสองประเทศ ยังคงแน่นแฟ้นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีการไปมาหาสู่กันฉันญาติมิตรกันมาแต่เก่าก่อนตั้งแต่บรรพบุรุษ จนถึงลูกหลาน มีการแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม การทำบุญทอดผ้าป่า ทอดกฐินระหว่างกันทั้งสองประเทศ มีการจัดการแข่งขันกีฬาเชื่อสัมพันธ์ไมตรีของท้องถิ่นทั้งสองประเทศอยู่เสมอ ซึ่งอาจจะพูดได้ว่าเป็นเครือญาติกันโดยสายเลือด ภาษาที่ใช้ในการสื่อสารซึ่งมีสำเนียงคล้ายคลึงกัน จนสามารถสื่อสารเข้าใจกันได้ จากความคล้ายคลึงกันของทั้งสองประเทศนี้เองทำให้เห็นการเชื่อมร้อยกันทางวัฒนธรรมสร้างความสัมพันธ์อันดีงามซึ่งกันและกันตลอดมา ดังนั้นเพื่อต่อยอดความสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้งสองประเทศจังหวัดสุรินทร์โดยองค์การบริหารส่วนตำบลบักได อ. พนมดงรัก ได้ร่วมกับสถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล ได้จัดโครงการ เสริมทักษะผู้นำท้องถิ่นไทย – กัมพูชา สู่ความสัมพันธ์อย่างยั่งยืนในการก้าวสู่ประชาคมอาเซียน ขึ้นโดยมีกิจกรรมต่างมากมายเพื่อสร้างความสัมพันธ์และองค์ความรู้ในทุกๆด้านให้กับผู้นำท้องถิ่นและประชาชนของทั้งสองประเทศโดยเฉพาะทางด้าน สาธารณสุข การศึกษา วัฒนธรรม ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญคือด้านการเกษตร ผู้ช่วยศาสตราจารย์ยงยุทธ บุราสิทธิ์ จากสถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่าการส่งเสริมศักยภาพให้กับผู้นำท้องถิ่นและประชาชนในเขตพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชามีกิจกรรมสานสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้นำท้องถิ่นของทั้งสองประเทศ โดยการนำคณะผู้นำท้องถิ่นและประชาชนทางฝั่งประเทศไทยเดินทางไปเพื่อศึกษาดูงานทางฝั่งประเทศกัมพูชา และนำคณะผู้นำท้องถิ่นจากประเทศกัมพูชามาศึกษาดูงานแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันยังฝั่งประเทศไทย เพื่อเป็นการสร้างให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือในการจัดการด้านสาธารณสุข ด้านการศึกษา ด้านศิลปวัฒนธรรม ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และด้านเกษตรกรรม อันจะนำไปสู่ความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้นำท้องถิ่นและประชาชนในเขตพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชาอย่างยั่งยืน รองรับการก้าวสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 ที่จะถึงนี้
ประนนท์ ไม้หอม
ทีมข่าวสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ / รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น