มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จับมือกรมหม่อนไหม ติวเข้ม เกษตรกร 4 จังหวัด พัฒนาส่งเสริมเรียนรู้การผลิตไหม คุณภาพจากต้นหม่อนไหมพันธุ์พื้นบ้าน เพื่อสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ผ้าไหม”ตรานกยูงพระราชทาน”หลังต้องการเส้นไหมคุณภาพปีละ 30 ตัน
วันนี้ (21 มี.ค. 57) ที่ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพอีสานใต้ ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมหม่อนไหม เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมโครงการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จัดขึ้นโดย กรมหม่อนไหม ร่วมกับมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีแรก เพื่ออมรมในกิจกรรม การส่งเสริมการผลิตผ้าไหม ตรานกยูงพระราชทาน ประกอบด้วย 3 กิจกรรม คือ การส่งเสริมการผลิตเส้นไหม พันธุ์ไทยพื้นบ้าน การส่งเสริมการฟอกย้อมสี เส้นไหม ด้วยสีธรรมชาติ และการส่งเสริมการผลิตผ้าไหมลายโบราณ และลายประยุกต์ ซึ่งเป็นการฝึกอบรมเกษตรกรที่เป็นสมาชิกของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ภายใต้ความรับผิดชอบของศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษและอุบลราชธานี ในเขตความรับผิดชอบของสำนักงานหม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ เขต 4 นครราชสีมา โดยมีเกษตรกรที่เข้าฝึกอบรม 3 กิจกรรม รวมทั้งหมด 90 คน จาก 4 จังหวัด โดยหลักสูตรการอบรมมี 10 วันตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค.-30 มี.ค.2557 นี้ โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีหม่อนไหมเป็นวิทยากร จากนั้น อธิบดีกรมหม่อนไหม ได้เป็นประธานมอบวัสดุอุปกรณ์ให้แก่ตัวแทนสมาชิกเกษตรกร จำนวน 12 คน อีกด้วย
นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าวว่า กรมหม่อนไหม เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบรับผิดชอบเรื่องหม่อนไหม ทั้งระบบ ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ซึ่งไหมไทย เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียง มายาวนาน เป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภค ทั่วโลก ไหมไทยมีความเป็นเอกลักษณ์ เฉพาะตัว โดยเฉพาะ ไหมไทยพันธุ์พื้นบ้าน ที่มีผลผลิตรังไหมสีเหลือง เกษตรกรทำการสาวไหมเองได้ง่าย เส้นไหมที่ผลิตได้ มีสีเหลือง คุณลักษณะเส้นไหม จะมีความอ่อนนุ่ม และเลื่อมมัน เป็นที่ต้องการของตลาดมาก ซึ่งมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้สนับสนุนให้สมาชิกเลี้ยงไหม ไทยพื้นม้านมานานกว่า 30 ปี และได้เผยแพร่ผลิตภัณฑ์ผ้าไหม ไทย ไปทั่วโลก ซึ่งมีความต้องการใช้เส้นไหม พันธุ์ไทยพื้นบ้านปีละประมาณ 30 ตัน แต่ปัจจุบันยังประสบปัญหาในด้านชนิดและคุณภาพของเส้นไหม ผ้าไหม รวมไปถึงสีสันและลวดลายผ้าไหม มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เป็นการทำงานแบบบูรณาการระหว่างกรมหม่อนไหม ร่วมกับมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ จึงได้จัดโครงการในครั้งนี้ขึ้น เพื่อต่อยอดโครงการให้ได้ผ้าไหมที่มีคุณภาพเป็นที่ต้องการของตลาดต่อไป
วันนี้ (21 มี.ค. 57) ที่ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพอีสานใต้ ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมหม่อนไหม เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมโครงการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จัดขึ้นโดย กรมหม่อนไหม ร่วมกับมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีแรก เพื่ออมรมในกิจกรรม การส่งเสริมการผลิตผ้าไหม ตรานกยูงพระราชทาน ประกอบด้วย 3 กิจกรรม คือ การส่งเสริมการผลิตเส้นไหม พันธุ์ไทยพื้นบ้าน การส่งเสริมการฟอกย้อมสี เส้นไหม ด้วยสีธรรมชาติ และการส่งเสริมการผลิตผ้าไหมลายโบราณ และลายประยุกต์ ซึ่งเป็นการฝึกอบรมเกษตรกรที่เป็นสมาชิกของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ภายใต้ความรับผิดชอบของศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษและอุบลราชธานี ในเขตความรับผิดชอบของสำนักงานหม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ เขต 4 นครราชสีมา โดยมีเกษตรกรที่เข้าฝึกอบรม 3 กิจกรรม รวมทั้งหมด 90 คน จาก 4 จังหวัด โดยหลักสูตรการอบรมมี 10 วันตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค.-30 มี.ค.2557 นี้ โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีหม่อนไหมเป็นวิทยากร จากนั้น อธิบดีกรมหม่อนไหม ได้เป็นประธานมอบวัสดุอุปกรณ์ให้แก่ตัวแทนสมาชิกเกษตรกร จำนวน 12 คน อีกด้วย
นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าวว่า กรมหม่อนไหม เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบรับผิดชอบเรื่องหม่อนไหม ทั้งระบบ ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ซึ่งไหมไทย เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียง มายาวนาน เป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภค ทั่วโลก ไหมไทยมีความเป็นเอกลักษณ์ เฉพาะตัว โดยเฉพาะ ไหมไทยพันธุ์พื้นบ้าน ที่มีผลผลิตรังไหมสีเหลือง เกษตรกรทำการสาวไหมเองได้ง่าย เส้นไหมที่ผลิตได้ มีสีเหลือง คุณลักษณะเส้นไหม จะมีความอ่อนนุ่ม และเลื่อมมัน เป็นที่ต้องการของตลาดมาก ซึ่งมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้สนับสนุนให้สมาชิกเลี้ยงไหม ไทยพื้นม้านมานานกว่า 30 ปี และได้เผยแพร่ผลิตภัณฑ์ผ้าไหม ไทย ไปทั่วโลก ซึ่งมีความต้องการใช้เส้นไหม พันธุ์ไทยพื้นบ้านปีละประมาณ 30 ตัน แต่ปัจจุบันยังประสบปัญหาในด้านชนิดและคุณภาพของเส้นไหม ผ้าไหม รวมไปถึงสีสันและลวดลายผ้าไหม มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เป็นการทำงานแบบบูรณาการระหว่างกรมหม่อนไหม ร่วมกับมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ จึงได้จัดโครงการในครั้งนี้ขึ้น เพื่อต่อยอดโครงการให้ได้ผ้าไหมที่มีคุณภาพเป็นที่ต้องการของตลาดต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น