หอการค้าจังหวัดกาฬสินธุ์
สภาอุตสาหกรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม
(บสย.) สาขาอุดรธานี แถลงข่าวความร่วมมือ 3
สภาหลักในการที่จะช่วยเหลือสมาชิกให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากสถาบันการ
เงินเพื่อรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (21 มิถุนายน
2556) ที่ห้องเบญจพร โรงแรมริมปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ นายมโนฑ ศรีพรมทอง
ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขา บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม
(บสย.) สาขาอุดรธานี นายชนินทร์ สังข์วิเศษ ประธานหอการค้าจังหวัดกาฬสินธุ์
และนายเกษม จิรัฐพิกาลพงศ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดกาฬสินธุ์
ได้ร่วมกันแถลงข่าวความร่วมมือ 3 สภาหลัก ซึ่งได้แก่
หอการค้าและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่ได้ลงนามความร่วมมือกับ
บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)
ในการที่จะช่วยเหลือสมาชิกให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงินและ
ส่งเสริมความแข็งแกร่งธุรกิจ SMEs ภาคอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว การบริการ
ให้มีการเติบโตอย่างมีศักยภาพเพื่อรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
(AEC) ในปี 2558 ที่จะถึงนี้
นายมโนฑ ศรีพรมทอง
ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขา บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม
(บสย.) สาขาอุดรธานี กล่าวว่า บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ
บยส.เป็นหน่วยงานของรัฐมีสถานภาพเป็นรัฐวิสาหิจ สังกัดกระทรวงการคลัง
ซึ่งมีหน้าที่ในการให้การค้ำประกันสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการรายย่อย (SME)
ในส่วนที่ขาดหลักค้ำประกันหรือไม่มีหลักประกัน ในการนี้ บสย.
ได้เล็งเห็นว่าจังหวัดกาฬสินธุ์มีเศรษฐกิจกำลังขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่
ผ่านมาทุกปี ซึ่งพิจารณาจากผลค้ำประกันสินเชื่อของ บยส.ที่เพิ่มขึ้นถึง 67%
ในปี 2555 เมื่อเทียบกับปี 2554 และ ณ ปัจจุบัน
บยส.ได้ให้การค้ำประกันสินเชื่อของจังหวัดกาฬสินธุ์รวมทุกโครงการ จำนวน 904
ราย วงเงินอนุมัติค้ำประกัน 1,732 ล้านบาท เป็นลำดับที่ 5 ของภาคอีสาน
และในวันนี้ บสย.
มีโครงการที่จะค้ำประกันให้กับผู้ประกอบการในจังหวัดกาฬสินธุ์ 3 โครงการ
ซึ่งได้แก่ 1.โครงการ Portfolio Guarantee Scheme (พอร์ทฟอลิโอ การันตี
สคีม) ระยะที่ 5 หรือ PGS5 ซึ่งมีวงเงินค้ำประกัน 240,000 ล้านบาท
ระยะเวลาใช้วงเงิน 3 ปีเพื่อช่วยเหลือ SME ที่มีศักยภาพและที่ขาดหลักประกัน
ซึ่งผู้ประกอบการสามารถนำเงินทุนไปลงทุนในต่างประเทศได้อีกด้วย
ทั้งนี้เพื่อรองรับ AEC ที่จะเกิดขึ้นในปี 2558 โครงการที่ 2. โครงการ New
Start-Up SMEs (นิว สตาร์ทอัพ เอสเอ็มอีเอส)
เป็นโครงการค้ำประกันสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ที่จดทะเบียนและ
ประกอบกิจการมาไม่เกิน 3 ปี และยังขาดเงินทุนในการประกอบการ
สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น ฟรีค่าธรรมเนียมในปีแรก และ
3.โครงหาร PIL (พีไอแอล) เป็นสินเชื่อนโยบายของรัฐบาลที่ทาง
บสย.ร่วมกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME BANK)
เพื่อช่วยเหลือ SMEs
พัฒนาเครื่องจักรในภาคการผลิตและพัฒนากระบวนการทำงานในทุกภาคธุรกิจ
ภายใต้วงเงินรวม 20,000 ล้านบาท
นายชนินทร์ สังข์วิเศษ
ประธานหอการค้าจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า โครงการของ บสย.ทั้ง 3
โครงการเป็นโครงการที่สอดคล้องกับนโยบายยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจของจังหวัด
กาฬสินธุ์ ในเรื่องการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจในจังหวัด
จึงถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการสมาชิกหอการค้าจังหวัดกาฬสินธุ์ใน
หลายกลุ่มธุรกิจ ที่จะเข้าถึงแหล่งเงินทุนตรงนี้ได้
นายเกษม จิรัฐพิกาลพงศ์
ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า
เป็นโอกาสที่ดีของสมาชิกสภาอุตสาหกรรมจังหวัดกาฬสินธุ์
ที่จะสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน
ซึ่งสมาชิกหรือผู้ประกอบการรายใดสนใจที่จะร่วมโครงการของ
บสย.ดังกล่าวสามารถติดต่อได้ที่ อุตสาหกรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ หรือที่
บสย.ได้โดยตรง
ข่าวจาก ทีมข่าว สวท.กาฬสินธุ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น