นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ช่วงนี้มีข่าวว่าเด็กจมน้ำเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับที่หนึ่งของเด็กไทยอายุต่ำกว่า 15 ปี ในแต่ละปีมีเด็กจมน้ำมากถึงเกือบ 1,400 คน เฉลี่ยวันละ 4 คน โดยเฉพาะในภาคอีสาน ช่วงเวลาที่เกิดเหตุ มักจะเป็นช่วงเที่ยงวันจนถึงช่วงเย็น เพราะมีอากาศร้อน ทำให้เด็กแอบไปเล่นน้ำ ในแต่ละครั้ง เด็กมักจะจมน้ำเสียชีวิตพร้อมกันครั้งละหลายๆคน เนื่องจากไม่รู้วิธีเอาตัวรอด และวิธีช่วยเหลือคนจมน้ำที่ถูกต้อง ใน ปี 2556 นี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดประเด็นรณรงค์ป้องกันเด็กจมน้ำว่า “หนูไม่จมน้ำแน่...ถ้าพ่อแม่ป้องกัน” เตือนพ่อแม่ไม่ควรให้เด็กอยู่ตามลำพัง เพราะแม้ระดับน้ำสูงเพียง 1-2 นิ้ว เช่น ถังน้ำ กะละมัง หรือแอ่งน้ำเล็กๆ
ซึ่งมีน้ำอยู่เพียงเล็กน้อย หากปล่อยเด็กไว้เพียงลำพัง เด็กเล็กก็สามารถจมน้ำเสียชีวิตได้ ควรสอนเด็กให้ว่ายน้ำเป็น สอนกฎแห่งความปลอดภัย เช่น ไม่ลงไปเก็บดอกบัว หรือกระทงในน้ำ ในกรณีช่วยเหลือเด็กที่จมน้ำ ห้ามจับเด็กที่จมน้ำอุ้มพาดบ่าหรือวางบนกระทะคว่ำ เพื่อเอาน้ำออกเพราะเป็นวิธีที่ผิด และจะทำให้เด็กขาดอากาศหายใจนานยิ่งขึ้น ควรรีบช่วยด้วยการเป่าปากและนวดหัวใจ ส่วนในท้องที่ชนบทต่าง ๆ จะมีแหล่งน้ำมากมายและช่วงนี้ฝนตกอย่างต่อเนื่องทำให้มีปริมาณน้ำสูงขึ้น ควรมีการแนะนำเด็กให้สามารถดูแลตนเองได้ โดยเฉพาะความประมาทและคึกคะนองอาจเป็นสาเหตุเด็กจมน้ำเสียชีวิตได้
ซึ่งมีน้ำอยู่เพียงเล็กน้อย หากปล่อยเด็กไว้เพียงลำพัง เด็กเล็กก็สามารถจมน้ำเสียชีวิตได้ ควรสอนเด็กให้ว่ายน้ำเป็น สอนกฎแห่งความปลอดภัย เช่น ไม่ลงไปเก็บดอกบัว หรือกระทงในน้ำ ในกรณีช่วยเหลือเด็กที่จมน้ำ ห้ามจับเด็กที่จมน้ำอุ้มพาดบ่าหรือวางบนกระทะคว่ำ เพื่อเอาน้ำออกเพราะเป็นวิธีที่ผิด และจะทำให้เด็กขาดอากาศหายใจนานยิ่งขึ้น ควรรีบช่วยด้วยการเป่าปากและนวดหัวใจ ส่วนในท้องที่ชนบทต่าง ๆ จะมีแหล่งน้ำมากมายและช่วงนี้ฝนตกอย่างต่อเนื่องทำให้มีปริมาณน้ำสูงขึ้น ควรมีการแนะนำเด็กให้สามารถดูแลตนเองได้ โดยเฉพาะความประมาทและคึกคะนองอาจเป็นสาเหตุเด็กจมน้ำเสียชีวิตได้
กัญญรัตน์ เกียรติสุภา ส.ปชส.สุรินทร์ /รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น