วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2556

สโมสรไลออนส์จังหวัดมุกดาหาร มอบหนังสือสารานุกรมไทยแก่เยาวชน

ที่ห้องช้างน้าว โรงแรมมุกดาหารแกรนด์ โฮเทล จังหวัดมุกดาหาร สโมสรไลออนส์ในจังหวัดมุกดาหาร ได้จัดให้มีพิธีอัญเชิญหนังสือสารานุกรมไทยฉบับพระราชทาน สำหรับเยาวชน เล่มที่ 37 มอบแก่โรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามุกดาหารและโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษามัธยมนครพนมเขต22 จำนวน 68 โรงเรียน เพื่อประโยชน์ทางด้านการศึกษาและเป็นการช่วยพัฒนาความรู้ของนักเรียนอีกทางหนึ่งโดยมีนายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานในพิธีอัญเชิญหนังสือสารานุกรมไทยฉบับเยาวชน เล่มที่ 37 ต่อหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยมีผู้บริหารของโรงเรียนต่างๆเป็นตัวแทนรับมอบ

นางวรลักษณ์ บุตรธิเดช นายกสโมสรไลออนส์มุกดาหาร ได้กล่าวว่า สำหรับหนังสือสารานุกรมไทย สำหรับเยาวชน ฉบับพระราชทาน เป็นหนังสือ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้จัดทำขึ้นเพื่อให้คนไทยทุกเพศ ทุกวัย ได้มีโอกาสศึกษา และอ่านเพื่อส่งเสริมความรู้ในเรื่องราวและวิชาการสาขาต่าง ๆ โดยสโมสรไลออนส์สากลในประเทศไทยได้ให้ความร่วมมือจัดหาทุนทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และได้ปฏิบัติเช่นนี้อย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยให้คณะกรรมการโครงการสารานุกรมไทยฯ ซึ่งได้ทรงแต่งตั้งขึ้นจัดพิมพ์หนังสือแบบไทยทั้งชุด เพื่อให้คนไทยทุกเพศทุกวัยได้อ่าน เป็นการเสริมความรู้ขั้นพื้นฐานในเรื่องราวและวิชาการในสาขาต่างๆ มีการแบ่งเรื่องออกเป็น 3ส่วน โดยประสงค์ให้ความรู้ความเข้าใจแก่เด็กรุ่นเล็ก เด็กรุ่นกลาง เด็กรุ่นใหญ่ รวมทั้งผู้ใหญ่อีกระดับหนึ่ง




พิพัฒน์ เพชรสังหาร ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
สุระณรงค์ อ่อนสนิท ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

จังหวัดร้อยเอ็ดเตรียมการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 42 รอบคัดเลือกตัวแทนภาค 3 “ร้อยเอ็ดเกมส์” ระหว่างวันที่ 2 – 12 กันยายนศกนี้

นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า จังหวัดร้อยเอ็ด ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพ จัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 42 รอบคัดเลือกตัวแทนภาค 3 "ร้อยเอ็ดเกมส์” ซึ่งจะมีนักกีฬาจากจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 20 จังหวัด เข้าร่วมทำการแข่งขัน ระหว่างวันที่ 2 – 12 กันยายน 2556 สำหรับความพร้อมของเจ้าภาพผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ยืนยืนว่า จังหวัดร้อยเอ็ด มีความพร้อมในทุกด้านแล้ว ทั้งสนามที่จะใช้ในการแข่งขัน ที่พักของนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ ตลอดจนการเป็นเจ้าบ้านที่ดีของชาวจังหวัดร้อยเอ็ด โดยจะมีงานเลี้ยงต้อนรับนักกีฬา เจ้าหน้าที่ ผู้แทนจังหวัด ผู้แทนสมาคมกีฬาจังหวัด ผู้แทนสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย และสื่อมวลชน ทุกแขนง ในวันที่ 1 กันยายน 2556 เวลา 18.00 น. ณ อาคารหอประชุม 60 พรรษามหาวชิราลงกรณ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด




 วิมล เร่งศึก/ข่าว
 กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
 30 ส.ค. 56 

วัฒนธรรมจังหวัดร้อยเอ็ดจัดโครงการค่ายเยาวชน สมานฉันท์เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคมและเสริมสร้างค่านิยมที่พึงประสงค์

เมื่อช่วงเช้าวันนี้ 30 ส.ค.2556 นายพศิน  โกมลวิชญ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดค่ายเยาวชน สมานฉันท์เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคมและเสริมสร้างค่านิยมที่พึงประสงค์  และบรรยายพิเศษเกี่ยวกับการทำหน้าที่ของนักเรียนและเยาวชนที่ดี  ที่ สโมสรนายทหารค่ายประเสริฐสมคราม      โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดร้อยเอ็ดจัดขึ้น เพื่อให้ความรู้และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแก่นักเรียน และเยาวชนจากสถานศึกษาต่างๆในจังหวัดร้อยเอ็ดที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 150 คน โดยมี ผศ ดร.สาธิต กฤตลักษณ์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมหัวหน้าส่วนราชการจากหลายหน่วยงาน และแขกผู้มีเกียรติร่วมพิธีจำนวนมาก

นางพรพิมล คงตระกูล วัฒนธรรมจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า  สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดร้อยบเอ็ด   จัดโครงการดังกล่าวขึ้นระหว่างวันที่ 30 – 31 สิงหาคม 2556 เป็นเวลา 2 วัน 1 คืน  เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ การปลุกจิตสำนึกในการเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม แจ้งเตือนภัยชีวิตในสังคมปัจจุบัน และสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคมแก่เยาวชนในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ได้รู้เท่าทันเลือกใช้สื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ให้เยาวชนที่เข้ารับการอบรมเป็นเครือข่ายทางวัฒนธรรมในสถานศึกษา ได้ผลิตและคัดเลือกสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ของจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อนำไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์  ทำให้เยาวชนได้มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม น้อมนำหลักธรรมของศาสนาและค่านิยมที่พึงประสงค์ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน สร้างความสามัคคี ความสมานฉันท์ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน กลุ่มเป้าหมาย ที่ร่วมกิจกรรมในวันนี้ ได้แก่นักเรียนและเยาวชนจากสถานศึกษาต่างๆในจังหวัดร้อยเอ็ด เช่น โรงเรียนสตรีศึกษา โรงเรียนพลาญชัยพิทยาคม โรงเรียนขัติยะวงษา และเยาวชนจากศาสนาคริสต์  โดยได้รับการสนับสนุนด้วยดีจาก จังหวัดทหารบกร้อยเอ็ด โรงพยาบาลร้อยแอ็ด  ชมรมสื่อสร้างสรรค์ร้อยเอ็ด ประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นต้น

วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิบรรยาย ได้แก่ พระครูสุวรรณสรานุกิจ  เจ้าคณะอำเภอเมืองร้อยเอ็ด (ศาสนาพุทธ), นายวิสัยทัศน์  ก้าวหน้าไกล ประธานกลุ่มคริสเตียนร้อยเอ็ด, อ.อุสมาน (นายวันชัย  วงษ์ประเสริฐ) ทำหน้าที่อิหม่ามประจำมัสยิดปากีสถาน มัมบะอุ้ลฮิดาห์ยะห์ และนายศักดิ์ศรี  ไชยกุฉิน นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ



คมกฤช  พวงศรีเคน / ข่าว

บุญมี  เพ็งรัตน์ / ภาพ
กมลพร  คำนึง บก.ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด

มูลนิธิดำรงชัยธรรมเปิดรับสมัครนักเรียน เพื่อขอรับทุนการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2557

มูลนิธิดำรงชัยธรรม เปิดรับสมัครขอรับทุนการศึกษา ทุนสามัญ และสายอาชีพ ตามโครงการทุนสร้างคน สร้างบัณฑิต รุ่นที่ 16/2557 จำนวน 34 ทุน

นายปราโมช รัฐวินิจ กรรมการและผู้อำนวยการมูลนิธิดำรงชัย เปิดเผยว่า มูลนิธิดำรงชัยธรรม ซึ่งเป็นมูลนิธิที่เล็งเห็นและตระหนักถึงการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนความพร้อมให้แก่เยาวชนไทยสู่การเป็นเยาวชนอาเซียน ปี 2556 มูลนิธิได้จัดทำโครงการ "ทุนสร้างคน สร้างบัณฑิต รุ่นที่ 16/2557 ขึ้น เพื่อส่งเสริมเยาวชนที่มีความมุ่งมั่นสู่การเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญหรือเป็นผู้มีทักษะชำนาญ สามารถพัฒนาตนสู่การเป็นแรงงานฝีมือออกสู่ตลาดแรงงานอาเซียนได้ในอนาคต จึงได้มอบทุนการศึกษาต่อเนื่องครบวงจรจนจบปริญญาตรี จำนวน 34 ทุน ให้แก่เยาวชนที่ขาดแคลน เรียนดี ประพฤติดี มีความสามารถ แยกเป็นทุนการศึกษาสายสามัญ 20 ทุน และทุนการศึกษาสายอาชีพ 14 ทุน

โดยจะเปิดรับสมัครนักเรียนสายสามัญ ที่กำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.3 และ ม.6 ในปีการศึกษา 2556 อายุไม่เกิน 18 ปี และ 21 ปี มีผลการเรียนเฉลี่ย ชั้น ม. 1-2 หรือ ม.4 5 ไม่ต่ำกว่า 3.00 (2ปีการศึกษา) และทุนสายอาชีพ (รับทุนปวช. – ปวส.- ปริญญาตรี) กำลังศึกษารอยู่ชั้น ปวช.2 ในปีการศึกษา 2556 อายุไม่ต่ำกว่า 21 ปี มีผลการเรียนเฉลี่ย ชั้น ปวช. ไม่ต่ำกว่า 3.00 (1 ปีการศึกษา) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับใบสมัครได้ที่ สถาบันการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา หรือดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ http://www.damrongchaitham.com/ วงเล็บมุมซอง”(สมัครขอรับทุน)



วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
 30 ส.ค. 56

ร้อยเอ็ด เปิดศูนย์บริการสื่อมวลชน (Press Center) ประชาสัมพันธ์การแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ ๔๒ รอบคัดเลือกตัวแทนภาค ๓ “ร้อยเอ็ดเกมส์”ณ ศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทยร้อยเอ็ด

เมื่อช่วงเช้าวันนี้ 30 กันยายน 2556  นายสมศักดิ์  ขำทวีพรหม  ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด   เปิดศูนย์บริการสื่อมวลชน (Press Center) ประชาสัมพันธ์ การจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ ๔๒ รอบคัดเลือกตัวแทนภาค ๓ " ร้อยเอ็ดเกมส์ "  ณ ศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทยร้อยเอ็ด  สนามกีฬากลางจังหวัดร้อยเอ็ด ต.เหนือเมือง อ. เมือง จ.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า จังหวัดร้อยเอ็ด  ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬา แห่งชาติ รอบคัดเลือกตัวแทนภาค ๓  โดยใช้ชื่อเกมส์การแข่งขันว่า "ร้อยเอ็ดเกมส์” และมีสัญลักษณ์ของการแข่งขัน เป็นตัวกระรอกขาว ถือคบเพลิง สำหรับการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ ทางจังหวัดได้เตรียมการพร้อมทุกอย่างแล้ว และได้แต่งตั้งคณะกรรมการ 16 ฝ่ายในการบริการ ประสานงาน และการจัดสนามการแข่งขัน  สิ่งสำคัญส่วนหนึ่งของการจัดการแข่งขันคือศูนย์บริการข้อมูลสื่อมวลชนทั้งส่วนกลางและท้องถิ่น เราได้เตรียมความพร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ในการรายงานข้อมูล ผลการแข่งขัน วันเวลา สถานที่ในการแข่งขันกีฬาชนิดต่างๆ รวมทั้งการถ่ายทอดสดเสียงทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดร้อยเอ็ด การถ่ายทอดสดทางเคเบิลทีวีท้องถิ่นให้ประชาชนได้รับทราบอย่างทันท่วงทีแล้วซึ่งจังหวัดร้อยเอ็ด  ได้มีการแต่งตั้ง คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์  เป็นหนึ่งในคณะกรรมการดำเนินงาน  มีรองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด(นายธัชชัย  สีสุวรรณ) เป็นประธานคณะกรรมการฝ่ายและมีประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นกรรมการและเลขานุการ  เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ ในขอบเขตของงานคณะกรรมการฝ่าย  เกิดประสิทธิภาพ  มีประสิทธิผล  ใกล้ชิดขอบ สนามการแข่งขัน  และสัมผัส นักกีฬา เจ้าหน้าที่ เพื่อให้มีข้อมูลที่ ชัดเจน  เที่ยงตรงจึงได้กำหนดศูนย์ประชาสัมพันธ์  ณ  ศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อใช้ในการแถลงข่าวและบริการสื่อมวลชนทุกแขนง ให้ได้รับความสะดวกที่สุดและสื่อมวลชนที่เดินทางมาร่วมกิจกรรมในส่วนของสนาม กีฬามีความพร้อมเป็นอย่างมาก จะมีพิธีต้อนรับนักกีฬาที่มหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ดในวันที่ 1 กันยายน 2556 นี้ เวลา 17.00 - 22.00 น. การจัดเตรียมที่พักสำหรับนักกีฬา ก็มีความพร้อมเป็นอย่างดี ฝากสื่อมวลชนจังหวัดร้อยเอ็ดให้ร่วมเป็นเจ้าภาพต้อนรับสื่อมวลชนจากส่วนกลางและจากจังหวัดต่างๆที่ร่วมเดินทางมาทำข่าวในครั้งนี้อีกด้วย

นายปราโมทย์ เอกก้านตรง ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยร้อยเอ็ด กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสนามที่ใช้จัดการแข่งขันนั้น มีทั้งที่สนามกีฬากลาง และต่างอำเภอ ซึ่งมีการตรวจสอบความพร้อมสำหรับการแข่งขันอย่างสมบูรณ์ถูกต้องแล้ว ประชาชน หรือสื่อมวลชนที่สนใจ อยากจะติดตามชมการแข่งขันกีฬาชนิดใดสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดร้อยเอ็ด ภายในสนามกีฬากลางจังหวัดร้อยเอ็ด  โทรศัพท์  043 51292




คมกฤช  พวงศรีเคน  ข่าว
กมลพร  คำนึง  บก.ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด  043-527117

ชาวสวนยางเมืองเลยมีมติร่วมประท้วงวันที่ 3 กันยายนนี้

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเลย รายงานว่า ที่สำนักเทศบาลตำบลนาโป่ง อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย ตัวแทนจากกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพารา 88 กลุ่ม จาก 14 อำเภอในจังหวัดเลย ที่ขึ้นทะเบียนกับกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางจังหวัดเลย เดินทางมาร่วมประชุม เพื่อรับฟังรายงานจาก นายสง่า ขันคำ ประธานคณะกรรมการเครือข่ายชาวสวนยางจังหวัดเลย และรองเลขานุการเครือข่ายชาวสวนยางแห่งประเทศไทย ที่เข้าร่วมประชุมกับนายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยการประสานงานผ่าน นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ร่วมกับตัวแทนเกษตรกรชาวสวนยาง 4 ภาค ที่ทำเนียบรัฐบาล ประธานคณะกรรมการเครือข่ายชาวสวนยางจังหวัดเลย และรองเลขานุการเครือข่ายชาวสวนยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติรับข้อเสนอของรัฐบาล ช่วยเหลือชดเชยลดต้นทุนการผลิตให้เกษตรกร ไร่ละ 1,260 บาท รายละไม่เกิน 25 ไร่ โดยเพิ่มจากเดิมจำกัดรายละ 10 ไร่ ซึ่งมาตรการดังกล่าวเป็นมาตรการช่วยเหลือระยะสั้นเป็นเวลา 7 เดือน จนถึงช่วงเดือนมีนาคม 2557 ซึ่งเป็นฤดูกาลปิดหน้ายาง โดยจะนำมาตรการดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 3 กันยายน นี้

โรงเรียนเลยพิทยาคม สพม.19 จัดมหกรรมวิชาการเฟ้นหาคนเก่ง ครั้งที่ 9

นายภานุ แย้มศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นประธานเปิดมหกรรมวิชาการเฟ้นหาคนเก่ง ครั้งที่ 9 ปีการศึกษา 2556 "รักการอ่าน แสดงผลงานประวัติศาสตร์เลยพิทยาคม” ณ อาคารอเนกประสงค์โรงเรียนเลยพิทยาคม จังหวัดเลย เพื่อแข่งขันทักษะความสามารถของนักเรียนอย่างหลากหลาย ครบ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ 1 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ส่งเสริมให้นักเรียนฝึกทักษะการคิดและการทำงาน โดยมีนายธวัธ มูลเมือง ผู้อำนวยการโรงเรียนเลยพิทยาคม กล่าวรายงาน และมีนายณัฐภณ ดวงท้าวเศษ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 19 นายเกรียงศักดิ์ ตันกิจเจริญ ประธานคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 19 กรรมการสถานศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัด ครูและนักเรียนเข้าร่วมในพิธีเปิดเป็นจำนวนมาก มหกรรมวิชาการเฟ้นหาคนเก่ง ครั้งที่ 9 ประจำปี 2556 ซึ่งเป็นปีที่ 41 ของโรงเรียน จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "รักการอ่าน แสดงผลงานประวัติศาสตร์เลยพิทยาคม” เพื่อเป็นการย้อนรอยประวัติศาสตร์ของโรงเรียน ให้นักเรียนได้ศึกษา, ส่งเสริมให้นักเรียนกล้าแสดงออกถึงความรู้ความสามารถ ความคิด ทักษะการปฏิบัติอย่างเต็มศักยภาพ และเพื่อประกาศเกียรติคุณบุคคลที่ทำคุณความดีด้านการบริหารโรงเรียนและได้สร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนเลยพิทยาคมอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้โรงเรียนเลยพิทยาคม เกิดขึ้นจากการรวมกันระหว่างสายเลือด "สีน้ำเงิน” โรงเรียนสโมสรวิทยาลัย กับสายเลือด "สีชมพู” โรงเรียนสตรีเลย ในปี พ.ศ.2515 เป็นสายเลือก "น้ำเงินชมพู” โรงเรียนเลยพิทยาคม สายเลือดแห่งความภาคภูมิใจของคนจังหวัดเลย ในปัจจุบัน” 

จ.ศรีสะเกษ จัดเวทีสาธารณะ ยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ให้กับ เครือข่าย กศน. ในพื้นที่

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 ส.ค. 56 ที่ห้องประชุมศรีพฤทเธศวร ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาการคุ้มครองผู้บริโภคกับการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จังหวัดศรีสะเกษ ประจำปี 2556 ซึ่งการจัดสัมมนาในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม สนับสนุนการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภค กับ กศน. ให้มีและประสิทธิผลเพิ่มขึ้น ตลอดจนให้การดำเนินงานของของชมรมผู้บริโภคใน กศน. มีความถูกต้อง เข้มแข็ง และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยมีตัวแทน คณะอาจารย์ นิสิต นักศึกษา จาก กศน.ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้ นายประทีป ระบุว่า การจัดประชุมสัมมนาการคุ้มครองผู้บริโภคกับการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จังหวัดศรีสะเกษ ประจำปี 2556 เป็นการสนองนโยบายของ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ที่ได้ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางการศึกษา และกำหนดเป็นนโยบายร่วมกัน เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคให้ กศน.ตำบลทุกตำบล ทั่วประเทศไทย ทั้งนี้ สำหรับกิจกรรมภายในงานประชุมสัมมนาฯ ประกอบด้วย การอภิปรายเรื่อง แนวทางการขับเคลื่อนงานคุ้มครองผู้บริโภคกับการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และเครือข่ายประชาชน โดยมีผู้ร่วมอภิปราย ประกอบด้วย นายชำนาญ วันแก้ว ผู้อำนวยการ กศน.ศรีสะเกษ . นายแพทย์ ประวิ อ่ำพันธุ์ สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ นายโสภณ รัตนา ประธานชมรมคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดศรีสะเกษ และ นายมาโนช พลอยแก้ว หัวหน้าสำนักงานจังหวัดศรีสะเกษ ที่จะมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อให้แง่คิดในด้านต่างๆให้กับผู้ร่วมสัมมนา และการบรรยายพิเศษเรื่อง กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคในปัจจุบันและกรณีศึกษาเกี่ยวกับ คดีคุ้มครองผู้บริโภค โดยวิทยากรที่มีความรู้ จาก อัยการจังหวัดศรีสะเกษ และไขข้อข้องใจทุกความสงสัยเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค โดย นายธนัชกฤศ บุดดีเสาร์ ปลัดอำเภอ ( เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ )

ยุติธรรมจังหวัดอำนาจเจริญจัดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการเครือข่ายนักจัดรายการวิทยุชุมชนในการอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชน

ที่ห้องประชุมมหาวิทยาลัยมหิดล  วิทยาเขตอำนาจเจริญ  อำเภอเมือง  จังหวัดอำนาจเจริญ นายสุกิจ  ศรีสุวรรณ  ผู้พิพากษารองหัวหน้าศาลจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานเปิด "โครงการประชุมเชิงปฏิบัติการเครือข่ายนักจัดรายการวิทยุชุมชนในการอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชน” โดยสำนักงานยุติธรรมจังหวัดอำนาจเจริญได้จัดขึ้น ซึ่งมีนักจัดรายการวิทยุชุมชน  อาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้าน/ชุมชน และเครือข่ายคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพในเขตจังหวัดอำนาจเจริญ เข้าร่วมประชุมกว่า 180 คน

ตามที่กระทรวงยุติธรรมได้กำหนดวิสัยทัศน์ "หลักประกันความยุติธรรมตามมาตรฐานสากล” โดยกำหนดประเด็นยุทธศาสตร์ "ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนและพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือระบบงานยุติธรรม” เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงข้อมูลด้านงานยุติธรรมให้มีการขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล รวมทั้งสนับสนุนการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการอำนวยความยุติธรรมให้มีประสิทธิภาพ ประกอบกับการบันทึกความตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการส่งเสริมการระงับข้อพิพาทในชุมชนระหว่างศาลจังหวัดอำนาจเจริญกับสำนักงานยุติธรรมจังหวัดอำนาจเจริญ ในการมุ่งเน้นและส่งเสริมการนำระบบการระงับข้อพิพาททางเลือกมาใช้เพื่อเปิดโอกาสให้คู่พิพาทมีส่วนร่วมในกระบวนการยุติธรรมและกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทที่คู่พิพาทพึงพอใจ อันจะทำให้สามารถระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นด้วยความสะดวก รวดเร็ว ประหยัดและเป็นธรรม รวมทั้งการทำบันทึกความร่วมมือว่าด้วยการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพเพื่อประชาชนระหว่าง กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม กับกรมประชาสัมพันธ์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การสนับสนุนและร่วมมือทางด้านวิชาการเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์และสื่อสารมวลชน ในการส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของประชาชนตามกฎหมายและเสริมสร้างความสมานฉันท์ของคนในชาติ  ดังนั้นเพื่อเป็นการส่งเสริมและให้ความรู้ความเข้าใจแก่สื่อมวลชนในแขนงต่างๆ ในฐานะที่เป็นกำลังสำคัญในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับรู้ เข้าใจและตระหนักถึงสิทธิเสรีภาพของตนเอง สำนักงานยุติธรรมจังหวัดอำนาจเจริญ จึงได้จัด"โครงการประชุมเชิงปฏิบัติการเครือข่ายนักจัดรายการวิทยุชุมชนในการอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชน” เพื่อที่จะได้นำความรู้ที่ได้รับไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบต่อไป




กฤษดา เนตรพันธ์/ข่าว/ภาพ

ประชุมการจัดการแข่งขันตะกร้อ คิงส์คัพ ชิงแชมป์โลก

คณะกรรมการบริหารสมาคมตะกร้อแห่งประเทศไทย ร่วมกับคณะกรรมการฝ่ายจัดการแข่งขันจังหวัดอุดรธานี ประชุมติดตามผลความคืบหน้าในการจัดเตรียมการแข่งขันตะกร้อชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คิงส์คัพ ชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 28 ประจำปี 2556 ซึ่งกำหนดจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 16-22 กันยายน 2556

ที่ห้องประชุมทองใหญ่ ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยพลตรีจารึก อารีราชการรัณย์ นายกสมาคมตะกร้อแห่งประเทศทไทย นายวิเชียร ขาวขำ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานีในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายสถานที่ นายธนาดร พุทธรักษ์ นายกสมาคมกีฬาจังหวัดอุดรธานี ประธานคณะกรรมการฝ่ายจัดเตรียมสถานที่ และคณะกรรมการบริหารสมาคมตะกร้อแห่งประเทศไทย คณะกรรมการฝ่ายจัดการแข่งขันจังหวัดอุดรธานี ร่วมประชุม

ในการประชุมครั้งนี้ที่ประชุมมีการสรุปผลการดำเนินการจัดเตรียมการแข่งขันของคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ สรุปปัญหาอุปสรรค์ ข้อเสนอแนะ เพื่อให้คณะกรรมการในส่วนที่เกี่ยวข้องนำไปปรับปรุงแก้ไข สำหรับการจัดการแข่งขันตะกร้อชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คิงส์คัพ ชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 28 ประจำปี 2556 ซึ่งกำหนดจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 16-22 กันยายน 2556 มีทีมตะกร้อจากชาติต่างๆแสดงความจำนงร่วมแข่งขันแล้ว 27 ประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย , บังกลาเทศ , บราซิล, บรูไน, กัมพูชา, จีน, จีน-ไทเป, ฝรั่งเศล, เยอรมัน, อินเดีย, อินโดนีเซีย, อิหร่าน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ลาว, มาเก๊า, มาเลเซีย, เมียนมาร์, เนปาล, ปากีสถาน, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ศรีลังกา, สวิตเซอแลนด์, สหรัฐอเมริกา, เวียดนาม, ไทย

แบ่งการแข่งขันออกเป็น 8 ประเภท ทีมชุด (ชาย-หญิง ) ทีมเดี่ยว( ชาย-หญิง) ทีมคู่ (ชาย-หญิง ) ลอดห่วงสากล (ชาย-หญิง ) จัดการแข่งขันที่ห้องคอนเวนชั่นฮอลล์ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี มีการจัดเตรียมที่นั่งเพื่อรองรับประชาชนที่จะเข้าชมการแข่งขัน 2,000 ที่นั่ง และ องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานีได้ติดตั้งจอ LED 3 จอ ณ หน้าห้องแข่งขัน และลานบ้านเชียง หน้าห้างฯ เพื่อถ่ายทอดสดให้ประชาชนที่สนใจได้ชมอย่างใกล้ชิด

สำหรับพิธีเปิดการแข่งขันในวันที่ 16กันยายน 2556 ได้รับเกียรติจาก พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการแข่งขัน ในเวลา 15.30 น. ส่วนพิธีปิดในวันที่ 22 กันยายน 2556 ได้รับเกียรติจากนายศุภชัย ภู่งาม องคมนตรีผู้แทนพระองค์เป็นประธาน และมีการถ่ายทอดสดโดยสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ( สทท.11 ) กรมประชาสัมพันธ์ ในเวลา 15.00-18.00 น.




ทีมข่าว ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา / ข่าว

กองกำลังสุรนารีร่วมกับราษฏรไทยและกัมพูชา ร่วมทอดผ้าป่าสามัคคี ที่วัดคีรีมงคล ประเทศกัมพูชา เพื่อสานสัมพันธ์ 2 ประเทศ

กองกำลังสุรนารีร่วมกับราษฏรไทยและกัมพูชา กว่า 2,000 คน ร่วมทอดผ้าป่าสามัคคี ที่วัดคีรีมงคล ประเทศกัมพูชา เพื่อสานสัมพันธ์ 2 ประเทศ ได้เงินทำบุญ เป็นเงินไทยกว่า 1.2 แสนบาท และ เงินกัมพูชา 1.8 แสน เรียล
       
วันที่ 29 ส.ค. 56 พันเอกธัญญา เกียรติสาร รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการและราษฎรอำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 1,700 คน ได้เดินทางไปทอดผ้าป่าสามัคคี และถวายภัตตาหารเพลพระภิกษุ สามเณร ณ วัดคีรีมงคล ตำบลโอร์เสม็ด กรุงสำโรง จังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา โดยมีนายฮอ จินวีระยุทธ ประธานช่องจุดผ่านแดนถาวรช่องโอร์เสม็ด พร้อมราษฎรชาวกัมพูชากว่า 5,000 คน ร่วมทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อสานสัมพันธ์ 2 ประเทศ ได้เงินบริจาคร่วมทำบุญ 128,144 บาท 189,700 เรียล

ทั้งนี้ ไทยและกัมพูชาได้จัดกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้าน และปฏิบัติตามโครงการหมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนานเมืองคู่มิตร โดยตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ คู่กับ ตำบลโอร์เสม็ด กรุงสำโรง จังหวัดอุดรมีชัย , จังหวัดสุรินทร์กับจังหวัดอุดรมีชัย โดยได้มุ่งเน้นการจัดกิจกรรมและความสัมพันธ์อันดีในพื้นที่ชายแดนให้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต การศึกษา วัฒนธรรม การสาธารณสุข การพัฒนา การค้า เศรษฐกิจ สังคม รวมทั้งด้านความมั่นคง 

ไข้เลือดออกมหาสารคามยังระบาดรุนแรง เตรียมเปิดศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะไข้เลือดออก

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก ที่จังหวัดมหาสารคาม ยังคงพบมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2556 ตั้งแต่เดือนมกราคม จนวันที่ 28 สิงหาคม พบผู้ป่วยสะสม 1,954 ราย เสียชีวิตแล้ว 1 ราย ด้าน สสจ.มหาสารคาม เตรียมเปิดศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะไข้เลือดออก

นายแพทย์สุริยา รัตนปริญญา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก ยังมีจำนวนผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-28 สิงหาคม 2556 จังหวัดมหาสารคาม มีผู้ป่วยไข้เลือดออกสะสมแล้ว 1,954 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 203.94 ต่อแสนประชากร และเสียชีวิตแล้ว 1 ราย สำหรับผู้ป่วยเป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย กลุ่มอายุที่พบมากยังคงอยู่ในช่วง 10-14 ปี โดยมีอัตราป่วยต่อแสนประชากรเท่ากับ 987.62 รองลงมาคือกลุ่มอายุ 5-9 ปี และ 15-24 ปี ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มนักเรียน โดยมีจำนวนถึง 1,511 ราย สำหรับอำเภอที่พบการระบาดสูงสุด 3 อันดับ คือ อำเภอกันทรวิชัย อำเภอเมือง และอำเภอโกสุมพิสัย

ทั้งนี้ในการดําเนินงานป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออกจังหวัดมหาสารคาม ได้เตรียมที่จะจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะโรคไข้เลือดออก โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอําเภอเป็นหัวหน้าศูนย์ในระดับจังหวัดและอำเภอ มีนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานการทํางานในศูนย์ และทําหน้าที่เป็นเลขานุการของศูนย์จังหวัดด้วย ซึ่งจะเน้นการชี้จุดในการป้องกันควบคุมโรค ระดมทรัพยากรในพื้นที่ร่วมกันดําเนินการ เร่งกําจัดยุงตัวเต็มวัยในหมู่บ้านที่พบผู้ป่วย เพื่อเป็นการรณรงค์ป้องกันกำจัดยุงลาย และลดการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก




ส.ปชส.มหาสารคมม/ข่าว

มูลนิธิคุณพุ่มมอบทุนสนับสนุนการศึกษาและสื่อ สิ่งอำนวยความสะดวกทางการศึกษาบัญชี ก.ให้แก่เด็กออทิสติกและเด็กพิการ จ.มหาสารคาม

เด็กออทิสติกและเด็กพิการในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 130 คน เข้ารับทุนการศึกษาจากมูลนิธิคุณพุ่มพร้อมสื่อ สิ่งอำนวยความสะดวกทางการศึกษาบัญชี ก.เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครองและนำไปพัฒนาศักยภาพในกลุ่มเด็กพิเศษ 30-08-56 ที่ห้องประชุมศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดมหาสารคาม นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานในพิธีมอบทุนสนับสนุนการศึกษาแก่เด็กออทิสติกและเด็กพิการในมูลนิธิคุณพุ่มของจังหวัดมหาสารคามพร้อมมอบสื่อ สิ่งอำนวยความสะดวกทางการศึกษาบัญชี ก. ซึ่งทางมูลนิธิคุณพุ่มได้มอบหมายให้ศูนย์การศึกษาพิเศษเป็นผู้ดำเนินการ และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้แทนพระองค์ในการมอบทุนการศึกษาให้แก่เด็กพิการในจังหวัด โดยในปีการศึกษา 2556 นี้จังหวัดมหาสารคามได้รับการพิจารณาอนุมัติทุนการศึกษาจำนวนทั้งสิ้น 130 ทุน ทุนละ 5,000 บาท ซึ่งเด็กออทิสติกและเด็กพิการในพื้นที่ได้เข้ารับประทานทุนต่อหน้าพระรูปทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี นายชลิต วิพัทนะพร ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า สืบเนื่องจากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดีได้ทรงมีเมตตาประทานทุนด้วยพระองค์เองให้กับเด็กพิการในเขตกรุงเทพมหานคร และในส่วนของต่างจังหวัดมูลนิธิคุณพุ่มได้ขอความอนุเคราะห์จากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เป็นผู้แทนพระองค์ในการมอบทุนการศึกษาให้แก่เด็กพิการในจังหวัดนั้นๆ และได้มีเมตตาประทานทุนให้กับเด็กออทิสติกและเด็กพิการทุกประเภทในทุกจังหวัดเป็นประจำทุกปีเพื่อให้ผู้ปกครองของเด็กได้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับบุตรหลานที่มีความต้องการพิเศษ เพื่อให้เด็กได้มีศักยภาพและสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ทั้งนี้ การใช้จ่ายเงินทุนที่ได้รับดังกล่าว จะมีคณะกรรมการติดตามการใช้จ่าย พร้อมกับรายงานการใช้เงินต่อมูลนิธิคุณพุ่มอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การใช้จ่ายเงินเป็นไปตามพระประสงค์ของมูลนิธิคุณพุ่ม ผ่านการนำเงินที่ได้ไปใช้จ่ายในการพัฒนาความก้าวหน้าด้านการศึกษา การรักษาพยาบาล และความจำเป็นอื่นๆต่อไป



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

จังหวัดมหาสารคามซ้อมแผนบริหารความต่อเนื่องกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ศาลากลางจังหวัด

จังหวัดมหาสารคาม ซ้อมแผนบริหารความต่อเนื่องของส่วนราชการ สมมติสถานการณ์เกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณชั้น 4 ศาลากลางจังหวัด โดยมีการประกาศใช้แผนเพื่อเตรียมความพร้อมด้านสถานที่ปฏิบัติงานสำรอง วัสดุอุปกรณ์สำคัญ บุคลากรหลัก ผู้มีส่วนได้เสีย และจัดประชุมเพื่อรับทราบแนวทางการดำเนินงาน

ในการทดสอบ ซักซ้อมแผนบริหารความต่อเนื่องของส่วนราชการ ที่สำนักงาน กพร.ได้กำหนดให้ทุกส่วนราชการต้องจัดทำแผนบริหารความต่อเนื่อง นั้น สำหรับจังหวัดมหาสารคาม ได้มอบหมายให้ทุกส่วนราชการได้จัดทำแผนดังกล่าวแล้ว และได้มีการทดสอบและซักซ้อมแผน โดยสมมติสถานการณ์ว่ามีเหตุเพลิงไหม้ที่บริเวณชั้น 4 ของศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม เมื่อมีผู้พบเห็นได้แจ้งให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทราบ พร้อมส่งสัญญาณแจ้งเหตุฉุกเฉิน ทุกส่วนราชการได้อพยพบุคลากรให้ออกจากพื้นที่ โดยมอบหมายผู้รับผิดชอบ ไปสรุปผลการปฏิบัติตามขั้นตอนของการบริหารแผนฯ ที่จุดรวมพล ซึ่งกำหนดไว้ที่บริเวณด้านหน้าสำนักงานที่ดินจังหวัดมหาสารคาม

จากนั้น นายสุรพล เทียนสุวรรณ ปลัดจังหวัดมหาสารคาม ในฐานะหัวหน้าคณะบริหารความต่อเนื่องของส่วนราชการ ได้ให้หัวหน้าคณะบริหารความต่อเนื่องของแต่ละส่วนราชการ รายงานสรุปผลการดำเนินงานตามแผนบริหารความต่อเนื่องตามแนวทางการจัดหาและบริหารทรัพยากรหลัก 5 ด้าน เพื่อให้มีความพร้อมเมื่อเกิดสภาวะวิกฤต ทั้งด้านสถานที่ปฏิบัติงานสำรอง อุปกรณ์เทคโนโลยีที่สำคัญต้องมีการเก็บไฟล์สำรอง บุคลากรหลักในการปฏิบัติงาน และกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตลอดจนการรายงานสรุปกระบวนงานสำคัญในการฟื้นคืนสภาพเพื่อให้กลับมาดำเนินงานได้อย่างรวดเร็ว และให้แต่ละส่วนราชการได้ปรับปรุง ทบทวนแผนฯอย่างต่อเนื่องอย่างน้อยปีละครั้ง



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ศูนย์ไกล่เกลี่ยฯมหาสารคาม เสวนาสร้างความเข้าใจการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จัดการความขัดแย้ง

ศูนย์ไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาทจังหวัดมหาสารคาม จัดเวทีเสวนาเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการสร้างความเข้าใจ ด้านการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถและดำเนินการจัดการความขัดแย้ง หวังเป็นแนวทางในการลดข้อพิพาท ลดค่าใช้จ่าย และเวลาให้กับคู่กรณี ในการจัดกิจกรรมเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อสร้างความเข้าใจ

ในการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถและดำเนินการจัดการความขัดแย้ง ที่ศูนย์ไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาท สำนักงานยุติธรรมจังหวัดมหาสารคาม จัดขึ้น ที่อุทยานการเรียนรู้จังหวัดมหาสารคาม (MK Park) ในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมเสวนาที่มาจากบุคลากรภาครัฐ เครือข่ายศูนย์ยุติธรรมชุมชนจากทุกอำเภอ บุคลากรของสำนักงานยุติธรรมจังหวัด ตำรวจภูธรจังหวัดและ สำนักงาน คปภ. รวม 40 คน ร่วมเสวนา ทั้งนี้เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ศูนย์ไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาทชุมชนและกลไกการระงับข้อพิพาทขององค์กรภาคีเครือข่าย เข้ามาเป็นแกนนำหลักของการจัดกิจกรรมเพื่อขับเคลื่อนการหาทางออกในประเด็นความขัดแย้งในการคุ้มครองประสบภัยจากรถ ภายใต้แนวทาง ชุมชนสมานฉันท์และสันติสุข

นางวาสนา ปักกาโร ยุติธรรมจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า อุบัติเหตุทางถนนเป็นปัญหาสำคัญลำดับต้น ๆ ของการเกิดข้อพิพาทระหว่างคู่กรณี ดังนั้น ในการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถและการดำเนินการจัดการความขัดแย้ง จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ศูนย์ไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาทจังหวัดมหาสารคาม จะได้ร่วมกันดำเนินการ หาทางออกเพื่อเป็นการลดปัญหาข้อพิพาท ลดค่าใช้จ่าย และเวลาให้กับคู่กรณี อีกทั้งยังจะได้รับความรู้ในแง่ของกฎหมายในชีวิตประจำวัน อันจะเป็นการลดความขัดแย้ง สร้างความปรองดองสมานฉันท์ให้เกิดในชุมชนได้



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

มหาสารคามประกาศผลประกวด TO BE NUMBER ONE ปี 2556

ตามที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับสถานศึกษา ส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชน จัดกิจกรรมตามโครงการ To be number one เป็นหนึ่งได้โดยไม่พึ่งพายาเสพติด โดยมีการประกวดชมรม To be number one และแข่งขัน To be number one teen dancercise ประจำปี 2556 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการในด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่รัฐบาลกำหนดให้การแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นวาระแห่งชาติ นั้น

ผลการประกวดปรากฏว่า ชมรม TO BE NUMBER ONE ประเภทชุมชน รางวัลชนะเลิศได้แก่ชมรม TO BE NUMBER ONE บ้านดอนมัน อำเภอกันทรวิชัย ประเภทชมรมในสถานศึกษาระดับพื้นฐานมัธยมศึกษา ชนะเลิศได้แก่ชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนนาเชือกพิทยาสรรค์ อำเภอนาเชือก และประเภทชมรม ในสถานศึกษาระดับอาชีวศึกษา-อุดมศึกษา ชนะเลิศได้แก่ PH MSU TO BE NUMBER ONE สร้างสรรค์สุขภาพ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

ส่วนผลการแข่งขันแข่งขัน TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE รางวัลชนะเลิศประเภท Junior (อายุ 6-9 ปี) ได้แก่ ทีม Li Hie Girl ประเภท Pre-Teenage (อายุ 10-13 ปี) ได้แก่ ทีมบ้านสว่างท็อปสตาร์ และประเภท Teenage (อายุ 14-24 ปี) ได้แก่ ทีม Exceed ’s One Power มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

ทั้งนี้ ทีมที่ชนะเลิศจะได้เป็นตัวแทนจังหวัดมหาสารคาม ร่วมประกวด TO BE NUMBER ONE ในระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือและระดับประเทศต่อไป



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดินจังหวัดกาฬสินธุ์พบเสื่อมโทรมมาก 2 พื้นที่

นายวิชัย ตะวัน ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาฬสินธุ์ แจ้งว่า สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 10 ได้ติดตามตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดิน พื้นที่แม่น้ำปาว ลำปาวน้อย และลำน้ำยังจังหวัดกาฬสินธุ์ รวมทั้งสิ้น 12 จุด ในระหว่างวันที่ 3 -6 มิถุนายน 2556 ที่ผ่านมา ผลการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำในห้องปฏิบัติการปรากฏดังนี้ น้ำลำน้ำปาว มีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ดีถึงเสื่อมโทรม พื้นที่พบคุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์ดี 1 พื้นที่ คือ ที่บริเวณใต้เขื่อนลำปาว ตำบลลำคลอง อำเภอเมือง คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์พอใช้ 3 พื้นที่ บริเวณบ้านดอนสนวน ตำบลหลุบ อำเภอเมือง บริเวณสะพานข้ามลำน้ำพาน ตำบลหลุบ อำเภอเมือง และบริเวณพื้นที่ตำบลร่องคำ อำเภอร่องคำ คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรม 3 พื้นที่ คือ บริเวณพื้นที่เทศบาลตำบลกมลาไสย อำเภอกมลาไสย บริเวณใต้สะพานท่าคันโท-วังสามหมอ ตำบลดงสมบูรณ์ บริเวณตำบลกุดจิก อำเภอ ท่าคันโท ส่วนคุณภาพน้ำลำปาวน้อยพบอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรม 1 พื้นที่ คือ ที่บริเวณวัดอโนมานที บ้านวังเกาะเหล็ก ตำบลในเมือง อำเภอเมือง พบอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรมมาก 2 พื้นที่ คือ ที่บริเวณสะพานข้ามลำปาวน้อยและบ้านสุขสวัสดิ์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง และคุณภาพน้ำลำน้ำยังอยู่ในเกณฑ์พอใช้ ทั้ง 2 พื้นที่ คือ ที่บริเวณตำบลสมสะอาดและตำบลกุดค้าว อำเภอกุฉินารายณ์



สุวรรณ์ ศรีอาภรณ์ / ข่าว

เปิดตัวทีมวอลเล่ย์บอลทีมไอเดียขอนแก่นสู้ศึกวอลเล่ย์บอลไทยลีกฤดูกาล 56/57

งานนี้ทำพิธีเปิดตัวกันที่โรงแรมพูลแมนขอนแก่นซึ่งมีผู้บริหารศดมสรร่วมเปิดตัวหลายคนรวมทั้งสปอนเซอร์ผู้สนับสนับสนุนทีมด้วยนำโดยนายปานชัย บวรรัตนปราน ประธานสโมสรไอเดียขอนแก่น นายอำนวย  ผลพืช ผู้บริหารบริษัทฟินิคซ พลัพ แอนด์ เพเพอร์ จำกัด (มหาชน) บริษัทในเครือ SCG PAPER ผู้สนับสนุนหลักรวมทั้งผู้บริหารจากบริษัทเครือคูโบต้า ผู้บริหารเครือกระเบื้อง คัมพานา โดยมีนายสมศักดิ์  สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นร่วมเป็นเกียรติและร่วมเปิดตัวทีมไอเดีย ขอนแก่นในครั้งนี้นอกจากนั้นทางก็มีการมอบเงินสนับสนุนทีมอะคาเดมีจากโรงเรียนสกลราชวิทยาจังหวัดสกลนครและโรงเรียนหนองเรือวิทยา จังหวัดขอนแก่น ซึ่งทั้งสองแห่งจะร่วมผลิตนักกีฬาเยาวชนเข้าร่วมกับทีมไอเดียขอนแก่น งานนี้ทางทีมไอเดีย ขอนแก่นในฐานะแชมป์เก่าวอลเล่ย์บอลไทยแลนด์ลีกปี 2555/2556 ที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนจาก SCG PAPER เป็นผู้สนับสนุนหลักซึ่งเป็นผู้ที่ให้การสนับสนุนมาต่อเนื่องเป็นปีที่ 3และถือเป็นการพัฒนาสังคมช่วยเหลือชุมชนเป็นการคืนกำไรสู่สังคม โดยให้การสนับสนุนทั้งสนามแข่งสนามซ้อม ที่พัก การเดินทางแข่งขันทั่วประเทศและต่างประเทศนอกจากนั้นในปีนี้ทางบริษัท สยามคูโบต้า ก็มาร่วมสนับสนุนอีก 3 ล้านบาททางกระเบื้องคัมพานาก็ร่วมสนับสนุนอีก 1 ล้านบาท สำหรับปีนี้ทีมไอเดียขอนแก่นจะทำหน้าที่ป้องกันแชมป์ให้ได้โดยมีตัวหลักๆหลายคนอยู่ในทีมและมีการดึงผู้เล่นต่างชาติเข้ามาเสริมทีมด้วยปีนีได้ผู้เล่นจากเวียตนามมาเสริมทีม 2 คน

ในส่วนของผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นก็ฝากให้ชาวจังหวัดขอนแก่นมาร่วมกันเชียร์ทีมไอเดียขอนแก่นกันเยอะๆ ในช่วงการแข่งขันซึ่งจะเริ่มในปลายปีนี้ช่วงนี้เป็นการฝึกซ้อมและเตรียมทีมกันอยู่ในศูนย์ฝึกของบริษัทฟินิคซ พลัพ แอนด์ เพเพอร์ ที่อำเภอน้ำพอง และขอขอบคุณทุกบริษัทที่มาสนับสนุนกีฬาของจังหวัดขอนแก่นโดยเฉพาะ บริษัท ฟินิคซ พลัพ แอนด์ เพเพอร์ จำกัด (มหาชน) ที่ให้การสนับสนุนด้วยดีตลอดมา

รางวัลคนดีศรีอีสานประจำปี 2556

สมาคมสื่อมวลชนภาคอีสานร่วมกับสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดยโสธรจัดงาน 32 ปี คนดีศรีอีสานมีการมอบรางวัลให้กับผู้ที่มีผลงานดีเด่นเป็นที่ประจักษ์ในภาคอีสานที่หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานีโดยมีนายชวน ศิรินันท์พร อธิบดีกรมการปกครองเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลครั้งนี้ซึ่งมี 2 รางวัลคือรางวัลบุคคลต้นแบบ ต้นกล้า คุณธรรมคนดีของสังคมและรางวัลคนดีศรีอีสานประจำปี 2556 ซึ่งทางสมาคมสื่อมวลชนภาคอีสานและสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดยโสธรจัดขึ้นเป็นปีที่ 32 ในชื่องาน 32 ปี คนดีศรีอีสานซึ่งคัดเลือกจากบุคคลผู้มีผลงานมีความมานะพยายามและตั้งมั่นอยู่ในคุณธรรม มีความเสียสละและอุทิศตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ตลอดจนบำเพ็ญสาธารณประโยชน์เป็นที่ยอมรับในสังคมไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นคนรวย คนจน ทุกคนมีความเสมอภาคขออย่างเดียวให้คนนั้นเป็นคนดี    ซึ่งงานนี้จัดต่อเนื่องกันมาแล้วตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2524 รวมแล้ว 32 ปีสำหรับโล่รางวัลที่ได้รับเป็นโล่รางวัลเกียรติยศจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มอบให้เป็นกำลังใจและสนับสนุนคนอีสานที่สร้างสรรค์ประโยชน์ให้แก่สังคม




สำหรับผู้ที่ได้รับรางวัลคนดีศรีอีสานประจำปี 2556มีทั้งหมด 15 คนได้แก่

1. นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น

2. นายพรศักดิ์ เจียรนัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ

3. นายฮวงเซ็ง แซ่ลี้ เจ้าของโรงสีจังหวัดอุบลราชธานี

4. นายศุภชัย เอกอุ่น ผู้อำนวยการกองบริการลูกค้าการไฟฟ้านครราชสีมา

5. นางจันทร์เพ็ญ ประเสริฐศรี นายกสมาคมกีฬาจังหวัดอำนาจเจริญ

6. นายประเสริฐ ประคุณศึกษาพันธ์ สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดขอนแก่น

7. นายประสาน กำจรเมนุกูล ผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

8. นายฉลอง ครอบบัวบาน ประธานชมรมผู้สูงอายุอำเภอม่วงสามสิบ อุบลราชธานี

9. นายวัฒนา พุฒิชาติ ปลัดจังหวัดศรีษะเกษ

10. นายกิตติพล เกียรติสุรนนท์ กรรมการผู้จัดการเกียรติสุรนนท์กรุ๊ป

11. นายขจรศักดิ์ นิตชิน นายกเทศมนตรีตำบลธาตุพนม จังหวัดนครพนม

12. นายธนกร ไชยกุล ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี

13. นายธนันท์ชัย อมรไชยพัฒน์ ผู้นำชุมชนอำเภอกระสัง บุรีรัมย์

14. นายสงบ คณะพล ประธาน อสม.จังหวัดสกลนคร

15. นายบุญละ หันสันเทียะ ผู้นำชุมชนโนนทัย นครราชสีมา


ในงานมีศิลปินนักร้องชื่อดังลูกศิษย์อาจารย์คิด จินดากุล ผู้ริเริ่มการจัดงานคนดีศรีอีสานมาร่วมขับกล่อมให้กับผู้มาร่วมงานได้ฟังด้วย

ขอนแก่น เตรียมสรุปโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติในหลวงและสมเด็จ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2556

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในการแถลงข่าวผลการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ของศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด (ศพส.)จังหวัดขอนแก่น ที่ห้องภูผาม่าน โรงแรมขอนแก่นโฮเต็ล จังหวัดขอนแก่น เมื่อเช้าวันนี้ ( 30 สิงหาคม 2556) ว่า ตามที่จังหวัดขอนแก่น ได้จัดทำโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร ในชื่อโครงการ "จังหวัดขอนแก่นไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติด” โดยเป็นการทำงานควบคู่กันทั้งด้านการป้องกัน ด้านการปราบปราม ด้านบำบัดรักษา และการฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดมาตั้งแต่ปลายปี 2555 จนถึงขณะนี้มีผลการดำเนินงานของทุกด้านเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยเฉพาะด้านการปราบปราม การบำบัดรักษา และด้านการป้องกัน ซึ่งในปลายปี 2556 นี้ จังหวัดขอนแก่นจะได้มอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ สรุปผลการดำเนินงานในรอบ 1 ปี ให้เห็นเด่นชัดและเป็นรูปธรรม

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยเพิ่มเติมว่า จังหวัดขอนแก่น จะทำโครงการนี้เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวาคม 2556 โดยจะกราบเรียนเชิญ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาเป็นประธาน และรับทราบงานสรุปผลงานการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด "จังหวัดขอนแก่น ไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติด” ครบ 1 ปี ในช่วงปลายเดือน พฤศจิกายน 2556 หรือต้นเดือน ธันวาคม 2556 พร้อมเป็นประธานเปิดงาน เทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยว และงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น ประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2556 ด้วย




สมพงษ์ ปัตตานี/ข่าว

เจ้าของช้างรวมตัวโต้สิทธิ์ หลังถูกสั่งอายัด 69 เชือก

เจ้าของช้าง กว่า 60 ราย ที่ถูกนายทะเบียน สั่งอายัดใบอนุญาต รูปพรรณช้าง เข้าแสดงหลักฐานต่อนายอำเภอเมืองชัยภูมิ ในฐานะนายทะเบียนผู้ออกใบอนุญาต พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหา หากไม่ดำเนินการ จะนำช้างปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล

เมื่อเวลา 11.30น. วันที่ 30 สิงหาคม 2556 มีชาวบ้านจากอำเภอท่าตูม อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ อำเภอสตึก จ.บุรีรัมย์ และเจ้าของปางช้าง จ.กาญจบุรี กว่า 60 ราย มีนายสุรสิทธิ์ มุทุสาหิม กรรมการแก้ไขปัญหากลุ่มคนเลี้ยงช้างระดับชาติ ภาคประชาชน เป็นแกนนำ ได้เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณหน้าที่ว่าอำเภอเมืองชัยภูมิ เพื่อแสดงหลักฐาน พยาน การได้มาของช้าง ที่ตนครอบครอง ตามตั๋วรูปพรรณช้าง ต่อนายทะเบียนอำเภอเมืองชัยภูมิ หลังถูกสั่งระงับการเคลื่อนไหวรายการตั๋วรูปพรรณช้าง จำนวน 69 ฉบับ ที่ทางตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าตรวจสอบพบว่า เอกสารดังกล่าวอาจออกโดยมิชอบ นายสุรสิทธิ์ มุทุสาหิม กล่าวว่า คนเลี้ยงช้างเหล่านี้ ได้ตั๋วรูปพรรณช้างฉบับดังกล่าว มาจาก นายสุรัตน์ เติมศักดิ์ อดีตกำนันตำบลบ้านค่าย อ.เมืองชัยภูมิ เห็นว่าเป็นเอกสารที่ทางราชการออกให้ เชื่อว่าถูกต้อง จึงซื้อจากนายสุรัตน์ฯ เอาไว้ จนเป็นเหตุนำไปสู่การถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจจับในข้อหา มีตั๋วรูปพรรณไว้ในครอบครองโดยไม่มีช้างตรงตามตั๋วนั้น ชาวบ้านไม่รู้กฎหมายเมื่อมีคนนำตั๋วมาขายให้ก็ซื้อไว้ เนื่องจากเห็นว่าเป็นตั๋วที่ทางราชการออกให้ แต่หลังจากมีหนังสือแจ้งให้นำช้างพร้อมเจ้าของช้างเข้ามาชี้แจง แสดงหลักฐาน ภายใน30วัน หากไม่มาหรือไม่สามารถแสดงหลักฐานได้จะทำการเพิกถอนตั๋ว ชาวบ้านต่างไม่สบายใจและเกรงจะกลายเป็นผู้ที่ละเมิดกฎหมาย จึงเรียกร้องไปยังรัฐบาล ให้สั่งยกเลิกการ ระงับใบอนุญาตทั้ง 69 ฉบับ หากไม่หาทางแก้ไขยืนยันจะนำช้างจากทุกเพนียด กว่า 200 เชือกเดินทางเข้าปิดล้อมทำเนียบอย่างแน่นอน ต่อมา นายประกิต วงค์วิสิทธิ์ นายอำเภอเมืองชัยภูมิ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไอศูรย์ สิงหนาถ รองผบก.ภจว.ชัยภูมิ ได้เชิญเจ้าของช้าง เข้าชี้แจง ที่ห้องประชุมอำเภอเมืองชัยภูมิ แจงให้เห็นถึงเหตุผล ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เร่งตรวจสอบเอกสาร ของตั๋วรูปพรรณช้างทั้ง 69 เชือก เบื้องต้นพบว่า น่าจะมีการออกตั๋วผิดสิ้นเชิง 4 ราย แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้ครอบครอง นำพยาน หลักฐานเข้าชี้แจงได้ ทุกอย่างได้ดำเนินการตามขั้นตอน และอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง หากชาวบ้านท่านใดมีหลักฐานชี้แจงพร้อมนำมาแสดงได้ ก็ถือว่าได้มาอย่างถูกต้อง แต่ถ้าไม่มีหลักฐานใดๆ ก็ต้องดำเนินการเพิกถอน ส่วนกรณีที่นายสุรัตน์ ฯนำตั๋วไปขายให้นั้นศาลได้ออกหมายจับไปแล้ว ซึ่งหากจับกุมได้ก็จะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย และท่านก็สามารถฟ้องร้องในคดีแพ่ง เรืยกร้องค่าเสียหายต่อไป




สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว

ดอกไม้ประจําชาติอาเซียน 10 ประเทศ มีอะไรบ้าง

ดอกไม้ประจําชาติอาเซียน 10 ประเทศ มีอะไรบ้าง

เหลือเวลาอีกเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น การรวมตัวกันของประชาคมอาเซียน 10 ประเทศ ก็จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว (พ.ศ. 2558) เพื่อผนึกกำลังในการพัฒนาแต่ละประเทศให้เจริญก้าวหน้าไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีประเทศไทยกับเขาด้วย วันนี้ กระปุกดอทคอม จึงมีข้อมูลเบา ๆ เกี่ยวกับดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ของชาติอาเซียนในแต่ละประเทศมาฝากกันเพื่อเพิ่มเติมความรู้ ว่าแต่จะมีดอกไม้อะไรบ้าง อย่ารอช้ารีบไปดูกันเลย..

1. บรูไนดารุสซาลาม (Negara Brunei Darussalam) : ดอกซิมปอร์ ดอกไม้ประจำชาติบรูไน ก็คือ ดอกซิมปอร์ (Simpor) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ดอกส้านชะวา (Dillenia) ดอกไม้ประจำท้องถิ่นบรูไน ที่มีกลีบขนาดใหญ่สีเหลือง หากบานเต็มที่แล้วกลีบดอกจะมีลักษณะคล้ายร่ม พบเห็นได้ตามแม่น้ำทั่วไปของบรูไน มีสรรพคุณช่วยรักษาบาดแผล หากใครแวะไปเยือนบรูไน จะพบเห็นได้จากธนบัตรใบละ 1 ดอลลาร์ ของประเทศบรูไน และในงานศิลปะพื้นเมืองอีกด้วย




           

2. ราชอาณาจักรกัมพูชา (Kingdom of Cambodia) : ดอกลำดวน กัมพูชามีดอกไม้ประจำชาติเป็น ดอกลำดวน (Rumdul) ดอกไม้สีขาวปนเหลืองนวล กลีบดอกหนาทึบและแข็งเล็กน้อย มีกลิ่นหอมเย็นแบบกรุ่น ๆ ถูกจัดเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่งเพราะมีความหมายถึงความสดชื่นหอมกรุ่น และเป็นดอกไม้สำหรับสุภาพสตรี วิธีปลูกที่ถูกต้อง ต้องปลูกไว้ในทิศตะวันตกเฉียงเหนือของตัวบ้าน ที่สำคัญต้องปลูกในวันพุธด้วยนะ







3. สาธารณรัฐอินโดนีเซีย (Republic of Indonesia) : ดอกกล้วยไม้ราตรี ดอกไม้ประจำชาติอินโดนีเซีย คือ ดอกกล้วยไม้ราตรี (Moon Orchid) ซึ่งเป็นหนึ่งในดอกกล้วยไม้ที่บานอยู่ได้นานที่สุด โดยช่อดอกนั้นสามารถแตกกิ่งและอยู่ได้นาน 2-6 เดือน โดยดอกจะบานแค่ปีละ 2-3 ครั้งเท่านั้น ทั้งนี้ดอกกล้วยไม้ราตรีสามารถเจริญเติบโตได้ดีในอากาศชื้น จึงพบเห็นได้ง่ายในพื้นที่ราบต่ำของประเทศอินโดนีเซีย





             


4. สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (Lao People's Democratic Republic) : ดอกจำปาลาว ดอกไม้ประจำชาติประเทศเพื่อนบ้านของไทยอย่างประเทศลาว คือ ดอกจำปาลาว (Dok Champa) คนไทยรู้จักกันดีในชื่อ ดอกลีลาวดี หรือ ดอกลั่นทม โดยดอกจำปาลาวมักมีสีสันหลากหลาย ไม่เฉพาะเจาะจงว่าต้องเป็นเพียงสีขาวเท่านั้น เช่น สีชมพู สีเหลือง สีแดง หรือสีโทนอ่อนต่าง ๆ โดยดอกจำปาลาวนั้นเป็นตัวแทนของความสุขและความจริงใจ จึงนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายเพื่อประดับประดาในงานพิธีต่าง ๆ รวมทั้งใช้เป็นพวงมาลัยเพื่อรับแขกอีกด้วย








5. ประเทศมาเลเซีย (Malaysia) : ดอกพู่ระหง สำหรับประเทศมาเลเซียนั้น มีดอกไม้ประจำชาติเป็น ดอกพู่ระหง (Bunga Raya) ในภาษาท้องถิ่นเรียกกันว่า บุหงารายอ หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ ดอกชบาสีแดง ลักษณะกลีบดอกเป็นสีแดง มีเกสรยื่นยาวออกมาเหนือดอก ซึ่งถูกจัดให้เป็นสัญลักษณ์ของประเทศมาเลเซีย เพื่อเสริมสร้างความเป็นปึกแผ่นและความอดทนในชาติ โดยเชื่อว่าจะช่วยส่งเสริมให้สูงส่งและสง่างาม รวมทั้งยังสามารถนำไปใช้ในทางการแพทย์และความงามได้อีกด้วย








6. สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ (Republic of the Philippines) : ดอกพุดแก้ว ดอกไม้ประจำชาติฟิลิปปินส์ คือ ดอกพุดแก้ว (Sampaguita Jasmine) ดอกมีสีขาวกลีบดอกเป็นรูปดาว มีกลิ่นหอม บานส่งกลิ่นในตอนกลางคืน ถือเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ เรียบง่าย อ่อนน้อมถ่อมตน รวมถึงความเข้มแข็งอีกด้วย เคยถูกนำมาใช้เฉลิมฉลองในตำนานเรื่องเล่ารวมทั้งบทเพลงของฟิลิปปินส์ด้วยเช่นกัน








7. สาธารณรัฐสิงคโปร์ (Republic of Singapore) : ดอกกล้วยไม้แวนด้า ประเทศสิงคโปร์ มี ดอกกล้วยไม้แวนด้า (Vanda Miss Joaquim) เป็นดอกไม้ประจำชาติ โดยดอกกล้วยไม้แวนด้าตั้งชื่อตามผู้ผสมพันธุ์ คือ Miss Agnes Joaquim จัดเป็นดอกกล้วยไม้ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในประเทศสิงคโปร์ มีสีม่วงสดสวยงามและเบ่งบานอยู่ตลอดทั้งปี โดยถูกจัดให้เป็นดอกไม้ประจำชาติสิงคโปร์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1981 (พ.ศ. 2524)







8. ราชอาณาจักรไทย (Kingdom of Thailand) : ดอกราชพฤกษ์ ดอกไม้ประจำชาติไทยของเรา ก็คือ ดอกราชพฤกษ์ (Ratchaphruek) ที่มีสีเหลืองสวยสง่างาม เมื่อเบ่งบานแล้วให้ความรู้สึกอบอุ่น ถือเป็นสัญลักษณ์ของความมีเกียรติยศศักดิ์ศรี ซึ่งชาวไทยหลายคนรู้จักกันดีในนามของ ดอกคูน โดยมีความเชื่อว่าสีเหลืองอร่ามของดอกราชพฤกษ์คือสีแห่งพระพุทธศาสนาและความรุ่งโรจน์ รวมทั้งยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีปรองดองของคนในชาติอีกด้วย โดยดอกราชพฤกษ์จะเบ่งบานในช่วงเดือนกุมภาพันธ์–พฤษภาคม มีจุดเด่นเวลาเบ่งบานคือการผลัดใบออกจนหมดต้น เหลือไว้เพียงแค่สีเหลืองอร่ามของดอกราชพฤกษ์เท่านั้น








9.สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (The Socialist Republic of Vietnam) : ดอกบัว ประเทศเวียดนาม มีดอกไม้ที่คนไทยคุ้นเคยอย่าง ดอกบัว (Lotus) เป็นดอกไม้ประจำชาติ โดยดอกบัวเป็นที่รู้จักกันในนาม "ดอกไม้แห่งรุ่งอรุณ” เป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ ความผูกพัน และการมองโลกในแง่ดี ดอกบัวจึงมักถูกกล่าวถึงในบทกลอนและเพลงพื้นเมืองของชาวเวียดนามอยู่บ่อยครั้ง









10. สหภาพพม่า (Union of Myanmar) : ดอกประดู่ ดอกไม้ประจำชาติของประเทศพม่า คือ ดอกประดู่ (Paduak) เป็นดอกไม้ที่พบมากในประเทศพม่า มีสีเหลืองทอง ผลิดอกและส่งกลิ่นหอมในฤดูฝนแรก ช่วงเดือนเมษายนซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ประเทศพม่ามีการเฉลิมฉลองปีใหม่ขึ้น ชาวพม่าเชื่อว่าดอกประดู่คือสัญลักษณ์ของความแข็งแรง ความทนทาน และเป็นดอกไม้ที่ขาดไม่ได้ในพิธีทางศาสนาของชาวพม่าเลยล่ะ







รู้จักกันไปแล้วสำหรับดอกไม้ประจำชาติอาเซียนทั้ง 10 ชาติ ที่หลายดอกก็คุ้นหน้าคุ้นตากันดีและเคยเห็นในประเทศไทยอยู่บ้าง หากพบเจอเพื่อนร่วมประชาคมอาเซียนที่แวะมาเยี่ยมเยียนเมืองไทยแล้วล่ะก็ ลองมอบดอกไม้เหล่านี้ให้เพื่อเป็นการต้อนรับ ก็คงจะสร้างความปลื้มใจให้ไม่น้อยอยู่เหมือนกันนะ



ขอบคุณ : กระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณ : ภาพประกอบจาก
 treknature.com , angkorandpeople.com , philamfood.com ,myanmars.net 

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดโครงการเสริมสร้างความจงรักภักดีต่อสถาบัน บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน

วันที่ 30 ส.ค. 56  เวลา 10.00 น. โรงเรียนพังเทียม อ.พระทองคำ จ.นครราชสีมา ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีเปิดหน่วยบริการจังหวัดเคลื่อนที่ ตามโครงการเสริมสร้างความจงรักภักดีต่อสถาบัน บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน เพื่อให้ประชาชน ทั้ง 32 อำเภอ ของจังหวัดนครราชสีมา ได้รับบริการในด้านต่างๆที่เป็นประโยชน์จากหน่วยงานราชการ และเป็นการเพิ่มองค์ความรู้ให้กับประชาชนในพื้นที่นำไปใช้ในการดำรงชีวิต เป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายและลดค่าครองชีพของประชาชน โดยภายในงานได้มีหน่วยงานราชการ มาตั้งบูทให้คำปรึกษาในด้านการเกษตร การบริการทำหมันให้กับสุนัข การตรวจวัดสายตา และการสอนอาชีพให้กับประชาชนที่มาร่วมงาน อาทิ การทำสบู่ การทำกระเป๋า ผ้าเช็ดเท้า และการสานเครื่องหวาย เป็นต้น ซึ่งมี ประชาชนในพื้นที่อำเภอพระทองคำ เข้ามารับบริการกว่า 1,000 คน ในโอกาสเดียวกันนี้ ดร.วินัยบัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้รับฟังปัญหาของประชาชนในพื้นที่ นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ยัง ยังได้มอบถุงยังชีพ แว่นสาตา จำนวน 100 ชุด มามอบให้กับผู้สูงอายุและผู้ยากไร้ อีกทั้งยังได้มีการมอบการมอบพันธุ์ปลา กล้าไม้ ให้กับผู้นำชุมชนในพื้นที่อำเภอพระทองคำอีกด้วย 

วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556

จัดหางานจังหวัดมุกดาหาร บริการสู่ชุมชน ณ จัดหางานสาขาคำชะอี

นายสมพัฒน์ โพชนิกร จัดหางานจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า สำนักงานจัดหางานจังหวัดมุกดาหาร ได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์จัดหางานสาขาคำชะอีขึ้น ณ ที่ว่าการอำเภอคำชะอี ชั้น 2ตำบลน้ำเที่ยง อำเภอคำชะอี เพื่อเป็นการขยายการให้บริการของสำนักงานจัดหางานจังหวัดมุกดาหารไปสู่ชุมชนในเขตพื้นที่ห่างไกลให้ได้รับข้อมูลข่าวสารตลาดแรงงานและเข้าถึงการบริการจัดหางานด้วยความสะดวกรวดเร็วและมีประสิทธิภาพโดยจัดเจ้าหน้าที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดมุกดาหารออกไปให้บริการจัดหางาน รับลงทะเบียนหางาน ขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนกรณีว่างงาน รับรายงานตัวผู้ประกันตนกรณีว่างงาน และให้คำปรึกษาแนะแนวอาชีพ ส่งเสริมการประกอบอาชีพอิสระ เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารตลาดแรงงาน ตำแหน่งงานว่าง ตลอดจนประสานแหล่งจ้างงานทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อหาตำแหน่งงานว่าง

จัดหางานจังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้นายจ้าง สถานประกอบการที่ต้องการคนหางาน ผู้ที่กำลังหางานทำ นักเรียน/นักศึกษา ที่อยู่พื้นที่ใกล้เคียงได้ทราบและใช้บริการสมัครงาน ได้ที่ศูนย์จัดหางานสาขาคำชะอี ที่ตั้ง ณ ที่ว่าการอำเภอคำชะอี ชั้น 2ตำบลน้ำเที่ยง อำเภอคำชะอี ในทุกวันจันทร์ถึงวันพุธ ระหว่างเวลา 08.30-16.30 น. ซึ่งเป็นการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย ในการมาใช้บริการจัดหางานด้วย สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมศูนย์จัดหางานสาขาคำชะอี ที่ว่าการอำเภอคำชะอี โทร 042-691333



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

ยโสธรม็อบสวนยางบุกศาลากลางซ้อมแผน

ตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร ฝึกทบทวนกองร้อยควบคุมฝูงชน เพื่อเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่รับมือม็อบสวนยางที่อาจจะเกิดขึ้นได้  ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดยโสธร นายประวัติ  ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานในการฝึกทบทวนกองร้อยควบคุมฝูงชน  ซึ่งเป็นการสนธิกำลัง ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ กับเจ้าหน้าที่ อส.จาก 9 อำเภอ  โดยสมมุติเหตุการณ์ว่า ได้มีม็อบสวนยางพารา เข้ามาปิดล้อมศาลากลางจังหวัดยโสธร เพื่อมาขอเพิ่มราคายางพารา พร้อมขู่ว่าจะยึดศาลากลาง นายประวัติ  ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร จึงได้สั่งการให้สนธิกำลัง ระหว่างกองร้อยอาสารักษารักษาดินแดนหรือ อส. จาก 9 อำเภอ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กว่า 500 นาย เข้าระงับเหตุ โดยใช้ยุทธวิธีที่ที่ถูกต้องเป็นไปตามกฎหมายระเบียบข้อบังคับฝูงชน  ปรากฏว่าการเข้าระงับเหตุในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ อส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลากว่า 1 ช.ม  จึงสามารถควบคุมสถานการณ์ ไว้ได้โดยสามารถจับกุมแกนนำม็อบไว้ได้จำนวนหนึ่ง จากนั้นบรรดาลูกม็อบก็ได้สลายตัวกับไป โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

มูลนิธิดำรงชัยธรรม มอบทุนการศึกษาเรียนฟรี จนจบปริญญา 34 ทุน

มูลนิธิดำรงชัยธรรม โดยนายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการมูลนิธิฯ และประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้จัดตั้งขึ้น เพื่อมอบทุนการศึกษาต่อเนื่องจนจบปริญญาตรีให้แก่เยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เรียนดี ประพฤติดีและมีความสามารถ มากกว่า 15 ปีแล้ว ขณะนี้มูลนิธิได้เปิดโครงการ "ทุนสร้างคน สร้างบัณฑิต รุ่นที่ 16/2557” ขึ้น โดยมอบทุน จำนวน 34 ทุน เป็นทุนการศึกษาต่อเนื่องให้เปล่า จนจบปริญญาตรี แบ่งเป็นทุนสายสามัญ 20 ทุน และทุนสายอาชีพ 14 ทุน มีกำหนดเปิดรับสมัครตั้งแต่สิงหาคม – 30 กันยายน 2556 ที่กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.3 และม.6 และปวช.2 ในรายอาชีพ ขอทราบรายละเอียดและติดต่อได้ที่ สถาบันการศึกษาของท่าน

สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร.02-669-9711 วันจันทร์ – ศุกร์ เวลาทำการ 09.00-18.00 น.



ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช 29 สิงหาคม 2556

ศูนย์ศิลปชีพบางไทรรับนักเรียนเข้าอบรมความรู้ด้านศิลปาชีพ 31 แผนก

ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ ตำบลช้างใหญ่ อำเภอบางไทร จังหวัดนครศรีอยุธยา เปิดรับสมัครนักเรียนศิลปาชีพ รุ่นที่ 79 เพื่อเข้ารับการฝึกอบรมความรู้ด้านศิลปาชีพ สำนักงานพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (สพช.กสอ.) ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการรับสมัครและคัดเลือกผู้มีรายได้น้อยและยากจน ที่มีคุณสมบัติตามระเบียบการรับสมัครนักเรียนศิลปาชีพ โดยเข้ารับการฝึกอบรมความรู้ด้านศิลปาชีพ จำนวน 31 แผนก ระหว่างเดือนตุลาคม 2556 – เดือนมีนาคม 2557 รวมระยะเวลาประมาณ 6 เดือน เพื่อให้บุคคลมีโอกาสเข้ารับการฝึกอบรมศิลปาชีพ

เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว สามารถสมัครโดยตรงได้ที่ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดยโสธร ภายในวันที่ 27 กันยายน 2556 หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดยโสธร ภายในวันที่ 27 กันยายน 2556 หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ คุณสมใจ ยาวะโนภาส โทรศัพท์ 087-5009710 คุณทัศนีย์วรรณ มณีท่าโพธิ์ โทรศัพท์ 089-5340662



ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช 29 สิงหาคม 2556

ศรีสะเกษ - ผวจ.ศรีสะเกษ เสริมความเนี้ยบ ให้กับครูฝ่ายปกครอง เพื่อกระตุ้นระเบียบวินัย และแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 29 ส.ค. 56 ที่ห้องประชุมเพชร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต.1 อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมหลักสูตรพนักงานเจ้าหน้าที่ ส่งเสริมความประพฤตินักเรียน นักศึกษา ซึ่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 1 จัดขึ้น โดยมีเป้าหมาย เพื่อพัฒนาบุคลากรครู อาจารย์ ให้สามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับ ไปปรับใช้ตามบริบทกับนักเรียนในสถานศึกษา เพื่อเป็นการป้องกันและเฝ้าระวังป้องปรามพฤติกรรมของเด็กและเยาวชน ในการอยู่ร่วมกับสังคม ตลอดจนดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา โดยมี นายชอุ่ม กรไกร ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เขต1 นำ คณะครู อาจารย์ ในสังกัด เข้าร่วมรับการฝึกอบรม นายชอุ่ม กล่าวว่า การอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาพนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียน นักศึกษา ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากกระทรวงศึกษาธิการ ได้กำหนดนโยบายการดำเนินงานด้านการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ และรัฐบาลได้กำหนดให้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ดังนั้น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต.1 จึงได้ส่งเสริมสนับสนุนให้สถานศึกษาในสังกัดทุกแห่ง จัดกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อสร้างภูมคุ้มกันปัญหายาเสพติด และสร้างจิตสำนึกให้นักเรียน นักศึกษา ได้ตระหนักถึงภาระหน้าที่ของตนเอง ตลอดจนให้ครู อาจารย์ ที่เข้าฝึกรับการอบรม นำความรู้ที่ได้ไปปรับเปลี่ยนและสร้างพฤติกรรมเชิงบวกให้เยาวชน เพื่อเป็นการพัฒนาที่จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อนักเรียนและชุมชนในภายภาคหน้า ด้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ระบุว่า ปัจจุบันนี้ ปัญหาต่างๆในสถานศึกษา เกิดขึ้นเพราะวิวัฒนาการของโลก และกระแสสังคมที่ก้าวไปอย่างรวดเร็ว จนบางทีผู้ใหญ่ อาจไม่เข้าใจในความคิดเด็กในปัจจุบัน ว่าต้องการในเรื่องใด ซึ่งจะยกหน้าที่การแก้ไขปัญหาทั้งหมด ให้ครูฝ่ายปกครอง เป็นผู้รับผิดชอบ ทั้งหมด คงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้น ผู้ปกครอง ตลอดจน ผู้ที่เกี่ยวข้องในการรับผิดชอบสถานศึกษา ต้องมีส่วนร่วมกันในการดูแล นักเรียน ในสถานศึกษา และสร้างความเข้าใจความถูกต้องเกี่ยวกับสังคม ให้นักเรียนได้เข้าใจ และสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่าง มีความสุขและปลอดภัย

สสวท. ลงพื้นที่ ร.ร.บ้านสดำ ติดตาม โรงเรียนต้นแบบการเรียนรู้แบบบูรณาการ

วันนี้ (28 ส.ค. 56) ที่โรงเรียนบ้านสดำ ตำบลโพธิ์กระสังข์ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ นางพรพรรณ ไวทยางกูร ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(สสวท.) พร้อมด้วยคณะ ลงพื้นที่ พื้นที่ ที่โรงเรียนบ้านสดำ ตำบลโพธิ์กระสังข์ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ ติดตามการดำเนินงานศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีปฐมวัย โรงเรียนต้นแบบการเรียนรู้แบบบูรณาการปฐมวัย พร้อมทั้งได้เปิดเผยว่า การส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นการวางราฐานการเรียนรู้ทีสนองต่อธรรมชาติ และพัฒนาการทุกด้าน ส่งผลให้เด็กมีศักยภาพในการเรียนรู้ตลอดชีวิต และสามารถพัฒนาตนเองและสังคมต่อไปในอนาคต สสวท. จึงได้ดำเนินโครงการบูรณาการวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีปฐมวัย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ในรูปของกิจกรรมบูรณาการู้ให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านการสืบเสาะหาความรู้ การคิด การลมือแก้ไขปัญหาด้วยปะสบการณ์ตรงอย่างเหมาะสม กับวัย และเป็นไปตามหลักการจัดการศึกษาปฐมวัย โดยได้จัดทำการอบรมมาตรฐานการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ปฐมวัย หนังสือคู่มือกรอบมาตรฐาน เอสารตัวอย่างการจัดกิจกรรม ชุดอุปกรณ์และสือบูรณาการวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีปฐมวัย จัดอบรมครู และอื่นๆ

นอกจากนั้น สสวท. ยังได้ก่อตั้งศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีปฐมวัย เพื่อให้เป็นต้นแบบนากรเผยแพร่การเรียนรู้ปฐมวัยตามแนวทางของ สสวท. กระจายสู่โรงเรียนต่างๆทั่วประเทได้อย่งทั่วถึงมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีศูนย์ดังกล่าว จำนวน 2 แห่ง เมื่อปี พ.ศ. 2554 ได้แก่ ศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีปฐมวัย รียนเทศบาลวัดปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง และศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีปฐมวัย โรงเรียนบ้านสดำ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสสะเกษ โดยชุมชนผู้ปกครอง และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับสาถนศึกษาผลักดันและพัฒนาศูนย์ดังกล่าว

ผอ.สสวท. กล่าวอีกว่า ครูปฐมวัยที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกในศูนย์ฯ จะมีโอกาสในการพัฒนาวิชาชีพผ่านระบบเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการ โดยมีนักวิชาการของ สสวท. เป็นพี่เลี้ยงและที่ปรึกษาทางวิชาการ ตลอดจนมีการส่งเสริมให้ครูร่วมกันแบ่งปันประสบการณ์การสอนและพัฒนาวัตกรรมการเรียนรู้ใหม่ๆ โดยนำมาทดลองจัดเป็นกิจกรรมภายในศูนย์ก่อนเผยแพร่สู่ชั้นเรียนต่อไป

จังหวัดอุดรธานี จัดประชุมกรมการจังหวัดประจำเดือนสิงหาคม 2556

จังหวัดอุดรธานี จัดประชุมหัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารสถานศึกษา นายอำเภอจังหวัดอุดรธานี ครั้งที่ 8/2556

เช้าวันนี้ ( 29 ส.ค.56 ) ที่ห้องประชุมทองใหญ่ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารสถานศึกษา นายอำเภอ จังหวัดอุดรธานี ครั้งที่ 7/2556 โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารสถานศึกษา ร่วมประชุม

โดยก่อนการประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้นำเสนอ โครงการ 1 ไร่ได้ 1 แสนชาวนาเงินล้าน ซึ่งเป็นโครงการที่ผู้ว่าฯปรับพื้นที่ 16 ไร่ เป็นไร่นาสวนผสม สร้างเป็นจุดสาธิตและจุดเรียนรู้แก่เกษตรกร และผู้สนใจในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ภายใต้สโรแกน ข้าราชการวันธรรมดา ชาวนาวันหยุด ประชาสัมพันธ์การแข่งขันตะกร้อชิงแชมป์โลก ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คิงส์คัพ โครงการเพลินเพลงเพื่อแผ่นดิน แต่งไทยใส่ผ้าซิ่น ออนซอนเมืองอุดรธานี 121 ปีและโครงการส่งเสริมตลาดผ้านาข่า

จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้มอบรางวัลการดำเนินงานเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ประจำปีงบประมาณ 2556 โดยรางวัลชนะเลิศ ได้แก่ สื่อโทรทัศน์ ออนซอนอุดร โดยนายกฤษฎา อึ่งมณีประเสริฐ รองชนะเลิศอันดับ1 สื่อโทรทัศน์ เรื่องต้นแบบ โดยนางลักษิกา บุญโนนแต้ รองชนะเลิศอันดับ 2 สื่อสิ่งพิมพ์ เรื่องหวานแหวว โดย นางคำปุ่น ทิพย์โชติ รางวัลประกวดนักประชาสัมพันธ์สื่อปลอดภัยในสถานศึกษา อนุรักษ์อย่างไร เมื่อกว้าไปสู่อาเซียน ระดับประถมศึกษาชนะเลิศ เด็กหญิงปฏิพร มะลิ โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 72 หรือ โรงเรียนเทศบาล 8 รองชนะเลิศอันดับ 1 เด็กหญิงสุพรรษา เสมอสาย โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 72 รองชนะเลิศอันดับ 2 เด็กหญิงจีระนันท์ จันทร์ศรจักร โรงเรียนบ้านหนองนกเขียน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ชนะเลิศ เด็กหญิงสิรินภานาถ ใต้กิ โรงเรียนสตรีราชินูทิศ รองชนะเลิศอันดับ 1 เด็กหญิงนันทววัน ปัดชาทุม โรงเรียนพันดอนวิทยา รองชนะเลิศอันดับ 2 เด็กหญิงเนตรนภา คำเสนา โรงเรียนพันดอนวิทยา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายชนะเลิศ นางสาวปิ่นปินันท์ แสงจันทร์ โรงเรียนสตรีราชินูทิศ รองชนะเลิศอันดับ 1 นางสาวพัณณิตา สะอิ้งทอง โรงเรียนสตรีราชินูทิศ รองชนะเลิศอันดับ 2 นางสาวณัฐชยา พาน้อย โรงเรียนสตราชินูทิศ ผลการประกวดหนังสั้น วัยใสห่างไกลยาเสพติด คิด รู้เท่าทันสื่อ ชนะเลิศ เรื่องแค่ใส่ใจ ทีม HD FILM วิทยาลัยสันตพล รองชนะเลิศ เรื่องเกือบ.. ทีมพะยูงฟิลม์ โรงเรียนมัธยมสิริวัณวรี 1 อุดรธานี รองชนะเลิศอันดับ 2 เรื่อง ยา ติด ตัว ทีมลูกนิมิตฟิลม์ วิทยาลัยสันตพล ผลการประกวด VTR สื่อพื้นบ้าน รณรงค์สร้างค่านิยมพื้นฐานจังหวัดอุดรธานี ชนะเลิศ เรื่อง บุญบั้งไฟบ้านธาตุ โรงเรียนเพ็ญพิทยาคม รองชนะเลิศอันดับ 1 เรื่องน้ำหยดสุดท้าย โรงเรียนอุดรพัฒนาการ รองชนะเลิศอันดับ 2 เรื่องการทำนา โรงเรียนประจักษ์ศิลปาคม มอบประกาศเกียรติคุณสถานศึกษษในจังหวัดอุดรธานี มอบประกาศเกียรติคุณ โครงการรณรงค์ลดอุบัติเหตุจากการทำงานให้เป็นศูนย์ ซึ่งบริษัทอุดรมาสเตอร์เทค จำกัด ได้รับเกียรติบัตรประกาศเกียรติคุณระดับทอง บริษัท ถาวรอุดร จำกัด หรือโรงแรมเจริญโฮเต็ล ได้รับเกียรติบัตรประกาศเกียรติคุณระดับทองแดง ส่วนเกียรติบัตรประกาศเกียรติคุณระดับต้น มี 5 บริษัทที่ได้รับราวัล อาทิ บริษัท ควอลิตี้ แอสเซ็มบลี่ (ไทยแลนด์ จำกัดอุดรธานี ,บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) คลังน้ำมันอุดรธานี บริษัท พรของแม่ ดี.ซี.จำกัด ,บริษัททีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) ศูนย์จ่ายปูนซีเมนต์อุดรธานี บริษัท โฮมโปรดักส์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) อุดรธานี
จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี แนะนำหัวหน้าส่วนราชการที่ย้ายมาดำรงตำแหน่งที่จังหวัดอุดรธานีในเดือนสิงหาคม 2556 อาทิ นายเริงฤทธิ์ พลนามอินทร์ วัฒนธรรมจังหวัดหนองคายย้ายมาดำรงตำแหน่งวัฒนธรรมจังหวัดอุดรธานี สำหรับวาระการประชุมในเดือนสิงหาคม 2556 ประกอบด้วย การชี้แจงหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายเงินสวัสกดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังด้วยวิธีการฟอกเลือดด้วยเครืองไตเทียม ซักซ้อมความเข้าใจการส่งรายงานการใช้จ่ายเงินทดลองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน การติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ ประจำปี 2556 รายงานผลการเฝ้าระวังคุณภาพน้ำ ลำน้ำห้วยหลวง การจัดทำหนังสือที่ระลึกฉลอง 121 ปี เมืองอุดรธานี 121 แบบผ้าไทยจังหวัดอุดรธานี รายงานผลการดำเนินงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดธานี การขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การดำเนินงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองจังหวัดอุดรธานี การแก้ไขปัญหาความยากจนแบบบูรณาการ รายงานผลการปฏิบัติงานของสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดอุดรธานี ประชาสัมพันธ์ผ้าป่าสามัคคีของวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี



ทีมข่าว ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ

สำนักงานสหกรณ์จังหวัดอุบลราชธานี จัดงาน “สหกรณ์ไทย รวมใจ สู่อาเซียน ประจำปีงบประมาณ 2556”

วันที่ 28 สิงหาคม 2556 ณ บริเวณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี (หลังเก่า) อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน สหกรณ์ไทย รวมไทย สู่อาเซียน ปีงบประมาณ 2556 สำนักงานสหกรณ์จังหวัดอุบลราชธานี ได้จัดทำโครงการ สหกรณ์ไทย รวมใจสู่ อาเซียน ปีงบประมาณ 2556 ในครั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในปี 2558 ตลอดจนเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ งานของขบวนการสหกรณ์ ให้เป็นที่รู้จักไปอย่างแพร่หลาย การจัดงานครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ จากกรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยสำนักงานสหกรณ์จังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร และเครือข่ายกลุ่มอาชีพในจังหวัดอุบลราชธานี กำหนดจัดงานขึ้น ระหว่างวันพุธที่ 28 สิงหาคม – ถึงวันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม 2556 ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี (หลังเก่า) อำเภอเมือง กิจกรรมในงานประกอบด้วย จัดเสวนา ในหัวข้อ "คุณได้อะไรจากการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน” การแข่งขันตอบปัญหา เกี่ยวกับอาเซียน การแข่งขันประกวดวาดภาพสีไม้ ในหัวข้อ "อาเซียนในฝัน” การจัดนิทรรศการ วาระแห่งชาติด้านการสหกรณ์ การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าจากสมาชิกสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร กลุ่มอาชีพสหกรณ์ สินค้า OTOP จากทั่วประเทศ และประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว จำนวน 110 บูธ โดยมีสินค้าประเภทเสื้อผ้า เครื่องประดับ หัตถกรรมพื้นบ้าน ของใช้ตกแต่งบ้าน อาหาร เครื่องดื่มสมุนไพร และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ จำนวนมาก.




จักรกฤษณ์ มาลาสาย/ข่าว
ทองปัก ทวีสุข/ภาพ

จังหวัดสุรินทร์ จะเปิดใช้สนามบินครั้งแรกต้นเดือนพฤศจิกายนนี้เพื่อฉลองงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ ครั้งที่ 53 อย่างยิ่งใหญ่

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ได้เร่งดำเนินการประชุมเตรียมความพร้อมการเปิดใช้สนามบินสุรินทร์ภักดี ซึ่งที่ประชุมมอบหมายให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ปรับปรุงสนามบินฯให้สามารถเปิดใช้ได้ก่อนการจัดงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ ครั้งที่ 53 โดยคาดว่าเที่ยวบินปฐมฤกษ์จะทําการทดสอบการบินในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2556 และในระหว่างเดือนกันยายนนี้ทางสายการบินนกแอร์จะได้มาตรวจสอบความพร้อมเป็นระยะและหากมีความพร้อมจะได้ทดสอบบินต่อไป

สำหรับการเปิดใช้สนามบินสุรินทร์ภักดีแห่งนี้ เคยเปิดใช้มาแล้ว เป็นการเปิดสนามบินพาณิชย์เพื่อเพิ่มความสามารถ เพื่อรองรับกับการท่องเที่ยว การพาณิชย์ เศรษฐกิจ ความสัมพันธ์กับกัมพูชาประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเชื่อมต่อไปยังด่านชายแดนถาวรช่องจอมและเป็นก้าวใหม่อีกกิจกรรมหนึ่งขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ที่ตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ต่อท้องถิ่นในภารกิจขนาดใหญ่ โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เข้าไปดำเนินการในส่วนการบริหารท่าอากาศยาน สนามบินสุรินทร์ภักดี โดยเปิดบริการในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2545 รองรับเทศกาลงานช้างสุรินทร์ ทำการบินโดยสารสายการบินแอร์อันดามัน จนถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2546 สายการบินแอร์อันดามัน ได้หยุดให้บริการเนื่องจากประสบภาระการขาดทุนจากการให้บริการการบินในเส้นทางอื่น

ซึ่งในครั้งนี้ ได้มีการปรับปรุงสภาพพื้นที่เดิมให้มีความพร้อมในทุก ๆ ด้าน เพื่อเปิดเส้นทางการคมนาคมทางอากาศในปี 2556 รองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การลงทุน และเป็นประตูสู่อาเซียนที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง เป็นศูนย์กลางการบินในอีสานใต้ ส่งนักท่องเที่ยวสู่กัมพูชา เวียดนาม และภูมิภาคต่างๆ และเป็นการพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัด โดยเฉพาะการจัดงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ ครั้งที่ 53 ระหว่างวันที่ 8-19 พฤศจิกายน 2556 รวม 12 วัน ณ สนามกีฬาศรีณรงค์ และกำหนดจัดงานแสดงของช้างที่ยิ่งใหญ่ในโลก ในวันที่เสาร์ที่ 16 และวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2556 ณ สนามแสดงช้างจังหวัดสุรินทร์ ให้ยิ่งใหญ่และเป็นการกระจายรายได้ให้กับชุมชนและท้องถิ่นทั้งทางตรงและทางอ้อมอีกด้วย

จ.สุรินทร์พบผู้เสียจากไข้เลือดออกแล้ว 6 ราย พร้อมจัดศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะโรคไข้เลือดออกให้นายอำเภอเร่งดำเนินการตามมาตรการอย่างเร่งด่วน

นายสอาด วีระเจริญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ รายงานสถานการณ์โรคไข้เลือดออกงานระบาดวิทยาสสจ.สุรินทร์ ว่า จากข้อมูลระหว่าง ๑ มกราคม – 20 สิงหาคม 2556 พบผู้ป่วย 3,215 รายอัตราป่วย 232.39 ต่อแสนประชากร ผู้ป่วยเสียชีวิต 6 ราย อําเภอเมืองสุรินทร์ 3 ราย ในเขตเทศบาล ตําบลเพี้ยราม และตําบลคอโค อำเภอสังขะ ใตตําบลขอนแตก ,ศีขรภูมิ ใตตําบลระแงง และสนม อําเภอละ 1 ราย อัตราตาย 0.36 ต่อแสนประชากรอัตราป่วยตายร้อยละ 0.16

ซึ่งนายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้ให้จังหวัดสุรินทร์ดําเนินงานป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออกจังหวัดสุรินทร์ โดยจัดศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะโรคไข้เลือดออกโดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอําเภอเป็นหัวหน้าศูนย์ดังนั้น พร้อมทั้งมอบให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประสานการทํางานในศูนย์โดยทําหน้าที่เป็นเลขานุการเน้นหนักเรื่องการชี้เป้าในการป้องกันควบคุมโรคการระดมทรัพยากรในพื้นที่ร่วมกันดําเนินการดังนี้ 1. ให้ทุกอําเภอเปิดศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะโรคไข้เลือดออกโดยมีนายอําเภอเป็น ประธาน สาธารณสุขอําเภอเป็นเลขา 2. การกําจัดยุงตัวเต็มวัยในหมู่บ้านที่พบผู้ป่วยในวันที่ 1 และวันที่ 7 โดยให้ดําเนินการ เข้มข้นในทุกหมู่บ้านเป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ 3. รายงานการดําเนินงานอย่างต่อเนื่อง 4. ติดป้ายรณรงค์ในทุกอําเภอ

ผู้แทนสำนักราชเลขาธิการประชุมร่วมกับจังหวัดมหาสารคามเตรียมจัดพิธีมอบความช่วยเหลือพระราชทาน

ผู้แทนสำนักราชเลขาธิการ ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดมหาสารคาม เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดพิธีมอบความช่วยเหลือพระราชทานฯ ซึ่งกำหนดในวันที่ 12 กันยายน นี้ ที่อำเภอกุดรัง

นายฐากร ธรรมประทีป ผู้ช่วยราชการเลขาธิการ พร้อมด้วยนายธวัช สุระบาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับจังหวัดมหาสารคามและอำเภอกุดรัง ประชุมร่วมกันเพื่อหารือเรื่องการจัดพิธีมอบความช่วยเหลือพระราชทานแก่ราษฎรในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ตามที่ได้มีราษฎรผู้ฎีกาขอรับความช่วยเหลือตามโครงการพระราชทานความช่วยเหลือ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สำนักราชเลขาธิการ ดำเนินการตามโครงการดังกล่าว เนื่องจากการเสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมราษฎรตามพื้นที่ต่าง ๆ ในปัจจุบัน ไม่สามารถทำได้เหมือนในอดีต

สำหรับจังหวัดมหาสารคาม มีราษฎรผู้ฎีกาที่ผ่านการคัดเลือกตามโครงการพระราชทานความช่วยเหลือ จำนวน 2 ราย ได้แก่ นางเข็มพร ขันสีโพธิ์ ราษฎรอำเภอบรบือ และนางลาภิส ขาวธรรมา ราษฎรอำเภอเมือง พร้อมทั้งนำสิ่งของพระราชอีก 500 ชุดมามอบให้กับราษฎร โดยสำนักราชเลขาธิการ ได้กำหนดให้จังหวัดมหาสารคาม จัดพิธีมอบความช่วยเหลือพระราชทาน ในวันที่ 12 กันยายน 2556 ตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น. ที่หอประชุมโรงเรียนนาโพธิ์พิทยาสรรพ์ อำเภอกุดรัง โดยพลอากาศเอกชลิต พุกผาสุก องคมนตรี เป็นประธานในพิธี พร้อมนี้สำนักราชเลขาธิการยังได้นำหน่วยแพทย์พระราชทานจากโรงพยาบาลรามาธิบดี มาบริการตรวจรักษาโรคทั่วไป และโรคทางทันตกรรม ขณะที่สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน สำนักงานอัยการสูงสุด ก็จะมาให้บริการให้คำปรึกษาทางกฎหมาย และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินก็จะมาให้คำปรึกษาและเผยแพร่ความรู้ในวันดังกล่าวด้วย



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

มหาสารคาม จัดแข่งขัน To be number one teen dancercise

จังหวัดมหาสารคาม จัดกิจกรรม To be number one ด้วยการประกวดชมรม To be number one และแข่งขัน To be number one teen dancercise ประจำปี 2556 พร้อมเชิญชวนผู้ร่วมงานบริจาคคนละ 1 บาท สนับสนุนการดำเนินกิจกรรม To be number one จังหวัดมหาสารคาม

ที่บริเวณลานกิจกรรม หน้าห้างเสริมไทยคอมเพล็กซ์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับสถานศึกษา ส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชน จัดกิจกรรมตามโครงการ To be number one เป็นหนึ่งได้โดยไม่พึ่งพายาเสพติด โดยมีการประกวดชมรม To be number one และแข่งขัน To be number one teen dancercise ประจำปี 2556 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการในด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่รัฐบาลกำหนดให้การแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นวาระแห่งชาติ โดยมีนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานเปิดกิจกรรม ซึ่งการประกวดในครั้งนี้ เพื่อคัดเลือกทีมตัวแทนในระดับจังหวัด เข้าแข่งขันในระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คัดเลือกผู้ชนะ ไปแข่งขันในระดับประเทศต่อไป

กิจกรรมตามโครงการ To be number one ของจังหวัดมหาสารคาม นอกจากจะมีการประกวดชมรม To be number one ในชุมชน สถานศึกษา และสถานประกอบการแล้ว ยังมีการแข่งขัน To be number one teen dancercise ทั้งในรุ่นอายุ 6-9 ปี 10-14 ปี และ 15-22 ปี พร้อมเชิญชวนผู้ร่วมงานบริจาคคนละ 1 บาท สนับสนุนการดำเนินกิจกรรม To be number one จังหวัดมหาสารคามด้วย



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดมหาสารคามมอบใบรับรองมาตรฐานการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานประกอบการ

ที่ห้องประชุม 406 ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม ในการประชุมหัวหน้าส่วนราชการฯประจำเดือนสิงหาคม 2556 สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดมหาสารคามมอบใบรับรองมาตรฐานการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานประกอบการ โดยมีนายยิ่งยศ ธนะจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธาน

นางอรัชพร เทพวัลย์ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดมหาสารคามกล่าวว่า ตามที่รัฐบาลกำหนดให้การแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วนและกรมคุ้มครองแรงงานได้รับมอบหมายให้ดำเนินโครงการจัดทำระบบมาตรฐานการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานประกอบกิจการให้เป็นไปตามหลักปฏิบัติสากล โดยในปีงบประมาณ พ.ศ.2556 กำหนดให้สถานประกอบการในจังหวัดมหาสารคาม สามารถสมัครเข้าร่วมจัดทำระบบมาตรฐานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานประกอบการ โดยมีสถานประกอบกิจการที่ผ่านการเกณฑ์การประเมิน 15 แห่งทั้งนี้เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สถานประกอบกิจการในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดินจังหวัดกาฬสินธุ์พบเสื่อมโทรมมาก 2 พื้นที่

นายวิชัย ตะวัน ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาฬสินธุ์ แจ้งว่า สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 10 ได้ติดตามตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดิน พื้นที่แม่น้ำปาว ลำปาวน้อย และลำน้ำยังจังหวัดกาฬสินธุ์ รวมทั้งสิ้น 12 จุด ในระหว่างวันที่ 3 -6 มิถุนายน 2556 ที่ผ่านมา ผลการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำในห้องปฏิบัติการปรากฏดังนี้ น้ำลำน้ำปาว มีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ดีถึงเสื่อมโทรม พื้นที่พบคุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์ดี 1 พื้นที่ คือ ที่บริเวณใต้เขื่อนลำปาว ตำบลลำคลอง อำเภอเมือง คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์พอใช้ 3 พื้นที่ บริเวณบ้านดอนสนวน ตำบลหลุบ อำเภอเมือง บริเวณสะพานข้ามลำน้ำพาน ตำบลหลุบ อำเภอเมือง และบริเวณพื้นที่ตำบลร่องคำ อำเภอร่องคำ คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรม 3 พื้นที่ คือ บริเวณพื้นที่เทศบาลตำบลกมลาไสย อำเภอกมลาไสย บริเวณใต้สะพานท่าคันโท-วังสามหมอ ตำบลดงสมบูรณ์ บริเวณตำบลกุดจิก อำเภอ ท่าคันโท ส่วนคุณภาพน้ำลำปาวน้อยพบอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรม 1 พื้นที่ คือ ที่บริเวณวัดอโนมานที บ้านวังเกาะเหล็ก ตำบลในเมือง อำเภอเมือง พบอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรมมาก 2 พื้นที่ คือ ที่บริเวณสะพานข้ามลำปาวน้อยและบ้านสุขสวัสดิ์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง และคุณภาพน้ำลำน้ำยังอยู่ในเกณฑ์พอใช้ ทั้ง 2 พื้นที่ คือ ที่บริเวณตำบลสมสะอาดและตำบลกุดค้าว อำเภอกุฉินารายณ์



สุวรรณ์ ศรีอาภรณ์ / ข่าว

ชมรม อสม.จังหวัดกาฬสินธุ์ มอบโล่แก่ อสม.ดีเด่นระดับจังหวัด

ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จังหวัดกาฬสินธุ์ จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2556 พร้อมมอบโล่ แก่ อสม.ดีเด่นระดับชาติ/ภาคเขต/จังหวัด และมอบเงินช่วยเหลือแก่ญาติ อสม.ที่เสียชีวิตเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ครอบครัว อสม.

เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2556 ที่หอประชุมธรรมาภิบาล เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ นายแพทย์พิสิทธิ์ เอื้อวงศ์กูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2556 ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อสรุปและชี้แจงผลการดำเนินงานของชมรา อสม.จังหวัดกาฬสินธุ์ ให้กับสมาชิกได้รับทราบ พร้อมร่วมกันกำหนดการดำเนินงานในส่วนของ อสม.จังหวัดกาฬสินธุ์ในการขับเคลื่อนโครงการกาฬสินธุ์เมืองคนดี สุขภาพดี รายได้ดี (3D) ของผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมีประธาน อสม.ระดับจังหวัด, อำเภอ, ตำบล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข กว่า 350 คน เข้าร่วมประชุม โอกาสนี้ นายแพทย์พิสิทธิ์ เอื้อวงศ์กูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มอบโล่ พร้อมเกียรติบัตรแก่ อสม.ดีเด่นระดับชาติ/ภาคเขต/จังหวัด จำนวน 10 คน , มอบเกียรติบัตรแก่คณะกรรมการชมรม อสม.จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 20 คน, มอบเงินช่วยเหลือแก่ญาติ อสม.ที่เสียชีวิต จำนวน 21 คน

นายวิจิตร ภูผาสิทธิ์ ประธานชมรม อสม.จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้กล่าวว่า อสม.มีบทบาทหน้าที่สำคัญในการ "แก้ข่าวร้าย กระจายข่าวดี ชี้บริการ ประสานงานสาธารณสุข บำบัดทุกข์ของประชาชน และทำตนเป็นตัวอย่างที่ดี” ปัจจุบันจังหวัดกาฬสินธุ์มี อสม.ทั้งสิ้นจำนวน 18,500 คน ทำหน้าที่เฝ้าระวังโรคไข้เลือดออก โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ตลอดจนเป็นแกนนำในการสร้างสุขภาพ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านสุขภาพของประชาชน อันจะส่งผลให้ชาวกาฬสินธุ์มีสุขภาพดีแบบพอเพียง ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มีการพัฒนา อสม.มาโดยตลอดและต่อเนื่อง ทั้งการพัฒนาสุขศาลาต้นแบบกาฬสินธุ์ ให้เป็นศูนย์กลางการบริการด้านสุขภาพแก่ประชาชนในหมู่บ้าน, การจัดอบรมหลักสูตรต่าง ๆ แก่ อสม.จังหวัดกาฬสินธุ์ให้มีศักยภาพในกาทำงานดูแลประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปี 2556 ได้บูรณาการอบรม อสม.การเจาะเลือดจากปลายนิ้วเพื่อหาระดับน้ำตาล โดยเครื่องเจาะเลือดชนิดพกพา เพื่อให้ อสม.มีความเชี่ยวชาญและทักษะในการดูแลประชาชนในชุมชนต่อไป รวมถึงการมอบเงินช่วยเหลือแก่ญาติ อสม.ที่เสียชีวิตจากมูลนิธิ อสม. เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ อสม.ที่ปฏิบัติงานด้วยความเสียสละ จิตอาสาเพื่อชุมชน




ดวงใจ หงษ์จันทร์ / ข่าว

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นประชุมคณะกรรมการศูนย์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดเน้นประชาสัมพันธ์ยาเสพติดตัวใหม่ ระบาดในเยาวชน

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดเน้นประชาสัมพันธ์ยาเสพติดตัวใหม่ TRAMADOL ที่ระบาดในเยาวชนขอนแก่นแล้ว

วันนี้ ( 29 สิงหาคม 2556) 13.30 น. ณ ห้องประชุมพระธาตุขามแก่น ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นประธานประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดขอนแก่น รับทราบผลการดำเนินงานตามแผนพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดขอนแก่น ทั้ง 3ด้าน การป้องกัน ปราบปรามและการบำบัดรักษาเรื่องพิจารณาในเดือนกันยายน 2556 เป็นการสรุปผลการดำเนินงานด้านยาเสพติด จังหวัดขอนแก่นไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติด รอบ 6 เดือนในส่วนกระทรวงศึกษาธิการวันที่ 16 กันยายน 2556 ดำเนินการ 2 กิจกรรม คือ 1. กิจกรรมเปิดค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เยาวชนไทยหัวใจสีขาว จัดที่ห้องประชุมอาคารหลวงปู่บุญเพ็ง กัลปโก มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย และกิจกรรมสรุปผลงานโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุขที่ศูนย์วิทยบริการสิรินธร มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย มี นายเสริมศักดิ์ พงษ์พาณิช รมช.กระทรวงศึกษาธิการเป็นประธาน ในส่วนกระทรวงสาธารณสุขวันที่ 11 กันยายน 2556 กิจกรรมจังหวัดขอนแก่นไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด มีนายสุรชัย เบ้าจรรยา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน ณ ห้องศรีจันทร์ โรงแรมเจริญธานี พร้อมดูงานการบำบัดรักษา โรงพยาบาลธัญญารักษ์

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า จังหวัดขอนแก่นดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดจากการจัดอันดับของปปส.อยู่ที่ 2 ของประเทศ ได้คะแนน 45.13 คะแนนจาก 70 % อันดับ 1 เป็นของอุดรธานี ได้ 49.05 คะแนน และอันดับ 3 จังหวัดเชียงใหม่ ได้ 43.03 คะแนน แต่ยังเหลือคะแนนอีก 30 % จังหวัดต้องเร่งดำเนินการ และในส่วนที่เป็นรูปธรรมการทำBEST PRATICE การดำเนินการด้านยาเสพติดและฝากประชาสัมพันธ์ยาเสพติดตัวใหม่ TRAMADOL ที่ระบาดในเยาวชนขอนแก่น นิยมในหมู่วัยรุ่นเป็นยากดประสาทซื้อได้ตามร้านขายยา ชุดละ 65 บาทพร้อมยาแก้ไอน้ำดำกินผสมกับโค๊ก ทำให้ไม่รู้สึกตัวเคลิ้บเคลิ้มเป็นอันตรายมาก ตอนนี้ระบาดที่ขอนแก่นมีผู้ป่วยพื้นที่ อำเภอชุมแพแล้ว




ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

งานเทศกาลไหมนานาชาติ ปี 2556 สู่ความเป็นสากลรองรับประชาคมอาเซียน

งานเทศกาลไหม ประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น ที่นิยมเรียกว่า งานไหมหรือ งานเทศกาลไหม จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2522 สมัย นายชำนาญ พจนา เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นได้ริเริ่มและผลักดันเป็นที่ยอมรับและได้รับความสนใจเท่าทุกวันนี้ ปี 2556 จังหวัดขอนแก่นยกระดับงานไหมสู่กากลเพื่อรองรับประชาคมอาเซียน

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า สำหรับนับปีการปฏิบัติงานเริ่มเทศกาลไหมไม่รวมผูกเสี่ยวครั้งแรกจัดในปี 2522 จนถึงปัจจุบัน (พ.ศ 2556 รวมทั้งสิ้น 36 ปี )หากนับปีที่เริ่มมีพิธีผูกเสี่ยวเริ่มปี 2523 ปัจจุบัน จะเป็นปีที่ 32การจัดงานในปีนี้ เห็นสมควรที่จะยกระดับงานไหมขอนแก่นสู่ความเป็นสากลเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนที่จะมาถึงในปี 2558 ในปี 2556 ปรับรูปแบบงานสู่ความเป็นสากลภายใต้ชื่องาน "เทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยว และงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น (International Silk Festival Pook Xiao Traditional and Cross Fair in Khonkaen เชิญสมาชิกในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงประกอบด้วย 6 ประเทศ ได้แก่ จีน ลาว เวียดนาม พม่า กัมพูชา และไทย รูปแบบการจัดงานจัดประชุมสัมมนาจับคู่ธุรกิจระดับอนุภูมิภาค เรื่องเส้นทางการค้าไหม ณ ลุ่มน้ำโขง(Mekong Silk Road )ระหว่างวันที่ 27-28 สิงหาคม 2556เพื่อสร้างเครือข่ายธุรกิจไหม การผลิตไหมสู่ตลาดสากล การเสนานวัตกรรมการผลิตไหมโดยผู้เชี่ยวชาญจากจีน สปป.ลาว ธุรกิจไหมระหว่างประเทศโดยไทย กัมพูชา สปป.ลาว การศึกษาดูงานและเจรจาธุรกิจเยี่ยมชมการผลิตหม่อนไหมในพื้นที่ บ้านหัวฝาย ตำบลปอแดง อำเภอชนบท 75 ครัวเรือนต้นแบบในการผลิตไหม การแสดงและจำหน่ายสินค้าจำหน่ายสินค้าผ้าไหมและผลิตภัณฑ์ไหมจาก 6 ชาติสมาชิก GMS คือ จีน พม่า ลาว ไทย เวียดนาม กัมพูชา ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน 2556 ถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2556 ณ บริเวณ จาก 6 ชาติสมาชิก GMS คือ จีน พม่า ลาว ไทย เวียดนาม กัมพูชา บริเวณด้าน หน้าพระธาตุขามแก่น ประกอบด้วยบูทต่างประเทศ บูทในประเทศโดมปรับอากาศ การจัดแสดงนิทรรศการผ้าไหมและเดินแฟชั่นผ้าไหม การจัดแสดงแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม 6 ชาติสมาชิกลุ่มน้ำโขง 30 พ.ย.-1 ธ. ค. 56 การแสดงศิลปวัฒนธรรมจีน 3-4 ธ. ค.56 การแสดงของเวียดนาม 5-6 ธ.ค. 56 การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย โขนจากมูลนิธิศาลาเฉลิมกรุง ชุดหนุมานชาญกำแหง 8-9 ธ.ค. 56 การแสดง สปป.ลาว จังหวัดขอนแก่นเชิญชวนเที่ยวงานและเลือกซื้อผ้าไหมจากประเทศเพื่อนบ้าน ในงานระหว่างวันที่ 29 พ.ย.2556- 10 ธ.ค. 2556 ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

จังหวัดขอนแก่น ขอเชิญชมงานเปิดบ้านวิจัยเกษตรวิศวกรรมเพื่อพัฒนาอีสาน ระหว่าง 5 – 6 กันยายน นี้

จังหวัดขอนแก่น โดยศูนย์วิจัยเกษตรวิศวกรรมขอนแก่น ขอเชิญชมงานเปิดบ้านวานวิจัยเกษตรวิศวกรรม เพื่อพัฒนาอีสาน มีการนำเครื่องจักร เครื่องกล และเทคโนโลยีสมัยใหม่มาแสดง ระหว่าง 5 – 6 กันยายน 2556 ณ ศูนย์วิจัยเกษตรวิศวกรรมขอนแก่น ตำบลบ้านทุ่ม อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 5 – 6 กันยายน 2556 นี้ จังหวัดขอนแก่น โดยศูนย์วิจัยเกษตรขอนแก่น ร่วมกับสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 3 ได้กำหนดจัดงานเปิดบ้านงานวิจัยเกษตรวิศวกรรม เพื่อพัฒนาอีสาน "ภายใต้แนวคิด เทคโนโลยีก้าวไกล นำไทยสู่ AEC” ณ ศูนย์วิจัยเกษตรวิศวกรรมขอนแก่น ตำบลบ้านทุ่ม อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น โดยมีวัตถุประสงค์การจัดงานเพื่อเผยแพร่ความรู้การใช้ ซ่อม สร้าง และบำรุงรักษา เครื่องจักรกลเกษตร เพื่อการผลิตพืชอย่างถูกต้อง เหมาะสม เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความรู้ สร้างความเข้าใจ และพัฒนาองค์ความรู้ด้านการผลิตพืชระหว่างภาครัฐ เอกชน และเกษตรกร ในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ AEC และเพื่อส่งเสริมการใช้การบริหารจัดการเครื่องจักรกลเกษตรเพื่อผลิตพันธุ์พืชพันธุ์ดีสู่เกษตรกร

นายอนุสร เวชสิทธิ์ ผู้อำนวยการศึกษาวิจัยเกษตรวิศวกรรมขอนแก่น เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในงานจะมีการนำผลงานการวิจัยเกี่ยวกับเครื่องจักรกลเกษตรเพื่อการผลิตพืช ของกรมวิชาการ มาแสดงสาธิต โชว์ มีการแสดงนิทรรศการ ประวัติความเป็นมา และผลงานของศูนย์วิจัยเกษตรวิศวกรรมขอนแก่น การแสดงแปลงสาธิตด้านการเกษตรของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา เช่น พันธุ์ถั่วเหลือง พันธุ์พืชไร่เศรษฐกิจ เครื่องจักรกลการเกษตร การสาธิตการแปรรูปผลผลิตการเกษตรของภาครัฐ เอกชน การประกวดผลิตภัณฑ์แปรรูปผลผลิตการเกษตร และการเสวนา "ทิศทางการวิจัย และพัฒนาเครื่องจักรกลเกษตรอย่างไรถึงจะนำไทยสู่ AEC” จังหวัดขอนแก่นจึงขอเชิญเกษตรกร ผู้สนใจ ผู้ประกอบการที่เกี่ยวเนื่องกับการเกษตรเข้าชมงาน ระหว่างวันที่ 5 – 6 กันยายน 2556 ณ ศูนย์วิจัยเกษตรวิศวกรรมขอนแก่น ตำบลบ้านทุ่ม อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น



สมพงษ์ ปัตตานี/ข่าว