พ่อค้า-แม่ค้าตลาดชายแดนช่องจอม กว่า 400 ร้าน ค้า รวมตัวประท้วง อ้างเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรช่องจอม เก็บภาษีผ่านแดนโหด และไม่มีเสร็จรับเงิน พ่อค้าชาวไทย ระบุเรียกเก็บเงินเสื่อกก ผืนละ 10 บาท และขึ้นเลื่อยๆขณะที่สินค้าเกษตรฟักทอง รถเข่นละ 200 บาท ขึ้นเป็น 2,800 บาท รถจักรยานสองล้อ จาก 50 บาท เป็น 300 บาท ไร้ใบเสร็จ
วานนี้ (22 ต.ค. 56) ที่ ด่านศุลกากรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ พ่อค้า แม่ค้า ชาวไทยและชาวกัมพูชา ที่ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ จากร้านค้า 400 กว่า ร้าน ในตลาดชายแดนช่องจอม เดินทางมาชุมนุมประท้วง กว่า 350 ราย ประท้วงการจัดเก็บภาษีสินค้าผ่านแดน ของเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรช่องจอม ที่จัดเก็บภาษีไม่เป็นธรรม มีการจัดเจ็บค่าสินค้าผ่านแดนที่เพิ่มสูงขึ้น อย่างไม่เป็นระบบ และไม่มีใบเสร็จรับเงินออกให้ ผู้ประท้วงได้ส่งตัวแทนเข้าพบและเจรจากับ นายอดิศร สิทธิชอบธรรม ผู้ช่วยนายด่านศุลกากรช่องจอม นายกฤษดา แก้วสองเมือง นายอำเภอกาบเชิง พ.ต.อ.นิธิศ ปิติธีระโชติ ผู้กำกับ สภ.กาบเชิง เพื่อเจรจารับเรื่องข้อขัดข้อง ข้อเรียกร้อง ของกลุ่มผู้ค้าตลาดชายแดนช่องจอม
นายสาหลี่ มาดมะนั่ง พ่อค้าส่งสินค้าการเกษตร ตลาดชายแดนช่องจอม กล่าวว่า ตนเองเดือดร้อนจากการเก็บภาษี นำเข้าสินค้าการเกษตร จากประเทศกัมพูชา ประเภทเสื่อกก ฟักทอง และสินค้าเกษตรอื่นอื่นอีกหลายชนิดด้วยกัน ถูกเจ้าหน้าที่ศุลกากรช่องจอม เก็บภาษี อย่างไม่เป็นธรรม ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในแต่ละเวรที่เข้าปฎิบัติหน้าที่ เก็บไม่เหมือนกัน และไม่มีใบเสร็จ ออกให้ ส่วนฟักทอง คิดราคาภาษีผ่านแดน เป็นรถเข็น คันละ 200 บาท ขณะนี้ เพิ่มเป็น รถเข็นละ 2,800 บาท และไม่มีใบเสร็จ ไม่รู้เงินเข้าหลวง หรือเข้ากระเป๋า ใคร บางวันยังมีใต้โต๊ะ และฟักถามหาใบขนสินค้า ซึ่งตนเองไม่มี เพราะเป็นสินค้าเกษตร ที่สำคัญ ไม่สามารถส่งไปขาย ยังตลาดไท ที่ จ.ปทุมธานี ได้ทันเวลา ทำให้ตนต้อง ทิ้งฟักทองไป และหมดเงินชื้อฟักทองไป 50,000 บาท
นายคะนอง ทองทิพย์ อายุ 46 ปี พ่อค้าเสื่อกก อยู่บ้านเลขที่ 325 หมู่ 18 ต.หัวนาคำ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่าอยากให้ด่านศุลกากรช่องจอม ลดหย่อนภาษี ให้บ้าง ทางกัมพูชา เสียภาษี ผืนละ 2 บาท แต่ศุลกากร ไทย เก็บผืนละ 10 บาท ม้วนหนึ่ง 10 ผืน ผืนละ10 บาท เอามา 3,000 ผืน ต้องเสียภาษี ถึง 30,000 บาท ตนเสียภาษีมาแล้ว 6-9 หมื่น บาท จ่ายค่าพาหนะ ค่าขนส่ง แล้วผมจะเหลืออะไร ศุลกากร มองว่า เสื่อเป็นสินค้าธุรกิจ แต่ชาวบ้าน มองว่า เป็นสินค้าพื้นบ้าน เงินเข้ากระเป๋า ใคร การจัดเก็บภาษี ไม่มีใบเสร็จ และเก็บภาษีตามอำเภอใจ ไม่มีมาตรฐาน บางวันอยากเก็บ 7 บาทก็เก็บ อยากเก็บ 10 บาท ก็เก็บ จะจัดเก็บอาทิตย์ละครั้งแต่ละ อาทิตย์ ก็เปลี่ยนหน้ากันมา เป็นความเดือดร้อน ของผู้ค้าทั้งชาวไทย และชาวกัมพูชา ในขณะนี้ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาช่วยเหลือผู้ค้าตลาดชายแดนช่องจอม ด้วยครับ
วานนี้ (22 ต.ค. 56) ที่ ด่านศุลกากรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ พ่อค้า แม่ค้า ชาวไทยและชาวกัมพูชา ที่ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ จากร้านค้า 400 กว่า ร้าน ในตลาดชายแดนช่องจอม เดินทางมาชุมนุมประท้วง กว่า 350 ราย ประท้วงการจัดเก็บภาษีสินค้าผ่านแดน ของเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรช่องจอม ที่จัดเก็บภาษีไม่เป็นธรรม มีการจัดเจ็บค่าสินค้าผ่านแดนที่เพิ่มสูงขึ้น อย่างไม่เป็นระบบ และไม่มีใบเสร็จรับเงินออกให้ ผู้ประท้วงได้ส่งตัวแทนเข้าพบและเจรจากับ นายอดิศร สิทธิชอบธรรม ผู้ช่วยนายด่านศุลกากรช่องจอม นายกฤษดา แก้วสองเมือง นายอำเภอกาบเชิง พ.ต.อ.นิธิศ ปิติธีระโชติ ผู้กำกับ สภ.กาบเชิง เพื่อเจรจารับเรื่องข้อขัดข้อง ข้อเรียกร้อง ของกลุ่มผู้ค้าตลาดชายแดนช่องจอม
นายสาหลี่ มาดมะนั่ง พ่อค้าส่งสินค้าการเกษตร ตลาดชายแดนช่องจอม กล่าวว่า ตนเองเดือดร้อนจากการเก็บภาษี นำเข้าสินค้าการเกษตร จากประเทศกัมพูชา ประเภทเสื่อกก ฟักทอง และสินค้าเกษตรอื่นอื่นอีกหลายชนิดด้วยกัน ถูกเจ้าหน้าที่ศุลกากรช่องจอม เก็บภาษี อย่างไม่เป็นธรรม ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในแต่ละเวรที่เข้าปฎิบัติหน้าที่ เก็บไม่เหมือนกัน และไม่มีใบเสร็จ ออกให้ ส่วนฟักทอง คิดราคาภาษีผ่านแดน เป็นรถเข็น คันละ 200 บาท ขณะนี้ เพิ่มเป็น รถเข็นละ 2,800 บาท และไม่มีใบเสร็จ ไม่รู้เงินเข้าหลวง หรือเข้ากระเป๋า ใคร บางวันยังมีใต้โต๊ะ และฟักถามหาใบขนสินค้า ซึ่งตนเองไม่มี เพราะเป็นสินค้าเกษตร ที่สำคัญ ไม่สามารถส่งไปขาย ยังตลาดไท ที่ จ.ปทุมธานี ได้ทันเวลา ทำให้ตนต้อง ทิ้งฟักทองไป และหมดเงินชื้อฟักทองไป 50,000 บาท
นายคะนอง ทองทิพย์ อายุ 46 ปี พ่อค้าเสื่อกก อยู่บ้านเลขที่ 325 หมู่ 18 ต.หัวนาคำ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่าอยากให้ด่านศุลกากรช่องจอม ลดหย่อนภาษี ให้บ้าง ทางกัมพูชา เสียภาษี ผืนละ 2 บาท แต่ศุลกากร ไทย เก็บผืนละ 10 บาท ม้วนหนึ่ง 10 ผืน ผืนละ10 บาท เอามา 3,000 ผืน ต้องเสียภาษี ถึง 30,000 บาท ตนเสียภาษีมาแล้ว 6-9 หมื่น บาท จ่ายค่าพาหนะ ค่าขนส่ง แล้วผมจะเหลืออะไร ศุลกากร มองว่า เสื่อเป็นสินค้าธุรกิจ แต่ชาวบ้าน มองว่า เป็นสินค้าพื้นบ้าน เงินเข้ากระเป๋า ใคร การจัดเก็บภาษี ไม่มีใบเสร็จ และเก็บภาษีตามอำเภอใจ ไม่มีมาตรฐาน บางวันอยากเก็บ 7 บาทก็เก็บ อยากเก็บ 10 บาท ก็เก็บ จะจัดเก็บอาทิตย์ละครั้งแต่ละ อาทิตย์ ก็เปลี่ยนหน้ากันมา เป็นความเดือดร้อน ของผู้ค้าทั้งชาวไทย และชาวกัมพูชา ในขณะนี้ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาช่วยเหลือผู้ค้าตลาดชายแดนช่องจอม ด้วยครับ
อุทัย มานาดี /รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น