นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม แนะรับประทานอาหารอย่างถูกต้อง และเหมาะสม ในเทศกาลตรุษจีน ด้วยการเลี่ยงอาหารหวาน มัน เค็ม พร้อมออกกำลังกาย หลังกินอาหารมงคล
นายแพทย์คิมหันต์ ยงรัตนกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนทุกปี ชาวไทยเชื้อสายจีนจำนวนมากจะมีการเซ่นไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และ บรรพบุรุษ ถือเป็นเทศกาลมงคลที่ยิ่งใหญ่เพราะเชื่อว่าจะเกิดสิ่งดี ๆ ขึ้นในชีวิต โดยธรรมเนียมจะต้องมีของเครื่องไหว้หลักคือ เนื้อสัตว์ ได้แก่ เป็ด ไก่ ปลา กุ้ง ปลาหมึก หมู และผลไม้มงคล รวมถึงขนมมงคล เช่น ขนมเข่ง ขนมเทียน ขนมไข่ ขนมถ้วยฟู ขนมสาลี่ ซึ่งภายหลังจากการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และบรรพบุรุษแล้วก็จะนำของไหว้เหล่านั้นมารับประทานเพราะเชื่อว่าจะเป็นสิริมงคล ดังนั้น จึงขอแนะนำวิธีการรับประทานอาหารมงคล ในเทศกาลตรุษจีนให้ส่งผลดีต่อสุขภาพ คือควรรับประทานอาหารในปริมาณที่เหมาะสม เน้นรับประทานอาหารที่ไม่มีไขมันหรือไขมันน้อย เช่น เนื้อไก่ไม่ติดหนัง เนื้อปลา เนื้อกุ้ง ปลาหมึก หลีกเลี่ยงการรับประทานเครื่องในสัตว์เพราะมียูริกสูง ทั้งนี้ควรปรุงอาหาร ด้วยหลักการลดหวาน มัน เค็ม เพราะอาหารตรุษจีนมักเป็นแบบคั่วเกลือหรือผัด เทคนิคง่ายๆ คือคั่วหรือผัดด้วยน้ำมันน้อยๆ โดยใช้สมุนไพรลดไขมันอย่าง ขิง กระเทียม ขึ้นฉ่าย และก่อนการปรุงอาหาร ต้องล้างวัตถุดิบให้สะอาดทุกครั้ง สำหรับขนมไหว้ที่มีแป้งเป็นส่วนประกอบควรเพิ่มถั่วและธัญพืช เพราะมีส่วนช่วยในการล้างพิษจากแป้งและความหวาน ที่สำคัญควรรับประทานผลไม้ร่วมด้วย เช่น ส้มที่มีวิตามินเพิ่มคอลลาเจนและเส้นใย ลดไขมัน แอปเปิ้ลหรือกล้วยหอมที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระช่วยเสริมมงคลสุขภาพรับตรุษจีนและควรดื่มชาร้อน เป็นตัวช่วยลดการอักเสบและช่วยลดไขมันด้วย
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม กล่าวต่อไปว่า หลังจากการรับประทานของไหว้แล้ว ควรมีกิจกรรมต่างๆ เผาผลาญไขมันออกไปจากร่างกายด้วยการ ออกกำลังกายให้มีสุขภาพแข็งแรงและดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว เพราะน้ำจะไปช่วยชะล้างสารพิษในอาหารที่รับประทาน เข้าไป ดังนั้นการรับประทานอาหารในเทศกาลตรุษจีนอย่างถูกต้อง และเหมาะสม ไม่กินหวาน มัน เค็ม ก็จะทำให้ห่างไกลจากโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง ส่งผลดีต่อสุขภาพเป็นการเริ่มต้น ปีใหม่ตามประเพณีของชาวไทยเชื้อสายจีนที่เป็น มงคลแก่ชีวิต
นายแพทย์คิมหันต์ ยงรัตนกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนทุกปี ชาวไทยเชื้อสายจีนจำนวนมากจะมีการเซ่นไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และ บรรพบุรุษ ถือเป็นเทศกาลมงคลที่ยิ่งใหญ่เพราะเชื่อว่าจะเกิดสิ่งดี ๆ ขึ้นในชีวิต โดยธรรมเนียมจะต้องมีของเครื่องไหว้หลักคือ เนื้อสัตว์ ได้แก่ เป็ด ไก่ ปลา กุ้ง ปลาหมึก หมู และผลไม้มงคล รวมถึงขนมมงคล เช่น ขนมเข่ง ขนมเทียน ขนมไข่ ขนมถ้วยฟู ขนมสาลี่ ซึ่งภายหลังจากการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และบรรพบุรุษแล้วก็จะนำของไหว้เหล่านั้นมารับประทานเพราะเชื่อว่าจะเป็นสิริมงคล ดังนั้น จึงขอแนะนำวิธีการรับประทานอาหารมงคล ในเทศกาลตรุษจีนให้ส่งผลดีต่อสุขภาพ คือควรรับประทานอาหารในปริมาณที่เหมาะสม เน้นรับประทานอาหารที่ไม่มีไขมันหรือไขมันน้อย เช่น เนื้อไก่ไม่ติดหนัง เนื้อปลา เนื้อกุ้ง ปลาหมึก หลีกเลี่ยงการรับประทานเครื่องในสัตว์เพราะมียูริกสูง ทั้งนี้ควรปรุงอาหาร ด้วยหลักการลดหวาน มัน เค็ม เพราะอาหารตรุษจีนมักเป็นแบบคั่วเกลือหรือผัด เทคนิคง่ายๆ คือคั่วหรือผัดด้วยน้ำมันน้อยๆ โดยใช้สมุนไพรลดไขมันอย่าง ขิง กระเทียม ขึ้นฉ่าย และก่อนการปรุงอาหาร ต้องล้างวัตถุดิบให้สะอาดทุกครั้ง สำหรับขนมไหว้ที่มีแป้งเป็นส่วนประกอบควรเพิ่มถั่วและธัญพืช เพราะมีส่วนช่วยในการล้างพิษจากแป้งและความหวาน ที่สำคัญควรรับประทานผลไม้ร่วมด้วย เช่น ส้มที่มีวิตามินเพิ่มคอลลาเจนและเส้นใย ลดไขมัน แอปเปิ้ลหรือกล้วยหอมที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระช่วยเสริมมงคลสุขภาพรับตรุษจีนและควรดื่มชาร้อน เป็นตัวช่วยลดการอักเสบและช่วยลดไขมันด้วย
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม กล่าวต่อไปว่า หลังจากการรับประทานของไหว้แล้ว ควรมีกิจกรรมต่างๆ เผาผลาญไขมันออกไปจากร่างกายด้วยการ ออกกำลังกายให้มีสุขภาพแข็งแรงและดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว เพราะน้ำจะไปช่วยชะล้างสารพิษในอาหารที่รับประทาน เข้าไป ดังนั้นการรับประทานอาหารในเทศกาลตรุษจีนอย่างถูกต้อง และเหมาะสม ไม่กินหวาน มัน เค็ม ก็จะทำให้ห่างไกลจากโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง ส่งผลดีต่อสุขภาพเป็นการเริ่มต้น ปีใหม่ตามประเพณีของชาวไทยเชื้อสายจีนที่เป็น มงคลแก่ชีวิต
ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น