ติดตามผลการดำเนินโครงการฟื้นฟูพัฒนาป่าพื้นบ้านแหล่งอาหารชุมชนตามแนวพระราชดำริและโครงการฝายชะลอความชุ่มชื้น ปี 2556 ที่บ้านท่าค้อ ต.ท่าไห อ.เขื่องใน พร้อมรับทราบข้อเสนอแนะและให้แนวทางการดำเนินการแก่ชุมชน
บ่ายวันนี้ (21 เม.ย. 57) นายจิรายุ นันท์ธราธร ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีเขต 13 นำคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดอุบลราชธานี ติดตามผลการดำเนินโครงการฟื้นฟูพัฒนาป่าพื้นบ้านแหล่งอาหารชุมชนตามแนวพระราชดำริและโครงการฝายชะลอความชุ่มชื้น ปี 2556 ที่บ้านท่าค้อ ต.ท่าไห อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี ที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุบลราชธานี ดำเนินการ โดยหมู่บ้านดังกล่าวได้มีการบริหารจัดการป่าชุมชน เพื่อเป็นแหล่งอาหาร แหล่งอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าไม้ พร้อมทั้งการจัดทำฝายชะลอความชุ่มชื้นในลำห้วยของหมู่บ้าน
ซึ่งจากการดำเนินโครงการ ชาวบ้านได้ร่วมกันบริการจัดการพื้นที่ป่าชุมชนที่รับผิดชอบกว่า 750 ไร่ โดยมีการจัดตั้งเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน ร่วมกับชาวบ้านในการดูแลรักษาป่า เช่นการปลูกป่าเสริมในพื้นที่ป่าชุมชนและปลูกต้นไม้ทั้งไม้กินได้และไม้เศรษฐกิจในพื้นที่ของตนเองและพื้นที่ป่า พร้อมนี้มีการจัดทำแนวกันไฟ การจัดชุดลาดตระเวนป้องกันรักษาป่า การปลูกฝังเยาวชนให้มีสำนึกในการฟื้นฟูและรักษาป่าชุมชน
พร้อมนี้ผู้ตรวจราชการได้ให้คำแนะนำในการดำเนินโครงการฯ ให้มีความยั่งยืนแก่ชาวบ้าน เช่นการร่วมกันดูแลรักษาป่า การตั้งกฎ ระเบียบของชุมชนในการหาประโยชน์จากป่า การทำงานอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าเพื่อชุมชน พร้อมทั้งรับทราบความต้องการของชาวบ้าน เช่นการขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อจัดทำแนวกันไฟ การจัดหาพันธุ์กล้าไม้เพื่อปลูกป่าเสริมและการจัดชุดลาดตระเวนระวังป้องกันรักษาป่า นอกจากนี้ผู้ตรวจราชการฯ ได้ติดตามโครงการโรงเรียน ค.ควาย ที่ส่งเสริมการเลี้ยงควาย เพื่อการอนุรักษ์และการใช้งาน โดยมีเยาวชนและประชาชนในหมู่บ้านให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการฯ
บ่ายวันนี้ (21 เม.ย. 57) นายจิรายุ นันท์ธราธร ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีเขต 13 นำคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดอุบลราชธานี ติดตามผลการดำเนินโครงการฟื้นฟูพัฒนาป่าพื้นบ้านแหล่งอาหารชุมชนตามแนวพระราชดำริและโครงการฝายชะลอความชุ่มชื้น ปี 2556 ที่บ้านท่าค้อ ต.ท่าไห อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี ที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุบลราชธานี ดำเนินการ โดยหมู่บ้านดังกล่าวได้มีการบริหารจัดการป่าชุมชน เพื่อเป็นแหล่งอาหาร แหล่งอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าไม้ พร้อมทั้งการจัดทำฝายชะลอความชุ่มชื้นในลำห้วยของหมู่บ้าน
ซึ่งจากการดำเนินโครงการ ชาวบ้านได้ร่วมกันบริการจัดการพื้นที่ป่าชุมชนที่รับผิดชอบกว่า 750 ไร่ โดยมีการจัดตั้งเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน ร่วมกับชาวบ้านในการดูแลรักษาป่า เช่นการปลูกป่าเสริมในพื้นที่ป่าชุมชนและปลูกต้นไม้ทั้งไม้กินได้และไม้เศรษฐกิจในพื้นที่ของตนเองและพื้นที่ป่า พร้อมนี้มีการจัดทำแนวกันไฟ การจัดชุดลาดตระเวนป้องกันรักษาป่า การปลูกฝังเยาวชนให้มีสำนึกในการฟื้นฟูและรักษาป่าชุมชน
พร้อมนี้ผู้ตรวจราชการได้ให้คำแนะนำในการดำเนินโครงการฯ ให้มีความยั่งยืนแก่ชาวบ้าน เช่นการร่วมกันดูแลรักษาป่า การตั้งกฎ ระเบียบของชุมชนในการหาประโยชน์จากป่า การทำงานอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าเพื่อชุมชน พร้อมทั้งรับทราบความต้องการของชาวบ้าน เช่นการขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อจัดทำแนวกันไฟ การจัดหาพันธุ์กล้าไม้เพื่อปลูกป่าเสริมและการจัดชุดลาดตระเวนระวังป้องกันรักษาป่า นอกจากนี้ผู้ตรวจราชการฯ ได้ติดตามโครงการโรงเรียน ค.ควาย ที่ส่งเสริมการเลี้ยงควาย เพื่อการอนุรักษ์และการใช้งาน โดยมีเยาวชนและประชาชนในหมู่บ้านให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการฯ
พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี
081 924 8609 /ข่าว/ 21 เม.ย. 57
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น