พ.อ.ยุทธนา ม่วงพูลสวาสดิ์ รอง ผอ.กอ.รมน.มุกดาหารได้รับรายงานว่า จะมีแก๊งค้าไม้พะยูงข้ามชาติลักลอบขนไม้พะยูงมากับรถ กระบะ และรถตู้ เพื่อส่งออกขายต่างประเทศ บริเวณริมฝั่งโขงบ้านบางทรายใหญ่ ตำบลบางทรายใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร จึงสั่งการให้ ร้อยเอก นภดล ใจคง หัวหน้าชุดปราบปราม ประสาน พ.ต.อ.สังคม ตัดโส ผู้กำกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร ชุดเคลื่อนที่เร็วกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ด่านตรวจสัตว์ป่าไซเตสมุกดาหาร ได้แบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด ชุดแรกไปดักที่ถนน มุกดาหาร – ธาตุพนม ชุดที่ 2 ไปดักที่ ถนนบายพาสเลี่ยงเมืองมุกดาหาร
จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดที่หนึ่ง พบรถกระบะโตโยต้า สีบรอนท์ทอง หมายเลขทะเบียน บร – 978 กรุงเทพมหานคร และรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน กท – 7504 กรุงเทพมหานคร ซึ่งรถกระบะทั้งสองคันได้ขับวิ่งตามกันมาบน ถนนมุกดาหาร – ธาตุพนม ท่าทางมีพิรุธ ตรงตามที่สายรายงาน เจ้าหน้าที่จึงให้สัญญาณหยุดเพื่อขอตรวจค้น คนขับรถกระบะทั้งสองคันได้ขับรถหนีเจ้าหน้าที่ และได้จอดรถกระบะคันดังกล่าวไว้ข้างทาง แล้ววิ่งเข้าป่าข้างทางไป เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรถกระบะทั้ง 2 คัน พบไม้พะยูงท่อนในรถกระบะโตโยต้า จำนวน 12 ท่อน และรถกระบะอีซูซุ จำนวน 15 ท่อน ส่วนเจ้าหน้าที่ชุดที่ 2 ได้แจ้งทางวิทยุว่า ให้ช่วยสกัดรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนเงิน หมายเลขทะเบียน อร – 731 กรุงเทพมหานคร วิ่งมาทางถนนบายพาสเลี่ยงเมือง โดยมุ่งหน้าไปบ้านบางทรายใหญ่ โดยเจ้าหน้าที่ชุดที่ 2 กำลังไล่ติดตาม รถตู้คันดังกล่าว จนกระทั่งคนขับรถตู้เห็นเจ้าหน้าที่ไล่ติดตามมา แล้วจอดรถตู้ทิ้งแล้วหลบหนีไป เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจค้นรถตู้ พบไม้พะยูง จำนวน 73 ท่อน เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันตรวจยึดรถไม้พะยูงทั้ง 3 คัน จำนวน 100 ท่อน ไม้พะยูงมีสภาพใหม่สด จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา กระทำผิด พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 11 ฐานมีไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ มาตรา 69 ฐานมีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ คาดว่าไม้พะยูงทั้ง 3 คันเตรียมส่งไปขายให้กับประเทศเพื่อนบ้าน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการยึดรถทั้ง 3 คนพร้อมไม้พะยูง ของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร เพื่อติดตามหาเจ้าของรถทั้ง 3 คัน มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดที่หนึ่ง พบรถกระบะโตโยต้า สีบรอนท์ทอง หมายเลขทะเบียน บร – 978 กรุงเทพมหานคร และรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน กท – 7504 กรุงเทพมหานคร ซึ่งรถกระบะทั้งสองคันได้ขับวิ่งตามกันมาบน ถนนมุกดาหาร – ธาตุพนม ท่าทางมีพิรุธ ตรงตามที่สายรายงาน เจ้าหน้าที่จึงให้สัญญาณหยุดเพื่อขอตรวจค้น คนขับรถกระบะทั้งสองคันได้ขับรถหนีเจ้าหน้าที่ และได้จอดรถกระบะคันดังกล่าวไว้ข้างทาง แล้ววิ่งเข้าป่าข้างทางไป เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรถกระบะทั้ง 2 คัน พบไม้พะยูงท่อนในรถกระบะโตโยต้า จำนวน 12 ท่อน และรถกระบะอีซูซุ จำนวน 15 ท่อน ส่วนเจ้าหน้าที่ชุดที่ 2 ได้แจ้งทางวิทยุว่า ให้ช่วยสกัดรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนเงิน หมายเลขทะเบียน อร – 731 กรุงเทพมหานคร วิ่งมาทางถนนบายพาสเลี่ยงเมือง โดยมุ่งหน้าไปบ้านบางทรายใหญ่ โดยเจ้าหน้าที่ชุดที่ 2 กำลังไล่ติดตาม รถตู้คันดังกล่าว จนกระทั่งคนขับรถตู้เห็นเจ้าหน้าที่ไล่ติดตามมา แล้วจอดรถตู้ทิ้งแล้วหลบหนีไป เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจค้นรถตู้ พบไม้พะยูง จำนวน 73 ท่อน เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันตรวจยึดรถไม้พะยูงทั้ง 3 คัน จำนวน 100 ท่อน ไม้พะยูงมีสภาพใหม่สด จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา กระทำผิด พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 11 ฐานมีไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ มาตรา 69 ฐานมีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ คาดว่าไม้พะยูงทั้ง 3 คันเตรียมส่งไปขายให้กับประเทศเพื่อนบ้าน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการยึดรถทั้ง 3 คนพร้อมไม้พะยูง ของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร เพื่อติดตามหาเจ้าของรถทั้ง 3 คัน มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พิพัฒน์ เพชรสังหาร
ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น