นิสิตปริญญาเอกสาขาบรรพชีวินวิทยา คณะวิทยาศาสตร์
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ศึกษาฟอสซิลเต่าจากเหมืองเชียงม่วน จังหวัดพะเยา
พบเป็นเต่าชนิดใหม่ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก อาศัยอยู่ในประเทศไทยเมื่อ 12
ล้านปีก่อน
ช่วยเผยความลับวิวัฒนาการและการแพร่กระจายของเต่าหับในทวีปเอเชีย
นางสาววิไลลักษณ์ นาคศรี
นิสิตปริญญาเอกสาขาบรรพชีวินวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
เจ้าของผลงานการศึกษาฟอสซิลเต่าชนิดนี้ เปิดเผยว่า
ฟอสซิลเต่าชนิดใหม่ของโลก นาม คูโอร่า เชียงม่วนเอนซิส (Cuora
chiangmuanensis) เป็นเต่าน้ำจืดในสกุลเดียวกับเต่าหับปัจจุบัน
แต่ชิ้นส่วนฟอสซิลที่ค้นพบนี้มีอายุประมาณ 11-12 ล้านปี
พบที่บริเวณเหมืองถ่านหินเชียงม่วน อำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา เมื่อ 11
ปีก่อน โดย นายนิกร วงค์ไชย พนักงานธรณีวิทยาประจำเหมือง ชื่อชนิด
เชียงม่วนเอนซิส จึงหมายถึง เต่าคูโอร่าแห่งเชียงม่วน
และจากหลักฐานการค้นพบครั้งนี้จึงเป็นการ
เผยโฉมฟอสซิลเต่าสกุลปัจจุบันครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย
และถือว่าเต่าคูโอร่าแห่งเชียงม่วนเป็นบรรพบุรุษเต่าหับที่เก่าแก่ที่สุดใน
โลก แพร่กระจายพันธุ์เฉพาะในทวีปเอเชียเท่านั้น
และอาจกล่าวได้ว่าเต่าหับที่แพร่กระจายทั่วเอเชียในปัจจุบัน
มีจุดกำเนิดมาจากประเทศไทย เมื่อ 12 ล้านปีก่อน ในยุคสมัยไมโอซีนตอนกลาง
ด้าน รศ. ดร.ศุภชัย สมัปปิโต
อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม กล่าวว่า
ในฐานะที่มหาสารคามเป็นศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
พื้นที่ที่มีการค้นพบซากฟอสซิลเป็นจำนวนมาก
จึงมีความเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะมีสถาบันการศึกษาที่สนับสนุนให้มีการศึกษา
วิจัยด้านบรรพชีวินวิทยา
รวมไปถึงการพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่ที่เป็นคนในพื้นที่
ให้ได้มีโอกาสทำความรู้จัก
และเรียนรู้ฟอสซิลอันเป็นทรัพยากรที่สำคัญยิ่งของท้องถิ่นภาคอีสาน
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ยังได้จัดทำเว็บไซต์แหล่งเรียนรู้เสมือนจริงขึ้น
เพื่อให้สามารถเข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แหล่งรวมความรู้ผ่านทางหน้าจอ
คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ smart phone ผ่านทางเว็บไซต์ www.vkp.msu.ac.th
ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น