วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2557
จังหวัดอุบลราชธานี จัดพิธีทําบุญถวายเป็นพระกุศล แด่ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหา สังฆปริณายก เนื่องในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ 100 วัน
วันนี้ (31 มกราคม 2557) เวลา 10.00 น. นาย วันชัย สุทธิวรชัย ผู้วาราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็น ประธานพิธีทําบุญถวายเป็นพระกุศลแด สมเด็จพระญาณ สังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ 100 วัน ณ พระวิหารพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง วัดมหาวนาราม (พระอารามหลวง) อําเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี โดยมี ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การเอกชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชน ร่วมในพิธีจำนวนมาก โดยประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชา พระรัตนตรัย จุดเครื่องทองน้อยบูชาพระรูปสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พระสงฆ์สมณะศักดิ์ 10 รูป ให้ศีล สวดมาติกา ประธานในพิธีถวายจตุปัจจัยเครื่องไทยธรรมแดพระสงฆ์ เจ้าหน้าที่ถอนเครื่องไทยธรรมและลาดผาภูษาโยง ประธานในพิธีทอดผาบังสุกุล พระสงฆ์สดับปกรณ์และให้ พร ประธานในพิธีกรวดน้ำรับพร เป็นอันเสร็จพิธี
ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ประชุมคณะกรรมการเพื่อติดตามความพร้อมการจัดการแข่งขันกีฬาเชื่อมสัมพันธ์อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ครั้งที่ 7 จาก ประเทศไทย สปป.ลาว และประเทศเวียดนาม
วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2557 ที่ห้องประชุมชินดารัตน์ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาสถาบันการศึกษาด้านคุณภาพ "ลุ่มน้ำโขงเกมส์” ครั้งที่ 7 โดยกำหนดการแข่งขันระหว่างวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ 2557 ที่สนามโรงเรียนกีฬาจังหวัดอุบลราชธานี การประชุมครั้งนี้ เพื่อติดตามความพร้อมและมอบภารกิจในการปฎิบัติงานให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานให้เกิดความเรียบรอยตามเป้าหมายในการดำเนินงาน
การแข่งขันกีฬาลุ่มน้ำโขงเกมส์ เป็นการแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศของนักศึกษาในสถาบันการศึกษาที่เป็นสมาชิกของเครือข่ายลุ่มน้ำโขง จาก 3 ประเทศ คือ ประเทศไทย สปป.ลาว และประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการและกิจการนักศึกษาของสถาบันการศึกษาทางพยาบาล การสาธารณสุขและวิทยาศาสตร์สุขภาพ ในแถบลุ่มน้ำโขง ซึ่งได้แก่ วิทยาลัยพยาบาลราชชนนี นครพนม มหาวิทยาลัยนครพนม มหาวิทยาลัยนครพนม และวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีสรรพสิทธิประสงค์ จากประเทศไทย วิทยาลัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ แขวงสะหวันนะเขต วิทยาลัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ แขวงจำปาสัก และโรงเรียนสาธารณสุข แขวงคำม่วน จากประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว และโรงเรียนแพทย์ชั้นกลาง กวางตริ จากประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
สำหรับการแข่งขันในครั้งที่ 7 มีสถาบันที่เข้าร่วมแข่งขันเพิ่มเติมจากครั้งที่ 6 อีก 3 สถาบันได้แก่มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ นครหลวงเวียงจันทร์ วิทยาวิทยาศาสตร์สุขภาพ หลวงพะบาง และโรงเรียนแพทย์ชั้นกลาง กวางตริ ประเทศสาธารณรัฐสังคมนิทยาเวียดนาม ส่งผลให้มีสถาบันที่เข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 15 สถาบัน จาก 3 ประเทศ ประเภทกีฬาที่จัดแข่งขันประกอบไปด้วยกีฬาสากล 7 ชนิดกีฬา ได้แก่ฟุตซอล วอลเลย์บอล เซปักตระกร้อ เปตอง เทเบิลเทนนิส ปาเป้าและกรีฑา ส่วนกีฬาพื้นบ้านมี 4 ชนิดกีฬาได้แก่ ชักเย่อ วิ่งสามขา วิ่งกระสอบและกลิ้งล้อ
การแข่งขันในปีต่อไป สถาบันที่รับเป็นเจ้าภาพได้แก่ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ แขวงจำปาสักประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว
การแข่งขันกีฬาลุ่มน้ำโขงเกมส์ เป็นการแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศของนักศึกษาในสถาบันการศึกษาที่เป็นสมาชิกของเครือข่ายลุ่มน้ำโขง จาก 3 ประเทศ คือ ประเทศไทย สปป.ลาว และประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการและกิจการนักศึกษาของสถาบันการศึกษาทางพยาบาล การสาธารณสุขและวิทยาศาสตร์สุขภาพ ในแถบลุ่มน้ำโขง ซึ่งได้แก่ วิทยาลัยพยาบาลราชชนนี นครพนม มหาวิทยาลัยนครพนม มหาวิทยาลัยนครพนม และวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีสรรพสิทธิประสงค์ จากประเทศไทย วิทยาลัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ แขวงสะหวันนะเขต วิทยาลัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ แขวงจำปาสัก และโรงเรียนสาธารณสุข แขวงคำม่วน จากประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว และโรงเรียนแพทย์ชั้นกลาง กวางตริ จากประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
สำหรับการแข่งขันในครั้งที่ 7 มีสถาบันที่เข้าร่วมแข่งขันเพิ่มเติมจากครั้งที่ 6 อีก 3 สถาบันได้แก่มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ นครหลวงเวียงจันทร์ วิทยาวิทยาศาสตร์สุขภาพ หลวงพะบาง และโรงเรียนแพทย์ชั้นกลาง กวางตริ ประเทศสาธารณรัฐสังคมนิทยาเวียดนาม ส่งผลให้มีสถาบันที่เข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 15 สถาบัน จาก 3 ประเทศ ประเภทกีฬาที่จัดแข่งขันประกอบไปด้วยกีฬาสากล 7 ชนิดกีฬา ได้แก่ฟุตซอล วอลเลย์บอล เซปักตระกร้อ เปตอง เทเบิลเทนนิส ปาเป้าและกรีฑา ส่วนกีฬาพื้นบ้านมี 4 ชนิดกีฬาได้แก่ ชักเย่อ วิ่งสามขา วิ่งกระสอบและกลิ้งล้อ
การแข่งขันในปีต่อไป สถาบันที่รับเป็นเจ้าภาพได้แก่ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ แขวงจำปาสักประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว
จังหวัดร้อยเอ็ดทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ถวายเป็นพระราชกุศล สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ 100 วัน
วันนี้ (31 ม.ค.57) เวลา 07.00 น. นายพลากร บุญประคอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 100 รูป ถวายเป็นพระราชกุศลสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาปรินายก ในโอกาสครบวัยสิ้นพระชนม์ 100 วัน ณ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด โดยมีข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมในพิธี
ทั้งนี้ คณะอำนวยการจัดงานพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังปรินายก ได้เห็นชอบให้มีการจัดพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ถวายเป็นพระราชกุศลสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสวันสิ้นพระชนม์ 50 วัน ในวันที่ 12 ธันวาคม 2556 และ 100 วัน ในวันที่ 31 มกราคม 2557 ในส่วนกลางได้มอบให้กรุงเทพมหานครดำเนินการ และในส่วนภูมิภาคได้มอบให้กระทรวงมหาดไทยแจ้งให้ทุกจังหวัด อำเภอ ดำเนินการพร้อมกับส่วนกลาง ในส่วนของจังหวัดร้อยเอ็ดได้ดำเนินการขึ้นในวันนี้ (31 ม.ค.57) ตั้งแต่เวลา 06.30 น. เป็นต้นไป ณ บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครร้อยเอ็ด อำเภอเมืองร้อยเอ็ด
วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พร้อมข้าราชการและประชาชนจังหวัดมุกดาหารจัดพิธีบำเพ็ญกุศลสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ ๑๐๐ วัน
วันนี้ (๓๑ ม.ค.๕๗) เวลา ๐๘.๐๙ น.ที่วัดศรีบุญเรือง อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ ๑๐๐ วัน (สตมวาร) พร้อมด้วย นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร นายธวัชชัย ธรรมรักษ์ รองผู้ว่าราชการทั้งสองท่าน หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พ่อค้าปะชาชน ชาวจังหวัดมกดาหาร เป็นจำนวนมาก พร้อมใจกันร่วมพิธีบำเพ็ญกุศล ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์ จำนวน ๒๐ รูป
นางสุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มกดาหาร/ข่าว
ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดมุกดาหาร ประชุมคณะกรรมการเพื่อบูรณาการการทำงานของหน่วยงาน ครั้งที่ ๑ ประจำปี ๒๕๕๗
วันนี้ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๗ เวลา ๐๙.๐๐ น. นายสกลสกฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดมุกดาหาร ครั้งที่ ๑ ประจำปี ๒๕๕๗ ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร
ทั้งนี้ เพื่อให้การปฏิบัติงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของจังหวัดมุกดาหารเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพ ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดมุกดาหาร จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดมุกดาหาร เพื่อบูรณาการการทำงานของหน่วยงาน และองค์กรที่เกี่ยวข้องกับศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดมุกดาหาร เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และเพื่อสอดคล้องกับแผนปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ปี ๒๕๕๗ โดยมีการประชุมทุกเดือน พร้อมนำเสนอความคืบหน้าและผลการดำเนินงานที่มีอย่างต่อเนื่องต่อที่ประชุมด้วย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารขอให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมผนึกกำลังในการดำเนินการตามภารกิจอย่างจริงจัง โดยเชื่อว่าปัญหายาเสพติดพื้นที่ จังหวัดมุกดาหาร จะลดลงได้ในระดับหนึ่ง
นางสุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
นรข.มุกดาหาร ไล่ล่ารถเก๋งลักลอบขนไม้พะยูง
วันที่ 31 มกราคม 2557 นาวาเอก สุรศักดิ์ สุวรรณเกษา ผู้บังคับการเขตนครพนม ได้รับรายงานจากสาย ว่า จะมีการ ลักลอบขนไม้พะยูงมา โดยใช้รถเก๋ง จะใช้เส้นทาง บ้านแก่นเต่า ตำบลโพนทราย อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร เพื่อส่งออกนอกประเทศ ที่บริเวณ ริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านบางทรายใหญ่ ตำบลบางทรายใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร จึงสั่งการให้ นาวาโท ปรเมศวร์ ไศลบาท ผู้บังคับหมู่เรือที่ 3 มุกดาหาร เรือโท สุมิตร สุขประเสริฐ ผู้ควบคุมเรือลาดตระเวนลำน้ำโขง ประสาน พ.อ.ยุทธนา ม่วงพูลสวาสดิ์ รอง ผอ.กอ.รมน.มุกดาหาร พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา ผู้กำกับการด่านตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี นำกำลังไปดักซุ่มที่บริเวณ ถนนบ้านแก่นเต่า ตำบลโพนทราย อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร
จนกระทั่งพบรถยนต์ เก๋ง ฮอนด้า สีบรอน์ หมายเลขทะเบียน กค-5016 นครพนม ตามที่สายรายงาน วิ่งมาตาม ถนนสาย บ้านแก่นเต่า ตำบลโพนทราย อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณให้หยุดแต่รถคันดังกล่าวเร่งเครื่องยนต์เพื่อหลบหนี เจ้าหน้าได้ขับรถไล่ติดตาม จนกระทั่งไล่ติดตามทันที่ข้างป่าอ้อย บ้านคำฮี ตำบลบางทรายใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร ส่วนคนขับรถได้ทิ้งรถแล้ววิ่งหลบหนีเข้าป่าอ้อย เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจค้นในรถพบไม้พะยูงบรรทุกมาเต็มคันรถ ตรวจนับได้จำนวน 49 ท่อน คิดมูลค่า 3 แสนบาท ตรวจสอบไม้พะยูงไม่พบรูปรอยดวงตราจากทางราชการแต่อย่างไร เจ้าหน้าที่จึงได้ตั้งข้อกล่าวหาเป็นการกระทำผิดต่อ พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 69 และมาตรา 70 เจ้าหน้าที่ จึงได้นำของกลางไม้พะยูง พร้อมรถยนต์ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ. เมืองมุกดาหาร เพื่อดำเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป
พิพัฒน์ เพชรสังหาร ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
กกต.มุกดาหาร จัดกิจกรรมเวทีปราศรัยหาเสียงของผู้รับสมัครเลือกตั้ง สส. จังหวัดมุกดาหาร
ที่บริเวณหน้าศาลหลักเมืองตลาดราตรี เทศบาลเมืองมุกดาหาร สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้งประจำจังหวัดมุกดาหารได้ร่วมกับสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดมุกดาหารจัดเวทีเสวนา รวมพลคนรักประชาธิปไตยร่วมใจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง สส. ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ โดยมีนางวันวิภา แพงแก้ว นักสื่อสารมวลชนชำนาญการเป็นผู้ดำเนินรายการซึ่งมี นายศิริพงษ์ มุขศรี ผู้อำนวยการคณะกรรมการเลือกตั้งจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วยคณะกรรมการและประธานประจำเขตเลือกตั้งทั้ง ๒ เขต เข้าร่วมเสวนา
นายศิริพงษ์ มุขศรี ผู้อำนวยการการเลือกตั้งจังหวัดมุกดาหาร ได้กล่าวในช่วงการเสวนาว่า กกต.จังหวัดมุกดาหารมีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ทั้งสองเขตการเลือกตั้ง จึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวมุกดาหารออกมาใช้สิทธิในการเลือกตั้งครั้งนี้ ถึงแม้จะมีสถานการณ์ที่ไม่ปกติ เพื่อแสดงถึงแนวทางการปฏิบัติของระบอบประชาธิปไตย
ทั้งนี้การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ทาง กกต.จังหวัดมุกดาหารได้จัดเวทีปราศรัย หาเสียงของผู้รับสมัคร เลือกตั้ง สส.จังหวัดมุกดาหารด้วย โดยมีผู้สมัครได้ร่วมปราศรัยแสดงวิสัยทัศน์นโยบายของพรรคแต่ละพรรค ซึ่งมีประชาชนที่มาซื้อของบริเวณตลาดราตรีให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
นายศิริพงษ์ มุขศรี ผู้อำนวยการการเลือกตั้งจังหวัดมุกดาหาร ได้กล่าวในช่วงการเสวนาว่า กกต.จังหวัดมุกดาหารมีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ทั้งสองเขตการเลือกตั้ง จึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวมุกดาหารออกมาใช้สิทธิในการเลือกตั้งครั้งนี้ ถึงแม้จะมีสถานการณ์ที่ไม่ปกติ เพื่อแสดงถึงแนวทางการปฏิบัติของระบอบประชาธิปไตย
ทั้งนี้การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ทาง กกต.จังหวัดมุกดาหารได้จัดเวทีปราศรัย หาเสียงของผู้รับสมัคร เลือกตั้ง สส.จังหวัดมุกดาหารด้วย โดยมีผู้สมัครได้ร่วมปราศรัยแสดงวิสัยทัศน์นโยบายของพรรคแต่ละพรรค ซึ่งมีประชาชนที่มาซื้อของบริเวณตลาดราตรีให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
พิพัฒน์ เพชรสังหาร ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
สุระณรงค์ อ่อนสนิท ส.ปชส.มุกดาหาร/ภา
สุระณรงค์ อ่อนสนิท ส.ปชส.มุกดาหาร/ภา
นปช.มุกดาหารยื่นแถลงการณ์พร้อมมอบดอกไม้ให้กำลังใจ กกต.จังหวัดมุกดาหาร
วันนี้ (๓๑ ม.ค. ๕๗) เวลา ๑๓.๐๐ น. ที่บริเวณหน้าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมุกดาหาร กลุ่มมวลชน นปช.มุกดาหาร กลุ่มสมาชิกเสียงประชาชนเพื่อประชาชน (สปช.) จังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วยตัวแทนผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (ผรท.) จำนวน ๒๐๐ คน นำโดยนายกิตติธัช กิตติวุฒิภัทร ประธาน นปช.จังหวัดมุกดาหาร ได้มารวมตัวกันเพื่อแสดงพลังพร้อมกับอ่านแถลงการณ์แสดงถึงจุดยืนสนับสนุนให้มีการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ ที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ พร้อมกับมอบดอกไม้ให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ คณะกรรมการการเลีอกตั้งประจำจังหวัดมุกดาหาร โดยมีนายวิเชียร ทวีโคตร ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วยนายศิริพงษ์ มุขศรี ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมุกดาหารมารับมอบแถลงการณ์จากกลุ่มมวลชน นปช.
ทั้งนี้ นายวิเชียร ทวีโคตร ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมุกดาหาร ได้กล่าวว่า ทางคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมุกดาหารได้เตรียมพร้อมทุกอย่างแล้ว พร้อมที่จะให้มีการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ ที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ นี้ จึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวจังหวัดมุกดาหารออกมาใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้งครั้งนี้เพื่อรักษาการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
พิพัฒน์ เพชรสังหาร ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
สุระณรงค์ อ่อนสนิท ส.ปชส.มุกดาหาร/ภาพ
สุระณรงค์ อ่อนสนิท ส.ปชส.มุกดาหาร/ภาพ
นปช.แดงมหาสารคาม ยื่นแถลงการณ์สนับสนุน กกต.จัดการเลือกตั้ง
นปช.แดงมหาสารคาม ในนาม เครือข่ายพลเมืองประชาธิปไตย มหาสารคาม ยื่นแถลงการณ์และดอกไม้ เพื่อให้กำลังใจ กกต.มหาสารคาม เดินหน้าจัดการเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557
(31-1-57) เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. กลุ่ม นปช.แดง มหาสารคาม ในนาม เครือข่ายพลเมืองประชาธิปไตย มหาสารคาม สนับสนุนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง นำกลุ่มมวลชนจากอำเภอต่าง ๆ เดินทางมายังศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม เพื่อมายื่นแถลงการณ์สนับสนุนการเลือกตั้ง ให้ กกต.ได้ใช้อำนาจหน้าที่ของตนเองตามรัฐธรรมนูญ ขัดขวางผู้ทำลายประชาธิปไตย และมอบช่อดอกไม้เพื่อให้กำลังใจ ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมหาสารคาม เพื่อเดินหน้าจัดการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557
นายสาโรช ไพเราะ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมหาสารคาม เป็นผู้แทนในการรับมอบแถลงการณ์และช่อดอกไม้จาก กลุ่ม นปช.แดงมหาสารคาม พร้อมกล่าวว่า ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดมหาสารคาม ในฐานะผู้จัดการเลือกตั้ง จะทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ จัดการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย พร้อมกันนี้ ขอเชิญชวนประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ได้ออกไปใช้สิทธิของท่านในการเลือกตั้งตามหน้าที่ ระหว่างเวลา 08.00-15.00 น. ณ หน่วยเลือกตั้งที่ท่านมีชื่ออยู่
ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว
มหาสารคามจัดงานนัดพบตลาดงานเชิงคุณภาพจังหวัดมหาสารคาม ประจำปี 2557
เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2557 ที่อาคารพลศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคามสำนักงานจัดหางานมหาสารคามร่วมกับมหาวิทยาลัยมหาสารคามร่วมกันจัดงานนัดพบตลาดงานเชิงคุณภาพจังหวัดมหาสารคาม ประจำปี 2557 โดยมีนายอดุล จันทนปุ่มรองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคามเป็นประธาน
สรรงบประมาณให้สำนักงานจัดหางานมหาสารคาม เพื่อนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัยมาใช้ในการดำเนินกิจกรรมวันนัดพบแรงงานเป็นการเพิ่มทักษะให้กับผู้สมัครงาน ซึ่งปัจจุบันระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของประชาชนมากขึ้น การติดต่อสื่อสารกับบุคคลและหน่วยงานต่างๆได้ใช้ระบบอินเตอร์เน็ตในการติดต่อสื่อสารกันมากเพราะสะดวก รวดเร็วประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย สำนักงานจังหวัดมหาสารคามจึงได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหาสารคาม จัดโครงการนัดพบตลาดงานคุณภาพขึ้นเพื่อให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา คนหางาน ผู้ว่างงาน ประชาชนทั่วไป และนายจ้างสถานประกอบการ ได้ใช้บริการผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ผู้สมัครงานสามารถลงทะเบียนล่วงหน้า ส่วนนายจ้างประชาสัมพันธ์ตำแหน่งงานล่วงหน้าผ่านทางอินเตอร์เน็ต เป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการเพิ่มอัตราค่าจ้างให้แก่แรงงานที่อยู่ในตลาดแรงงาน
การจัดงานนัดพบตลาดงานเชิงคุณภาพจังหวัดมหาสารคาม จัดขึ้นระหว่างวันที่ 31มกราคม - 1 กุมภาพันธ์ 2557 ณ อาคารพลศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีผู้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก
ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว
เหล่ากาชาดจังหวัดบุรีรัมย์ มอบผ้าห่มกันหนาวแก่ผู้ยากไร้ กว่า 1,000 ผืน
จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมเหล่ากาชาดมอบผ้าห่มกันหนาวช่วยเหลือผู้พิการ คนชรา และผู้ยากไร้เครื่องนุ่งห่มกันหนาว ใน อำเภอหนองกี่ และ อำเภอโนนสุวรรณ รวม 1,000 ราย
นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นางกรคณา ลืออดุลย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานในการมอบผ้าห่ม ให้กับผู้พิการ และคนชรา ที่ประสบปัญหาขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มกันหนาวในอำเภอหนองกี่จำนวน 600 ราย และอำเภอโนนสุวรรณ จำนวน 400 ราย รวมทั้งสิ้น 1000 ราย เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความหนาวเย็นให้กับราษฎรที่ขาดแคลนและอยู่ห่างไกลความเจริญ หลังจังหวัดบุรีรัมย์ยังประสบกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นอย่างต่อเนื่องจาก
ซึ่งจากการสำรวจพบว่า ทั้งจังหวัด มีเด็ก คนชรา ผู้พิการ ผู้ยากไร้ ด้อยโอกาส และผู้มีรายได้น้อย ประสบปัญหาขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มกันหนาวมากกว่า 300,000 ราย
นางกรคณา ลืออดุลย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงอย่างต่อเนื่อง ทางเหล่ากาชาดจังหวัด มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน จึงเร่งจัดหาผ้าห่มกันหนาวมาแจกจ่าย เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความหนาวเย็นให้กับราษฎรในครั้งนี้ ทั้งนี้ หากราษฎรในพื้นที่หมู่บ้าน ตำบลใดได้รับผลกระทบจากภัยหนาว และยังขาดแคลนเครื่องกันหนาว สามารถร้องขอหรือแจ้งมายังเหล่ากาชาดจังหวัด หรือสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดบุรีรัมย์ได้ เพื่อจะได้นำเครื่องนุ่งห่มกันหนาวไปแจกจ่ายช่วยเหลือผู้ประสบภัยดังกล่าวต่อไป
นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นางกรคณา ลืออดุลย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานในการมอบผ้าห่ม ให้กับผู้พิการ และคนชรา ที่ประสบปัญหาขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มกันหนาวในอำเภอหนองกี่จำนวน 600 ราย และอำเภอโนนสุวรรณ จำนวน 400 ราย รวมทั้งสิ้น 1000 ราย เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความหนาวเย็นให้กับราษฎรที่ขาดแคลนและอยู่ห่างไกลความเจริญ หลังจังหวัดบุรีรัมย์ยังประสบกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นอย่างต่อเนื่องจาก
ซึ่งจากการสำรวจพบว่า ทั้งจังหวัด มีเด็ก คนชรา ผู้พิการ ผู้ยากไร้ ด้อยโอกาส และผู้มีรายได้น้อย ประสบปัญหาขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มกันหนาวมากกว่า 300,000 ราย
นางกรคณา ลืออดุลย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงอย่างต่อเนื่อง ทางเหล่ากาชาดจังหวัด มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน จึงเร่งจัดหาผ้าห่มกันหนาวมาแจกจ่าย เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความหนาวเย็นให้กับราษฎรในครั้งนี้ ทั้งนี้ หากราษฎรในพื้นที่หมู่บ้าน ตำบลใดได้รับผลกระทบจากภัยหนาว และยังขาดแคลนเครื่องกันหนาว สามารถร้องขอหรือแจ้งมายังเหล่ากาชาดจังหวัด หรือสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดบุรีรัมย์ได้ เพื่อจะได้นำเครื่องนุ่งห่มกันหนาวไปแจกจ่ายช่วยเหลือผู้ประสบภัยดังกล่าวต่อไป
จังหวัดบุรีรัมย์เดินหน้ารณรงค์เชิญชวนประชาชนใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส. 2 ก.พ.
จังหวัดบุรีรัมย์จัดกิจกรรมเดินขบวนเชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ตั้งเป้ามีผู้มาใช้สิทธิไม่ต่ำกว่า 70%
(31 ม.ค.57) นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานเปิดกิจกรรมเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนให้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 โดยการปล่อยขบวนเดินรณรงค์ที่ประกอบไปด้วยข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ นักเรียน นักศึกษา และกลุ่มมวลชนต่างๆ กว่า 500 คน ถือธงชาติ และป้ายเชิญชวนให้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในวันดังกล่าว ไปตามถนนสายต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ พร้อมประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ประชาชนที่สัญจรผ่านไป-มา ได้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ต้องการเชิญชวนให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง ขณะเดียวกันเป็นการประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้พี่น้องประชาชนได้ตื่นตัวในการเตรียมพร้อมออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งให้มากที่สุด โดยคาดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีผู้ออกมาใช้สิทธิลงคะแนนไม่ต่ำกว่า 70 % หรือไม่ต่ำกว่าการเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ผ่านมา
(31 ม.ค.57) นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานเปิดกิจกรรมเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนให้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 โดยการปล่อยขบวนเดินรณรงค์ที่ประกอบไปด้วยข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ นักเรียน นักศึกษา และกลุ่มมวลชนต่างๆ กว่า 500 คน ถือธงชาติ และป้ายเชิญชวนให้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในวันดังกล่าว ไปตามถนนสายต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ พร้อมประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ประชาชนที่สัญจรผ่านไป-มา ได้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ต้องการเชิญชวนให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง ขณะเดียวกันเป็นการประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้พี่น้องประชาชนได้ตื่นตัวในการเตรียมพร้อมออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งให้มากที่สุด โดยคาดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีผู้ออกมาใช้สิทธิลงคะแนนไม่ต่ำกว่า 70 % หรือไม่ต่ำกว่าการเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ผ่านมา
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมานำประชาชนร่วมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ ถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระสังฆราช ในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ 100 วัน
วันนี้ (31 ม.ค. 57) ที่วัดสุทธจินดาวรวิหาร อ.เมือง จ.นครราชสีมา ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นำหัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชน และนักเรียนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา กว่า 200 คน ร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 50 รูป ถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ 100 วัน โดยภายหลังจากพิธีตักบาตรแด่พระภิกษุสงฆ์แล้ว ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประธานฝ่ายฆราวาส และพระธรรมโสภณ เจ้าอาวาสวัสุทธิจินดา วรวิหาร ประธานฝ่ายสงฆ์ ร่วมกันเป็นประธานประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลปัญญาสมวาส สวดมนต์เจริญพระพุทธมนต์ ถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ 100 วัน อีกด้วย
ปธ.กกต.โคราช ยัน เลือกตั้ง 2 ก.พ.นี้ เตรียมชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าควบคุมสถานการณ์หากพบกลุ่มป่วนการเลือกตั้ง พร้อมจับกุมดำเนินคดีฝ่าฝืนและขัดขวางการเลือกตั้งทันที
พลโทอัศวิน รัชฎานนท์ ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครราชสีมา ได้เปิดเผยถึง มาตรการการเตรียมรับมือกลุ่มมวลชนที่จะมีการแสดงพลังในการต่อต้านการเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 นี้ภายหลังจากเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2557 ที่ผ่านมา ได้จัดให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้านอกและในเขตจังหวัดในพื้นที่ ได้มีกลุ่มมวลชนที่ต่อต้านการเลือกตั้งออกมาแสดงจุดหน้าอยู่ตามหน่วยเลือกตั้งต่างๆ จนเกือบมีเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มมวลชนที่สนับสนุนการเลือกตั้งและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รักษาความสงบ ว่าล่าสุดทางกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดนครราชสีมา ได้มีการประสานไปยังตำรวจภูธรภาค3 ในการขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย ตลอดระยะเวลาในการเลือกตั้งตั้งแต่เวลา 08.00 น. ไปจนถึง 15.00 น. แต่อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายขึ้นในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาอย่างแน่นอน เหมือนกับในวันที่จัดให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 26 มกราคม 2587 ที่ผ่านมา สำหรับหน่วยเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ทั้ง 15 เขตเลือกตั้งมีอยู่ทั้งสิ้น 4,304 หน่วยเลือกตั้ง ส่วนจะมีกลุ่มที่เข้ามาก่อกวนการเลือกตั้งหรือไม่นั้นตนคิดว่า ประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ล้วนเป็นผู้ที่มีความเข้าใจถึงเหตุผลในการจัดการเลือกตั้ง ดังนั้นทุกคนก็ต้องการที่จะให้ประเทศไทยนั้นสามารถเดินหน้าได้ต่อไป ซึ่งอยู่ภายใต้ในกรอบของกฎหมายรัฐธรรมนูญ ดังนั้นก็จะสามารถใช้หลักในการพูดคุยกันได้อย่างแน่นอน พลโทอัศวินฯ กล่าวอีกว่า สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ประจำหน่วยเลือกตั้งที่ต้องดูแลความสงบเรียบร้อยอยู่แล้วนั้น ก็ยังเป็นหน้าที่ของผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรในพื้นที่ที่ได้จัดการเลือกตั้ง ที่จะต้องดูแลเพิ่มเติม อีกทั้งยังได้มีการจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเคลื่อนที่เร็ว ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายในหน่วยเลือกตั้งก็พร้อมที่จะเคลื่อนที่เพื่อเข้าไปควบคุมสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที ซึ่งหากมีผู้ที่ฝ่าฝืนหรือขัดขวางการเลือกตั้งเจ้าหน้าที่ก็สามารถทำการจับกุมได้โดยทันทีตามกฎหมายที่กำหนดไว้ ส่วนชุดเคลื่อนที่เร็วที่ได้ประสานไว้ มีจำนวนกี่ชุดนั้น ทางกรรมการการเลือกตั้งขอปิดเป็นความลับ เพื่อในการควบคุมดูแลความเรียบร้อยในการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 นี้ พลโทอัศวินฯกล่าว
กกต.ชัยภูมิ พร้อมจัดการเลือกตั้ง 2 ก.พ.57
ว่าที่ร้อยตรีทวี ชุนเกาะ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า ขณะนี้ มีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ทั้ง 7 เขตเลือกตั้ง ในพื้นที่ 16 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งมีจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 8แสน 6 หมื่นกว่าคน มีหน่วยเลือกตั้งทั้งสิ้น 1,914 หน่วย ใช้เจ้าหน้าที่ ทั้งผู้อำนวยการประจำหน่วยเลือกตั้ง กรรมการประจำหน่วย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หน่วยละ 12 คน รวม 25,000 กว่าคน ได้จัดประชุมชี้แจง ทำความเข้าใจเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยทุกหน่วยแล้ว พร้อมเตรียมแจกจ่ายอุปกรณ์เลือกตั้ง ประจำหน่วยในวันพรุ่งนี้ 1 ก.พ.2557
อย่างไรก็ตาม ขอฝากถึงผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทุกท่าน ได้ออกไปใช้สิทธิ์ ณ หน่วยเลือกตั้งที่ท่านชื่อยู่ ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. – 15.00 น. สำหรับท่านที่ขอใช้สิทธิ์ล่วงหน้าเอาไว้ แต่ไม่ได้ไปใช้สิทธิ์เมื่อ 26 มกราคม ที่ผ่านมา ก็สามารถไปใช้สิทธิ์ ในหน่วยปกติของท่าน ในวันที่ 2 ก.พ. ได้เช่นกัน กฎหมายยังไม่ตัดสิทธิ์ท่าน
อย่างไรก็ตาม ขอฝากถึงผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทุกท่าน ได้ออกไปใช้สิทธิ์ ณ หน่วยเลือกตั้งที่ท่านชื่อยู่ ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. – 15.00 น. สำหรับท่านที่ขอใช้สิทธิ์ล่วงหน้าเอาไว้ แต่ไม่ได้ไปใช้สิทธิ์เมื่อ 26 มกราคม ที่ผ่านมา ก็สามารถไปใช้สิทธิ์ ในหน่วยปกติของท่าน ในวันที่ 2 ก.พ. ได้เช่นกัน กฎหมายยังไม่ตัดสิทธิ์ท่าน
สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว
พุทธศาสนิกชนขอนแก่น ทำบุญตักบาตร และบำเพ็ญทักษิณานุประทานสตมวาร 100 วัน สมเด็จพระสังฆราชสิ้นพระชนม์
เมื่อเช้าวันนี้ (31 มกราคม 2557) ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 100 วัน วันสิ้นพระชนม์สมเด็จพระสังฆราช ที่พระอารามหลวง วันศรีจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น คณะสงฆ์จังหวัดขอนแก่น พุทธศาสนิกชน ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ได้พร้อมใจกันทำบุญตักบาตรด้วยข้าวสารอาหารแห้ง และประกอบพิธีบำเพ็ญทักษิณานุประทานสฆมวาร 100 วัน เพื่อวายเป็นพระราชกุศล ในโอกาสครบรอบ 100 วัน สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก สิ้นพระชนม์ โดยมีเจ้าคณะภาค 9 เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และมีนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานฝ่ายฆราวาส มีข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน พุทธศาสนิกชน มาร่วมพิธีจำนวนมาก
สมพงษ์ ปัตตานี/ ข่าว/อารมย์/
วันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2557
ความก้าวหน้าของโครงการพัฒนาเมืองจังหวัดนครพนม
นายปัญญา มีธรรม ท้องถิ่นจังหวัดนครพนม กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้มีการจัดสรรงบประมาณในการแก้ไขปัญหาของเมืองในพื้นที่ในปีนี้ก็ได้เลือกเอาเทศบาลเมืองนครพนมในการจัดทำโครงการเพื่อเสนอรัฐบาล โครงการละ 500,000-2,000,000 บาท รวมแล้วจังหวัดนครพนม คงจะได้งบประมาณไม่เกิน 8,000,000 บาท เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ทางเทศบาลเมืองก็ได้มีการเสนอไปยังพี่น้องชุมชนต่างๆ ที่อยู่ในเขตเทศบาลขอให้มีการประชุม และก็มีการเสนอโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณ โดยมีการพิจารณาจากคณะทำงานโครงการพัฒนาเมืองระดับจังหวัด อันมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน เสนอมา 3 ครั้ง ครั้งแรก เป็นโครงการตลาดน้ำวัดโอกาส งบประมาณที่ขอรับการสนับสนุน 2,000,000 บาท ผู้เสนอคือ ชุมชนวัดโอกาส ลักษณะของโครงการก็คือ จัดทำตลาดน้ำ ในบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ในช่วงบริเวณตลาดอินโดจีนจนถึงบริเวณท่าเรือ ต่อมาเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ก็ได้มีการเสนอมาอีก 3 โครงการ โครงการแรกเป็นโครงการสวนสนุกแม่น้ำโขง ขอรับการสนับสนุนงบประมาณ 2,000,000 บาท ผู้เสนอคือชุมชนวัดกลาง ลักษณะโครงการเป็นการจัดทำสวนสนุกในแม่น้ำโขง บริเวณน้ำมีการวางทุ้นแสดงขอบเขตที่ชัดเจน โครงการที่ 2 คือโครงการขยายการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก มูลค่าประมาณ 1,000,000 บาท เสนอโดยวัดอรัญญิกาวาส เป็นลักษณะการยกระดับถนน แล้วก็ทำระบบระบายน้ำทั้งสองข้างทาง โครงการที่ 3 เสนอโดยวัดป่าศรีสมพร เป็นโครงการสร้างเมรุเผาศพ ใช้งบประมาณ 1,000,000 บาท เพื่อลดความแออัดของเมรุเผาศพที่จุดอื่นๆ ต่อมาเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม คณะกรรมการได้พิจารณาเพิ่มอีก 3 โครงการ โครงการแรกเป็นโครงการน้ำดื่มสะอาดเพื่อสุขภาพและร่วมพัฒนาชุมชน งบประมาณที่ขอรับคือ 500,000 บาท มีการเสนอโดยชุมชน อำพร 2 เป็นลักษณะจัดซื้อตู้น้ำหยอดเหรียญ เพื่อนำมาบริการภายในชุมชนและหารายได แล้วนำมาหมุนเวียนเพื่อช่วยเหลือคนยากคนจนด้วย โครงการที่ 2 เป็นโครงการถนนวัฒนธรรมลุ่มน้ำโขงเขียวขจีธานีแห่งความสุข งบประมาณ 2,000,000 บาท เสนอโดยชุมชนหนองบึกท่า โครงการนี้เป็นโครงการที่มีหลายกิจกรรม เรียบตลอดตามแนวฝั่งแม่น้ำโขง เริ่มตั้งแต่โบสถ์คาทอลิก ไปจนสุดที่โรงแรมวิวโขง โครงการที่ 3 คือการก่อสร้างโรงครัวประกอบอาหารวัดสว่างสุวรรณราม เนื่องจากว่าวัดสว่างสุวรรณรามยังขาดแคลนตรงนี้อยู่ งบประมาณ 1,200,000 บาท เสนอโดยวัดสว่างสุวรรณราม นี่คือโครงการทั้ง 7 โครงการ ที่ผ่านการพิจารณาจากคณะทำงานการพัฒนาเมืองระดับจังหวัดไปแล้ว
ท้องถิ่นจังหวัดนครพนม กล่าวเพิ่มเติมว่า ตอนนี้เราได้ส่งรายละเอียดต่างๆ ไปยัง คณะอนุกรรมการพัฒนาเมืองระดับจังหวัด มีท่านปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน หลังจากที่คณะอนุกรรมการพัฒนาเมืองระดับจังหวัดได้พิจารณาเสร็จแล้ว ก็จะส่งเรื่องให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการ ได้ดูในรายละเอียดความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของโครงการ หลังจากอนุกรรมการกลั่นกรองเสร็จแล้วก็จะส่งไปให้คณะกรรมการดำเนินโครงการพัฒนาเมืองที่เป็นคณะกรรมการสูงสุด โดยมีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้พิจารณาขั้นสุดท้ายและอนุมัติงบประมาณแล้วชุมชนต้องดำเนินการให้เสร็จภายในปี 2557 นี้
ท้องถิ่นจังหวัดนครพนม กล่าวเพิ่มเติมว่า ตอนนี้เราได้ส่งรายละเอียดต่างๆ ไปยัง คณะอนุกรรมการพัฒนาเมืองระดับจังหวัด มีท่านปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน หลังจากที่คณะอนุกรรมการพัฒนาเมืองระดับจังหวัดได้พิจารณาเสร็จแล้ว ก็จะส่งเรื่องให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการ ได้ดูในรายละเอียดความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของโครงการ หลังจากอนุกรรมการกลั่นกรองเสร็จแล้วก็จะส่งไปให้คณะกรรมการดำเนินโครงการพัฒนาเมืองที่เป็นคณะกรรมการสูงสุด โดยมีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้พิจารณาขั้นสุดท้ายและอนุมัติงบประมาณแล้วชุมชนต้องดำเนินการให้เสร็จภายในปี 2557 นี้
จังหวัดนครพนมประกวดบรรยายธรรม ประจำปี 2557
นายธนิตศักดิ์ อุ่นตา วัฒนธรรมจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จังหวัดนครพนมจัดประกวดบรรยายธรรม ประจำปี 2557 ในวันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป ณ วัดมหาธาตุ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครพนม โดยแบ่งการประกวดออกเป็น 4 ช่วงชั้นการศึกษา ได้แก่ ช่วงชั้นที่ 1 ระดับประถมศึกษาตอนต้น ระดับช่วงชั้นที่ 2 ระดับประถมศึกษาตอนปลาย ช่วงชั้นที่ 3 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ช่วงชั้นที่ 4 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยแต่ละโรงเรียนส่งช่วงชั้นละไม่เกิน 2 คน รับสมัครตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2557 สำหรับผู้ที่เคยได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศมาแล้ว ไม่มีสิทธิสมัครในช่วงชั้นที่เคยชนะมาแล้ว สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครพนม ศาลากลางจังหวัดนครพนม หลังใหม่ชั้น 1 โทร. 0-4251-6050 หรือ 0-4251-6187 ในวันเวลาราชการ
จังหวัดนครพนม แถลงข่าว “งานนครพนม Expo OTOP Festival สานสัมพันธ์ สี่แผ่นดิน และ ตลาดนัดชายแดน ปี ๒๕๕๗”
ศาลากลางจังหวัดนครพนม แถลงข่าว งานนครพนม Expo OTOP Festival สานสัมพันธ์สี่แผ่นดินและตลาดนัดชายแดน ปี ๒๕๕๗ ได้แก่ ไทย จีน เวียดนาม ลาว เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการรายใหม่ให้มีช่องทางการค้าระหว่างประเทศ
นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ร่วมกับสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครพนม สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครพนม และหอการค้าจังหวัดนครพนม จัดงานนครพนม Expo OTOP Festival สานสัมพันธ์สี่แผ่นดินและตลาดนัดชายแดน ปี ๒๕๕๗ เวลา ๐๙.๐๐ – ๒๑.๐๐ น. รวม ๙ วัน ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครพนม เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว และขยายตลาดสินค้า OTOP ให้เป็นที่แพร่หลาย เตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน พร้อมทั้งสนับสนุนและพัฒนาผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ได้เรียนรู้ทักษะ ด้านการบริหารจัดการและการตลาดเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านการค้า ความร่วมมือระหว่างประเทศ ทั้งยังให้เป็นการส่งเสริมให้ผู้กลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ได้เผยแพร่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านการผลิต ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP ของไทยกับประเทศเพื่อนบ้านชายแดนไทย และได้ตระหนักถึงความสำคัญเรื่องโอกาสเชื่อมโยงการค้า การลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อดึงดูดนักลงทุน ผู้ประกอบการ ให้สนใจลงทุน และซื้อขายสินค้าในกลุ่มจังหวัดที่มีกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ส่งผลให้มีอัตราการเติบโตของกิจกรรมทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างประเทศในภูมิภาค จึงขอเชิญประชาชนชาวจังหวัดนครพนม เข้าร่วมชมและซื้อสินค้าตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว
นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ร่วมกับสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครพนม สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครพนม และหอการค้าจังหวัดนครพนม จัดงานนครพนม Expo OTOP Festival สานสัมพันธ์สี่แผ่นดินและตลาดนัดชายแดน ปี ๒๕๕๗ เวลา ๐๙.๐๐ – ๒๑.๐๐ น. รวม ๙ วัน ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครพนม เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว และขยายตลาดสินค้า OTOP ให้เป็นที่แพร่หลาย เตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน พร้อมทั้งสนับสนุนและพัฒนาผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ได้เรียนรู้ทักษะ ด้านการบริหารจัดการและการตลาดเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านการค้า ความร่วมมือระหว่างประเทศ ทั้งยังให้เป็นการส่งเสริมให้ผู้กลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ได้เผยแพร่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านการผลิต ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP ของไทยกับประเทศเพื่อนบ้านชายแดนไทย และได้ตระหนักถึงความสำคัญเรื่องโอกาสเชื่อมโยงการค้า การลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อดึงดูดนักลงทุน ผู้ประกอบการ ให้สนใจลงทุน และซื้อขายสินค้าในกลุ่มจังหวัดที่มีกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ส่งผลให้มีอัตราการเติบโตของกิจกรรมทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างประเทศในภูมิภาค จึงขอเชิญประชาชนชาวจังหวัดนครพนม เข้าร่วมชมและซื้อสินค้าตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว
นครพนมหนาวจัดต่อเนื่อง แล้งเสี่ยงวิกฤติ ปริมาณน้ำต่ำ เกษตรเตือนนาปรังเริ่มขาดน้ำ
เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2557 ที่จังหวัดนครพนม สภาพอากาศยังคงหนาวเย็นต่อเนื่อง โดยจากการตรวจวัดอุณหภูมิของสถานีอุตุนิยมวิทยานครพนม พบอุณหภูมิต่ำสุดที่ประมาณ 9 -12 องศาเซลเซียส นานเกือบ 2 เดือน ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในพื้นที่ประสบภัยหนาว ยังส่งผลกระทบต่อเกษตรกรที่ทำนาปรังในช่วงหน้าแล้ง ประสบปัญหานาปรังโตช้า จากปัญหาสภาพอากาศหนาวเย็น นอกจากนี้ยังเริ่มประสบปัญหาภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำ เนื่องจากในปีนี้ปริมาณเก็บน้ำ ตามอ่างกักเก็บน้ำต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดนครพนม มีปริมาณต่ำกว่าปีที่ผ่านมา ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ แต่มีเกษตรกรปลูกข้าวนาปรังเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว ซึ่งมีพื้นที่ปลูกประมาณ 70,000 ไร่ มากสุดคืออำเภอศรีสงคราม มีพื้นที่นาปรังประมาณ 30,000 ไร่ ทำให้บางพื้นที่ปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อการปลูกข้าวนาปรัง โดยทางเกษตรจังหวัดนครพนม ได้ประกาศเตือนให้เกษตรกรงดปลูกข้าวนาปรัง ในพื้นที่นอกเขตชลประมาณ และขาดแคลนแหล่งน้ำ ป้องกันความเสียหายจากปัญหาขาดแคลนน้ำ ส่งผลเกษตรกรขาดทุนตามมา พร้อมจัดเครื่องสูบน้ำเข้าไปช่วยเหลือ สูบน้ำเลี้ยงพื้นที่นาข้าว ป้องกันความเสียหายจากภัยแล้ง
นายรักสกุล สุริโย เกษตรและสหกรณ์จังหวัดนครพนม กล่าวว่า สถานการณ์การทำการเกษตรปลูกพืชฤดูแล้งในปีนี้ พบว่ามีความเสี่ยงต่อการประสบปัญหาภัยแล้งขาดน้ำสูง เนื่องจากพบว่าปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆ ต่ำกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นจึงขอประกาศเตือนให้เกษตรกร งดปลูกพืชฤดูแล้ง โดยเฉพาะข้าวนาปรังเพิ่มจากพื้นที่เคยเพราะปลูก รวมถึงพื้นที่นอกเขตชลประทาน และขาดแคลนแหล่งน้ำ ซึ่งในปีนี้พบว่าเกษตรกรในพื้นที่มีการขยายพื้นที่ทำการเกษตรฤดูแล้งเพิ่มมากขึ้น เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาขาดแคลนน้ำสูง มีพื้นที่ทำการเกษตรปลูกพืชฤดูแล้ง รวมถึงนาปรัง ประมาณ 70,000 ไร่ และช่วงนี้พบว่าบางพื้นที่มีการเพิ่มพื้นที่ปลูกเกือบเท่าตัว เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาขาดน้ำได้รับความเสียหาย จึงแจ้งมายังเกษตรกรให้งดขยายพื้นที่ทำนาปรังในช่วงนี้
นายรักสกุล สุริโย เกษตรและสหกรณ์จังหวัดนครพนม กล่าวว่า สถานการณ์การทำการเกษตรปลูกพืชฤดูแล้งในปีนี้ พบว่ามีความเสี่ยงต่อการประสบปัญหาภัยแล้งขาดน้ำสูง เนื่องจากพบว่าปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆ ต่ำกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นจึงขอประกาศเตือนให้เกษตรกร งดปลูกพืชฤดูแล้ง โดยเฉพาะข้าวนาปรังเพิ่มจากพื้นที่เคยเพราะปลูก รวมถึงพื้นที่นอกเขตชลประทาน และขาดแคลนแหล่งน้ำ ซึ่งในปีนี้พบว่าเกษตรกรในพื้นที่มีการขยายพื้นที่ทำการเกษตรฤดูแล้งเพิ่มมากขึ้น เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาขาดแคลนน้ำสูง มีพื้นที่ทำการเกษตรปลูกพืชฤดูแล้ง รวมถึงนาปรัง ประมาณ 70,000 ไร่ และช่วงนี้พบว่าบางพื้นที่มีการเพิ่มพื้นที่ปลูกเกือบเท่าตัว เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาขาดน้ำได้รับความเสียหาย จึงแจ้งมายังเกษตรกรให้งดขยายพื้นที่ทำนาปรังในช่วงนี้
นายพัฒนพงษ์ ศรีเพียชัย ผู้สื่อข่าว
จังหวัดมุกดาหารขยายเวลาการยื่นคำร้องขอรับการเยียวยาด้านการเงินจากเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง
จังหวัดมุกดาหารขยายเวลาการยื่นคำร้องเพื่อลงทะเบียนขอรับการเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรมสำหรับผู้ที่ทรัพย์สินเสียหายจากเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง(พ.ศ.๒๕๔๘-๒๕๕๓)
นายธวัชชัย ธรรมรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่าจังหวัดได้รับแจ้งจาก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ว่าตามที่ได้ประกาศรายชื่อผู้ที่ทรัพย์สินเสียหายจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง(พ.ศ.๒๕๔๘-๒๕๕๓) ไปแล้วจำนวน ๖ ครั้ง และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้แจ้งให้จังหวัดปิดประกาศรายชื่อผู้ที่ทรัพย์สินเสียหายฯดังกล่าวที่ศาลากลางจังหวัด และมอบให้สำนักงานกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เป็นหน่วยงานรับคำร้องขอรับเงินเยียวยาฯ แต่เนื่องจากขณะนี้ยังมีผู้ที่มีรายชื่อในประกาศฯ อีกจำนวนมากที่ไม่มายื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยาฯ คณะทำงานช่วยเหลือเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรมสำหรับผู้ที่ทรัพย์สินเสียหายจากเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง(พ.ศ.๒๕๔๘-๒๕๕๓) จึงได้ขยายระยะเวลาการยื่นคำร้องเพื่อลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยาจากเดิม ออกไปจนถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๗
ทั้งนี้ จังหวัดมุกดาหาร ขอให้ประชาชนที่มีรายชื่อที่ลงทะเบียนไว้แล้ว ให้มาตรวจสอบรายชื่อได้ที่ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร และยื่นเอกสารขอรับการเยียวยา ณ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมุกดาหาร ภายในวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๗ หมายเลขโทรศัพท์ ๐๔๒-๖๓๓๑๐๑ (วันเวลาราชการ)
นายธวัชชัย ธรรมรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่าจังหวัดได้รับแจ้งจาก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ว่าตามที่ได้ประกาศรายชื่อผู้ที่ทรัพย์สินเสียหายจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง(พ.ศ.๒๕๔๘-๒๕๕๓) ไปแล้วจำนวน ๖ ครั้ง และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้แจ้งให้จังหวัดปิดประกาศรายชื่อผู้ที่ทรัพย์สินเสียหายฯดังกล่าวที่ศาลากลางจังหวัด และมอบให้สำนักงานกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เป็นหน่วยงานรับคำร้องขอรับเงินเยียวยาฯ แต่เนื่องจากขณะนี้ยังมีผู้ที่มีรายชื่อในประกาศฯ อีกจำนวนมากที่ไม่มายื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยาฯ คณะทำงานช่วยเหลือเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรมสำหรับผู้ที่ทรัพย์สินเสียหายจากเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง(พ.ศ.๒๕๔๘-๒๕๕๓) จึงได้ขยายระยะเวลาการยื่นคำร้องเพื่อลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยาจากเดิม ออกไปจนถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๗
ทั้งนี้ จังหวัดมุกดาหาร ขอให้ประชาชนที่มีรายชื่อที่ลงทะเบียนไว้แล้ว ให้มาตรวจสอบรายชื่อได้ที่ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร และยื่นเอกสารขอรับการเยียวยา ณ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมุกดาหาร ภายในวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๗ หมายเลขโทรศัพท์ ๐๔๒-๖๓๓๑๐๑ (วันเวลาราชการ)
จังหวัดร้อยเอ็ด แถลงข่าวการจัดงานประเพณีบุญผะเหวด ประจำปี 2557
วันที่ (29 มกราคม 2557) เวลา 10.00 น. ณ บริเวณเกาะกลางบึงพลาญชัย (ข้างพระพุทธโธดม) จังหวัดร้อยเอ็ด จัดแถลงข่าวงานประเพณีบุญผะเหวด ประจำปี 2557 โดยมี นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธาน พร้อมด้วย นายบรรจง โฆษิตจิรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด นายมังกร ยนต์ตระกูล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด และนางสาวไทยปี 2556 น.ส.อัจฉราภรณ์ กนกนทีสวัสดิ์(จีน่า) และปี 2552 น.ส.อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์(โจอี้) ซึ่งเป็นลูกหลานชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมแถลงข่าว โดยมี น.ส.มธุริน ศิริทัพ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นผู้ดำเนินรายการ
นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า จังหวัดร้อยเอ็ด กำหนดจัดงานประเพณีบุญผะเหวด ประจำปี 2557 อย่างยิ่งใหญ่ กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 – 9 มีนาคม 2557 ณ บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ และเกาะกลางบึงพลาญชัยร้อยเอ็ด ประเพณีบุญผะเหวด เป็นงานบุญประจำเดือน 4 ในฮีต 12 ครอง 14 ของชาวอีสาน ที่ปฏิบัติสืบต่อกันมา เพื่อเป็นการอนุรักษ์ฟื้นฟู ขนมธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม ให้คงอยู่สืบไป รวมถึงเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตามวิถีพุทธ "ผะเหวด” มาจากคำว่าพระเวสสันดร ซึ่งเป็นชาดกหรือคำสอน เรียกเต็มว่าพระเวสสันดรชาดก ซึ่งเป็นเรื่องราวอดีตชาติที่ 10 ชาติสุดท้ายของพระพุทธเจ้าก่อนจะประสูติเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ เป็นเรื่องของการทำทานบารมี โดยจัดให้มีการประธงผะเหวด พิธีอัญเชิญพระอุปคุตพระราชท่านแห่รอบเมือง พิธีเจริญพระพุทธมนต์เย็น พิธีเทศน์มาลัยหมื่นมาลัยแสน การแสดงแสงสีเสียง งานพาแลง ขบวนแห่พระเวสสันดรเข้าเมืองที่ยิ่งใหญ่ 15 ขบวน และการแห่กัณฑ์จอบกัณฑ์หลอน ปีนี้ได้รับเกียรติจากนางสาวไทยปี 2556 และปี 2552 ซึ่งเป็นลูกหลานชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ช่วยประชาสัมพันธ์การจัดงานให้ยิ่งใหญ่ นายบรรจง โฆษิตจิรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด กล่าวว่า งานประเพณีบุญผะเหวด เป็นงานประเพณีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งจังหวัดร้อยเอ็ดจัดงานครั้งแรกเมื่อปี 2534 จากการริเริ่มของ นายสุพร สุภษร อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ปีนี้เป็นปีที่ 24 กำหนดจัดขึ้นในวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์แรกของเดือนมีนาคม ตรงกับวันที่ 7 - 9 มีนาคม 2557 ในวันที่ 7 มีนาคม 2557 เวลา 15.00 น. พิธีแห่พระอุปคุต รอบเมือง เวลา 19.00 น.พิธีสวดมนต์สืบชะตาเสริมบารมี การแสดงแสงสีเสียง รอบประชาชน วันที่ 8 มีนาคม 2557 เวลา 10.00 น. พบกับศิลปินคืนถิ่นบ้านเฮาเอาบุญผะเหวดร้อยเอ็ด โดยศิลปินชาวร้อยเอ็ด จากทุกค่ายเพลง ณ เวทีสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด เวลา 16.30 น.พิธีเปิดงานที่ยิ่งใหญ่ตระการตา ชมขบวนแห่ 15 ขบวน เน้นความสวยงาม แปลกใหม่ และขบวนกัณฑ์ต่าง ๆ 13 กัณฑ์ ตามตำนานพระเวสสันดรชาดก พร้อมบริการขนมจีนหรือ(ข้าวปุ้น) ฟรีตลอดงาน เวลา 17.00 น. พิธีทักษิณานุประทาน พิธีเจริญพระพุทธมนต์เย็น เทศน์มาลัยหมื่นมาลัยแสน งานพาแลงการแสดง แสง สี เสียง ตำนานพระเวสสันดร และศิลปวัฒนธรรม จากวิทยาลัยนาฏศิลป์ร้อยเอ็ด และในวันที่ 9 มีนาคม 2557 เวลา 05.00 น. พิธีแห่ข้าวพันก้อน เทศน์สังกาด ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 101 รูป จากนั้น ฟังเทศน์คาถาพัน เทศน์มหาชาติ ขบวนแห่กัณฑ์จอบกัณฑ์หลอนสนุกสนาน ที่หาชมได้ยาก จากทั่วสารทิศ จากชุมชน ตำบล หมู่บ้าน ส่วนราชการ ห้างร้านต่าง ๆ ตลอดทั้งวัน
นายมังกร ยนต์ตระกูล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า อบจ.ร้อยเอ็ด ได้ตั้งงบประมาณสนับสนุนงานประเพณีบุญผะเหวด เป็นประจำทุกปี และสนับสนุนวิสัยทัศน์ของจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ว่า "เป็นผู้นำการผลิตข้าวหอมมะลิสู่ตลาดโลก เมืองแห่งการท่องเที่ยววิถีพุทธ และสังคมสงบสุข" โดยมุ่งเชื่อมโยงการท่องเที่ยวประเพณีวัฒนธรรม วิถีชีวิต รวมถึงแหล่งอารยธรรมโบราณทีมีอยู่อย่างมากมายภายในตัวเมืองร้อยเอ็ด และอำเภอต่าง ๆ ซึ่งนักท่องเที่ยวและประชาชนที่สนใจได้มาเยี่ยมชมจะประทับใจอย่างแน่นอน
นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า จังหวัดร้อยเอ็ด กำหนดจัดงานประเพณีบุญผะเหวด ประจำปี 2557 อย่างยิ่งใหญ่ กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 – 9 มีนาคม 2557 ณ บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ และเกาะกลางบึงพลาญชัยร้อยเอ็ด ประเพณีบุญผะเหวด เป็นงานบุญประจำเดือน 4 ในฮีต 12 ครอง 14 ของชาวอีสาน ที่ปฏิบัติสืบต่อกันมา เพื่อเป็นการอนุรักษ์ฟื้นฟู ขนมธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม ให้คงอยู่สืบไป รวมถึงเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตามวิถีพุทธ "ผะเหวด” มาจากคำว่าพระเวสสันดร ซึ่งเป็นชาดกหรือคำสอน เรียกเต็มว่าพระเวสสันดรชาดก ซึ่งเป็นเรื่องราวอดีตชาติที่ 10 ชาติสุดท้ายของพระพุทธเจ้าก่อนจะประสูติเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ เป็นเรื่องของการทำทานบารมี โดยจัดให้มีการประธงผะเหวด พิธีอัญเชิญพระอุปคุตพระราชท่านแห่รอบเมือง พิธีเจริญพระพุทธมนต์เย็น พิธีเทศน์มาลัยหมื่นมาลัยแสน การแสดงแสงสีเสียง งานพาแลง ขบวนแห่พระเวสสันดรเข้าเมืองที่ยิ่งใหญ่ 15 ขบวน และการแห่กัณฑ์จอบกัณฑ์หลอน ปีนี้ได้รับเกียรติจากนางสาวไทยปี 2556 และปี 2552 ซึ่งเป็นลูกหลานชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ช่วยประชาสัมพันธ์การจัดงานให้ยิ่งใหญ่ นายบรรจง โฆษิตจิรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด กล่าวว่า งานประเพณีบุญผะเหวด เป็นงานประเพณีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งจังหวัดร้อยเอ็ดจัดงานครั้งแรกเมื่อปี 2534 จากการริเริ่มของ นายสุพร สุภษร อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ปีนี้เป็นปีที่ 24 กำหนดจัดขึ้นในวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์แรกของเดือนมีนาคม ตรงกับวันที่ 7 - 9 มีนาคม 2557 ในวันที่ 7 มีนาคม 2557 เวลา 15.00 น. พิธีแห่พระอุปคุต รอบเมือง เวลา 19.00 น.พิธีสวดมนต์สืบชะตาเสริมบารมี การแสดงแสงสีเสียง รอบประชาชน วันที่ 8 มีนาคม 2557 เวลา 10.00 น. พบกับศิลปินคืนถิ่นบ้านเฮาเอาบุญผะเหวดร้อยเอ็ด โดยศิลปินชาวร้อยเอ็ด จากทุกค่ายเพลง ณ เวทีสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด เวลา 16.30 น.พิธีเปิดงานที่ยิ่งใหญ่ตระการตา ชมขบวนแห่ 15 ขบวน เน้นความสวยงาม แปลกใหม่ และขบวนกัณฑ์ต่าง ๆ 13 กัณฑ์ ตามตำนานพระเวสสันดรชาดก พร้อมบริการขนมจีนหรือ(ข้าวปุ้น) ฟรีตลอดงาน เวลา 17.00 น. พิธีทักษิณานุประทาน พิธีเจริญพระพุทธมนต์เย็น เทศน์มาลัยหมื่นมาลัยแสน งานพาแลงการแสดง แสง สี เสียง ตำนานพระเวสสันดร และศิลปวัฒนธรรม จากวิทยาลัยนาฏศิลป์ร้อยเอ็ด และในวันที่ 9 มีนาคม 2557 เวลา 05.00 น. พิธีแห่ข้าวพันก้อน เทศน์สังกาด ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 101 รูป จากนั้น ฟังเทศน์คาถาพัน เทศน์มหาชาติ ขบวนแห่กัณฑ์จอบกัณฑ์หลอนสนุกสนาน ที่หาชมได้ยาก จากทั่วสารทิศ จากชุมชน ตำบล หมู่บ้าน ส่วนราชการ ห้างร้านต่าง ๆ ตลอดทั้งวัน
นายมังกร ยนต์ตระกูล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า อบจ.ร้อยเอ็ด ได้ตั้งงบประมาณสนับสนุนงานประเพณีบุญผะเหวด เป็นประจำทุกปี และสนับสนุนวิสัยทัศน์ของจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ว่า "เป็นผู้นำการผลิตข้าวหอมมะลิสู่ตลาดโลก เมืองแห่งการท่องเที่ยววิถีพุทธ และสังคมสงบสุข" โดยมุ่งเชื่อมโยงการท่องเที่ยวประเพณีวัฒนธรรม วิถีชีวิต รวมถึงแหล่งอารยธรรมโบราณทีมีอยู่อย่างมากมายภายในตัวเมืองร้อยเอ็ด และอำเภอต่าง ๆ ซึ่งนักท่องเที่ยวและประชาชนที่สนใจได้มาเยี่ยมชมจะประทับใจอย่างแน่นอน
ประเสริฐ อินทา/ข่าว
จับไม้พยุง จำนวน 15 ท่อน แปรรูป อีก 24 ท่อน
จับไม้พยุง จำนวน 15 ท่อน แปรรูป อีก 24 ท่อน หลังลอบโค่นไม้พะยูง หลบฉากตำรวจจากป่าชายแดนสุรินทร์ จ้างชาวบ้านเอาไม้ซุกสระน้ำสาธารณะ กลางทุ่งนา ได้ของกลางเพียบ
วันที่ 29 ม.ค.57 ที่ผ่านมา นายวีระเกียรติ รัมย์มณีรัตนากุล นายอำเภอท่าตูม พร้อมด้วย พ.ต.ต.สุจริต ปาณเล็ก ผกก.สภ.ท่าตูม และนายสันติ ศิลปากร หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า ที่สร.5 อ.รัตนบุรี ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 4 รายพร้อมด้วยไม้พะยูงของกลางที่ตรวจยึดได้จากทุ่งนาทิศตะวันออก บ้านบัวโคก หมู่ที่ 1 ต.บัวโคก อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ จำนวน 15 ท่อนไม้พะยูงแปรรูป อีก 24 ท่อน และไม้พะยูงแปรรูปที่ซ่อนในสระน้ำ 11 ท่อนเหลี่ยม โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมเลื่อยยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง 2 ตัว เครื่องปั่นไป 1เครื่อง ขวาน 4 เล่มและอุปกรณ์ประกอบเลื่อยอีกจำนวนหนึ่ง ผู้ต้องหาประกอบด้วย นายเบ้า โกฏิหอม อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124 หมู่ที่ 1 ต.บัวโคก นายน้อย ใจใหญ่ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่127 หมู่1 ต.บัวโคก นายประหยัด โนนสาย อายุ31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 4 ต.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ และนายอำพรฯ เยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี อยู่ ต.ทุ่งใหญ่ อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี
นายวีระเกียรติ รัมย์มณีรัตนากุล นายอำเภอท่าตูม ระบุว่า จากการสืบทราบโดยชุดไล่ล่าไม้พะยูงซึ่งสนธิกำลังระหว่าง กองร้อยอาสารักษาดินแดง ที่ 11 อ.ท่าตูม กำลังตำรวจชุดสืบสวน สภ.ท่าตูม จนท.จากหน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ สร.5 ได้เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มที่ลักลอบตัดไม้พะยูงในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าพนมดิน อ.ท่าตูม ที่มีเครือข่ายร่วมกับกลุ่มพ่อค้าไม้พะยูงแถบชายแดนจังหวัดสุรินทร์ ที่พยายามเปลี่ยนสถานที่เก็บและแปรรูปจากชายแดนมาแถวนี้ เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่โดยว่าจ้างผู้ต้องหาทั้งหมดแอบทำการตัดแล้วแปรรูปไม้พร้อมแอบซุกซ่อนในสระน้ำตามที่ต่างๆรอการขนย้ายเพื่อจำหน่าย โดยพบว่าเส้นทางการจำหน่ายจะถูกส่งต่อไปยังประเทศเวียดนาม โดยรถบรรทุกขนาดใหญ่ผ่านไปตามเส้นทางเลียบแม่น้ำโขง เข้าสู่ประเทศลาวและเวียดนาม และวันนี้ทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหากำลังทำการแปรรูปไม้พะยูงกลางทุ่งนาทิศตะวันตกของหมู่บ้าน จึงได้วางแผนการจับกุมและนำกำลังทั้งหมดเข้าปิดล้อมจู่โจมเข้าจับกุม จนสามารถรวบตัวได้ทั้งหมดพร้อมของกลาง
วันที่ 29 ม.ค.57 ที่ผ่านมา นายวีระเกียรติ รัมย์มณีรัตนากุล นายอำเภอท่าตูม พร้อมด้วย พ.ต.ต.สุจริต ปาณเล็ก ผกก.สภ.ท่าตูม และนายสันติ ศิลปากร หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า ที่สร.5 อ.รัตนบุรี ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 4 รายพร้อมด้วยไม้พะยูงของกลางที่ตรวจยึดได้จากทุ่งนาทิศตะวันออก บ้านบัวโคก หมู่ที่ 1 ต.บัวโคก อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ จำนวน 15 ท่อนไม้พะยูงแปรรูป อีก 24 ท่อน และไม้พะยูงแปรรูปที่ซ่อนในสระน้ำ 11 ท่อนเหลี่ยม โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมเลื่อยยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง 2 ตัว เครื่องปั่นไป 1เครื่อง ขวาน 4 เล่มและอุปกรณ์ประกอบเลื่อยอีกจำนวนหนึ่ง ผู้ต้องหาประกอบด้วย นายเบ้า โกฏิหอม อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124 หมู่ที่ 1 ต.บัวโคก นายน้อย ใจใหญ่ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่127 หมู่1 ต.บัวโคก นายประหยัด โนนสาย อายุ31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 4 ต.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ และนายอำพรฯ เยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี อยู่ ต.ทุ่งใหญ่ อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี
นายวีระเกียรติ รัมย์มณีรัตนากุล นายอำเภอท่าตูม ระบุว่า จากการสืบทราบโดยชุดไล่ล่าไม้พะยูงซึ่งสนธิกำลังระหว่าง กองร้อยอาสารักษาดินแดง ที่ 11 อ.ท่าตูม กำลังตำรวจชุดสืบสวน สภ.ท่าตูม จนท.จากหน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ สร.5 ได้เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มที่ลักลอบตัดไม้พะยูงในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าพนมดิน อ.ท่าตูม ที่มีเครือข่ายร่วมกับกลุ่มพ่อค้าไม้พะยูงแถบชายแดนจังหวัดสุรินทร์ ที่พยายามเปลี่ยนสถานที่เก็บและแปรรูปจากชายแดนมาแถวนี้ เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่โดยว่าจ้างผู้ต้องหาทั้งหมดแอบทำการตัดแล้วแปรรูปไม้พร้อมแอบซุกซ่อนในสระน้ำตามที่ต่างๆรอการขนย้ายเพื่อจำหน่าย โดยพบว่าเส้นทางการจำหน่ายจะถูกส่งต่อไปยังประเทศเวียดนาม โดยรถบรรทุกขนาดใหญ่ผ่านไปตามเส้นทางเลียบแม่น้ำโขง เข้าสู่ประเทศลาวและเวียดนาม และวันนี้ทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหากำลังทำการแปรรูปไม้พะยูงกลางทุ่งนาทิศตะวันตกของหมู่บ้าน จึงได้วางแผนการจับกุมและนำกำลังทั้งหมดเข้าปิดล้อมจู่โจมเข้าจับกุม จนสามารถรวบตัวได้ทั้งหมดพร้อมของกลาง
อุทัย มานาดี / รายงาน
เทศกาลตรุษจีน ที่ จ.สุรินทร์ การค้าภายใน เข้ม ติดป้ายแสดงราคาสินค้าชัดเจน
ราคาสินค้าทุกชนิดในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ และตามห้างร้านทั่วไปส่วนใหญ่ขึ้นราคาในช่วงเทศกาลตรุษจีน ทุกชนิดปรับราคาขึ้นราคา
นายวิรัตน์ นามวงษา การค้าภายในจังหวัดสุรินทร์ เข้มงวด ให้ติดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน หากพบว่าผู้จำหน่าย ขึ้นราคาสูงเกินเหตุ หรือไม่ติดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน จะมีโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ขอให้ประชาชนที่ไม่ได้รับความเดือดร้อน และไม่ได้รับความเป็นธรรม แจ้งมายังสำนักงานการค้าภายในจังหวัดสุรินทร์ หรือ โทรสายด่วน 1569 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นายวิรัตน์ นามวงษา การค้าภายในจังหวัดสุรินทร์ เข้มงวด ให้ติดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน หากพบว่าผู้จำหน่าย ขึ้นราคาสูงเกินเหตุ หรือไม่ติดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน จะมีโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ขอให้ประชาชนที่ไม่ได้รับความเดือดร้อน และไม่ได้รับความเป็นธรรม แจ้งมายังสำนักงานการค้าภายในจังหวัดสุรินทร์ หรือ โทรสายด่วน 1569 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
มหาวิทยาลัยรามคำแหง เปิดรับสมัครนักศึกษา
นายวิริยะ เกตุมาโร รองอธิบดีการฝ่ายวิทยบริการมหาวิทยาลัยรามคำแหงจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสุรินทร์ จะเปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก ส่วนภูมิภาค ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 โดยได้กำหนดปฏิทินการรับสมัครในแต่ละระดับไว้แล้ว ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสุรินทร์ โทร. 0-4455-8918-9 โทรสาร 0-4455-8924
จ.สุรินทร์มอบประกาศเกียรติบัตรและเงินรางวัล แก่เกษตรกรผู้ชนะการประกวดข้าวหอมมะลิจังหวัดสุรินทร์ ปีการเพาะปลูก 2556/2557
นายวิรัตน์ นามวงษา การค้าภายในจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดสุรินทร์ร่วมกับกรมการค้าภายใน ได้ดำเนินการจัดประกวดข้าวหอมมะลิปีการเพาะปลูก ๒๕๕๖/๕๗ เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรและกลุ่มเกษตรกรหรือสหกรณ์การเกษตรที่มีศักยภาพในการผลิตข้าวหอมมะลิได้พัฒนาคุณภาพข้าวหอมมะลิให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ทั้งด้านการผลิตและตลาดเพื่อการส่งออก ซึ่งจะเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรและเศรษฐกิจของประเทศโดยส่วนรวมนั้น
บัดนี้ การดำเนินการจัดประกวดข้าวหอมมะลิจังหวัดสุรินทร์ ปีการเพาะปลูก ๒๕๕๖/๕๗
ได้เสด็จสิ้นแล้ว ผลการตัดสิ้นประกวดจากตัวอย่างข้าวที่เกษตรกรและกลุ่มเกษตรกร ดังนี้
ประเภท เกษตรกรรายบุคคล
รางวัลที่ ๑ เงินสด ๕,๐๐๐ บาท พร้อมเกียรติบัตร ได้แก่ นายประเจน โสภาชัย
อยู่บ้านเลขที่ ๑๓๕ หมู่ที่ ๓ ตำบลเมืองบัว อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์
รางวัลที่ ๒ เงินสด ๔,๐๐๐ บาท พร้อมเกียรติบัตร ได้แก่ นางสาวจันทร์เพ็ญ ศรีสุข
อยู่บ้านเลขที่ ๒๓ หมู่ที่ ๑๓ ตำบลชุมพลบุรี อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์
รางวัลที่ ๓ เงินสด ๓,๐๐๐ บาท พร้อมเกียรติบัตร ได้แก่ นายเสมือน คำตาล
อยู่บ้านเลขที่ ๖๙ หมู่ที่ ๓ ตำบลเขวาสินรินทร์ อำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์
รางวัลที่ชมเชย เงินสด ๑,๐๐๐ บาท พร้อมเกียรติบัตร ได้แก่ นายคำ ฉวีนวล
อยู่บ้านเลขที่ ๓๓ หมู่ที่ ๑๗ ตำบลนาหนองไผ่ อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์
ประเภท กลุ่มเกษตรกร
รางวัลที่ ๑ เงินสด ๖,๐๐๐ บาท พร้อมเกียรติบัตร ได้แก่ ศูนย์ข้าวชุมชนบ้านสระขุด
เลขที่ ๑๓๔ หมู่ที่ ๑ ตำบลสระขุด อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์
บัดนี้ การดำเนินการจัดประกวดข้าวหอมมะลิจังหวัดสุรินทร์ ปีการเพาะปลูก ๒๕๕๖/๕๗
ได้เสด็จสิ้นแล้ว ผลการตัดสิ้นประกวดจากตัวอย่างข้าวที่เกษตรกรและกลุ่มเกษตรกร ดังนี้
ประเภท เกษตรกรรายบุคคล
รางวัลที่ ๑ เงินสด ๕,๐๐๐ บาท พร้อมเกียรติบัตร ได้แก่ นายประเจน โสภาชัย
อยู่บ้านเลขที่ ๑๓๕ หมู่ที่ ๓ ตำบลเมืองบัว อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์
รางวัลที่ ๒ เงินสด ๔,๐๐๐ บาท พร้อมเกียรติบัตร ได้แก่ นางสาวจันทร์เพ็ญ ศรีสุข
อยู่บ้านเลขที่ ๒๓ หมู่ที่ ๑๓ ตำบลชุมพลบุรี อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์
รางวัลที่ ๓ เงินสด ๓,๐๐๐ บาท พร้อมเกียรติบัตร ได้แก่ นายเสมือน คำตาล
อยู่บ้านเลขที่ ๖๙ หมู่ที่ ๓ ตำบลเขวาสินรินทร์ อำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์
รางวัลที่ชมเชย เงินสด ๑,๐๐๐ บาท พร้อมเกียรติบัตร ได้แก่ นายคำ ฉวีนวล
อยู่บ้านเลขที่ ๓๓ หมู่ที่ ๑๗ ตำบลนาหนองไผ่ อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์
ประเภท กลุ่มเกษตรกร
รางวัลที่ ๑ เงินสด ๖,๐๐๐ บาท พร้อมเกียรติบัตร ได้แก่ ศูนย์ข้าวชุมชนบ้านสระขุด
เลขที่ ๑๓๔ หมู่ที่ ๑ ตำบลสระขุด อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์
วิทยาลัยการอาชีพศีขรภูมิ จัดกิจกรรม “อาชีวะ ปริทรรศน์ สัปดาห์ Open House 2014”
นายวิชัย ปรินายวิชย์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพศีขรถูมิ จังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า วิทยาลัยการอาชีศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ได้จัดกิจกรรมโครงการ "อาชีวะ ปริทรรศน์ สัปดาห์ Open House 2014” ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2557 ณ วิทยาลัยการอาชีพศีขรภูมิ อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ เพื่อจัดแสดงผลงานการดำเนินของสถานศึกษา ผลงานการจัดการเรียนการสอนของแผนกวิชาต่าง ๆ ที่วิทยาลัยเปิดสอน ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ประกอบด้วย กิจกรรม 108 อาชีพ กิจกรรมแนะแนวการศึกษาต่อ กิจกรรมนันทนาการ นิทรรศการสิ่งประดิษฐ์ของคนรุ่นใหม่ นิทรรศการชมรมวิชาชีพดีเด่น การออกร้านค้าของนักเรียนนักศึกษาตามโครงการหารายได้ระหว่างเรียน การแสดงบนเวที การจัดหาตำแหน่งงานว่างจากสำนักงานจัดหางานจังหวัดสุรินทร์ และกิจกรรมอื่น อีกมากมาย ซึ่งสอดคล้องกันนโยบายของรัฐบาลที่ได้กำหนดอัตราส่วนการเพิ่มปริมาณผู้เรียนระหว่างสายสามัญกับสายอาชีพ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับแรงงานสายอาชีพเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
ขอเชิญประชาขนที่สนใจ เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้โดยทั่วกัน
ขอเชิญประชาขนที่สนใจ เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้โดยทั่วกัน
กรรณิกา สำราญจริง /ส.ปชส.สุรินทร์/ข่าว
บรรยากาศวันจ่ายตรุษจีนตลาดสดเทศบาลเมืองสุรินทร์ ค่อนข้างเงียบเหงา สินค้ามีราคาแพงขึ้น
วันที่ 29 ม.ค.57 ที่ผ่านมา ในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เป็นย่านของคนไทยเชื้อสายจีน และเป็นย่านการค้าที่สำคัญของจังหวัดสุรินทร์ เทศบาลเมืองสุรินทร์ได้เตรียมจัดงานตรุษจีนไชน่า มีการจัดการแสดงอย่างยิ่งใหญ่ โดยปิดถนนในย่านนี้ทั้งหมดเพื่อรองรับการมาเที่ยวของประชาชน และการประกอบพิธีของคนไทยเชื้อสายจีน ขณะที่บรรยากาศ ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองสุรินทร์ แหล่งจับจ่ายซื้อของเซ่นไหว้ที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดสุรินทร์ พบว่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าต่างนำสินค้าที่จำเป็นสำหรับการเซ่นไหว้จำนวนมากมาวางขายเป็นกรณีพิเศษ แต่อย่างไรก็ตาม ช่วงเช้าที่ผ่านมานั้นบรรยากาศยังค่อนข้างเงียบเหงา โดยสินค้าแต่ละรายการมีการปรับราคาสูงขึ้นอย่างน้อย 20-50 บาท โดยเฉพาะหมูสดปรับราคาสูงขึ้นถึง กิโลกรัมละ 150 บาท ส่วนราคาไก่สดในตลาดวันนี้พบว่าได้มีการปรับราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะไก่บ้านจากเดิมกิโลกรัมละ 130 บาท ขณะนี้อยู่ที่ 150-160 บาท ส่วนไก่เนื้อราคากิโลกรัมละ 80 บาท ราคาเป็ด กิโลกรัมละ98 บาท ส่วนผลไม้ทุกชนิดมีราคาแพงต้องติดป้ายแสดงราคาเพื่อให้ลูกค้าได้เลือกซื้อตามกำลัง ขณะที่ ผักสดในตลาด ที่ใช้ในการประกอบอาหารช่วงเทศกาลตรุษจีนไม่ว่าจะเป็น กุยช่าย ผักชี ต้นหอม กระเทียม และผักอื่น ๆ ไม่ได้ปรับขึ้นราคาแต่อย่างใด
นายมานะ แซ่เตีย อายุ 70 ปี คนไทยเชื้อสายจีน กล่าวว่า ข้าวของเครื่องเซ่นไหว้ตรุษจีนปีนี้มีราคาแพงมากกว่าทุกๆปีที่ผ่านมา แต่จำเป็นต้องซื้อเพื่อกราบไหว้บรรพบุรษ และต้องซื้อปริมาณน้อยลง
นางตุ๋ย วาจารัมย์ แม่ค้าเป็ดสด ในตลาดเทศบาลสดเทศบาลเมืองสุรินทร์ กล่าวว่า การค้าขายวันจ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ค่อนข้างเงียบเหงา ไม่เหมือนทุกปีไม่ค่อยมีคนมาเดินตลาด คงเป็นเพราะภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ และการเมืองที่ผู้คนล้วนต่างออกมาทะเลาะกัน ทำให้ตนไม่กล้าสั่งเป็ดมาขายมากนัก สังเกตจากการออกมาซื้อของไหว้ตั้งแต่เมื่อวานนี้จนถึงวันนี้ก็ไม่มากนัก เป็ดขาวขายกิโลกรัมละ 98 บาท เป็ดบ้านตัวละ 100-110 บาท คาดว่าในช่วงค่ำของวันนี้จะคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง เนื่องจากจะมีการเปิดตลาดยาวไปจนถึงช่วงค่ำ
นางศิริรัตน์ แซ่จึง แม้ค้าขายของไหว้ ในตลาดสดเทศบาลเมืองสุรินทร์ กล่าวว่า บรรยากาศการซื้อขายของไหว้ตรุษจีนในวันจ่ายค่อนข้างเงียบตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ตลาดสดเทศบาลเมืองสุรินทร์เงียบเหงาเพราะคนส่วนใหญ่ชอบไปเดินซื้อของตามห้างสรรพสินค้า
นางวันเพ็ญ แม่ค้าขนมไหว้ ในตลาดสดเทศบาลเมืองสุรินทร์ กล่าวว่า ขนมภายในร้านยังพอขายได้เพราะมีกลุ่มลูกค้าขาประจำ ที่สำคัญสินค้าที่ทำมาจำหน่ายสด สะอาดและราคาไม่แพง
นายมานะ แซ่เตีย อายุ 70 ปี คนไทยเชื้อสายจีน กล่าวว่า ข้าวของเครื่องเซ่นไหว้ตรุษจีนปีนี้มีราคาแพงมากกว่าทุกๆปีที่ผ่านมา แต่จำเป็นต้องซื้อเพื่อกราบไหว้บรรพบุรษ และต้องซื้อปริมาณน้อยลง
นางตุ๋ย วาจารัมย์ แม่ค้าเป็ดสด ในตลาดเทศบาลสดเทศบาลเมืองสุรินทร์ กล่าวว่า การค้าขายวันจ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ค่อนข้างเงียบเหงา ไม่เหมือนทุกปีไม่ค่อยมีคนมาเดินตลาด คงเป็นเพราะภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ และการเมืองที่ผู้คนล้วนต่างออกมาทะเลาะกัน ทำให้ตนไม่กล้าสั่งเป็ดมาขายมากนัก สังเกตจากการออกมาซื้อของไหว้ตั้งแต่เมื่อวานนี้จนถึงวันนี้ก็ไม่มากนัก เป็ดขาวขายกิโลกรัมละ 98 บาท เป็ดบ้านตัวละ 100-110 บาท คาดว่าในช่วงค่ำของวันนี้จะคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง เนื่องจากจะมีการเปิดตลาดยาวไปจนถึงช่วงค่ำ
นางศิริรัตน์ แซ่จึง แม้ค้าขายของไหว้ ในตลาดสดเทศบาลเมืองสุรินทร์ กล่าวว่า บรรยากาศการซื้อขายของไหว้ตรุษจีนในวันจ่ายค่อนข้างเงียบตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ตลาดสดเทศบาลเมืองสุรินทร์เงียบเหงาเพราะคนส่วนใหญ่ชอบไปเดินซื้อของตามห้างสรรพสินค้า
นางวันเพ็ญ แม่ค้าขนมไหว้ ในตลาดสดเทศบาลเมืองสุรินทร์ กล่าวว่า ขนมภายในร้านยังพอขายได้เพราะมีกลุ่มลูกค้าขาประจำ ที่สำคัญสินค้าที่ทำมาจำหน่ายสด สะอาดและราคาไม่แพง
อุทัย มานาดี /รายงาน
อบต.สลักได มอบผ้าห่ม พร้อมเตรียมวางท่อน้ำประปาภูมิภาค เข้า 4 หมู่บ้าน
องค์การบริหารส่วนตำบลสลักได อ.เมืองสุรินทร์ ได้มอบผ้าห่มให้ผู้ด้อยโอกาศผู้ยากไร้ และผู้พิการทุกหมู่บ้าน ขณะเดียวกันได้ตั้งงบประมาณ และเตรียมจัดจ้าง ติดตั้งวางท่อประปาเข้า 4 หมู่บ้าน ให้หายจากภัยแล้งซ้ำซากอย่างยั่งยืน
นายมานพ แสงดำ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสลักได อ.เมือง จ.สุรินทร์ เปิดเผยว่าภัยหนาวที่ผ่านมา ทางจังหวัดสุรินทร์ ได้ประกาศภัยหนาว ซึ่งทาง อบต.สลักได ได้แจกจ่ายผ้าห่มกันหนาวให้กับ ผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการและผู้สูงอายุ ทุกหมู่บ้านๆละ 26 ผืน หมู่บ้านใหญ่ หมู่บ้านละ36 ผืน ทั้งนี้เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งทุกคนจะไม่ได้อาจจะไม่ทั่วถึง เราต้องเห็นใจคนที่ด้อยโอกาสและผู้พิการก่อน ต้องเรียนพี่น้องให้ได้เข้าใจทุกท่าน
นายมานพ แสงดำ นายก อบต.สลักได กล่าวอีกว่า ในส่วนของการเตรียมเรื่องภัยแล้ง ซึ่งเราได้เตรียมรถบรรทุกน้ำ เพื่อแจกจ่ายน้ำในฤดูแล้งทุกปี ในส่วนของหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกล ในความยั่งยืนปีนี้ เราได้ขยายระบบน้ำประปาส่วนภูมิภาคจากเมือง สู่หมู่บ้านสลักได,บ้านผุสดี ,โรงเรียนศิรินทร์ทิพย์,บ้านตะบัน, และบ้านสำโรง โดยใช้แนวทางวางท่อตามเส้นทางจากบ้านผุสดี ไปยังบ้านปวงตึก ผ่านบ้านแสงตะบัน ไปบ้านสำโรง ไปสู่ยังบ้านโชคชัย เพื่อความเดือดร้อนที่ทุกข์ร้อนทุกปีที่ผ่านมา ซึ่ง ณ.วันนี้เราได้ตั้งงบประมาณแล้ว เหลือเพียงการจัดซื้อจัดจ้างเท่านั้น เพื่อให้พี่น้องจะได้มีน้ำอุปโภค-บริโภค อย่างยั้งยืน
นายมานพ แสงดำ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสลักได อ.เมือง จ.สุรินทร์ เปิดเผยว่าภัยหนาวที่ผ่านมา ทางจังหวัดสุรินทร์ ได้ประกาศภัยหนาว ซึ่งทาง อบต.สลักได ได้แจกจ่ายผ้าห่มกันหนาวให้กับ ผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการและผู้สูงอายุ ทุกหมู่บ้านๆละ 26 ผืน หมู่บ้านใหญ่ หมู่บ้านละ36 ผืน ทั้งนี้เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งทุกคนจะไม่ได้อาจจะไม่ทั่วถึง เราต้องเห็นใจคนที่ด้อยโอกาสและผู้พิการก่อน ต้องเรียนพี่น้องให้ได้เข้าใจทุกท่าน
นายมานพ แสงดำ นายก อบต.สลักได กล่าวอีกว่า ในส่วนของการเตรียมเรื่องภัยแล้ง ซึ่งเราได้เตรียมรถบรรทุกน้ำ เพื่อแจกจ่ายน้ำในฤดูแล้งทุกปี ในส่วนของหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกล ในความยั่งยืนปีนี้ เราได้ขยายระบบน้ำประปาส่วนภูมิภาคจากเมือง สู่หมู่บ้านสลักได,บ้านผุสดี ,โรงเรียนศิรินทร์ทิพย์,บ้านตะบัน, และบ้านสำโรง โดยใช้แนวทางวางท่อตามเส้นทางจากบ้านผุสดี ไปยังบ้านปวงตึก ผ่านบ้านแสงตะบัน ไปบ้านสำโรง ไปสู่ยังบ้านโชคชัย เพื่อความเดือดร้อนที่ทุกข์ร้อนทุกปีที่ผ่านมา ซึ่ง ณ.วันนี้เราได้ตั้งงบประมาณแล้ว เหลือเพียงการจัดซื้อจัดจ้างเท่านั้น เพื่อให้พี่น้องจะได้มีน้ำอุปโภค-บริโภค อย่างยั้งยืน
อุทัย มานาดี / รายงาน
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร แนะเกษตรกรและผู้ประกอบการยางพารา ปรับตัว พร้อมรับมาตรฐานสากล
นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจาก สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าจากการประชุมหารือการจัดทำข้อมูลสำหรับผู้บริหาร (Executive Summary) เมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา คณะทำงานพัฒนาสารสนเทศการเกษตรระดับประเทศได้มีการนำเสนอสถานการณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเกษตรที่สำคัญ โดยในส่วนของยางพารามีประเด็นสำคัญ คือการกำหนดมาตรฐานสากลเกี่ยวกับยางพาราและผลิตภัณฑ์ ซึ่งได้แก่การประกาศใช้ร่างมาตรฐาน ISO/FDIS 17278 Determination of gel content of TSR (Technical Specified rubber :TSR) โดยให้มีการทดสอบเจลคอนเทนต์ (GelContent) ของยางแท่งหรือยางที่มีความหนืดต่ำ (Low viscosity :LOV) และการประกาศใช้ร่างมาตรฐาน ISO/FDIS 2000 Guidelines for the specification of TSR สำหรับกำหนดคุณภาพยางแท่ง LOV นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการปรับปรุงมาตรฐาน ISO 20299-2 Film wrapping natural rubber bales ในการใช้ฟิล์มห่อยางแผ่นหรือ Wrap ยางแผ่นรมควันเพื่อป้องกันการติดกันของแผ่นยางแทนการใช้แป้งที่ไทยใช้อยู่ ทั้งนี้เมื่อมีประกาศใช้มาตรฐานดังกล่าวแล้ว ทั้งเกษตรกรและผู้ประกอบการจำเป็นต้องมีการปรับตัวเพื่อเตรียมความพร้อม เพื่อให้ยางพาราและผลิตภัณฑ์ของไทยสามารถส่งออกและแข่งขันในตลาดโลกได้
ผู้ว่าฯ สุรินทร์ มอบโล่ผลการประกวดวาดภาพและประกวดเขียนเรียงความ“จังหวัดของฉันในปี 2020”
วันนี้ (30 ม.ค.57) นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ มอบโล่และประกาศเกียรติคุณผลการประกวดวาดภาพและประกวดเขียนเรียงความ ในหัวข้อ "จังหวัดของฉันในปี 2020” ให้กับนักเรียน นิสิต และนักศึกษาที่ได้รับการคัดเลือกผลงานการประกวดวาดภาพในระดับประถมศึกษา และประกวดเขียนเรียงความในระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษา ทั้งนี้ รัฐบาลได้มีนโยบายที่จะดำเนินโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และได้มีการจัดนิทรรศการและเสวนาภายใต้ชื่องาน "สร้างอนาคตไทย 2020” เพื่อประชาสัมพันธ์ สร้างความรู้ความเข้าใจ และรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว รวมทั้งมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ จัดโครงการประกวดวาดภาพและประกวดเขียนเรียงความ ในหัวข้อ "จังหวัดของฉันในปี 2020” ขึ้น โดยมีรางวัลระดับจังหวัด ดังนี้ รางวัลชนะเลิศ ได้รับโล่เกียรติคุณ และทุนการศึกษา จำนวน 5,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ได้รับโล่เกียรติคุณ และทุนการศึกษา จำนวน 3,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ได้รับโล่เกียรติคุณ และทุนการศึกษา จำนวน 2,000 บาท รางวัลชมเชย ได้รับเกียรติบัตร และทุนการศึกษา จำนวน 500 บาท
สำหรับผู้ที่ได้รับรางวัลการประกวดวาดภาพระดับประถมศึกษา ดังนี้ รางวัลชนะเลิศ เด็กชายสุรพงษ์ โลนะลุน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านหนองคู อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 เด็กชายชญานนท์ เฟื่องฝอย นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสุรินทร์ รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 - เด็กหญิงทัศพร เทศแก้ว นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอนุบาลสุรินทร์ รางวัลชมเชย จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ เด็กหญิงปารมี แก้วประเสริฐ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอนุบาลสุรินทร์ เด็กหญิงวรินทร ทองเนตร นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านหนองคู อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์
ส่วนการประกวดเขียนเรียงความระดับมัธยมศึกษา ดังนี้ รางวัลชนะเลิศ นายพิชิตชัย ศรีจันทร์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนศีขรภูมิพิสัย อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 นายวุฒิชัย ปัญญาสูง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนห้วยจริงวิทยา อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 นางสาวทัศน์ลักษณ์ กระจายกลาง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสิรินธร จังหวัดสุรินทร์ รางวัลชมเชย จำนวน 3 รางวัล ได้แก่ นางสาวกุลธิดา แสงเมือง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบัวเชดวิทยา อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ นางสาวพรชิตา เผ่าพันธุ์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนศีขรภูมิพิสัย อำเภอศีขรภูมิจังหวัดสุรินทร์ นายพุฒิพงศ์ ตันติวงศ์โกสีย์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์
การประกวดเขียนเรียงความระดับอุดมศึกษา รางวัลชนะเลิศ นางสาววราภรณ์ ม่วงมิตร นักศึกษาชั้นปีที่ 5 คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 นางสาวน้ำฝน มั่นจิตร นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 นางสาวอัญมณี บุตรศรีเมือง นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ รางวัลชมเชย จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ นางสาวเต็มฤดี บุญสม นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ นางสาวลักขณา ผมหอม นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง วิทยาลัยการอาชีพสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์
สำหรับผู้ที่ได้รับรางวัลการประกวดวาดภาพระดับประถมศึกษา ดังนี้ รางวัลชนะเลิศ เด็กชายสุรพงษ์ โลนะลุน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านหนองคู อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 เด็กชายชญานนท์ เฟื่องฝอย นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสุรินทร์ รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 - เด็กหญิงทัศพร เทศแก้ว นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอนุบาลสุรินทร์ รางวัลชมเชย จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ เด็กหญิงปารมี แก้วประเสริฐ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอนุบาลสุรินทร์ เด็กหญิงวรินทร ทองเนตร นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านหนองคู อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์
ส่วนการประกวดเขียนเรียงความระดับมัธยมศึกษา ดังนี้ รางวัลชนะเลิศ นายพิชิตชัย ศรีจันทร์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนศีขรภูมิพิสัย อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 นายวุฒิชัย ปัญญาสูง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนห้วยจริงวิทยา อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 นางสาวทัศน์ลักษณ์ กระจายกลาง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสิรินธร จังหวัดสุรินทร์ รางวัลชมเชย จำนวน 3 รางวัล ได้แก่ นางสาวกุลธิดา แสงเมือง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบัวเชดวิทยา อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ นางสาวพรชิตา เผ่าพันธุ์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนศีขรภูมิพิสัย อำเภอศีขรภูมิจังหวัดสุรินทร์ นายพุฒิพงศ์ ตันติวงศ์โกสีย์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์
การประกวดเขียนเรียงความระดับอุดมศึกษา รางวัลชนะเลิศ นางสาววราภรณ์ ม่วงมิตร นักศึกษาชั้นปีที่ 5 คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 นางสาวน้ำฝน มั่นจิตร นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 นางสาวอัญมณี บุตรศรีเมือง นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ รางวัลชมเชย จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ นางสาวเต็มฤดี บุญสม นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ นางสาวลักขณา ผมหอม นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง วิทยาลัยการอาชีพสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์
กิติวรรณ มณีล้ำ / ข่าว
จ.สุรินทร์ มอบรางวัลแก่เกษตรกรผู้ชนะการประกวดข้าวหอมมะลิ ระดับจังหวัด
จังหวัดสุรินทร์ มอบประกาศเกียรติบัตรและเงินรางวัล แก่เกษตรกรผู้ชนะการประกวดข้าวหอมมะลิจังหวัดสุรินทร์ ปีการเพาะปลูก 2556/2557
วันนี้ (30 ม.ค.57) นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้มอบประกาศเกียรติบัตรและเงินรางวัล แก่เกษตรกรผู้ชนะการประกวดข้าวหอมมะลิจังหวัดสุรินทร์ ปีการเพาะปลูก 2556/2557 ซึ่งจังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับกรมการค้าภายใน ได้ดำเนินการจัดประกวดข้าวหอมมะลิ เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรและกลุ่มเกษตรกรหรือสหกรณ์การเกษตรที่มีศักยภาพในการผลิตข้าวหอมมะลิได้พัฒนาคุณภาพข้าวหอมมะลิให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ทั้งด้านการผลิตและตลาดเพื่อการส่งออก และช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรและเศรษฐกิจของประเทศโดยส่วนรวม โดยมีผลการประกวด ดังนี้ประเภท เกษตรกรรายบุคคล รางวัลที่ 1 เงินสด 5,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร ได้แก่ นายประเจน โสภาชัย เกษตรกรหมู่ที่ 3 ตำบลเมืองบัว อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ รางวัลที่ 2 เงินสด 4,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร ได้แก่ นางสาวจันทร์เพ็ญ ศรีสุข เกษตรกรหมู่ที่ 23 ตำบลชุมพลบุรี อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ รางวัลที่ 3 เงินสด 3,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร ได้แก่ นายเสมือน คำตาล เกษตรกรหมู่ที่ 3 ตำบลเขวาสินรินทร์ อำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ รางวัลที่ชมเชย เงินสด 1,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร ได้แก่ นายคำ ฉวีนวล เกษตรกร หมู่ที่ 17 ตำบลนาหนองไผ่ อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ ส่วนประเภท กลุ่มเกษตรกร รางวัลที่ 1 เงินสด 6,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร ได้แก่ ศูนย์ข้าวชุมชนบ้านสระขุด เลขที่ 134 หมู่ที่ 1 ตำบลสระขุด อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์
วันนี้ (30 ม.ค.57) นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้มอบประกาศเกียรติบัตรและเงินรางวัล แก่เกษตรกรผู้ชนะการประกวดข้าวหอมมะลิจังหวัดสุรินทร์ ปีการเพาะปลูก 2556/2557 ซึ่งจังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับกรมการค้าภายใน ได้ดำเนินการจัดประกวดข้าวหอมมะลิ เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรและกลุ่มเกษตรกรหรือสหกรณ์การเกษตรที่มีศักยภาพในการผลิตข้าวหอมมะลิได้พัฒนาคุณภาพข้าวหอมมะลิให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ทั้งด้านการผลิตและตลาดเพื่อการส่งออก และช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรและเศรษฐกิจของประเทศโดยส่วนรวม โดยมีผลการประกวด ดังนี้ประเภท เกษตรกรรายบุคคล รางวัลที่ 1 เงินสด 5,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร ได้แก่ นายประเจน โสภาชัย เกษตรกรหมู่ที่ 3 ตำบลเมืองบัว อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ รางวัลที่ 2 เงินสด 4,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร ได้แก่ นางสาวจันทร์เพ็ญ ศรีสุข เกษตรกรหมู่ที่ 23 ตำบลชุมพลบุรี อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ รางวัลที่ 3 เงินสด 3,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร ได้แก่ นายเสมือน คำตาล เกษตรกรหมู่ที่ 3 ตำบลเขวาสินรินทร์ อำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ รางวัลที่ชมเชย เงินสด 1,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร ได้แก่ นายคำ ฉวีนวล เกษตรกร หมู่ที่ 17 ตำบลนาหนองไผ่ อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ ส่วนประเภท กลุ่มเกษตรกร รางวัลที่ 1 เงินสด 6,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร ได้แก่ ศูนย์ข้าวชุมชนบ้านสระขุด เลขที่ 134 หมู่ที่ 1 ตำบลสระขุด อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์
กิติวรรณ มณีล้ำ / ข่าว
สำนักงานสภาเกษตรจังหวัดสุรินทร์ จัดประชุมระดมความคิดผู้แทนเกษตรระดับหมู่บ้าน/ตำบล
สำนักงานสภาเกษตรจังหวัดสุรินทร์จัดประชุมระดมความคิดผู้แทนเกษตรระดับหมู่บ้าน/ตำบล นางภัทราภร คชพันธ์ หัวหน้าฝ่ายอำนวยการ รักษาการแทน หัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า สภาเกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ จัดประชุมระดมความคิดผู้แทนเกษตรกรระดับหมู่บ้าน/ตำบล และผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนของอำเภอโนนนารายณ์ จัดทำแผนพัฒนาเกษตรกรรมระดับตำบลจากล่างสู่บนเพื่อเชื่อมโยงเป็นแผนพัฒนาเกษตรกรรมระดับอำเภอและจังหวัด นายสมพร นามรักษ์ สมาชิกสภาเกษตรจังหวัดสุรินทร์ ในฐานะปรานผู้ปฏิบัติหน้าที่สภาเครือข่ายเกษตรอำเภอโนนนารายณ์ กล่าวว่าตามที่พระราชบัญญัติสภาเกษตรกรแห่งชาติ พ.ศ. 2553 ได้บัญญัติขึ้นเพื่อให้บรรลุเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในการสนับสนุนสิทธิและการมีส่วนร่วมของเกษตรกรในการกำหนดนโยบายและการวางแผนพัฒนาเกษตรกรรมอย่างเป็นระบบ เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคาและความมั่นคงในอาชีพเกษตรกร เพิ่มศักยภาพและยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรอย่างแท้จริง กำหนดให้สภาเกษตรกรแห่งชาติจัดทำแผนแม่บทเพื่อพัฒนาเกษตรกรรมโดยกระบวนการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน เป็นการเชื่อมโยงแผนพัฒนาจากล่างสู่บนที่เกิดจากการสะท้อนปัญหาและความต้องการของเกษตรกรอย่างแท้จริงตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน ตำบล และจังหวัดทั่วประเทศ โดยสาระสำคัญของแผนพัฒนาเกษตรกรรมอย่างน้อยจะครอบคลุมมิติประเด็นปัญหาและความต้องการในการพัฒนาภาคเกษตรกรรมด้านต่างๆ ประกอบด้วย แผนงานด้านพัฒนาศักยภาพเกษตรกรและองค์กรเกษตรตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม คุ้มครองสิทธิเกษตรกร ให้มีกรรมสิทธ์ในที่ดินเพื่อการปะกอบอาชีพ เกษตรกรรม การพัฒนาและแก้ไขปัญหาดิน การสร้างความเป็นธรรมด้านราคาผลผลิตทางการเกษตร การพัฒนาแหล่งน้ำและชลประทานเพื่อเกษตรกรรม การอนุรักษ์ การฟื้นฟู การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน การค้นคว้า วิจัยพัฒนาภูมิปัญญา นวัตกรรม เทคโนโลยีที่เหมาะสม การถ่ายทอดองค์ความรู้ การเสนอแนะแนวทางการเข้าสู่แหล่งเงินทุนและการแก้ไขปัญหาของเกษตรกร การเพิ่มสิทธิและบทบาทของเกษตรกร การสร้างเครือข่ายองค์กรเกษตรกร การเชื่อมโยงและความร่วมมือด้านการผลิต การแปรรูป และการตลาด การสนับสนุนส่งเสริมการให้ศึกษาอบรม ถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกร และยุวเกษตรกร การจัดตั้งกองทุน และการปรับปรุงการบริหารจัดการกองทุนที่เกี่ยวกับการเกษตรที่มีอยู่ให้สามารถรองรับการช่วยเหลือเกษตรกร อย่างครบวงจรและลดความซ้ำซ้อน ในการนี้สภาเกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับคณะผู้ปฏิบัติงานเครือข่ายเกษตรกรอำเภอโนนนารายณ์ และสำนักสภาเกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ จึงได้กำหนดจัดประชุมผู้แทนเกษตรกรระดับหมู่บ้านทุกหมู่บ้าน และระดับตำบลทุกตำบล พร้อมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน เพื่อร่วมระดมความคิดและจัดทำแผนพัฒนาเกษตรกรรมระดับตำบลของอำเภอโนนนารายณ์ ในวันที่ 30 มกราคม 2557 เวลา 08.00-16.30 น. ณ หอประชุมอำเภอโนนนารายณ์ ดังนั้นจึงขอเชิญผู้แทนเกษตรกรระดับหมู่บ้านและทุกตำบลทุกท่านหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ระดับอำเภอที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนองค์กรเกษตรกร ศูนย์ปราชญ์ชาวบ้านศูนย์เรียนรู้ชุมชน วิสาหกิจชุมชน กลุ่มอาชีพต่างๆ เข้าประชุมตามกำหนดการข้างต้นโดยพร้อมเพรียงกัน
มนตรา รื่นกลิ่น สปชส.สร.ข่าว
อำเภอศรีณรงค์ ขอเชิญคู่รักคู่สมรส ร่วม “กิจกรรมการจดทะเบียนสมรส” ในวันแห่งความรัก ในวันที่ 14 ก.พ. นี้
อำเภอศรีณรงค์ ขอเชิญคู่รักคู่สมรส ร่วม "กิจกรรมการจดทะเบียนสมรส” ในวันแห่งความรัก (Valentine Day) ปี 2557 ในวันที่ 14 ก.พ. ที่จะมาถึงนี้
นายอารยันต์ ท่าใหญ่ นายอำเภอศรีณรงค์ กล่าวว่า อำเภอศรีณรงค์ ได้ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลศรีสุข กำหนดจัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวห้วยทับทัน และ กิจกรรมการจดทะเบียนสมรส ในวันแห่งความรัก (Valentine Day) ปี 2557 ในวันที่ 14 ก.พ. ที่จะมาถึงนี้ ณ ห้วยทับทัน ตำบลศรีสุข อำเภอศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ เพื่อที่จะประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวห้วยทับทัน ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของอำเภอศรีณรงค์ ให้รู้จักของนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป และส่งเสริมให้คู่สมรสมีการจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้สถาบันครอบครัวมีความมั่นคงยั่งยืน โดยครั้งนี้มีเป้าหมายจดทะเบียนสมรส จำนวน 29 คู่
สำหรับกิจกรรมในงาน ประกอบด้วยขบวนแห่ขันหมากตามศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวศรีณรงค์ พิธีบายศรีสู่ขวัญ การล่องเรือในลำห้วยทับทัน สายน้ำแห่งชีวิต ชมเสนห์แห่งสายน้ำอันงดงาม และการเลี้ยงฉลองคู่สมรสกับแขกผู้มีเกียรติ ณ กุดหวาย
ทั้งนี้ คู่รักหรือคู่สมรสคู่ใดสนใจร่วมงาน กิจกรรมการจดทะเบียนสมรส ในวันแห่งความรัก (Valentine Day) ปี 2557 ในวันที่ 14 ก.พ. ที่จะมาถึงนี้ สามารถยื่นใบสมัครได้ที่ ที่ว่าการอำเภอศรีณรงค์ และองค์การบริหารส่วนตำบลศรีสุข ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557 ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น. เว้นวันหยุดราชการ
นายอารยันต์ ท่าใหญ่ นายอำเภอศรีณรงค์ กล่าวว่า อำเภอศรีณรงค์ ได้ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลศรีสุข กำหนดจัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวห้วยทับทัน และ กิจกรรมการจดทะเบียนสมรส ในวันแห่งความรัก (Valentine Day) ปี 2557 ในวันที่ 14 ก.พ. ที่จะมาถึงนี้ ณ ห้วยทับทัน ตำบลศรีสุข อำเภอศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ เพื่อที่จะประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวห้วยทับทัน ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของอำเภอศรีณรงค์ ให้รู้จักของนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป และส่งเสริมให้คู่สมรสมีการจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้สถาบันครอบครัวมีความมั่นคงยั่งยืน โดยครั้งนี้มีเป้าหมายจดทะเบียนสมรส จำนวน 29 คู่
สำหรับกิจกรรมในงาน ประกอบด้วยขบวนแห่ขันหมากตามศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวศรีณรงค์ พิธีบายศรีสู่ขวัญ การล่องเรือในลำห้วยทับทัน สายน้ำแห่งชีวิต ชมเสนห์แห่งสายน้ำอันงดงาม และการเลี้ยงฉลองคู่สมรสกับแขกผู้มีเกียรติ ณ กุดหวาย
ทั้งนี้ คู่รักหรือคู่สมรสคู่ใดสนใจร่วมงาน กิจกรรมการจดทะเบียนสมรส ในวันแห่งความรัก (Valentine Day) ปี 2557 ในวันที่ 14 ก.พ. ที่จะมาถึงนี้ สามารถยื่นใบสมัครได้ที่ ที่ว่าการอำเภอศรีณรงค์ และองค์การบริหารส่วนตำบลศรีสุข ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557 ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น. เว้นวันหยุดราชการ
สุวิทย์ เอี่ยมสอาด /ข่าว
จ.สุรินทร์ ขอเชิญทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ถวายเป็นพระราชกุศลสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายกในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ ๑๐๐ วัน
นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า จังหวัดสุรินทร์ ได้กำหนดจัดพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ถวายเป็นพระกุศลสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ ๕๐ วัน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๖ และในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ ๑๐๐ วัน ในวันศุกร์ที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๗ ณ วัดบูรพาราม พระอารามหลวงเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเมืองสุรินทร์จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดจึงขอเชิญชวนข้าราชการ พนักงานในสังกัด เข้าร่วมพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ถวายเป็นพระกุศลสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสครบวันสิ้นพระชนม์ ในวันพรุ่งนี้ ณ วัดบูรพาราม พระอารามหลวงเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเมืองสุรินทร์ เริ่มเวลา 07.00 น.
กิติวรรณ มณีล้ำ / ข่าว
กองทุนพัฒนาสตรีอำเภอลำดวน ติวเข้ม สมาชิกกลุ่มแม่บ้าน 5 กลุ่มสาขา
กองทุนพัฒนาสตรีอำเภอลำดวน จังหวัดสุรินทร์ นำกลุ่มแม่บ้านและตัวแทน เข้า ติวเข้ม 5 กลุ่มอาชีพ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ เสริมศักยภาพและนำไปประกอบอาชีพอย่างยั่งยืน
วันนี้ (30 ม.ค.57) ที่หอประชุมโรงพยาบาลอำเภอลำดวน อ.ลำดวน จ.สุรินทร์ นางรวงทอง สุภิษะ กรรมการกองทุนบทบาทสตรีจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยสมาชิกกองทุนบทบาทสตรีอำเภอลำดวน เข้ารับการอบรมกลุ่มอาชีพให้กับกลุ่มสมาชิกฯ ซึ่งมี จำนวน 5 กลุ่มอาชีพ อาทิ กลุ่มทำขนมครองแครง กลุ่มตำส้มตำ กลุ่มกล้วยบวชชี กลุ่มเศรษฐกิจพอเพียงและกลุ่มเตาเผาประหยัดพลังงาน ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาบทบาทสตรีให้มีศักยภาพและสามารถนำไปประกอบอาชีพ ซึ่งจะเป็นการพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน โดยมีกลุ่มแม่บ้านและตัวแทนหมู่บ้านต่างๆในเขตอำเภอลำดวน เข้ารับการอบรม จำนวน กว่า 200 คน นางรวงทอง สุภิษะ กำนันตำบลลำดวน และกรรมการกองทุนบทบาทสตรีจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายต้องการยกระดับและพัฒนาศักยภาพสตรีและองค์กรสตรี โดยได้จัดตั้ง กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ซึ่งเริ่มดำเนินการในปี 2555 เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาบทบาทสตรีให้มีศักยภาพและสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ไปแล้วนั้น ในส่วนของอำเภอลำดวน ได้นำเงินกองทุนดังกล่าวมาจัดฝึกอบรมให้กับกลุ่มแม่บ้าน จำนวน 5 กลุ่มอาชีพขึ้น
นางศิวพร แข็งกล้า อยู่บ้านเลขที่ 7 บ้านทำมือ หมู่10 ต.ลำดวน อ.เมือง จ.สุรินทร์ หัวหน้ากลุ่ม "จันทร์หอม”กล่าวว่า กลุ่มตนมีสมาชิก 10 คน ทำขนมครองแครงหลายชนิด มีหลายสูตร ปัจจุบันมีออเดอร์จาก กทม.และในเมืองสุรินทร์ ซึ่งเป็นร้านกาแฟ ในแต่ละวันทางกลุ่มจะใช้แป้งผสมกับ ส่วนผสมอื่นๆ ที่ทำไม่น้อยกว่า 20 กิโล/วัน โดยจะขายขนมถุงละ 20 บาท พร้อมกันนี้ทางกลุ่มยังประดิษฐ์ดอกไม้วิทยาศาสตร์ ได้จำหน่ายให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อทางอินเทอร์เน็ต
นายจำเริญ ชัยหาญ บ้านตะเคียน หมู่ที่1 ต.อู่โลก อ.ลำดวน จ.สุรินทร์ ผู้เคยผ่านการอบรมการทำเตาประหยัดพลังงานด้วยแกลบ จากหลายจังหวัด ได้มาเป็นวิทยากร เผยแพร่การใช้เตาประหยัดพลังงาน กล่าวว่า การทำเตาประหยัดด้วยแกลบ ลงทุนครั้งเดียวคุ้มค่า โดยการลงทุน ซื้อวัสดุอุปกรณ์ ทั้งสังกะสี ,ท่อเหล็ก 6 นี้ว, แบตเตอรรี 12โวลต์, พัดลม,ตระแกรงโรงสี, แกลบ แผ่นตั้งภาชนะ จะได้เตาขนาดกลาง ใช้งบประมาณประมาณ 2,500 บาท จะได้เตาคุณภาพที่ดีจำนวน 3 vyo
วันนี้ (30 ม.ค.57) ที่หอประชุมโรงพยาบาลอำเภอลำดวน อ.ลำดวน จ.สุรินทร์ นางรวงทอง สุภิษะ กรรมการกองทุนบทบาทสตรีจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยสมาชิกกองทุนบทบาทสตรีอำเภอลำดวน เข้ารับการอบรมกลุ่มอาชีพให้กับกลุ่มสมาชิกฯ ซึ่งมี จำนวน 5 กลุ่มอาชีพ อาทิ กลุ่มทำขนมครองแครง กลุ่มตำส้มตำ กลุ่มกล้วยบวชชี กลุ่มเศรษฐกิจพอเพียงและกลุ่มเตาเผาประหยัดพลังงาน ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาบทบาทสตรีให้มีศักยภาพและสามารถนำไปประกอบอาชีพ ซึ่งจะเป็นการพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน โดยมีกลุ่มแม่บ้านและตัวแทนหมู่บ้านต่างๆในเขตอำเภอลำดวน เข้ารับการอบรม จำนวน กว่า 200 คน นางรวงทอง สุภิษะ กำนันตำบลลำดวน และกรรมการกองทุนบทบาทสตรีจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายต้องการยกระดับและพัฒนาศักยภาพสตรีและองค์กรสตรี โดยได้จัดตั้ง กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ซึ่งเริ่มดำเนินการในปี 2555 เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาบทบาทสตรีให้มีศักยภาพและสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ไปแล้วนั้น ในส่วนของอำเภอลำดวน ได้นำเงินกองทุนดังกล่าวมาจัดฝึกอบรมให้กับกลุ่มแม่บ้าน จำนวน 5 กลุ่มอาชีพขึ้น
นางศิวพร แข็งกล้า อยู่บ้านเลขที่ 7 บ้านทำมือ หมู่10 ต.ลำดวน อ.เมือง จ.สุรินทร์ หัวหน้ากลุ่ม "จันทร์หอม”กล่าวว่า กลุ่มตนมีสมาชิก 10 คน ทำขนมครองแครงหลายชนิด มีหลายสูตร ปัจจุบันมีออเดอร์จาก กทม.และในเมืองสุรินทร์ ซึ่งเป็นร้านกาแฟ ในแต่ละวันทางกลุ่มจะใช้แป้งผสมกับ ส่วนผสมอื่นๆ ที่ทำไม่น้อยกว่า 20 กิโล/วัน โดยจะขายขนมถุงละ 20 บาท พร้อมกันนี้ทางกลุ่มยังประดิษฐ์ดอกไม้วิทยาศาสตร์ ได้จำหน่ายให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อทางอินเทอร์เน็ต
นายจำเริญ ชัยหาญ บ้านตะเคียน หมู่ที่1 ต.อู่โลก อ.ลำดวน จ.สุรินทร์ ผู้เคยผ่านการอบรมการทำเตาประหยัดพลังงานด้วยแกลบ จากหลายจังหวัด ได้มาเป็นวิทยากร เผยแพร่การใช้เตาประหยัดพลังงาน กล่าวว่า การทำเตาประหยัดด้วยแกลบ ลงทุนครั้งเดียวคุ้มค่า โดยการลงทุน ซื้อวัสดุอุปกรณ์ ทั้งสังกะสี ,ท่อเหล็ก 6 นี้ว, แบตเตอรรี 12โวลต์, พัดลม,ตระแกรงโรงสี, แกลบ แผ่นตั้งภาชนะ จะได้เตาขนาดกลาง ใช้งบประมาณประมาณ 2,500 บาท จะได้เตาคุณภาพที่ดีจำนวน 3 vyo
อุทัย มานาดี / รายงาน
อำเภอเมืองอำนาจเจริญจัดทำบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อเตรียมการเสือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป พ .ศ 2557
นายสมศักดิ์ แสนนิรัณย์ นายอำเภอเมืองอำนาจเจริญ กล่าวว่า ตามที่ได้มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ. ศ 2556 และกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2557 ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 นั้น เพื่อเตรียมการเสือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไปเป็นไปด้ายความเรียบร้อย บริสุทธิ์ ยุติธรรม ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถใช้บัตรประจำตัวประชาชนเป็นเอกสารยืนยันตัวบุคลเพื่อแสดงตนในการใช้สิทธิเลือกตั้ง อำเภอเมืองอำนาจเจริญ ได้เปิดให้บริการจัดทำบัตรประชาชนในวันเสาร์ตั้งแต่เวลา 08.00 น- 16.00 น. ณ สำนักงานทะเบียนอำเภอเมืองอำนาจเจริญ โดยเริ่มตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันเลือกตั้ง
จังหวัดอำนาจเจริญ เปิดฝึกอบรมหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง(อพป.) บ้านนาสีดา อำเภอชานุมาน
ที่วัดสุวรรณาราม บ้านนาสีดา ตำบลชานุมาน อำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมโครงการหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง หรือ อพป. เพื่อทบทวนความรู้ และพัฒนาศักยภาพของกรรมการหมู่บ้านให้มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับสถานการณ์บ้านเมืองที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยมีผู้เข้าอบรมจำนวน 50 คน สำหรับโครงการอาสาพัฒนาและป้องกันตนเองแห่งชาติ เป็นโครงการพัฒนาเสริมความมั่นคงที่มี พรบ. จัดระเบียบบริหารหมู่บ้าน อพป. พ.ศ. 2522 รองรับการดำเนินการ โดยมุ่งผลที่จะเกิดประโยชน์แก่ประชาชน คือ 1. ประชาชนยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขและมีบทบาทในการร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมแก้ไขปัญหาให้กับชุมชน 2. ประชาชนมีความรู้ทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม จิตวิทยา และการทหาร เพียงพอที่จะวิเคราะห์แก้ไขปัญหาพื้นฐานได้ และ 3. ประชาชนมีความสามารถที่จะบริหาร ปกครอง ป้องกัน หมู่บ้านของตนเองจากภัยคุกคามได้ชั่วระยะเวลาหนึ่งก่อนที่กำลังท้องถิ่นจะเข้าไปช่วยได้ทันเมื่อจำเป็นและพัฒนาตนเองให้มีฐานะทางเศรษฐกิจ สังคม ช่วยเหลือตนเอง นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า โครงการอาสาพัฒนาและป้องกันตนเองแห่งชาติ เป็นโครงการที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2518 จนถึงปัจจุบันและมีพระราชบัญญัติจัดระเบียบหมู่บ้าน อพป. พ.ศ. 2522 รองรับการดำเนินงานของหมู่บ้าน อพป. โดยเน้นการดำเนินการให้หมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเองเป็นเครื่องมือในการป้องกันตนเองในระดับหมู่บ้าน เน้นให้ประชาชนได้เข้าร่วมเป็นกำลังในการต่อต้านและป้องกันภัยคุกคามต่างๆ ด้วยการจัดระบบการรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ระบบการพัฒนาการบริการหมู่บ้าน และการบริหารงานหมู่บ้าน เพื่อสนับสนุนการป้องกันประเทศ ตามยุทธศาสตร์ความมั่นคงชายแดน เพื่อให้สมาชิกอาสาพัฒนาและป้องกันตนเองในหมู่บ้านมีความรู้ความสามารถในการป้องกันและพัฒนาหมู่บ้าน นำไปพัฒนาศักยภาพความรู้ความสามารถและเสริมสร้างประสบการณ์ อันนำไปสู่การปฏิบัติอย่างป็นรูปธรรมเกิดประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาหมู่บ้านและป้องกันหมู่บ้านต่อไป
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รับสมัครเข้าศึกษาต่อระดับบัณฑิตศึกษา ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557
รองศาสาตราจารย์ ดร.นภาพร อติวานิชยพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักบัณฑิตอาสาสมัคร เปิดเผยว่า ด้วยสำนักบัณฑิตอาสาสมัคร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กำหนดรับสมัครผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ทุกสาขา เข้าศึกษาต่อระดับบัณฑิตศึกษา หลักสูตรศิลปศาสตร์บัณฑิต (ชนบทศึกษาและการพัฒนา) โดยกำหนดรับสมัคร ตั้งแต่บัดนี้ – 28 กุมภาพันธ์ 2557 สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.gvc.tu.ac.th
สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดอุบลราชธานี จะจัดโครงการค่ายจริยธรรม รุ่นที่ 2 ในระหว่างวันที่ 30 มกราคม 2557 – 1 กุมภาพันธ์ 2557
อุบลราชธานี : นายมานิตย์ แก้วโสพรม ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดอุบลราชธานี กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม โดยกำหนดจัดโครงการค่ายจริยธรรม รุ่นที่ 2 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ในระหว่างวันที่ 30 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ 2557 ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนทั้งสิ้น 120 คน ประกอบด้วย ผู้เข้าร่วมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดและผู้ถูกคุมความประพฤติทุกภารกิจจำนวน 120 คน พิธีเปิดโครงการโดยนายอำเภอเมืองอุบลราชธานี
สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดอุบลราชธานี
กงสุลใหญ่ สปป.ลาว เยี่ยมชมกิจการ ม.อุบลฯ และพบปะนศ.ทุน
รองศาสตราจารย์นงนิตย์ ธีระวัฒนสุข อธิการบดี มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี พร้อมคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับ นายบุนสี วงบัวสี กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประจำจังหวัดขอนแก่น ในโอกาสเข้าเยี่ยมชมกิจการมหาวิทยาลัย ตลอดจนร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิชาการ และพบปะกับนักศึกษาทุน ซึ่งปัจจุบันมีนักศึกษาจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้รับทุนจากสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (สพร.) กระทรวงการต่างประเทศ จำนวน ๒๓ คน เข้าศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา ในคณะต่างๆ ทั้งนี้ นายบุนสี วงบัวสี ยังได้พบปะกับพูดคุยกับตัวแทนนักศึกษาทุนในครั้งนี้ด้วย ณ ห้องประชุมบุณฑริก ชั้น ๒ สำนักงานอธิการบดี เมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๕๗ ที่ผ่านมา
ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เน้นย้ำให้ประชาชน ไปใช้สิทธิ์ทางการเมืองเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557
วันที่ 30 มกราคม 2557 ที่ ห้องประชุมปทุมวรราช ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ชั้น 4 นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานการประชุม หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงาน และนายอำเภอ จังหวัดอุบลราชธานี ครั้งที่ 1/2557 ประจำเดือน มกราคม 2557
โดยในที่ประชุม ได้สั่งการ ให้หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอทุกอำเภอ รณรงค์ให้ประชาชน ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในวันอาทิตย์ ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ระหว่างเวลา 08.00-15.00 น. ซึ่งการเตรียมความพร้อมจังหวัดทุกจังหวัด ได้ประสานงานกับ ตำรวจภูธรในจังหวัด ตชด.22 เพื่อเตรียมแผน และจัดชุดเฉพาะกิจรักษาความปลอดภัยในการเลือกตั้ง ไม่ให้มีผู้ก่อความไม่สงบขัดขวางการเลือกตั้ง พร้อมเน้นย้ำให้ มีการจัดเวรยามรักษาความสงบเรียบร้อย โดยเฉพาะในสถานที่ราชการทุกแห่ง เนื่องจากเป็นสถานที่เก็บเอกสารทางราชการของประชาชน เป็นจำนวนมาก และให้ดำเนินการจัดการเลือกตั้งในพื้นที่ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยมากที่สุด
สำหรับ จังหวัดอุบลราชธานีมี 11 เขตเลือกตั้ง มีผู้ลงสมัครจาก 11 พรรคการเมือง จำนวน 39 คน และถูกตัดสิทธิ 1 ราย เนื่องจากขาดคุณสมบัติเพราะพ้นโทษไม่ครบตามกำหนดระยะเวลาที่ กกต.กำหนด มีหน่วยเลือกตั้ง 2,984 หน่วย ประชากรมีสิทธิลงคะแนน 1,306,038 คน
โดยในที่ประชุม ได้สั่งการ ให้หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอทุกอำเภอ รณรงค์ให้ประชาชน ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในวันอาทิตย์ ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ระหว่างเวลา 08.00-15.00 น. ซึ่งการเตรียมความพร้อมจังหวัดทุกจังหวัด ได้ประสานงานกับ ตำรวจภูธรในจังหวัด ตชด.22 เพื่อเตรียมแผน และจัดชุดเฉพาะกิจรักษาความปลอดภัยในการเลือกตั้ง ไม่ให้มีผู้ก่อความไม่สงบขัดขวางการเลือกตั้ง พร้อมเน้นย้ำให้ มีการจัดเวรยามรักษาความสงบเรียบร้อย โดยเฉพาะในสถานที่ราชการทุกแห่ง เนื่องจากเป็นสถานที่เก็บเอกสารทางราชการของประชาชน เป็นจำนวนมาก และให้ดำเนินการจัดการเลือกตั้งในพื้นที่ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยมากที่สุด
สำหรับ จังหวัดอุบลราชธานีมี 11 เขตเลือกตั้ง มีผู้ลงสมัครจาก 11 พรรคการเมือง จำนวน 39 คน และถูกตัดสิทธิ 1 ราย เนื่องจากขาดคุณสมบัติเพราะพ้นโทษไม่ครบตามกำหนดระยะเวลาที่ กกต.กำหนด มีหน่วยเลือกตั้ง 2,984 หน่วย ประชากรมีสิทธิลงคะแนน 1,306,038 คน
อุบลราชธานี จัดประชุมหัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงาน นายอำเภอ และคณะกรมการจังหวัดอุบลราชธานี ประจำเดือน มกราคม 2557
วันนี้ (30 ม.ค. 57) ที่ห้องประชุมปทุมวรราช ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นายวันชัย สุทธิวรชัย เป็นประธานการประชุม หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงาน นายอำเภอ และคณะกรมการจังหวัดอุบลราชธานี ครั้งที่ 1/2557 ประจำเดือน มกราคม 2557
โดยก่อนการประชุม ได้มอบเงินรายได้จากการจัดประกวดธิดาท้องถิ่นอุบลราชธานี ประจำปี 2557 เพื่อหารายได้สนับสนุนกิจการเหล่ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 600,000.- บาท มอบรางวัลสลากกาชาดสมนาคุณ ในงานปีใหม่และกาชาด ประจำปี 2557 จำนวน 3 รางวัล มอบโล่รางวัลการประกวดปลากัดสวยงาม 2 ประเภท คือประเภทปลากัด ครีบสั้น หางเดี่ยว รวมทุกประเภทสี และประเภทปลากัด ครีบยาว หางยาว รวมทุกประเภทสี จำนวน 6 รางวัล มอบถ้วยรางวัลการแข่งขันกีฬาระหว่างหน่วยงาน เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี 2556 จำนวน 9 หน่วยงาน มอบเกียรติบัตรโครงการประกวดวาดภาพและประกวดเขียนเรียงความในหัวข้อ "จังหวัดของฉันในปี 2020” จำนวน 12 รางวัล เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ผู้เข้าร่วมการประกวด
โดยก่อนการประชุม ได้มอบเงินรายได้จากการจัดประกวดธิดาท้องถิ่นอุบลราชธานี ประจำปี 2557 เพื่อหารายได้สนับสนุนกิจการเหล่ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 600,000.- บาท มอบรางวัลสลากกาชาดสมนาคุณ ในงานปีใหม่และกาชาด ประจำปี 2557 จำนวน 3 รางวัล มอบโล่รางวัลการประกวดปลากัดสวยงาม 2 ประเภท คือประเภทปลากัด ครีบสั้น หางเดี่ยว รวมทุกประเภทสี และประเภทปลากัด ครีบยาว หางยาว รวมทุกประเภทสี จำนวน 6 รางวัล มอบถ้วยรางวัลการแข่งขันกีฬาระหว่างหน่วยงาน เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี 2556 จำนวน 9 หน่วยงาน มอบเกียรติบัตรโครงการประกวดวาดภาพและประกวดเขียนเรียงความในหัวข้อ "จังหวัดของฉันในปี 2020” จำนวน 12 รางวัล เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ผู้เข้าร่วมการประกวด
ผวจ.ศรีสะเกษ ติดสติ๊กเกอร์ประชาสัมพันธ์งานกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 30 ศรีสะเกษเกมส์
ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ รุกประชาสัมพันธ์นำหัวหน้าราชการติดสติ๊กเกอร์รถยนต์ส่วนราชการ
วันที่ 30 มกราคม 2557 เวลา 08.45 น. ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายสนิท ขาวสอาด นายวิศิษฐ คูรัตนเวช รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นำหัวหน้าส่วนราชการ ติดสต็กเกอร์ให้รถยนต์ส่วนราชการ เพื่อประชาสัมพันธ์งานกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 30 ศรีสะเกษเกมส์ โดยมีส่วนราชการ นำรถยนต์ตู้ มาร่วมติดสติ๊กเกอร์เป็นจำนวนมาก
จังหวัดศรีสะเกษจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 30 ศรีสะเกษเกมส์ ระหว่างวันที่ 13 - 23 มีนาคม 2557 นี้
วันที่ 30 มกราคม 2557 เวลา 08.45 น. ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายสนิท ขาวสอาด นายวิศิษฐ คูรัตนเวช รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นำหัวหน้าส่วนราชการ ติดสต็กเกอร์ให้รถยนต์ส่วนราชการ เพื่อประชาสัมพันธ์งานกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 30 ศรีสะเกษเกมส์ โดยมีส่วนราชการ นำรถยนต์ตู้ มาร่วมติดสติ๊กเกอร์เป็นจำนวนมาก
จังหวัดศรีสะเกษจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 30 ศรีสะเกษเกมส์ ระหว่างวันที่ 13 - 23 มีนาคม 2557 นี้
ฉัตรชัย พรหมมาศ/ข่าว/พิมพ์
เทศบาลเมืองกันทรลักษ์ รับรางวัลขวัญใจมหาชน คะแนนโหวตอันดับ 1 ของประเทศ จากรายการ “ร้อยมือสร้างเมือง” ช่อง 9 อสมท.
เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2557 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ นายวีระพล จักขุพันธ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองกันทรลักษ์ ได้นำน้ำสมุนไพรจากโครงการชุมชนมุ่งสู่สุขภาพดีวิถีพอเพียง มอบให้แก่นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์โครงการชุมชนมุ่งสู่สุขภาพดีวิถีพอเพียง ซึ่งเทศบาลเมืองกันทรลักษ์ รับรางวัลขวัญใจมหาชน คะแนนโหวตอันดับ 1 ของประเทศ จากรายการ "ร้อยมือสร้างเมือง” ช่อง 9 อสมท.
นายวีระพล จักขุพันธ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองกันทรลักษ์ กล่าวว่า จากการที่เทศบาลเมืองกันทรลักษ์ ได้เข้าร่วมโครงการพัฒนาเมือง โดยจัดทำโครงการชุมชนมุ่งสู่สุขภาพดีวิถีพอเพียง โดยได้รับอนุมัติงบประมาณก่อสร้างอาคารอบสมุนไพร จากกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จำนวน 2,000,000 บาท และได้เข้าร่วมแข่งขันในรายการร้อยมือสร้างเมือง ทางช่อง 9 อสมท. ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ของประเทศ รับเงินรางวัล 500,000 บาท และผลการโหวตคะแนนขวัญใจมหาชนเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ได้รับเงินรางวัลสนับสนุนโครงการอีก 1,000,000 บาท ขอขอบพระคุณผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ช่วยประชาสัมพันธ์โครงการให้ประชาชนชาวศรีสะเกษ ได้มีส่วนร่วมโหวตคะแนน จนมีผลให้โครงการดังกล่าวได้รับรางวัล ซึ่งจะได้นำรางวัลที่ได้มาร่วมสนับสนุนสร้างอาคารอบสมุนไพรตามวัตถุประสงค์ของโครงการ เพื่อพี่น้องชาวชุมชนตำบลหนองหญ้าลาด และชุมชนใกล้เคียงจะได้ร่วมกันใช้ประโยชน์ต่อไป
นายวีระพล จักขุพันธ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองกันทรลักษ์ กล่าวว่า จากการที่เทศบาลเมืองกันทรลักษ์ ได้เข้าร่วมโครงการพัฒนาเมือง โดยจัดทำโครงการชุมชนมุ่งสู่สุขภาพดีวิถีพอเพียง โดยได้รับอนุมัติงบประมาณก่อสร้างอาคารอบสมุนไพร จากกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จำนวน 2,000,000 บาท และได้เข้าร่วมแข่งขันในรายการร้อยมือสร้างเมือง ทางช่อง 9 อสมท. ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ของประเทศ รับเงินรางวัล 500,000 บาท และผลการโหวตคะแนนขวัญใจมหาชนเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ได้รับเงินรางวัลสนับสนุนโครงการอีก 1,000,000 บาท ขอขอบพระคุณผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ช่วยประชาสัมพันธ์โครงการให้ประชาชนชาวศรีสะเกษ ได้มีส่วนร่วมโหวตคะแนน จนมีผลให้โครงการดังกล่าวได้รับรางวัล ซึ่งจะได้นำรางวัลที่ได้มาร่วมสนับสนุนสร้างอาคารอบสมุนไพรตามวัตถุประสงค์ของโครงการ เพื่อพี่น้องชาวชุมชนตำบลหนองหญ้าลาด และชุมชนใกล้เคียงจะได้ร่วมกันใช้ประโยชน์ต่อไป
สมกมล คงอาชวะ/ข่าว/พิมพ์
มอบชุดนักเรียนพระราชทานที่ยโสธร
ประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ประจำจังหวัดยโสธรมอบเครื่องแบบนักเรียนพระราชทาน แก่เด็กนักเรียน ที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 28 จังหวัดยโสธร นายนิรันดร์ สมสมาน รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน มอบเครื่องแบบนักเรียนพระราชทานแก่เด็กนักเรียน จำนวน 825 คน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 28 จังหวัดยโสธร จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2537 เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเถลิงถวัลย์ราชสมบัติเป็นปีที่ 50 โดยกระทรวงศึกษาธิการร่วมกับ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ รับนักเรียนที่ยากไร้ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมเข้าเรียน ตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยจัดการศึกษาแบบการศึกษาสงเคราะห์ ปัจจุบันมีนักเด็กเรียนทั้งสิ้น 825 คน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยในพสกนิกร โดยเฉพาะนักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 28 ที่เป็นนักเรียนยากไร้ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม จึงได้พระราชทานเครื่องแบบนักเรียนมามอบให้กับเด็กนักเรียนในวันนี้
พัฒนาชุมชนจังหวัดมุกดาหาร ประกาศผลการประกวดร้านนิทรรศการและผลงานส่วนราชการ งานกาชาดและงานของดีจังหวัดมุกดาหาร ประจำปี ๒๕๕๗
นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า ตามที่ จังหวัดมุกดาหารได้เชิญชวนให้ส่วนราชการ เข้าร่วมการออกร้านนิทรรศการและผลงานส่วนราชการในงานกาชาดและงานของดีจังหวัดมุกดาหาร ประจำปี ๒๕๕๗ ระหว่างวันที่ ๙ – ๑๗ มกราคม ๒๕๕๗ และได้มีการจัดกิจกรรมการประกวดร้านนิทรรศการและผลงานส่วนราชการ โดยแบ่งออกเป็น ๒ ประเภท คือ ร้านนิทรรศการของส่วนราชการระดับจังหวัด และร้านนิทรรศการของส่วนราชการระดับอำเภอ ที่ผ่านมานั้น
ผลการประกวดร้านนิทรรศการและผลงานส่วนราชการ งานกาชาดและงานของดีจังหวัดมุกดาหาร ประจำปี ๒๕๕๗ ประเภทร้านนิทรรศการของส่วนราชการระดับจังหวัด ได้แก่ รางวัลชนะเลิศ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ เทศบาลเมืองมุกดาหาร รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดมุกดาหาร ประเภทร้านนิทรรศการของส่วนราชการระดับอำเภอ ได้แก่ รางวัลชนะเลิศ อำเภอดงหลวง รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ อำเภอหนองสูง รางวัลชนะเลิศอันดับ ๒ อำเภอเมืองมุกดาหาร โดยจะมอบรางวัลให้ส่วนราชการที่ชนะการประกวดในวันประชุมหัวหน้าส่วนราชการ ประจำเดือนมกราคม ในวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๕๗ เวลา ๐๙.๓๐ น. ห้องประชุม ๒๐๕ ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร
ผลการประกวดร้านนิทรรศการและผลงานส่วนราชการ งานกาชาดและงานของดีจังหวัดมุกดาหาร ประจำปี ๒๕๕๗ ประเภทร้านนิทรรศการของส่วนราชการระดับจังหวัด ได้แก่ รางวัลชนะเลิศ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ เทศบาลเมืองมุกดาหาร รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดมุกดาหาร ประเภทร้านนิทรรศการของส่วนราชการระดับอำเภอ ได้แก่ รางวัลชนะเลิศ อำเภอดงหลวง รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ อำเภอหนองสูง รางวัลชนะเลิศอันดับ ๒ อำเภอเมืองมุกดาหาร โดยจะมอบรางวัลให้ส่วนราชการที่ชนะการประกวดในวันประชุมหัวหน้าส่วนราชการ ประจำเดือนมกราคม ในวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๕๗ เวลา ๐๙.๓๐ น. ห้องประชุม ๒๐๕ ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร
สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
สาธารณสุข จังหวัดมุกดาหาร ให้คำแนะนำพี่น้องประชาชน เรื่องการป้องกันโรคไข้หวัดนกในช่วงเทศกาลตรุษจีน
นายแพทย์จิณณพิภัทร ชูปัญญา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า ในโอกาสเทศกาลตรุษจีนช่วงเดือนมกราคม ๒๕๕๗ ชาวไทยเชื้อสายจีนจำนวนมากจัดพิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษ ซึ่ง เป็ด ไก่ เป็นเนื้อสัตว์ที่นิยมนำมาปรุงเป็นของเซ่นไหว้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้ระมัดระวังในการเลือกซื้อ เนื้อไก่ เป็ด และไข่ไก่ ไข่เป็ด ที่มีขายอยู่ตามท้องตลาดถือว่ามีความปลอดภัย สามารถบริโภคได้ตามปกติ แต่ต้องปรุงให้สุกก่อนรับประทาน งดการรับประทานเนื้อไก่ เป็ดกึ่งสุกกึ่งดิบ สำหรับไก่ เป็ดที่ประชาชนเตรียมไว้ใช้ในพิธีเซ่นไว้ในช่วงตรุษจีน เนื่องจากมักนิยมต้มแบบไม่สุกมากนัก ดังนั้นก่อนจะนำมารับประทานจึงควรนำมาปรุงให้สุกดีอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ผู้ประกอบอาหาร ทั้งเพื่อการจำหน่ายและแม่บ้านที่เตรียมอาหารไว้ในครัวเรือน ควรเลือกซื้อไก่ เป็ดสดที่ไม่มีลักษณะบ่งชี้ว่าอาจตายด้วยโรคติดเชื้อ เช่น เนื้อมีสีคล้ำ มีจุดเลือดออก สำหรับไข่ควรเลือกฟองที่ดูสดใหม่และไม่มีมูลไก่ติดเปื้อนที่เปลือกไข่ ก่อนปรุงควรนำมาล้างให้สะอาดก่อน ไม่ใช้มือที่เปื้อนมาจับต้อง จมูก ตาและปาก และมั่นล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจับต้องเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์และเปลือกไข่ที่มีมูลสัตว์เปื้อน แยกเขียงที่หั่นอาหารที่ปรุงสุกแล้ว หรือผัก ผลไม้ โดยเฉพาะไม่ใช้เขียงเดียวกัน เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้บริโภคและผู้จำหน่าย
ทั้งนี้ผู้ประกอบอาหาร ทั้งเพื่อการจำหน่ายและแม่บ้านที่เตรียมอาหารไว้ในครัวเรือน ควรเลือกซื้อไก่ เป็ดสดที่ไม่มีลักษณะบ่งชี้ว่าอาจตายด้วยโรคติดเชื้อ เช่น เนื้อมีสีคล้ำ มีจุดเลือดออก สำหรับไข่ควรเลือกฟองที่ดูสดใหม่และไม่มีมูลไก่ติดเปื้อนที่เปลือกไข่ ก่อนปรุงควรนำมาล้างให้สะอาดก่อน ไม่ใช้มือที่เปื้อนมาจับต้อง จมูก ตาและปาก และมั่นล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจับต้องเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์และเปลือกไข่ที่มีมูลสัตว์เปื้อน แยกเขียงที่หั่นอาหารที่ปรุงสุกแล้ว หรือผัก ผลไม้ โดยเฉพาะไม่ใช้เขียงเดียวกัน เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้บริโภคและผู้จำหน่าย
สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
จังหวัดมุกดาหารจัดประชุมหัวหน้าส่วนราชการประจำเดือนมกราคม ๒๕๕๗ (กรมการจังหวัด)
วันนี้ (๓๐ ม.ค.๕๗) เวลา ๐๙.๓๐ น. ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการจังหวัด (กรมการจังหวัด) ประจำเดือนมกราคม ๒๕๕๗ เพื่อรับทราบผลการดำเนินงาน ปัญหาอุปสรรค ของการดำเนินงานของส่วนราชการ ซึ่งแต่ละส่วนราชการได้นำเสนอผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องตามภารกิจ เป็นไปตามวาระการประชุม
ทั้งนี้ พิธีการก่อนการปะชุม สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดได้มอบรางวัลการประกวดร้านนิทรรศการส่วนราชการ งานกาชาดและงานของดีจังหวัดมุกดาหาร ประจำปี ๒๕๕๗ มอบรางวัลเกียรติคุณและประกาศนียบัตรการประกวดผลการดำเนินงานโครงการสายใยรักแห่งครอบครัวดีเด่น ประจำปี ๒๕๕๖ ตามแผนงานบริหารจังหวัดและกลุ่มจังหวัด โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดมุกดาหาร พิธีมอบเกียรติบัตรแก่อำเภอที่มีผลการปฏิบัติงานลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุของประชาชนเป็นศูนย์ ในการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๗ โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมุกดาหาร และมอบเครื่องหมายมาตรฐานฝีมือแรงงาน โดยศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดมุกดาหาร
ภายหลังการประชุม ผู้ว่าราชการจังหวัดมกดาหาร ได้เชิญชวนผู้เข้าร่วมประชุมการมการจังหวัด ร่วมพิธีเปิดงานมหกรรมตลาดผักปลอดภัย (ผักพื้นบ้านอาหารพื้นเมือง) สู่ประตูอินโดจีน จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งสำนักงานเกษตรจังหวัดมุกดาหาร ได้นำร่องเป็นครั้งแรกและจะดำเนินการต่อไปในทุกวันประชุมประจำเดือนกรมการจังหวัด ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร
ทั้งนี้ พิธีการก่อนการปะชุม สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดได้มอบรางวัลการประกวดร้านนิทรรศการส่วนราชการ งานกาชาดและงานของดีจังหวัดมุกดาหาร ประจำปี ๒๕๕๗ มอบรางวัลเกียรติคุณและประกาศนียบัตรการประกวดผลการดำเนินงานโครงการสายใยรักแห่งครอบครัวดีเด่น ประจำปี ๒๕๕๖ ตามแผนงานบริหารจังหวัดและกลุ่มจังหวัด โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดมุกดาหาร พิธีมอบเกียรติบัตรแก่อำเภอที่มีผลการปฏิบัติงานลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุของประชาชนเป็นศูนย์ ในการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๗ โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมุกดาหาร และมอบเครื่องหมายมาตรฐานฝีมือแรงงาน โดยศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดมุกดาหาร
ภายหลังการประชุม ผู้ว่าราชการจังหวัดมกดาหาร ได้เชิญชวนผู้เข้าร่วมประชุมการมการจังหวัด ร่วมพิธีเปิดงานมหกรรมตลาดผักปลอดภัย (ผักพื้นบ้านอาหารพื้นเมือง) สู่ประตูอินโดจีน จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งสำนักงานเกษตรจังหวัดมุกดาหาร ได้นำร่องเป็นครั้งแรกและจะดำเนินการต่อไปในทุกวันประชุมประจำเดือนกรมการจังหวัด ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร
สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)