วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ประธานกรรมการมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชตรวจเยี่ยม โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม

ประธานกรรมการมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชตรวจเยี่ยม  โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม  เพื่อให้คณะกรรมการมูลนิธิฯ  และผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุขได้เห็นสภาพความเป็นจริงและติดตามผลการปฏิบัติงานของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช

ศาตราจารย์ ธานินทร์  กรัยวิเชียร  องคมนตรี ประธานกรรมการมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชและคณะกรรมการมูลนิธิฯ  ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม  เพื่อสนองพระราชดำริและพระราโชบาย  ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ  สยามมกุฎราชกุมาร  องค์นายกิตติมศักดิ์  ในการพัฒนาโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช  และเพื่อสร้างเครือข่ายในการประสานงานพัฒนาโรงพยาบาล  ช่วยแก้ปัญหา  และเป็นขวัญกำลังใจในการส่งเสริมการพัฒนาโรงพยาบาลพระยุพราชทุกแห่งสู่มาตรฐานสากล  โดยได้ร่วมประชุมกับคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม  จากนั้นมอบเข็มทองพระนามาภิไธยย่อ ม.ว.ก. แก่ผู้บริจาคทุนทรัพย์ให้โรงพยาบาล 2 ราย  มอบถุงของขวัญพระราชทานแก่ผู้ป่วยในชาย  ประกอบพิธีเปิดอาคารศาลาพักญาติเทิดพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ  สยามมกุฎราชกุมาร  60 พรรษา  และรับมอบรถพยาบาลฉุกเฉิน 1 คัน

ศาตราจารย์  ธานินทร์ กรัยวิเชียร  กล่าวว่า  โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม  มีการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง  โดยให้ตระหนักในหน้าที่ให้บริการนอกเหนือจากโรคต่างๆแล้วยังเน้นให้บริการเรื่องการตั้งครรภ์ไม่พร้อม   ให้คำแนะนำโรงพยาบาลจัดห้องสมุด  เก็บวัสดุที่มีคุณค่าควรแก่การศึกษาไว้  ปรับแต่งภูมิทัศน์ให้สวยงามตั้งแต่ถนนทางเข้าโรงพยาบาล  จัดให้มีการประกวดส้วมสะอาดในโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชทุกแห่ง  เพื่อลดการติดต่อของโรคให้น้อยลง  

จังหวัดสุรินทร์ มีข้าราชการตำรวจได้รับคำสั่งย้ายมาดำรงตำแหน่งใหม่เพียบ

นายณัฐพงษ์  สงวนจิตร    สงวนจิตร หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ในช่วงนี้จังหวัดสุรินทร์ มีข้าราชการย้ายมาดำรงตำแหน่งในจังหวัดสุรินทร์ เป็นจำนวนมาก เฉพาะในเดือนกุมภาพันธ์มีผู้ย้ายมาดำรงตำแหน่งในจังหวัดสุรินทร์ ดังนี้ 1. พ.ต.ท. ทวนทอง ถิตย์ฉาย สารวัตรด่านตรวจคนเข้าเมืองกาบเชิง ได้รับการแต่งตั้งจาก รองสารวัตรด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดอุบลราชธานี

2. พ.ต.อ พันธุ์ทิพย์ จิระสวัสดิ์พงศ์ ผกก.สภ.ปราสาท ย้ายมาจาก ผกก.สภ.กู่แก้ว จังหวัดอุดรธานี

3. พ.ต.อ. ทศพร จิเนราวัต ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์  ย้ายมาจาก ผกก.สภ.หนองหาน จังกวัดอุดรธานี

4. พ.ต.อ. อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผกก.สภ.กาบเชิง ย้ายมาจาก ผกก.สืบสวน ภ.จังหวัดนครพนม

5. พ.ต.อ. บัณฑิต อ่อนสาคร ผกก.สภ.ลำดวน ย้ายมาจาก ผกก.สภ.ลืออำนาจ จังหวัดอำนาจเจริญ

6. พ.ต.อ. บุญสินธุ์ ผดุงสุข ผกก.สภ. พนมดงรัก ย้ายมาจาก ผกก.สภ.ห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์

7. พ.ต.อ. พิเชษฐ อรชุน ผกก.สภ.บัวเชด ย้ายมาจาก ผกก.สภ. สีดา จังหวัดนครราชสีมา

8. พ.ต.อ. วงศ์ศักดิ์ วงษ์สามี ผกก.สภ.รัตนบุรี ย้ายมาจาก ผกก.สภ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จังหวัดศรีสะเกษ

9. พ.ต.อ. วีระพงษ์ ทองจันดี ผกก.สภ.ศรีณรงค์ ย้ายมาจาก ผกก.สภ.พุทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์

10. พ.ต.อ. นิธิศ ปิติธีรโชติ ผกก.สภ.สำโรงทาบ ย้ายมาจาก ผกก.สภ.กาบเชิง จังหวัดสุรินทร์

11. พ.ต.อ. ศิราเมษฐ์ ธานินพิทักษ์ ผกก.สภ.จอมพระ ย้ายมาจาก ผกก.ฝอ.ภ.จังหวัดสุรินทร์

12. พ.ต.อ. สุรชัย สังขพัฒน์ ผกก.สภ.เขวาสินรินทร์ ย้ายมาจาก ผกก.สภ.สนม จังหวัดสุรินทร์

และ13. พ.ต.อ. ชัยพร พงษ์ศักดิ์ ผกก.สภ.สนม ได้รับการแต่งตั้งจาก รอง ผกก.ป.สภ.กาบเชิง จังหวัดสุรินทร์

จังหวัดสุรินทร์ มอบเครื่องหมาย “รักษาดินแดนยิ่งชีพ”

นายเอกรัตน์ อังคสิทธิ์ ปลัดจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่าด้วยกองบัญชาการกองอารารักษาดินแดน ได้พิจารณามอบเครื่องหมาย "รักษาดินแดนยิ่งชีพ” ให้กับนายอำเภอ ในฐานะผู้บังคับกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอ รวม 3 ราย ซึ่งกองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดนได้จัดส่งเครื่องหมาย "รักษาดินแดนยิ่งชีพ” ดังนี้

1.นายกองตรีอารยันต์ ท่าใหญ่ ผู้บังคับกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอศรีณรงค์/นายอำเภอศรีณรงค์

2.นายกองตรีวิชัย บุญมี ผู้บังคักองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอพนทดงรัก/นายอำเภอพนมดงรัก

และ 3.นายกองตรีชูศักดิ์ จำเรียงฤทธิ์ ผู้บังคับกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอสนม/นายอำเภอสนม

จังหวัดอุดรธานี เชิญสั่งจองเหรียญที่ระลึกวาระเฉลิมฉลองการตั้งเมืองอุดรธานี 121 ปี

นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจาก จังหวัดอุดรว่า จังหวัดอุดร จัดกิจกรรมเฉลิมฉลองการตั้งเมืองอุดรธานีปีที่ 121 โดยได้มีการจัดสร้างวัตถุมงคลเหรียญที่ระลึกการตั้งเมืองอุดรธานี ประเภทเนื้อทองคำ เหรียญเนื้อเงิน เหรียญเนื้อสามกษัตริย์ เหรียญเนื้อทองแดง เนื้อผงและรูปหล่อลอยองค์พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ขนาด 12 นิ้ว 1 กระเบียด และขนาด 9 นิ้ว สามารถสั่งจองได้ที่ สำนักงานจังหวัดอุดรธานี 042-248777 สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุดรธานี 042-223143ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอในจังหวัดอุดรธานีชื่อบัญชี กองทุนฉลองการก่อตั้งเมืองอุดรธานีครบ 121 ปี เลขที่บัญชี 981-9-69525-2 สาขาศาลากลางจังหวัดอุดรธานี ธนาคารกรุงไทย

จังหวัดร้อยเอ็ด จัดงานประเพณีบุญผะเหวดร้อยเอ็ด ประจำปี 2557 7-9 มีนาคมนี้

นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากจังหวัดร้อยเอ็ดว่า กำหนดจัดงานประเพณี "บุญผะเหวดร้อยเอ็ด” ประจำปี 2557 เพื่อสร้างโอกาสประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวงานประเพณี "บุญผะเหวดร้อยเอ็ด” เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามและสืบทอดพระพุทธศาสนา ให้คงอยู่สืบไป กิจกรรมภายในงาน ชมบวนแห่พระอุปคุตพระราชทาน ขบวนแห่พระเวสสันดรเข้าเมืองที่ยิ่งใหญ่อลังการ การแสดงศิลปะคืนถิ่น และชมการแสดง แสงสีเสียง ต่างๆ ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 7-9 มีนาคม 2557 ณ บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนคิรนทร์ร้อยเอ็ด และเกาะกลางบึงพลาญชัย ทั้งนี้ จึงขอเชิญเที่ยวชมงานในวันและเวลาดังกล่าวโยทั่วกัน

สองเมนูเด็ด ลาบปลาไหล ย่างปลาซ่อนพอกดินเหนียว ฝีมือพี่วีลเวอร์ ชื่อฝรั่งพูดเขมร

ลาบปลาไหล ย่างปลาซ่อนพอกดินเหนียว ฝีมือพี่วีลเวอร์ ชื่อฝรั่งพูดเขมร อาหารหน้าแล้ง สูตรสำเร็จ ชาวบ้านตามชนบท อาหารหาได้จากหนองน้ำธรรมชาติ ปลาซ่อนพอกดินย่าง ลาบปลาไหล สุดอร่อย สะอาด แซบแบบชาวบ้าน

วันนี้ 27 ก.พ57 ที่บ้านหนองซำ ต.เมืองลีง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ นายวีลเวอร์ บันลือทรัพย์ อายุ 49 ปี ชื่อฝรั่ง พูดเขมร แต่ทำอาหารอีสาน อาหารพื้นบ้าน ของชาวสุรินทร์ สูตรเด็ด ที่พี่วีเวอร์ แก จะทำอาหารมื้อนี้ ก็คือ ลาบปลาไหล ซึ่งการลาบปลาไหล มักจะไม่ค่อยได้ยิน และได้เห็น ได้กิน เมนูนี้ เพราะปลาขึ้นชื่อว่าเป็นที่มีกลิ่นคาวมาก พอสมควร จะประกอบอาหารได้ ก็เฉพาะ ผัดเผ็ดปลาไหล ต้มยำ ต้มเปรตปลาไหล แต่พี่วีลเวอร์ จะปรุงปลาไหล เป็นเมนู ลาบปลาไหล โดยได้นำปลาไหล มาย่างด้วยเตาถ่านไม้ ให้ปลาไหลสุก แล้วนำปลาไหล มาสับให้ละเอียด นำเครื่องปรุง ต้นหอม ใบหอม ตะใคร้ ใบมะกรูด ผักชี ใบนางเลิศ (ใบชะพลู) มาซอย แล้วก็โขลก หรือตำ ด้วยครก ให้ละเอียดเข้ากันให้ดี จากนั้นก็นำปลาไหลที่สับละเอียดไว้แล้วมาคลุก เข้ากัน โรยพริกป่น ข้าวคั่ว บีบมะหนาว โรยน้ำตาล ผงชูรส หยดน้ำปลา ปรุงให้เข้า ให้รสชาติ เข้ากัน กลมกล่อม ก็เป็นอาหาร อีสานรสแซบ ไว้รอรับประทาน พร้อมกับ กับคนในครัวเรือน

อีก เมนูหนึ่งเด็ด อาหารวันนี้คือ ปลาซ่อนเผาอบดินเหนียว ทำกันสดๆเห็นๆว่า กว่าจะได้กินนั่น เมนูนี้ มันจะทุลักทุเล จะทรมานขนาดไหม แม้ว่ากว่าจะไปหาปลา ตามหนองน้ำธรรมชาติ มาได้ ด้วยความยากลำบากแล้ว แต่การปรุงอาหารให้อร่อยถูกปากนั้น มันลำบากกว่าอีก เริ่มแรกก็ชำระล้างปลาซ่อนให้สะอาด ไม่ต้องขอดเกล็ดปลาออก จากนั้น นำใบมะกรูด ใบนางรัก ต้นตะไคร้ ยัดใส่เข้าไปในท้องปลาซ่อน เพื่อที่จะให้ปลานั่น เมื่อสุกแล้วไม่มีกลิ่นคาวปลา แต่จะมีกลิ่นหอมแทน และจากนั้นก็นำเกลือมาทาให้ทั่วปลาซ่อน อาบเกลือไว้ ขั้นตอนต่อไปคือ ไปหาดินเหนียว ในสระน้ำข้างบ้าน เมื่อได้ดินเหนียวมาแล้ว ก็ทำการ นำดินเหนียว มาพอก มาห่อตัวปลาให้มิดชิด และก็นำไปปลาไปเผา ที่เตาถ่าน ที่ไปกำลังแรงพอสมควร และก็คอยพลิก หรือกลับปลา อยู่เป็นระยะๆ เพื่อให้ปลา สุกเท่ากันทั่วตัว สูตรนี้เรียกว่า ปลาซ่อนเผาดินเหนียว รสเด็ด เผาได้ 20 นาที ก็นำปลาพอกดินเหนียว มาแกะ ดินเหนียวออก ก็จะพบว่าเนื้อปลาสุกขาวสะอาด น่ารับประทาน

พอเสร็จการทำอาหารรสเด็ดสองสูตร ของพี่วีลเวอร์ ชื่อฝรั่ง พูดเขมร แล้วก็เรียกญาติๆมาร่วมกันรับประทาน อย่างแซบ อร่อยถึงใจพระเดชพระคุณ เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะหลานชาย น้องเปรม อายุ 4 ขวบ มาร่วมรับประทานอาหารสูตรเด็ดของคุณตาวีลเวอร์ อย่างเอร็ดอร่อย และบอกว่าชอบกินฝีมือการปรุงอาหารของคุณตาวีลเวอร์ เพราะแกจะทำเลี้ยงหลานอยู่เป็นประจำ และบรรดาญาติมิตรก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอาหารมื้อนี้แซบมาก


อุทัย  มานาดี / รายงาน

นายก อบต.จอมพระ เตรียมการแก้ปัญหาและเตรียมการกับปัญหาภัยแล้ง

นายกองค์การบริหารส่วนตำบลจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ เน้นกับการเตรียมความพร้อมกับปัญหาภัยแล้ง โดยได้ขุดลอกห้วยระวีและอีก 3 ลำห้วย ส่วนการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ได้นำรถบรรทุกน้ำ จำนวน 2 คัน ออกให้บริการพี่น้องประชาชาชน ที่ห่างไกลน้ำประปา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

วันนี้ 27 ก.พ.57 ที่องค์การบริหารส่วนตำบลจอมพระ อ.จอมพระ จ.สุรินทร์  นายสุพจน์ สายบุตร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลจอมพระ เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมกับการแก้ปัญหาภัยแล้งที่กำลังมาเยือน ว่า อำเภอจอมพระ มีลำห้วย 4 สาย ผ่าน อาทิ ห้วยระวี ,ห้วยลึก ,ห้วยป่าโปร่งและห้วยนางเลาพร้อมกับมีลำห้วยสาขาอีกมากมาย หากแต่ปีไหนมีน้ำหลากมาน้ำจะท่วมเต็มที่ แต่พอถึงฤดูแล้งน้ำจะแห้ง เพราะว่าเป็นพื้นที่ลาดเอียง ประกอบกับลำน้ำตื้นเขิน ถึงแม้นจะมีลำห้วยตัดผ่านทุกครึ่งกิโลเมตร แต่ในหน้าแล้งก็ไม่เพียงพอ ยิ่งเมื่อปี 2553 มีเกษตรกรได้ปลูกข้าวนาปรังทำให้ลำน้ำแห้งขอดมาก ทั้งวัว ควายไม่มีน้ำกิน ปีต่อมา การประปาได้ขยายไปสู่หลายหมู่บ้านพร้อมทั้งได้มีการประชาคมเรื่องน้ำและทุกส่วนได้ยกเลิกการทำนาปรังลง จนถึงปัจจุบันได้มีเกษตรกรมีการทำนาปรังอยู่บ้าง

นายสุพจน์ สายบุตร นายก อบต.จอมพระ กล่าวอีกว่า ในส่วนการแก้ปัญหาระยะนั้น ในปีที่ผ่านมาและปีนี้ ได้ร่วมกับกรมทรัพยากรน้ำ และงบประมาณ อบต.จอมพระได้ขุดลอก ลำห้วยระวี ที่ได้เริ่มทำการขุดลอกเมื่อปีที่ผ่านมา ได้กั้นเป็น 3 ฝาย อาทิ ห้วยรุ้ง , ห้วยสวาย และห้วยน้อย ทำการขุดได้พื้นที่กว่า 50% แล้ว

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ขณะนี้ทาง อบต.จอมพระ มีรถบรรทุกน้ำอยู่ จำนวน 2 คัน จึงอยากให้พี่น้องประชาชน หรือหมู่บ้านใดที่ต้องการน้ำให้ติดต่อมายัง อบต.จอมพระ เพื่อที่จะได้รีบดำเนินการนำน้ำไปลงให้ทุกครัวเรือน ซึ่งโดยเฉพาะหมู่บ้านที่ไม่มีน้ำประปา ครบทุกครัวเรือน บางครัวเรือนจะใช้น้ำบาดาลอยู่ แต่คาดว่าต้นเดือนเมษายน น้ำบาดาล คงจะแห้งอีกเช่นเดียวกัน



อุทัย  มานาดี / รายงาน

จ.สุรินทร์ เร่งประชาสัมพันธ์ขอให้ไปลงทะเบียนเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาภายใน 28 ก.พ.นี้

พันตำรวจโทอุกฤษฏ์ ภู่หริย์วงศ์สุข ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสุรินทร์ ได้เตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภากรณีครบวาระ เป็นการเลือกตั้งทั่วไปปี 2557 ในวันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม 2557 ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีการประชุมครั้งที่ 19/2557 เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2557 มีมติเห็นชอบให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ......... โดยกำหนดการดังนี้ วันเลือกตั้ง วันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม 2557 วันรับสมัครตั้งแต่วันที่ 4 - 8 มีนาคม 2557 สถานที่รับสมัคร ที่ห้องประชุม ชั้น 1 วิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์ ลงทะเบียนเลือกตั้งนอกเขตจังหวัด ตั้งแต่บัดนี้ ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตเลือกตั้ง ตั้งแต่วันที่ 10 - 14 มีนาคม 2557 วันเลือกตั้งกลางล่วงหน้านอกเขตจังหวัดและในเขตเลือกตั้ง วันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม 2557

คปภ.ศรีสะเกษ จัดโครงการยุวชนประกันภัย ปี 2557

นางลฎาภา นีระมนต์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ศรีสะเกษ แจ้งมายังสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยจังหวัดศรีสะเกษ จะจัดการประกวดผลงานตามโครงการ ยุวชนประกันภัย ประจำปี 2557 ดังนี้
            1. ประเภทโรงเรียน ผลงานการบูรณาการการเรียนการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และเรื่องการประกันภัย ส่งผลงานที่สำนักงาน คปภ.จังหวัดศรีสะเกษ หรือ สำนักงาน คปภ.เขตท่าพระ และเขตบางนา กรุงเทพมหานคร ภายในวันที่ 2-10 กรกฎาคม 2557
            2. ประเภทนักเรียน สื่อบันทึกข้อมูล ประเภทดีวีดี ในหัวข้อ มีประโยชน์อย่างไรเมื่อทำประกันคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ และมีประโยชน์อย่างไรเมื่อทำประกันชีวิต ส่งผลงานที่สำนักงาน คปภ.จังหวัดศรีสะเกษ หรือ สำนักงาน คปภ.เขตท่าพระ และเขตบางนา กรุงเทพมหานคร ภายในวันที่ 2-10 กรกฎาคม 2557

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงาน คปภ.จังหวัดทุกจังหวัด สำนักงาน คปภ.จังหวัดศรีสะเกษ อาคารพาณิชย์จังหวัดศรีสะเกษ ชั้น 1 ถนนขุนอำไพอุทิศ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ โทร. 045-622558


สมกมล คงอาชวะ/ข่าว/พิมพ์

เทศบาลนครอุบลราชธานี จัดระเบียบสายไฟฟ้า สายส่งการสื่อสารและสายเคเบิ้ลบนถนนสายหลัก

นางสาวสมปรารถนา วิกรัยเจิดเจริญ นายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี เปิดเผยว่า เทศบาลนครอุบลราชธานี ได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน อาทิ การไฟฟ้าภูมิภาคเขต 2 บริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด(มหาชน) บริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด โสภณเคเบิ้ลทีวี ราชธานีเคเบิ้ลทีวี ได้ดำเนินการจัดระเบียบสายไฟฟ้า สายส่งการสื่อสาร และสายเคเบิ้ลต่างๆ บนเสาไฟฟ้า ณ บริเวณถนนสายหลักในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี เพื่อเป็นการปรับปรุง ภูมิทัศน์ของเมืองให้น่ามอง สวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อย โดยเทศบาลนครอุบลราชธานี ได้ดำเนินการปรับปรุงจัดระเบียบสายไฟฟ้า สายส่งการสื่อสาร และสายเคเบิ้ลต่างๆ บนถนนสายหลักมาแล้ว 6 ครั้ง และในวันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 นี้ ตั้งแต่เวลา 08.30 - 12.00 น. เจ้าหน้าที่จะดำเนินการจัดระเบียบสายไฟบนถนนสรรพสิทธิ์ช่วงสี่แยกโรงเรียนเทศบาล 3 สามัคคีวิทยาคาร ถึง สี่แยกการประปาส่วนภูมิภาคสาขาอุบลราชธานี หากประชาชนไม่ได้รับความสะดวกในการดำเนินการครั้งนี้ แจ้งข้อมูลได้ที่ สำนักการช่าง เทศบาลนครอุบลราชธานี 045-246060-3 ต่อ 135,136 หรือ ติดตามข่าวทางเว็บไซด์เทศบาลนครอุบลราชธานี www.cityub.go.th



กรกช ภูมี / สวท.อุบลฯ รายงาน

เทศบาลนครอุบลราชธานี แจ้งกำหนดรับเบี้ยยังชีพผู้พิการและผู้สูงอายุ

นางสาวสมปรารถนา วิกรัยเจิดเจริญ นายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี เปิดเผยว่า เทศบาลนครอุบลราชธานี ได้ดำเนินการเบิกจ่ายเบี้ยยังชีพผู้พิการและผู้สูงอายุ ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล โครงการสร้างหลักประกันรายได้แก่ผู้พิการและผู้สูงอายุ เทศบาลนครอุบลราชธานีจึงแจ้งกำหนดการ รับเบี้ยยังชีพ (เฉพาะผู้ประสงค์รับเงินสด) ดังต่อไปนี้

เบี้ยยังชีพผู้พิการ งวดเดือน มีนาคม 2557 จำนวนเงินรายละ 500 บาท วันที่ 4 มีนาคม 2557 เวลา 09.30 – 16.00 น. ณ อาคารป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ตึกดับเพลิง) เทศบาลนครอุบลราชธานี
เบี้ยผู้สูงอายุ งวดเดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคม 2557 ณ อาคารตลาดสดเทศบาล 3 (ตลาดใหญ่) วันที่ 6 ถึง 7 มีนาคม 2557 สำหรับเอกสารประกอบการรับเบี้ยผู้สูงอายุและผู้พิการ ได้แก่ สำเนาบัตรประจำประชาชน และ สำเนาทะเบียนผู้มีสิทธิพร้อมลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง , กรณีมอบอำนาจต้องมีใบมอบฉันทะพร้อมสำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับมอบและผู้มอบอำนาจพร้อมลงรายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง , บัตรรับรองการลงทะเบียนที่แสดงหมายเลขลำดับ , (เฉพาะผู้พิการ) สำเนาสมุดประตัวผู้พิการ หรือสำเนาบัตรประจำตัวผู้พิการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครอุบลราชธานี โทร 045-246060 - 2 ต่อ 183 หรือโทร 045 –241442 www.cityub.goth



กรกช ภูมี / สวท.อุบลฯ รายงาน

มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี บูรณาการ การเรียนการสอน ป้องกัน ควบคุม ปัญหาโรคไข้เลือดออกร่วมกับชุมชน

ผู้ช่วยศาสตราจารย์จารุวรรณ วงบุตดี นำคณาจารย์ และนักศึกษาสาธารณสุขศาสตร์ชั้นปีที่ ๓ วิทยาลัยแพทยศาสตร์และการสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ลงพื้นที่ให้บริการสำรวจลูกน้ำยุงลาย ยุงลายตัวเต็มวัย และแมลงวัน ณ บ้านดอนกลาง ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ตามโครงการบริการสำรวจดัชนีลูกน้ำยุงลายเพื่อป้องกันโรคไข้เลือดออกแบบมีส่วนร่วมของชุมชน ในการประเมินผลกระทบและการใช้ประโยชน์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการดำเนินงานต่อเนื่องปีที่ ๓ การลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นการจัดกิจกรรมให้บริการวิชาการแก่สังคมที่บูรณาการกับการเรียนการสอนในรายวิชาการควบคุมแมลงและสัตว์แทะทางสาธารณสุข เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างนักศึกษา อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และเจ้าที่หน้าสาธารณสุขที่รับผิดชอบในพื้นที่ ผลจากการลงพื้นที่ในครั้งนี้จะนำไปสู่การป้องกัน ควบคุม ปัญหาโรคไข้เลือดออกในพื้นที่บ้านดอนกลาง และชุมชนโดยรอบมหาวิทยาลัย โดยการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน กิจกรรมครั้งต่อไปจะเป็นการจัดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันปัญหาโรคไข้เลือดออกในชุมชน โดยนักศึกษาและชุมชน



กรกช ภูมี / สวท.อุบลฯ รายงาน

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาเตือนเกษตรกร ดูแลพืชและสัตว์เลี้ยงในช่วงหน้าแล้ง

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างอุบลราชธานี เตือนเกษตรกร ดูแลพืชและสัตว์เลี้ยงในช่วงหน้าแล้ง เกรียงศักดิ์ เกตุอินทร์ นักอุตุนิยมวิทยาชำนาญการ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างอุบลราชธานี กล่าวว่า ระยะนี้เป็นช่วงเปลี่ยนฤดูกาล อากาศจะแปรปรวนระหว่างอากาศเย็นสลับร้อน คุณผู้ฟังควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย นอกจากนี้ สภาพอากาศที่แห้งทำให้ปริมาณน้ำระเหยมาก เกษตรกรควรดูแลให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชอย่างเพียงพอ คำนึงถึงการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งคลุมบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น เศษใบไม้ ฟางข้าว หรือหญ้าแห้ง เพื่อสงวนความชื้นในดิน

ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำ ควรดูแลปริมาณน้ำให้เหมาะสมกับจำนวนสัตว์ที่เลี้ยง หากขาดความสมดุลจะทำให้สัตว์น้ำที่เลี้ยงอ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย รวมทั้งควรเร่งทำร่มเงาให้บ่ออนุบาลสัตว์น้ำ เพราะหากอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงมากจะทำให้ตัวอ่อนชะงักการเจริญเติบโต



กรกช ภูมี / สวท.อุบลฯ 

สำนักงาน ก.พ. จะเปิดรับสมัครเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป ประจำปี 2557 ตั้งแต่ 4-24 มีนาคม 2557

สำนักงาน ก.พ. จะเปิดรับสมัครสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป ประจำปี 2557 ในระดับ ปวช. ปวท. ปวส. ปริญญาตรี ปริญญาโท หรือคุณวุฒิที่ ก.พ. รับรอง คือ รับสมัครและพิมพ์แบบฟอร์ม ระหว่างวันที่ 4-24 มีนาคม 2557 ที่เว็บไซต์ http://job3.ocsc.go.th ชำระเงินค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบและเลือกสูนย์สอบ ที่เคาน์เตอร์ บมจ.ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขา ทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 4 – 25 มีนาคม 2557 ดูรายชื่อผู้สมัครสอบ กำหนดวัน เวลา สถานที่สอบ และพิมพ์ประจำตัวสอบ ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นไป

มหาวิทยาลัยรามคำแหง จะรับสมัครนักศึกษาใหม่ ระดับปริญญาตรี ระหว่างวันที่ 3 -12 พฤษภาคม 2557 และ วันที่ 28 มิถุนายน – 1 กรกฎาคม 2557

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ลีนา ลิ่มอภิชาต รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เปิดเผยว่า ตามที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง จะเปิดรับสมัครนักศึกษาระดับปริญญาตรี ภาคเรียนที่ 1 / 2557 ระหว่างวันที่ 3 – 12 พฤษภาคม 2557 และ 28 มิถุนายน -1 กรกฎาคม 2557 นั้น โดยมหาวิทยาลัยเปิดโอกาสให้ผู้ที่เรียนจบชั้น มัธยม ศึกษาปีที่ 3 สามารถสมัครเข้าศึกษาเป็นรายกระบวนวิชา(Pre-degree) เพื่อสะสมหน่วยกิตล่วงหน้าและเทียบโอนได้เมื่อจบ ม.6 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0-2310-8614-24 หรือที่เว็บไซต์ www.ru.ac.th

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 จัดทำบทแถลงการณ์กรณีพิพากษาประหารชีวิตจำเลยในคดีโจมตีฐานพระองค์ดำ

พลโท สกล ชื่นตระกูล ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เปิดเผยว่า ตามที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาคที่ 4 จัดทำบทแถลงการณ์ กรณีพิพากษาประการชีวิตจำเลยในคดีโจมตีฐานพระองค์ดำ ซึ่งมีเนื้อหาดังนี้

เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 57 คณะทำงานติดตามและประสานคดีสำคัญ กก.ทพ.จชต.พร้อมทนายความได้ติดตามความคืบหน้าคดีคนร้ายลอบโจมตีฐานพระองค์ ร้อย ร.15121 หรือองค์ดำ เมื่อ 19 ม.ค.54 ณ ศาลจังหวัดนราธิวาส เพื่อร่วมรับฟังคำพิพากษา นายซุลกิฟลี ซิกะ จำเลยในคดีดังกล่าว ผลคำพิพากษาศาลตัดสินลงโทษประหารชีวิตและให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 1,900,000 บาท ซึ่งจำเลยรอยื่นอุทรณ์ โดยก่อนหน้านี้ศาลได้มีคำพิพากษาตัดสินจำเลยในคดีเดียวกันไปแล้วจำนวน 12 รายและอยู่ระหว่างการหลบหนีคดีอีกจำนวน 21 ราย

กกต.ยโสธร แจ้งการยกเลิกการลงทะเบียนใช้สิทธิ์เลือกตั้งนอกเขตจังหวัดและนอกราชอาณาจักร

นายนเรศ สุวรรณกูฏ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดยโสธร แจ้งว่า สำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง ได้แจ้งมาว่า จะมีการเปิดระบบบันทึกข้อมูลผู้มายื่นขอยกเลิกการลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัดและนอกราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 14 -28 กพ.57 เพื่อให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด บันทึกข้อมูลผู้ที่แจ้งความประสงค์ขอยกเลิกการลงทะเบียน ขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัดและนอกราชอาณาจักร เพื่อให้บัญชีรายชื่อผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งถูกต้องและเป็นปัจจุบัน จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประสงค์จะขอยกเลิกการลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัดและนอกราชอาณาจักร ยื่นคำร้องได้ที่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดยโสธร ตั้งแต่บัดนี้ - 28 กพ.57 สอบถามเพิ่มเติม 045-714177 045-714899 ต่อ 14


วันชนะ บุญปก ดาโรจน์/สวท.ยโสธร 

สรรพากรพื้นที่ยโสธรแจ้งการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ปีภาษี 2556

นายกู้ศักดิ์ จันทราช สรรพากรพื้นที่ยโสธร แจ้งว่า ด้วยประมวลรัษฏากร ได้กำหนดให้ผู้มีเงินได้จากเงินเดือน ค่าจ้าง บำเหน็จ บำนาญ ค่านายหน้า ค่าลิขสิทธิ์ ดอกเบี้ย การให้เช่าทรัพย์สิน การประกอบวิชาชีพอิสระ การรับเหมาก่อสร้าง การประกอบธุรกิจการพาณิชย์ การขนส่ง การขายอสังหาริมทรัพย์ ที่ได้มาโดยมุ่งในทางการค้า หรือหากำไรที่เป็นบุคคลธรรมดา คณะบุคคล มีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 90,91 ตั้งแต่วันที่ 1 มค.-31 มีค. ของทุกปี ฉะนั้นเพื่อประโยชน์ของทางราชการและตัวท่าน จึงขอให้ไปยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาที่ท่านมีภูมิลำเนาอยู่ ในเวลาราชการ ซึ่งท่านยังมีทางเลือกใหม่ คือการยื่นแบบแสดงรายการผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยจะช่วยให้ท่านประหยัดทั้งเวลา ค่าใช้จ่าย สะดวกและใช้บริการได้ตลอดเวลา 24 ชม. ไม่มีวันหยุด ท่านสามารถยื่นผ่านทางเว๊ปไซต์ของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th/ ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ถึง 31 มีค.57 หากมีปัญหา หรือข้อสงสัยประการใด โปรดติดต่อสอบถามได้ที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาทุกแห่ง หรือที่งานบริการผู้เสียภาษีและประชาสัมพันธ์ สำนักงานสรรพากรพื้นที่ยโสธร หมายเลขโทรศัพท์ 045-714601 045-714620 ต่อ 303



วันชนะ บุญปก ดาโรจน์/สวท.ยโสธร 

ยโสธรเร่งส่งเสริมการเกษตรเชิงรุกตอบรับนโยบาย MRCF

นายสกล คุณอุดม เกษตรจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า จังหวัดยโสธรตอบรับนโยบายและแนวทางในการปฏิบัติงานส่งเสริมการเกษตร ปีงบประมาณ 2557 โดยปรับการทำงานส่งเสริมการเกษตรในเชิงรุกให้สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการเกษตรแบบใหม่ MRCF ของกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งขณะนี้สำนักงานเกษตรจังหวัดยโสธร เร่งดำเนินการที่มุ่งเน้นให้เกิดการเปลียนแปลงเจ้าหน้าที่ให้มีบทบาทและตัวตนที่ชัดเจน ในการเป็นนักส่งเสริมมืออาชีพ (Smart Extension Officer) และสามารถที่จะเป็น "ผู้จัดการในพื้นที่ และเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง” เพื่อให้สามารถเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานเพื่อรองรับภารกิจต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ เกษตรจังหวัดยโสธร ยังเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการทำงานในพื้นที่นั้น จะต้องมีการกำหนดขอบเขตพื้นที่ดำเนินการที่ชัดเจน มีการบูรณาการ "พื้นที่-คน-สิ้นค้า” เข้าด้วยกัน อีกทั้งต้องกำหนดเป้าหมายในการพัฒนาที่ชัดเจนเพื่อให้ทุกคนได้ประโยชน์ร่วมกัน (Win-Win) ที่สำคัญนักส่งเสริมการเกษตรจังหวัดยโสธร จะต้องทำงานบนพื้นฐานของข้อมูลที่ถูกต้อง สมบูรณ์ ข้อมูลเป็นปัจจุบัน และเป็นที่เชื่อถือยอมรับ รวมทั้งสามารถที่จะจัดทำและให้ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใต้ คติประจำใจของนักส่งเสริมการเกษตรทุกคน คือ "การเปลี่ยนแปลงทสู่สิ่งที่ดีที่สุด” หรือ Change to The Best โดยนักส่งเสริมการเกษตรจะนำการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไปสู่เกษตรกร เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้ก้าวสู่ Smart Farmer อย่างแท้จริง หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อสอบถามรายละเอียดที่ สำนักงานเกษตรจังหวัดยโสธร โทร.045-773020 หรือ e-mail : yasothon@doae.go.th



วันชนะ บุญปก ดาโรจน์/สวท.ยโสธร 

ยโสธร จัดงานวันสถาปนาจังหวัดและงานกาชาด 1-10 มีค.นี้

นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า จังหวัดยโสธรกำหนดจัดงานวันสถาปนาและงานกาชาดจังหวัดยโสธร ประจำปี 2557 ระหว่างวันที่ 1 ถึง 10 มีนาคม 2557 รวม 10 วัน 10 คืน เพื่อเป็นการฉลองในโอกาสครบรอบวันสถาปนาจังหวัด และเพื่อเป็นการเผยแพร่ชื่อเสียงเกียรติคุณของจังหวัด ดำรงไว้ซึ่งความเป็นเอกลักษณ์ทางศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ตลอดจนเป็นการส่งเสริมอนุรักษ์ผลิตภัณฑ์พื้นเมืองและภูมิปัญญาบ้าน โดยมีการจัดนิทรรศการ และการออกร้านของส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน กลุ่มและองค์กรประชาชน เป็นต้น นอกจากนั้น จังหวัดยังได้กำหนดจัดพิธีเปิดงาน โดยมี ดร.พีระพันธ์ พาลุสุข ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธานในพิธีเปิด ที่บริเวณหน้าอนุสาวรีย์พระสุนทรราชวงศา (สิงห์) สวนสาธารณะบุ่งน้อย-บุ่งใหญ่


วันชนะ บุญปก ดาโรจน์/สวท.ยโสธร

ยโสธร กำหนดจัดพิธีบอกกล่าวและบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์

จังหวัดยโสธร กำหนดจัดพิธีบอกกล่าวและบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เนื่องในการจัดงานวันสถาปนาและงานกาชาดจังหวัดยโสธร ประจำปี 2557 โดยวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 07.00 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร จะได้นำคณะทั้งหมด ไปบูชาพระธาตุอานนท์ที่วัดมหาธาตุ บอกกล่าวเจ้าปู่พระละงุม หลังที่ว่าการอำเภอเมือง บอกกล่าวเจ้าแม่สองนาง บริเวณริมบุ่งใหญ่ บอกกล่าวเจ้าปู่หอชุม บริเวณทิศตะวันตกวัดสิงห์ท่า บอกกล่าวหอมเหศักดิ์ บริเวณประตูวัดสิงห์ท่าด้านทิศเหนือ บอกกว่าเจ้าพ่อหลักเมือง ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง บอกกล่าวเจ้าแม่สองนางพี่น้อง ถนนแจ้งสนิท บริเวณสี่แยก รพ.นายแพทย์หาญ และบอกกล่าวพญาแถน ณ สวนสาธารณะพญาแถน สำหรับวันที่ 1 มีนาคม 2557 ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร จะได้นำคณะทั้งหมด ทำพิธีถวายมาลัยข้อพระกร พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 ด้านหน้าศาลากลางจังหวัดยโสธร หลังจากนั้น เป็นพิธีบวงสรวงอนุสาวรีย์พระสุนทรราชวงศา (สิงห์) เจ้าเมืองยโสธรท่านแรก ณ บริเวณสวนสาธารณะบุ่งน้อย บุ่งใหญ่ ทั้งนี้เพื่อความเป็นสิริมงคล แด่ชาวจังหวัดยโสธร และเพื่อให้การจัดงานวันสถาปนาจังหวัด และงานกาชาด ประจำปี 2557 ลุล่วงผ่านไปด้วยความเรียบร้อย



วันชนะ บุญปก ดาโรจน์/สวท.ยโสธร

จังหวัดอุบลราชธานี บูรณาการจัดฝึกอบรม ค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเยาวชนด้วยระเบียบวินัยสร้างชีวิตใหม่ด้วยสายใยรักแห่งครอบครัว รุ่นที่ 1 ประจำปี 2557

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2557 ที่กองร้อยเครื่องยิงหนัก กรมทหารราบที่ 6 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี นายคันฉัตร ตันเสถียร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานเปิดการฝึกอบรม ค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเยาวชนด้วยระเบียบวินัย สร้างชีวิตใหม่ด้วยสายใยรักแห่งครอบครัว รุ่นที่ 1 ประจำปี 2557 โดยสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 3 ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดอุบลราชธานีศูนย์นวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเด็กและเยาวชนจังหวัดอุบลราชธานีและกรมทหารราบที่ 6 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น เพื่อเสริมสร้าง ฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพของเยาวชนในจังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ เป็นกำลังสำคัญในการสร้างครอบครัวที่อบอุ่น ครอบครัวที่เข้มแข็ง เอาชนะยาเสพติด และเป็นพลังแผ่นดินที่สำคัญของประเทศชาติ ซึ่งต้องใช้กระบวนการฝึกอบรม ที่มีบูรณาการร่วมกัน จากวิทยากรหลายสาขาอาชีพ เพื่อพัฒนาทักษะและวิธีการดำรงชีวิตให้ปลอดจากยาเสพติด

รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ขอให้กำลังใจให้เยาวชนทุกคนที่เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรดังกล่าว ในการกลับไปเป็นผู้นำครอบครัวและสมาชิกครอบครัวที่มีคุณภาพ มีกำลังใจที่เข้มแข็ง เป็นกำลังสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติดของชุมชน และสังคมต่อไป ทั้งนี้ ในการฝึกอบรมรุ่นที่ 1ปี 2557 มีเยาวชนในจังหวัดอุบลราชธานี เข้ารับการฝึกอบรมจำนวน 50 คน

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล มอบงบประมาณสนับสนุนโครงการช่วยเหลือสังคมที่จังหวัดอุบลราชธานี

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล มอบงบประมาณสนับสนุนโครงการช่วยเหลือสังคมที่จังหวัดอุบลราชธานี
อุบลราชธานี : สนับสนุนงบประมาณ 3 แสนบาทให้โครงการสนามกระตุ้นพัฒนาการกลางแจ้งของโรงเรียนอุบลปัญญานุกูล และสนับสนุนโครงการเพื่อสาธารณประโยชน์ของหน่วยงานราชการในจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดใกล้เคียงรวม 21 หน่วยงาน งบประมาณกว่า 5 ล้าน 7 แสนบาท

พลตำรวจตรี อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้กำหนดออกสลากรางวัลสัญจร งวดประจำวันที่ 1 มีนาคม 2557 ที่ห้องทับทิมสยาม 1 โรงแรมสุนีย์แกรนด์ โฮเต็ลแอนด์คอนเวนชั่น จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนในต่างจังหวัดได้เห็นขั้นตอนและวิธีการตลอดจนอุปกรณ์ในการออกสลากรางวัลด้วยตนเอง จะได้ไม่หลงเชื่อข่าวลือเรื่องเลขเด็ดจากกลุ่มมิจฉาชีพที่หลอกลวงต้มตุ๋น พร้อมนี้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้จัดกิจกรรมเพื่อสังคมในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ด้วย โดยในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 จะมอบงบประมาณจำนวน 300,000.-บาท เพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการสนามกระตุ้นพัฒนาการกลางแจ้ง รวมทั้งจัดเลี้ยงอาหารและมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นให้แก่เด็กนักเรียนโรงเรียนอุบลปัญญานุกูล และในวันที่ 1 มีนาคม 2557 ก่อนการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้จัดพิธีมอบงบประมาณสนับสนุนโครงการเพื่อสาธารณประโยชน์ของหน่วยงานราชการในจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดใกล้เคียง จำนวน 21 หน่วยงาน รวมงบประมาณ 5,770,500.-บาท

พร้อมนี้ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้เชิญชวนประชาชน ที่สนใจเข้าชมการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยนำบัตรประจำตัวประชาชนแสดงในวันออกสลาก วันที่ 1 มีนาคม 2557 ที่ห้องทับทิมสยาม 1 โรงแรมสุนีย์แกรนด์ โฮเต็ลแอนด์คอนเวนชั่น จังหวัดอุบลราชธานี นอกจากนี้ยังสามารถรับชมการถ่ายทอดสดการออกสลากรางวัล โดยการถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์และทางสถานีโทรทัศน์ข่าวสปริงนิวส์ ระหว่างเวลา 15.00 – 16.00 น. และรับฟังการถ่ายทอดเสียงทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ตั้งแต่เวลา 14.30 น. เป็นต้นไป


พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี 

จังหวัดอุบลราชธานีจัดงาน”มหกรรมการค้าลุ่มน้ำโขง” ครั้งที่ 1 เสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาค อนุภูมิภาคและระดับท้องถิ่น ระหว่าง 26 กุมภาพันธ์ – 2 มีนาคม 2557

จังหวัดอุบลราชธานีจัดงาน”มหกรรมการค้าลุ่มน้ำโขง” ครั้งที่ 1 เสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาค อนุภูมิภาคและระดับท้องถิ่น ระหว่าง 26 กุมภาพันธ์ – 2 มีนาคม 2557 (26 ก.พ.57 ) ที่ สนามบริเวณศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีหลังเก่า

นางสาวอุรวี เงารุ่งเรือง รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานมหกรรมการค้าลุ่มน้ำโขง ครั้งที่ 1 โดยมี นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ผู้แทนจากราชอาณาจักรกัมพูชา สปป.ลาว และผู้แทนประเทศเวียดนาม ร่วมให้เกียรติในพิธีเปิดงาน "มหกรรมการค้าลุ่มน้ำโขง” ครั้งที่ 1 จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นการดำเนินงานร่วมกันของกระทรวงพาณิชย์กับจังหวัดอุบลราชธานี ในการส่งเสริมและพัฒนาการค้าชายแดน การค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ในการขยายความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจการค้า การลงทุน และการตลาดภายใต้กรอบความร่วมมือและข้อตกลงการค้าในภูมิภาค รวมทั้งการสร้างความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือทางเศรษฐกิจ เสริมสร้างความสัมพันธ์ในทุกระดับ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย ขยายการค้าในภูมิภาค โดยการค้าชายแดนและการค้ากับประเทศเพื่อบ้าน

วัตถุประสงค์การจัดงาน เพื่อสนับสนุนการตลาด การเชื่องโยงและการกระจายสินค้า รวมทั้งเพิ่มช่องทางการจำหน่าย และสร้างเครือข่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น OTOP/SMEs จากทุกจังหวัดทั่ว ประเทศ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ผลิตผู้ส่งออก มีความรู้ความเข้าใจด้านการตลาด การบริหารจัดการ การดำเนินธุรกิจการส่งออก มาตรฐานผลิตภัณฑ์ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองให้สามารถส่งออกตลาดต่างประเทศได้เพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนและสร้างความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจการค้า การลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน ส่งเสริมและพัฒนาสินค้าให้มีศักยภาพในการแข่งขันนำไปสู่การพัฒนาการค้า / การลงทุน เสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาค อนุภูมิภาคและระดับท้องถิ่น

ประเภทสินค้าที่จัดแสดงและจำหน่ายภายในงาน สินค้าประเภทผ้าและเครื่องหนัง สินค้าประเภทของใช้ตกแต่งของที่ระลึก สินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่ม และสินค้าประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร สำหรับสินค้าหัตถกรรมจากประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว ได้แก่ กาแฟ ผ้าทอ/เครื่องจักรสานพื้นเมือง เครื่องเงิน เวียดนาม ได้แก่ ไม้แกะสลัก/ภาพวาดสีน้ำมัน ของที่ระลึก เครื่องใช้และตกแต่งบ้าน กัมพูชา ได้แก่ หัตถกรรม ไม้แกะสลัก เครื่องเงิน สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้แก่ เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าแสงอาทิตย์ เครื่องกรองน้ำขนาดจิ๋ว

ผลที่คาดว่าจะได้รับ สามารถเพิ่มมูลค่าการจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการตลอดงาน ไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาท พัฒนากระบวนการเรียนรู้ของผู้ประกอบการ จากการศึกษาซึ่งกันและกัน ในระหว่างการจัดงานฯ เพื่อพัฒนาปรับปรุงคุณภาพสินค้าของตน สร้างเครือข่ายความร่วมมือ ความสัมพันธ์ทางการค้า และความเป็นหุ้นส่วนธุรกิจ / ตัวแทนการค้าระหว่างกัน

จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยผู้แทนภาครัฐ ผู้ประกอบการ จากประเทศกัมพูชา ลาว และเวียดนาม ร่วมประชุมเชื่อมโยงความสัมพันธ์เพื่อลดปัญหาอุปสรรคทางการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน

จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยผู้แทนภาครัฐ ผู้ประกอบการ จากประเทศกัมพูชา ลาว และเวียดนาม ร่วมประชุมเชื่อมโยงความสัมพันธ์เพื่อลดปัญหาอุปสรรคทางการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน

วันที่ ( 26 ก.พ. 57 ) ที่ห้องประชุมโรงแรมสุนีย์แกรนด์ จังหวัดอุบลราชธานี นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยผู้แทนภาครัฐ ผู้ประกอบการ จากประเทศกัมพูชา ลาว และเวียดนาม ร่วมประชุมเชื่อมโยงความสัมพันธ์เพื่อลดปัญหาอุปสรรคทางการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน ที่ประชุมมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นการดำเนินงานทางการค้า การลงทุน และปัญหาอุปสรรคที่ผ่านมา โดยมีการทำข้อตกลงสินค้าเกษตรและจับคู่ธุรกิจด้านการเกษตร ระหว่างผู้ประกอบการ พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กับผู้ประกอบการประเทศเพื่อนบ้าน จากประเทศกัมพูชา ลาว และเวียดนาม

ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 เป็นต้นมา จังหวัดอุบลราชธานี ได้จัดกิจกรรมเพื่อลดปัญหาอุปสรรคทางการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านมาโดยตลอด ทำให้มีรายได้จากการส่งออกสินค้าเกษตรเป็นจำนวนมาก สำหรับการประชุมและจัดกิจกรรมต่างๆครั้งนี้ เป็นเวทีในการกระตุ้นเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน รองรับเข้าสู่ประชาคมอาเซียน อีกทั้งเป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรให้ยั่งยืนอีกด้วย

ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานหัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงาน และคณะกรมการจังหวัดอุบลราชธานี

วันที่ 27 ก.พ.2557 เวลา 13.00 ประชุมหัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงาน นายอำเภอ และคณะกรมการจังหวัดอุบลราชธานีโดยนายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีเป็นประธานที่วัดปากแซง อ.นาตาล จังหวัดอุบลราชธานี เป็นการประชุมครั้งที่2/2557 ประจำเดือนกุมภาพันธ์ มีเรื่องแจ้งเพื่อทราบและเพื่อพิจารณา เรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณ การจัดงานวันข้าราชการพลเรือน การช่วยเหลือปัญหาภัยแล้ง และเรื่องสำคัญอื่นๆ ก่อนการประชุมมีการมอบเข็มอาสารักษาดินแดนแก่นายอำเภอ

จังหวัดอำนาจเจริญ จัดประชุมเชิงปฏิบัติการโครงการผู้นำสตรีรุ่นใหม่ (Provincial Smart Lady : PSL)

วันนี้ (27 ก.พ.57 ) เวลา 09.30 น. ณ โรงแรมฝ้ายขิด อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ นายวีระวัฒน์  ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการโครงการผู้นำสตรีรุ่นใหม่ กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี (Provincial Smart Lady : PSL)            

สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอำนาจเจริญ ร่วมกับ กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดอำนาจเจริญ จัดโครงการผู้นำสตรีรุ่นใหม่ กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัด (Provincial Smart Lady : PSL)  งบประมาณ  55,050 บาท  เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้นำ สตรีรุ่นใหม่ ให้มีความรู้ ความสามารถ เป็นต้นแบบสตรียุคใหม่ เสริมสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน และเข้าร่วมโครงการ Smart Lady Thailand  นำความรู้ความสามารถในการขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี อย่างเป็นรูปธรรม โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมด 50 คน ประกอบด้วย สตรีที่สมัครเข้าร่วมโครงการคัดเลือกผู้นำสตรีรุ่นใหม่กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี (Smart Lady Thailand) ผู้หญิงสวย....ด้วยความคิด จำนวน 35 คน  คณะกรรมการพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัด จำนวน 8 คน  และเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน จำนวน 7 คน

สตรีเป็นส่วนเติมเต็มของสังคมที่สามารถร่วมสร้างสรรค์พัฒนาประเทศให้มีความมั่นคงและยั่งยืน กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจึงมีนโยบาย และความมุ่งมั่นในการส่งเสริมโอกาส และความก้าวหน้าให้ผู้หญิงไทย ด้วยการเปิดเวทีให้หญิงไทยรุ่นใหม่ได้แสดงออก ด้านความคิด ความสามารถ และได้รับโอกาสพัฒนาศักยภาพ เสริมสร้างความพร้อมในการเป็นผู้นำ Smart Lady Thailand ที่จะสนับสนุนให้ผู้หญิงไทยมีโอกาส สวย..ได้ด้วยความคิด และใช้ความสามารถที่มี ทำงานเพื่อประโยชน์สู่สังคม มีความพร้อมที่จะเป็นผู้นำสตรีรุ่นใหม่ เป็นพลังเข้มแข็งของประเทศต่อไป


ประกาศิต  สุวะทอง/ข่าว/ภาพ

ศรีสะเกษ พร้อมเปิดให้บริการเมืองใหม่ช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ เสาร์ที่ 1 มีนาคมนี้แน่นอน

วันนี้ (27 กุมภาพันธ์ 2557)  ณ ห้องประชุมสุริยวรมัน ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมการเปิดให้บริการเมืองใหม่ช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ในวันเสาร์ที่ 1 มีนาคม 2557 โดยมีคณะกรรมการขับเคลื่อนการย้ายผู้ประกอบการค้า จากตลาดชั่วคราว บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ มาบริเวณเมือง ใหม่ช่องสะงำ ซึ่งประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนจังหวัด, โยธาธิการและผังเมืองจังหวัด, อำเภอภูสิงห์, สำนักงานประปาส่วนภูมิภาคจังหวัด, สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอภูสิงห์, สหกรณ์บริการเดินรถไพรพัฒนา, สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัด, ด่านศุลกากรช่องจอม(ประจำด่านศุลกากรช่องสะงำ) ทั้งนี้ เพื่อติดตามความคืบหน้า ในการปรับปรุงสถานที่ให้พร้อมใช้ และเพื่อเตรียมความพร้อมการเปิดให้บริการเมืองใหม่ช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ในวันทเสาร์ที่ 1 มีนาคม 2557 นี้ ซึ่งการประชุมในครั้งนี้ เป็นการประชุมติดตามความคืบหน้า ในการปรับปรุงสถานที่ให้พร้อมใช้ และเพื่อเตรียมความพร้อมการเปิดให้บริการเมืองใหม่ช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรี ในวันเสาร์ที่ 1 มีนาคม 2557 นี้ โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้สั่งการให้ดำเนินการ จัดทำป้ายห้ามบุกรุกพื้นที่ป่าไม้บริเวณตลาดเก่าช่องสะงำ จัดทำป้ายขึ้นตอนปฏิบัติการนำรถและรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล(รถของไทย) ออก – เข้า ชั่วคราวตามแนวชายแดน และการหาฤกษ์ยามวันดี เพื่อประกอบพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพิธีกรรมทางศาสนาที่เมืองใหม่ช่องสะงำ

นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ รอง ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้ จ.ศรีสะเกษ ได้มีการเตรียมความพร้อมของทุกภาคส่วนราชการ เพื่อให้ทำงานได้อย่างมีระบบ และมีประสิทธิภาพ หากมีการย้ายประชาชนเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่เมืองใหม่ช่องสะงำแล้ว ซึ่งในวันนี้ได้มีการทดสอบระบบสาธารณูปโภค ประกอบด้วย น้ำประปา และไฟฟ้า ซึ่งจากการตรวจสอบระบบต่าง ๆ ในภาพรวมแล้ว ถือว่ามีความพร้อมเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ และ ได้มีการเตรียมออกประกาศเกี่ยวกับกรณีการเดินทางผ่านพรมแดน โดยมีมาตรการที่สำคัญ คือ รถทุกคันที่จะเดินทางไปยังจุดผ่านแดนถาวรไทย – กัมพูชา ช่องสะงำ นั้น จะต้องนำรถมาจอดไว้ที่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารเมืองใหม่ช่องสะงำ ซึ่งจะมีรถโดยสารประจำทาง เพื่อให้บริการประชาชนในการเดินทางไปยังด่านพรมแดนถาวรช่องสะงำ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยในการเดินทาง ทั้งนี้ จ.ศรีสะเกษ พร้อมการเปิดให้บริการเมืองใหม่ช่องสะงำ อย่างเป็นทางการ ในวันเสาร์ที่ 1 มี.ค. 2557 นี้ ซึ่งตนเชื่อว่า ในการเปิดเมืองใหม่ช่องสะงำนี้ จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของ จ.ศรีสะเกษ ให้ดียิ่งขึ้นอย่างแน่นอน



ฉัตรชัย พรหมมาศ/ข่าว/ภาพ

ร้อยเอ็ด คุมเข้มร้านเกมส์ อินเตอร์เน็ต ในพื้นที่ จัดระเบียบสังคม ตรวจเข้มยาเสพติด

เมื่อเวลา 10.00 น. (วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2557 ) นายอภิชาต อารีย์พัฒนไพบูลย์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง อำเภอเมืองร้อยเอ็ด พร้อมด้วยชุดเฉพาะกิจอำเภอเมืองร้อยเอ็ด ออกตรวจร้านเกมส์ อินเตอร์เน็ต ในเขตพื้นที่ 8 แห่ง คุมเข้ม จัดระเบียบสังคม ตรวจเข้มยาเสพติด ในกลุ่มเด็ก เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้าใช้บริการในร้านอินเตอร์เน็ต ผลการปฏิบัติงาน พบว่ายังมีร้านอินเตอร์เน็ต บางแห่งปล่อยให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้าใช้บริการก่อนเวลาที่กำหนด จำนวน 8 คน ผู้เข้าใช้ไม่แสดงบัตรประจำตัวประชาชน เมื่อเจ้าพนักงานขอตรวจ จำนวน 7 ราย ได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย นอกจากนี้ยังตรวจพบปัสสาวะผู้ใช้บริการพบว่า 2 คนมีสารเสพติดในปัสสาวะ สอบถามได้ยอมรับว่าได้เสพยาเสพติด (ยาบ้า )จริง มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตอำเภออาจสามารถ และได้ประสานให้ศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอำเภออาจสามารถรับตัวเพื่อเข้าสู่กระบวนการบำบัดและขยายผลต่อไป นายอภิชาต อารีย์พัฒนไพบูลย์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง อำเภอเมืองร้อยเอ็ด ได้เน้นย้ำกับสถานประกอบการ ให้ช่วยสอดส่องดูแลเข้ามาใช้บริการ ปฏิบัติตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด หากร้านใดที่พบว่ามีการกระทำผิดจะดำเนินการตามกฏหมายอย่างเฉียบขาด



บุญมี/ข่าว/ภาพกมลพร คำนึง บก ข่าว

คณะกรรมการคัดเลือก อสม.ดีเด่นระดับชาติลงพื้นที่ยโสธร

คณะกรรมการคัดเลือก อสม.ดีเด่นระดับชาติลงพื้นยโสธร ที่วัดศรีสุนทร บ้านหนองบ่อ ตำบลหนองหิน อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร นายจรรยา สุคนธ์คันธชาติ รองผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ให้การต้อนรับ นายแพทย์วิชัย สติมัย แพทย์ทรงคุณวุฒิ ประธานคณะกรรมการคัดเลือก อสม. ดีเด่นระดับชาติ สาขาการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ ในโอกาสที่เดินทางมาคัดเลือก อสม.ดีเด่นระดับชาติ ซึ่งจังหวัดยโสธรได้ส่ง อสม.ปราโมทย์ เตาแก้ว เข้ารับการคัดเลือกในครั้งนี้ อสม.ปราโมทย์ เตาแก้ว เป็นตัวแทน อสม.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สาขาการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ ดังนั้นวันนี้คณะกรรมการคัดเลือก จึงได้ลงพื้นที่เพื่อมาประเมินผลงาน ในการตัดสินเข้ารับรางวัล อสม.ดีเด่นระดับชาติ อสม.ปราโมทย์ เตาแก้ว อยู่บ้านเลขที่ 155 หมู่ 4 ต.หนองหิน อ.เมือง จ.ยโสธร อายุ 53 ปี ระยะเวลาในการเป็น อสม. 18 ปี เริ่มทำงานโดยดึงการมีส่วนร่วมของภาคเครือค่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนา ทำให้มีกิจกรรมต่างๆ เกิดขึ้นในชุมชน เช่น การซ้อมแผนตอบโต้ภัยสุขภาพ การอบรมพ่นหมอกควัน การคัดกรองวัณโรค การเฝ้าระวังโรคมือ เท้า ปาก การควบคุมป้องกันโรค ไข้หวัดใหญ่ 2009 การเฝ้าระวังป้องกันโรคเลปโตสไปโรซีส การควบคุมป้องกันโรคไข้เลือดออก จนทำให้เกิดผลงานขึ้นในชุมชน คือ มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติงาน SRRT ระดับหมู่บ้าน

การคาดหมายลักษณะอากาศช่วงฤดูร้อนของประเทศไทยและสภาพอากาศจังหวัดมุกดาหาร

นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า ฤดูร้อนของประเทศไทยปีนี้(พ.ศ.๒๕๕๗) จะเริ่มประมาณปลายสัปดาห์ที่ ๓-๔ ของเดือนกุมภาพันธ์ (ปกติจะเริ่มประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์)ในช่วงต้นฤดูความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นระยะๆ ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีอากาศเย็นเกือบทั่วไปในตอนเช้าและมีอากาศหนาวบางพื้นที่ในบางวัน ส่วนในตอนกลางวัน จะมีอากาศร้อนเกือบทั่วไปจากนั้นประมาณกลางเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนเป็นระยะทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศร้อนอบอ้าวทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดในหลายพื้นที่โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน อย่างไรก็ตามในช่วงดังกล่าวจะมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับบางช่วงอาจมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณดังกล่าว ทำให้มีฝนฟ้าคะนองในบางวัน ซึ่งจะช่วยคลายความร้อนลงไปได้ ส่วนในช่วงปลายฤดู (ประมาณกลางเดือนพฤษภาคม) ลักษณะอากาศจะแปรปรวน โดยบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยยังคงมีอากาศร้อนอบอ้าวเกือบทั่วไปและร้อนจัดบางพื้นที่ กับจะมีฝนฟ้าคะนองเป็นระยะๆ โดยฤดูร้อนปีนี้จะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนพฤษภาคม และเริ่มเข้าฤดูฝนต่อไป

สำหรับฤดูร้อนปีนี้ คาดว่าอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยจะสูงกว่าปกติ แต่จะใกล้เคียงกับปีที่แล้ว(๒๕๕๖)ส่วนปริมาณฝนรวมจะใกล้เคียงถึงต่ำกว่าค่าปกติ และใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณน้ำฝนไม่มีเพียงพอกับความต้องการในหลายพื้นที่ ทั้งทางด้านอุปโภค บริโภคและการเกษตรกรรม โดยเฉพาะพื้นที่ที่แล้งซ้ำซาก รวมทั้งพื้นที่นอกเขตชลประทานบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาจจะต้องประสบกับการขาดแคลนน้ำ ประชาชนจึงควรประหยัดการใช้น้ำ และวางแผนการใช้น้ำให้ได้ประโยชน์สูงสุดด้วย

สำหรับบริเวณจังหวัดมุกดาหาร อากาศร้อนเกือบทั่วไป อุณหภูมิสูงสุดประมาณ ๓๕-๓๙ องศาเซลเซียส กับมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ในบางวัน อุณหภูมิสูงสุดประมาณ ๔๐-๔๓ องศาเซลเซียส โดยเฉพาะในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน แต่ในบางช่วงจะมีฝนตกลงมาช่วยคลายความร้อนลงได้ โดยจะมีฝนฟ้าคะนอง กับลมกระโชกแรงและอาจมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ ในช่วงฤดูร้อนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในเดือนมีนาคมและเมษายน โดยจะมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกลงมาด้วย จึงขอให้ประชาชนเตรียมป้องกันอันตรายอันเนื่องมาจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ทรัพย์สิน สิ่งปลูกสร้าง ตลอดจนทำความเสียหายแก่พืชผลทางการเกษตรได้ และจากสภาวะอากาศที่ร้อน และแห้งแล้ง จะเอื้ออำนวยต่อการเกิดเพลิงไหม้หรือไฟป่าได้ง่ายประชาชนจึงควรระมัดระวังการใช้เชื้อเพลิงในการทำกิจกรรมต่างๆไว้ด้วย



สุภาวดี  อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน สำนักงานอัยการสูงสุด จัดโครงการเครือข่ายงานสร้างความตระหนักด้านคุมครอง ผู้บริโภค เพื่อรองรับประชาคมอาเซียน

วันนี้ (๒๗ ก.พ.๕๗) เวลา ๐๙.๐๐ น.ที่ห้องประชุมโรงแรมพลอยพาเลซ อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน สำนักงานอัยการสูงสุด จัดโครงการขยายเครือข่ายงานการสร้างความตระหนักด้านคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อรองรับประชาคมอาเซียน ประจำปี ๒๕๕๗ โดยมีนายธวัชชัย ธรรมรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานพิธี กลุ่มเป้าหมาย จำนวน ๑๒๐ คน จากผู้นำชุมชน ผู้ประกอบธุรกิจ เขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร เพื่อช่วยให้กลุ่มเป้าหมายมีความเข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตนเองในฐานะผู้บริโภค

ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการจงหวัดมุกดาหาร ขอให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมตามโครงการ ได้ช่วยกันร่วมเป็นเครือข่ายความร่วมมือในการคุ้มครองผู้บริโภคกับหน่วยงานของรัฐพื้นที่จังหวัดมุกดาหารซึ่งเป็นจังหวัดชายแดน มีพื้นที่ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มสมาชิกอาเซียนต่อไป


  
                                                                                               สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกอาหาร/ข่าว                                                                                                 พิพัฒน์ เพชรสังหาร/ภาพ  

เชิญเที่ยวงาน “ผ้าไหมงามจังหวัดมหาสารคามและ OTOP ปี 2557” สร้างรายได้ให้ชุมชน

จังหวัดมหาสารคาม จัดงาน "ผ้าไหมงามจังหวัดมหาสารคามและ OTOP ปี 2557” ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์-3 มีนาคม 2557 ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้า เจเจ มอลล์ จตุจักร กรุงเทพมหานคร ขยายช่องทางการตลาด สร้างรายได้ให้ชุมชน

นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า จังหวัดมหาสารคาม ได้กำหนดจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้า ภายใต้ชื่อ "ผ้าไหมงามจังหวัดมหาสารคามและ OTOP ปี 2557” โดยงานดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 กุมพาพันธ์ -3 มีนาคม 2557 ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้า เจเจ มอลล์ จตุจักร กรุงเทพมหานคร ระหว่างเวลา 10.00-20.00 น. มีกลุ่มผู้ผลิตและผู้ประกอบการสินค้า OTOP ของจังหวัดมหาสารคาม จำนวน 80 คูหา ร่วมแสดงและจำหน่ายสินค้า เพื่อเป็นการสร้างประสบการณ์การจำหน่ายผลผลิตในรูปแบบใหม่และขยายช่องทางการตลาด สร้างรายได้ให้แก่กลุ่มผู้ผลิตและผู้ประกอบการสินค้า OTOP ของจังหวัดมหาสารคาม

งาน "ผ้าไหมงามจังหวัดมหาสารคามและ OTOP ปี 2557” กำหนดพิธีเปิดในวันนี้ (27-2-57) เวลา 14.00 น. โดยนำผลผลิตที่มีชื่อเสียงของจังหวัดมหาสารคามมาจัดแสดงและจำหน่าย ได้แก่ ผ้าไหมลายสร้อยดอกหมาก ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ เสื่อกกบ้านแพง ขนม อาหาร และผลผลิตที่เป็นสินค้า OTOP อีกจำนวนมาก


ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม อัญเชิญพวงมาลาพระราชทานวางหน้าหีบศพทหารกล้า

ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม อัญเชิญพวงมาลาพระราชทาน ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ แก่อาสาสมัครทหารพรานโกวิทย์ จิตบุตร ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ที่จังหวัดปัตตานี

ค่ำวานนี้ (26-2-57) เวลา 18.15 น. ที่วัดอุทัยโพธิ์ทอง บ้านขี ตำบลหนองขอน อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นผู้แทนพระองค์อัญเชิญพวงมาลาพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ วางหน้าหีบศพอาสาสมัครทหารพรานโกวิทย์ จิตบุตร ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา สร้างความปลาบปลื้มให้แก่ครอบครัวของอาสาสมัครทหารพรานโกวิทย์ จิตบุตร เป็นอย่างมาก ทุกคนในครอบครัวต่างรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ เป็นอย่างยิ่ง โดยกําหนดพระราชทานเพลิงศพ ในวันที่ 1 มีนาคม 2557 ณ วัดอุทัยโพธิ์ทอง บ้านขี ตำบลหนองขอน อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม

สำหรับอาสาสมัครทหารพรานโกวิทย์ จิตบุตร อายุ 29 ปี เป็นบุตรของนายสมควร นางบุญล้อม จิตบุตร สมรสกับนางสาวสิริอร คณวาปี ได้เพียง 1 เดือนเศษ มีพี่น้องร่วมบิดามารดา 1 คน ผู้เสียชีวิตเป็นบุตรคนโต


ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

กรอ.ขอนแก่น เดินทางไปศึกษาดูงานนอกสถานที่ที่จังหวัดน่าน เพื่อเพิ่มศักยภาพการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดขอนแก่น

กรอ.ขอนแก่น  จัดประชุมสัมมนาและเดินทางไปศึกษาดูงานนอกสถานที่ที่จังหวัดน่าน  ระหว่างวันที่  27 กุมภาพันธ์  -  2  มีนาคม  2557 เพื่อเพิ่มศักยภาพการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดขอนแก่น

นายสมศักดิ์  สุวรรณสุจริต  ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น  เปิดเผยว่า  ระหว่างวันที่  27  กุมภาพันธ์ – 2  มีนาคม  2557  จังหวัดขอนแก่น โดยคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน  เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ หรือ กรอ.จังหวัดขอนแก่น  กำหนดจัดประชุมสัมมนา  กรอ.จังหวัดขอนแก่น ที่ห้องประชุมพระธาตุขามแก่น  ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ชั้น 2 ในเช้าวันนี้ (27 ก.พ.57)  และเดินทางไปศึกษาดูงานนอกสถานที่ที่จังหวัดน่าน  เพื่อเพิ่มศักยภาพในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดขอนแก่น  ประจำปี  2557 โดยมี  นายวินัย  สิทธิมณฑล  รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น  เป็นหัวหน้าคณะ  นอกจากนี้ก็จะมีหัวหน้าส่วนราชการ  นายสมิง  ยิ้มศิริ  ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น  ผู้แทนภาคธุรกิจเอกชน  และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำนวน  40  คน ร่วมเดินทางไปศึกษาดูงานนอกสถานที่ที่จังหวัดน่าน ในครั้งนี้

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น  เปิดเผยเพิ่มเติมว่า  นอกจากคณะจะเดินทางไปศึกษาดูงานด้านวิถีวิชีวิต  ด้านศิลปวัฒนธรรม  โบราณสถาน  ด้านเศรษฐกิจและสังคม  และด้านการท่องเที่ยวสถานที่สำคัญต่าง ๆ ของจังหวัดน่าน  แล้วยังจะมีการเข้าร่วมรับฟังการเสวนาเรื่อง จังหวัดน่านกับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ณ ข่วงเมืองน่าน  การนำสินค้าโอท็อปของจังหวัดขอนแก่นไปแสดงแลกเปลี่ยนและเพิ่มช่องทางการจำหน่ายด้วยแล้ว  คณะยังจะไปศึกษาดูงานโครงการตามพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ศูนย์ภูฟ้าพัฒนา  อำเภอบ่อเกลือ  จังหวัดน่าน  เป็นต้น


สมพงษ์ ปัตตานี/ ข่าว/อารมย์/พิมพ์ 

จังหวัดขอนแก่น เตรียมป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งปี 2557

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า จังหวัดขอนแก่นเตรียมพร้อมแก้ปัญหาภัยแล้งปี 2557 เตรียมการ จัดทำบัญชีหมู่บ้านและชุมชนที่มีความเสี่ยงต่อการประสบปัญหาภัยแล้ง จัดทำแผนเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง จัดเตรียมกำลังคน สำรวจวัสดุอุปกรณ์ รถยนต์บรรทุกน้ำ เครื่องสูบน้ำ สำรวจตรวจสอบแหล่งน้ำ รวบรวมข้อมูลและประมวลข้อคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำเป็นแผน ดำเนินการขุดลอก คู คลอง แหล่งน้ำสาธารณะรณรงค์และส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดหาภาชนะเก็บกักน้ำและใช้น้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภคอย่างประหยัด ถูกวิธี ถูกสุขลักษณะ แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ความสำคัญในการดูแลรักษาแหล่งน้ำสาธารณะ คู คลอง หนอง บึง และภาชนะเก็บกักน้ำอื่น ๆ ติดตามและประสานการบริหารจัดการน้ำ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด

หากสถานการณ์ภัยแล้งส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตร ให้รีบประสานไปยัง สำนักฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อจัดทำฝนหลวง ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานมีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง 14 จังหวัด รวมทั้งจังหวัดขอนแก่น ขอความร่วมมือประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด เตรียมสำรองน้ำไว้อุปโภคบริโภค เกษตรกรควรวางแผนการเพาะปลูกพืชให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำและแผนการจัดสรรน้ำในพื้นที่ งดเว้นการทำนาปรัง เพื่อป้องกันพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายจากการขาดแคลนน้ำ ท้ังนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง


ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตรเพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

จังหวัดขอนแก่นเปิด โครงการฝึกอบรมทีมวิทยากรถ่ายทอดความรู้การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีปุ๋ยสั่งตัดลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลผลิตข้าว หลังประสบผลสำเร็จในการนำร่องที่อำเภอซำสูง

นายสมศักดิ์สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมทีมวิทยากรถ่ายทอดความรู้การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีปุ๋ยสั่งตัดลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลผลิตข้าว ให้กับตัวแทนสำนักงานเกษตรอำเภอทั้ง 26 อำเภอรวมทั้งเจ้าหน้าเกษตรจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและ แกนนำเกษตรกรต้นแบบ จัดที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีขอนแก่น อำเภอมัญจาคีรี  โดยทีมวิทยากรที่มีการวิจัยการทำปุ๋ยสั่งตัดระดับประทศจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มาเป็นวิทยากรนำทีมโดย ศาสตราจารย์ ด็อกเตอร์ ทัศนีย์ อัตตะนันทนท์ และ ดร. ประทีป วีระพัฒนนิรันดร์ การฝึกอบรมให้ความรู้กับทีมวิทยากรครั้งนี้สืบเนื่องจากในปีที่ผ่านมาการโครงการส่งเสริมเทคโนโลยีปุ๋ยสั่งตัดสำหรับข้าวนำร่องใน 2 ตำบลของอำเภอซำสูงพบว่าเกษตรที่เข้าร่วมโครงการ 50 รายมีผลดำเนินการลดต้นทุนการผลิตค่าปุ๋ยเคมีลงครึ่งหนึ่งและมีผลผลิตข้าวที่เพิ่มขึ้นกว่าเดิมร้อยละ 10 ดังนั้นทางจังหวัดขอนแก่นจึงมีโครงการเพิ่มขึ้นอีกให้ครบ 26 อำเภอๆละ 1 ตำบลเข้าร่วมก่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นกล่าวว่าโครงการใช้เทคโนโลยีปุ๋ยสั่งตัดเป็นเทคโนโลยีที่ยังใหม่กับเกษตรกรและเมื่อนำมาใช้ทำให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยเคมีในนาข้าวได้ครึ่งหนึ่งและมีผลผลิตเพิ่มขึ้น  ซึ่งเป็นไปตามแนวทางการพัฒนาจังหวัดด้านการเกษตร ที่มุ่ง หวังให้เกษตรกรลดต้นทุนการผลิตและได้ผลผลิตข้าวเพิ่มขึ้น โดยวิทยากรที่ผ่านการอบรมครั้งนี้จะนำความรู้ไปถ่ายทอดให้กับเกษตรกรทั้ง 26 อำเภอของจังหวัดขอนแก่นด้วย

จังหวัดขอนแก่น คัดเลือกเยาวชน 4 คน จากสถานศึกษาต่างๆ เข้าร่วมค่ายยุวชนประชาธิปไตย ประจำปี 2557

จังหวัดขอนแก่นคัดเลือกเยาวชน  4  คน จากโรงเรียนราชประชานุเคราะห์  50 ขอนแก่น , โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน 3 , โรงเรียนจตุรมิตรวิทยาคาร และมหาวิทยาลัยมกุฏราชวิทยาลัยขอนแก่น เข้าร่วมค่ายยุวชนประชาธิปไตยของรัฐสภา ประจำปี 2557 เพื่อส่งเสริมความรู้การเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตย

เช้าวันนี้ ( 27 กุมภาพันธ์  2557) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ชั้น 3 ได้มีการประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณาคัดเลือกเยาวชนเป็นตัวแทนจังหวัดขอนแก่นไปเข้าร่วมกิจกรรมค่ายยุวชนประชาธิปไตยของรัฐสภา ประจำปี 2557 โดยมี นางเพ็ญสุภา  ศิริสวัสดิ์ พัฒนาการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานการประชุม โดยจังหวัดขอนแก่นได้มีคำสั่งที่  407/2557 ลงวันที่  3  กุมภาพันธ์  2557 แต่งตั้งเป็นกรรมการร่วมกันพิจารณาคัดเลือกนักเรียน นักศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและระดับอุดมศึกษาที่โรงเรียนและมหาวิทยาลัยส่งเข้ารับการคัดเลือก จำนวน  22  คน เพื่อคัดเลือกให้เหลือ  4  คน เป็นตัวแทนเยาวชนของจังหวัดขอนแก่นไปร่วมเข้าค่ายยุวชนประชาธิปไตย ประจำปี 2557 รวม  2  รุ่น คือ ระหว่างวันที่  17 – 26 มีนาคม  2557 และรุ่นที่ 2 ระหว่างวันที่  31 มีนาคม – 9 เมษายน  2557 ณ สถาบันวิชาการ ทีโอที ถนนงามวงศ์วาน อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี นอกจากนี้จังหวัดขอนแก่นก็คัดเลือกเยาวชนสำรองไว้อีก 6 คน ด้วย หากเยาวชน  4  คนที่ได้รับคัดเลือก ไม่สามารถเดินทางไปร่วมค่ายยุวชนประชาธิปไตยทั้งสองรุ่นได้

นางเพ็ญ  สุภา  ศิริสวัสดิ์  พัฒนาการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมว่า เยาวชนทั้ง  4  คน ที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการประกอบด้วย  1.นายสุวิทย์  สาเรียง นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์  50  อำเภอบ้านแฮด จังหวัดขอนแก่น  2. นางสาวตะวัน   ทาพิลา  นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนจตุรมิตรวิทยาคาร อำเภอชุมแพ  จังหวัดขอนแก่น  3.นายพงษ์สิทธิ์  ต้นภูเขียว  นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน  3  อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น  และ 4.นางสาวสุภมาศ   ไสยโสภณ  กำลังศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยมกุฏราชวิทยาลัยขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น


สมพงษ์/ข่าว/สุรเดช/พิมพ์

จังหวัดขอนแก่น ประสบภาวะฝนทิ้งช่วงพื้นที่ 13 อำเภอผู้ว่าราชการขอนแก่นให้เร่งช่วยเหลือประชาชนด่วน

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเปิดเผยว่าสภาพแห้งแล้งของลมฟ้าอากาศ อันเกิดจากการที่มีปริมาณฝนน้อยหรือฝนไม่ตกเป็นระยะเวลานานและครอบคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้างขอนแก่นประสบภัย 16 อำเภอ ทำให้เกิดการขาดแคลนน้ำดื่ม น้ำใช้ พืชพันธุ์ไม้ต่างๆ ขาดน้ำไม่สามารถเจริญเติบโตได้ตามปกติ เกิดความเสียหายและส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง รุนแรงต่อประชาชน เพื่อป้องกันและบรรเทาผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่เกิดจากภัยแล้ง เพื่อให้การดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว เพื่อกำหนดหน้าที่ ความรับผิดชอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและองค์กรเครือข่ายทุกภาคส่วนในการป้องกันและบรรเทาสถานการณ์ภัยแล้งให้ชัดเจน บูรณาการ และมีประสิทธิภาพ

ส่วนสถานการณ์ภัยแล้งในภาพรวมของ จ.ขอนแก่นในขณะนี้ว่า หลายพื้นที่เริ่มประสานขอรับการช่วยเหลือทั้งน้ำสำหรับการอุปโภคและบริโภค การบริหารจัดการน้ำในภาพรวมทั้งในเขตและนอกเขตชลประทานจะต้องเป็นไปตามแนวทางที่คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำระดับจังหวัดกำหนด เพื่อยืดระยะเวลาและการจัดสรรน้ำให้กระจายครอบคลุมอย่างทั่วถึง ส่วนพื้นที่ชนบทห่างไกลที่มีปัญหาแหล่งน้ำดิบตื้นเขิน ระบบบาดาล หรือประปาหมู่บ้านมีปริมาณน้ำน้อย ก็ให้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าไปแก้ปัญหาช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน จากการสำรวจสภาพปริมาณน้ำเก็บกักโดยเฉพาะภายในเขื่อนอุบลรัตน์ และระบบชลประทานในภาพรวมของจังหวัด รวมทั้งการสำรวจแหล่งน้ำสาธารณะที่เป็นหัวใจหลักของการบริหารจัดการน้ำทั้ง 14 แห่ง ณ ตอนนี้ถือว่ามีปริมาณน้ำเก็บกักเพียงพอสำหรับการจ่ายน้ำให้กับพื้นที่ในเขตชลประทาน รวมไปถึงการจ่ายน้ำในพื้นที่ชุมชนสำหรับการผลิตน้ำประปาเพื่อให้มีน้ำดื่ม-น้ำใช้ตลอดช่วงฤดูแล้งของปีนี้ อย่างไรก็ตาม อยากขอความร่วมมือไปยังกลุ่มเกษตรกรให้ระงับการทำนาปรังหรือการปลูกพืช ทางการเกษตรในระยะนี้ เพราะปัญหาแล้งภาวะฝนทิ้งช่วงจะทำให้ผลผลิตไม่ดีเท่าที่ควร



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติสนับสนุนเงินกว่า 4 แสนบาท เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการกาฬสินธุ์

เช้าวันนี้ (27 ก.พ.57)  ที่ห้องประชุม ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานมอบเช็คเงินสดของกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ จำนวน 4 โครงการ

นายประณต จันทร์ศรี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ด้วยสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ โดยกองบริหารกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ได้จัดทำโครงการตามแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ (1 บาท/จำนวนประชากรในแต่ละจังหวัด) โดยเริ่มดำเนินการทุกจังหวัดตั้งแต่ปี พ.ศ.2551 เป็นต้นมา ในปีงบประมาณ 2557 จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับกรอบวงเงินจำนวน 990,363.-บาท (เก้าแสนเก้าหมื่นสามร้อยหกสิบสามบาทถ้วน) และมีองค์กรคนพิการ ที่เสนอโครงการและได้รับอนุมัติเงินสนับสนุนจากกองทุนฯ ที่ผ่านมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการประจำจังหวัดปี 2556 จำนวน 4 โครงการ เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 469,620.-บาท (สี่แสนหกหมื่นเก้าพันหกร้อยยี่สิบบาทถ้วน) ได้แก่

1.โครงการสัมพันธ์พัฒนาผู้ดูแลบุคคลออทิสติก จังหวัดกาฬสินธุ์ ของมูลนิธิออทิสติกไทย สาขากาฬสินธุ์ ได้รับอนุมัติเงินจำนวน 170,160.-บาท (หนึ่งแสนเจ็ดหมื่นหนี่งร้อยหกสิบบาทถ้วน) มีนางสมคิด สุทธิพรม ประธานมูลนิธิออทิสติกไทย สาขากาฬสินธุ์ เป็นผู้รับมอบเช็ค
2.โครงการสัมพันธ์พัฒนาผู้ดูแลบุคคลออทิสติก อำเภอนามน จังหวัดกาฬสินธุ์ ของชมรมผู้ปกครองบุคคลออทิสติก จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับการอนุมัติเงินจำนวน 170,160.-บาท (หนึ่งแสนเจ็ดหมื่นหนึ่งร้อยหกสิบบาทถ้วน)มีนางสมคิด สุทธิพรม ประธานมูลนิธิออทิสติกไทย สาขากาฬสินธุ์ เป็นผู้รับมอบเช็ค
3.โครงการค่ายครอบครัวเพื่อเสริมสร้างสุขภาพจิตดี ตามวิถีพอเพียงของชมรมอาสาสมัครและเครือข่ายญาติผู้ป่วยจิตเวช อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับอนุมัติเงินจำนวน 66,480.-บาท (หกหมื่นหกพันสี่ร้อยแปดสิบบาทถ้วน) มีนางดวงฤดี กาญจันดา ประธานชมรมอาสาสมัครและเครือข่ายญาติผู้ป่วยจิตเวช อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์
4.โครงการอบรมให้ความรู้และฝึกอาชีพทำน้ำยาซักผ้าเพื่อใช้ในครัวเรือนและขยายเครือข่ายชมรมคนพิการ ของชมรมคนพิการทางการเคลื่อนไหวเทศบาลตำบลไผ่ ได้รับการพิจารณาอนุมัติเงินจำนวน 57,200.-บาท (ห้าหมื่นสองร้อยบาทถ้วน) มีนายลำไย ภูขัน ประธานชมรมคนพิการทางการเคลื่อนไหวเทศบาลตำบลไผ่

สำหรับจังหวัดกาฬสินธุ์ มีองค์กรคนพิการที่จดทะเบียนแล้ว 37 องค์กร ประกอบด้วย 32 สมาคมฯ 4 ชมรม และ 1 มูลนิธิ


วิภาดา รัตนโรจนา/ข่าว

วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากระตุ้นการท่องเที่ยวโดยจัดกิจกรรมกีฬาและหาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ในภาคอีสาน

นายสมศักย์  ภูรีศรีศักดิ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  เดินทางมาตรวจราชการและติดตามผลการดำเนินการตามนโยบายการบริหารการดำเนินการท่องเที่ยวและกีฬา  กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน  โดยที่จังหวัดนครพนมได้ตรวจสนามกีฬาระดับอำเภอโรงเรียนปิยะมหาราชาลัย  เพื่อสร้างสนามฟุตบอล  พร้อมลู่วิ่ง  โรงยิมเอนกประสงค์  ลานกีฬาเอนกประสงค์  จากนั้นตรวจเยี่ยมพิพิธภัณฑ์บ้านโฮจิมินห์  ที่บ้านนาจอก  ต.หนองญาติ  อำเภอเมืองนครพนม  โดยจะจัดสร้างพิพิธภัณฑ์บ้านโฮจิมินห์  เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ที่โฮจิมินห์ได้มาพำนักในประเทศไทยก่อนกลับไปกู้ชาติเวียดนาม   ซึ่งทางพรรคคอมมิวนิสต์สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามได้ให้งบประมาณไว้แล้ว  45 ล้านบาท

นายสมศักย์  ภูรีศรีศักดิ์  กล่าวว่า  การมาตรวจเยี่ยมครั้งนี้  เป็นการหาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่เลียบแม่น้ำโขง  แก้ปัญหานักท่องเที่ยวที่ไม่สามารถเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ได้ในขณะนี้   โดยส่งเสริมจังหวัดในภูมิภาคเพื่อรองรับการแข่งขันจักรยานเลียบแม่น้ำโขงเหมือนการแข่งขันจักรยานของประเทศฝรั่งเศส  เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจลงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  โดยให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกได้สนใจร่วมกิจกรรมและได้เห็นศักยภาพของแต่ละจังหวัดด้วย

วันสหกรณ์แห่งชาติจังหวัดนครพนม ประจำปี 2557

นายอดิศักดิ์  เทพอาสน์  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม  ประธานพิธีเปิดงานวันสหกรณ์แห่งชาติ  จังหวัดนครพนม  ประจำปี 2557  ได้จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยและวางพุ่มดอกไม้สด  ถวายสักการะพระรูปและกว่าสดุดีพระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์  พระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย ที่ทรงจัดตั้งสหกรณ์  เพื่อช่วยกู้ฐานะชาวนาให้พ้นจากภาวะหนี้สินพอกพูน  ทรงส่งเสริมให้มีการทดลองจัดตั้งสหกรณ์เป็นแห่งแรก  คือ สหกรณ์วัดจันทร์ไม่จำกัดสินใช้  จังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2459 ทรงดำรงตำแหน่งนายทะเบียนสหกรณ์พระองค์แรก ทรงเป็นผู้นำในการเผยแพร่อุดมการณ์สหกรณ์  การช่วยตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกันเป็นที่แพร่หลายทั่วราชอาณาจักร  ทรงส่งเสริมให้มีการกำหนดระเบียบ ข้อบังคับ และกฎเกณฑ์ต่างๆ  ควบคุม ตรวจสอบ บัญชี การรับส่งเงิน  แนะนำวิธีการดำเนินงานสหกรณ์รวมทั้งพัฒนางานสหกรณ์จนมีการตั้งสหกรณ์อื่นๆ ส่งผลให้เกษตรกรและสมาชิกสหกรณ์พ้นจากภาวะหนี้สิน  มีทุนในการประกอบอาชีพ มีความเป็นอยู่ที่พอกิน ก่อให้เกิดผลดีในการพัฒนาประเทศ

นายอดิศักดิ์  เทพอาสน์  กล่าวว่า สหกรณ์ถือเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้เจริญก้าวหน้า  ด้วยการช่วยเหลือสมาชิกในการประกอบอาชีพ ยกระดับรายได้และพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  โดยสหกรณ์ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนเป็นที่พึ่งของมวลสมาชิกได้  จากนั้นได้มอบเกียรติบัตรและเงินอุดหนุนแก่สหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกรและกลุ่มอาชีพที่เข้าร่วมโครงการภายใต้การแนะนำของกรมส่งเสริมสหกรณ์

สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ ๗ (ขอนแก่น) ประกวดป่าชุมชน คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน ประจำปี ๒๕๕๗

นายพิชญะ ยั่งยืน ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ ๗ เปิดเผยว่า กรมป่าไม้ร่วมกับบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกันจัดให้มีการประกวดป่าชุมชน ตามโครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน ประจำปี พ.ศ.๒๕๕๗ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการป่าชุมชน ตลอดจนเพื่อเฟ้นหาป่าชุมชนที่มีแผนงานระบบ และกระบวนการในการอนุรักษ์และพัฒนาป่าอย่างเข้มแข็ง โดยการมีส่วนร่วมของสมาชิกในชุมชน สามารถเป็นชุมชนตัวอย่างและศูนย์กลางการเรียนรู้ของชุมชนอื่นได้ เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ – ๓๐ เมษายน ๒๕๕๗ เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถติดต่อขอรับใบสมัครและยื่นใบสมัครได้ที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ ๑ – ๑๓ และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้สาขาทุกสาขา ในเวลาราชการ หรือส่งทางไปรษณีย์ถึงกรมกรมป่าไม้ เลขที่ ๖๑ ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ๑๐๙๐๐ ภายในวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๗ โดยถือวันที่ประทับตราไปรษณีย์เป็นสำคัญ โดยมิต้องเสียค่าธรรมเนียมการสมัครแต่อย่างใด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนจัดการป่าชุมชน โทร.๐๔๓-๓๓๐๓๘๒ เว็บไซต์ www.forest.go.th




สุภาวดี  อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

ขนส่งจังหวัดมุกดาหาร งดให้บริการรับชำระภาษีประจำปี ในวันเสาร์ที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๗

นายพิชิต ศรีสว่าง นักวิชาการขนส่งชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนขนส่งจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า สำนักงานขนส่งจังหวัดมุกดาหาร เปิดให้บริการรับชำระภาษีในวันเสาร์แรกของทุกเดือน ในปีงบประมาณ ๒๕๕๗ โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนตุลาคม ๒๕๕๖ – กันยายน ๒๕๕๗ เป็นต้นไป

ทั้งนี้ สำนักงานขนส่งจังหวัดมุกดาหาร ของดให้บริการรับชำระภาษีประจำปี ในวันเสาร์ที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๗ ณ สำนักงานขนส่งจังหวัดมุกดาหาร ตำบลมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร เนื่องจากอยู่ในระหว่างที่มีการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

องค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด มอบเสื้อกันหนาวให้ราษฎรพื้นที่อำเภอโพนทอง

เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมโรงเรียนอนุบาลโพนทอง อำเภอโพนทอง
จังหวัดร้อยเอ็ด นายมังกร ยนต์ตระกูล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานมอบเสื้อกันหนาวให้ราษฎรในพื้นที่อำเภอโพนทอง โดยมีนายทัศนัย ไวนิยมพงศ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด นายกิติศักดิ์ เลิศศิริรังสรรค์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด เขตอำเภอโพนทอง นางสิรีนาถ เกิดเหมาะ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด และหัวหน้าส่วนราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมมอบเสื้อกันหนาวในครั้งนี้ จำนวน 1,000 ตัว ให้กับราษฎรในพื้นที่ตำบลโพธิ์ทอง ตำบลโพธิ์ศรีสว่าง ตำบลสระนกแก้ว เทศบาลตำบลโพนทอง และตำบลโคกสูง
นายมังกร ยนต์ตระกูล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า นอกจากนำเสื้อกันหนาวมามอบให้แล้ว องค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด จะดำเนินการแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน 3 ประกอบด้วย เรื่องการศึกษา อบจ.ร้อยเอ็ด ได้จัดให้มีการกวดวิชา เป็นปีที่ 6 โดยอาจารย์ที่มีความรู้มากวดวิชาที่ศูนย์อำเภอต่าง ๆ เพื่อให้ลูกหลานได้มีโอกาสได้เรียนสูงขึ้น และมีการแนะแนวอยากให้ลูกหลานสอบให้ได้ และเรียนสูงๆ เรื่อง จน อบจ.ร้อยเอ็ด อยากให้พี่น้องมีความยั่งยืนหายจน โดยส่งเสริมการปลูกข้าวหอมมะลิ เพราะข้าวหอมมะลิจากทุ่งกุลาร้องให้ ประชาคมยุโรปให้การรับรอง เป็นแหล่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ได้รับเครื่องหมาย จีไอ

ซึ่งเป็นข้าวหอมมะลิที่ทางยุโรปรับรองว่าเป็นสินค้ามีคุณภาพ ทำอย่างไรเราจะขายได้ตันละ 30,000 บาท ได้นำนางสาวไทยมาเป็นนางแบบในการโฆษณาข้าวหอมมะลิ ส่งเสริมการปลูกข้าวหอมมะลิอินทรีย์ โดยนำเกษตรกรไปศึกษาดูวิธีการผลิต วิธีการจัดเก็บรักษา และจะนำน้ำเชื้อวัวจากประเทศญี่ปุ่นมา ผสมกับวัวพื้นเมือง จะได้เนื้อที่มีคุณภาพได้ราคาสูง สุดท้าย เรื่องเจ็บ สุขภาพดีไม่มีขายอยากได้ต้องทำเอา อบจ.ร้อยเอ็ด จัดให้มีรถตรวจร่างกายเคลื่อนที่เอ็กเรย์เคลื่อนที่ มีหมอพยาบาล มี อสม.มาช่วย ซึ่งจังหวัดร้อยเอ็ด มีผู้ป่วยเป็นโรคมะเล็งท่อน้ำดีอันดับหนึ่งของประเทศไทย รถตรวจร่างกายมาตรวจให้ ถ้าเป็นระยะแรกจะรักษาหาย รถกู้ชีพ อบจ.ร้อยเอ็ด จะเช่ารถกู้ชีพ 40 คัน เช่า 3 ปี อบต.หาพยาบาลและคนขับ ช่วยเรื่องอุบัติเหตุฉุกเฉินลดพิการ และเสียชีวิตได้


ประเสริฐ อินทา/ข่าว

ตำรวจร้อยเอ็ด จับได้แล้วพลทหารมือระเบิด หน้าเวทีหมอลำตาย 3 ศพเจ็บ 25

จากกรณีวัยรุ่นปาระเบิด หน้าเวทีหมอลำ ที่วัดบ้านตาแหลว หมู่ 14 ตำบลนาใหญ่ อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ในงานฉลองอุโบสถ โดยการจ้างหมอลำชื่อดังวงใหญ่ คณะประถมบันเทิงศิลป์ ไปทำการแสดงมีกลุ่มวัยรุ่นออกไปเต้นหน้าเวทีอย่างสนุกสนาน แล้วเกิดเขม่นจนมีการปาระเบิดเข้าใส่ เป็นเหตุให้ทั้งวัยรุ่นและประชาชนที่ไปชมหมอลำได้รับบาดเจ็บจำนวน 25 ราย นอนรักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาลร้อยเอ็ด 10 ราย เสียชีวิตรวม 3 ราย ซึ่งเหตุเกิดเมื่อเวลา 03.30 น.วันที่ 25 ก.พ. 2557 และ พล.ต.ต.ณรงค์วิทย์ พ่วงเภตรา ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมสั่งการให้ติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน

ต่อมาเช้ามืดวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2557 พ.ต.อ.สุริเดช วรรณสุทธิ์ ผกก.สภ.สุวรรณภูมิ พ.ต.ท.ธวัช ทองสุข รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ เตยหล้า รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.สุรัตน์ จันทศิลป์ หน.งานสอบสวน พร้อมชุดสืบสวน สภ.สุวรรณภูมิ ได้สอบสวนจนทราบจากกลุ่มวัยรุ่นในท้องถิ่นว่า มีพลทหารมนตรา หรือแม็กซ์ ผลาผล (ทหารสังกัดค่ายแห่งหนึ่ง) บ้านเลขที่ 147 ม. 7 บ้านโนนหมากแงว ต.น้ำคำ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เคยมาติดต่อขายลูกระเบิดให้ในราคา 500 บาท จึงนำกำลังเข้าจับกุม ก่อนควบคุมตัวไปสอบสวนขยายผลและทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ ท่ามกลางประชาชนที่ทราบข่าวเดินทางไปดูจำนวนมาก

ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนได้ขออนุญาตผู้บังคับบัญชากลับบ้านเพื่อร่วมงานฉลองอุโบสถในและได้พกเอาระเบิดแบบขว้าง ลข.88 บ 67 หรือที่เรียกว่า M 67 ที่แอบขโมยออกจากคลังอาวุธ ไปเที่ยวงานเพื่อป้องกันตัว และหลบหลีกการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ในงาน โดยนำไปซ่อนไว้ในทุ่งนาข้างวัด จากนั้นเข้าไปชมหมอลำและนั่งดื่มสุราไปด้วย กระทั่งเห็นกลุ่มคู่อริ คนบ้านตาแหลว ซึ่งเคยมีเรื่องรุมชกต่อยตนเมื่อครั้งยังไม่เป็นทหารเกณฑ์ เต้นอยู่กับเพื่อนๆประกอบกับความเมาจึงอยากแก้แค้น เลยออกไปเอาระเบิดที่ซ่อนไว้ก่อนดึงสลักขว้างระเบิดข้ามรั้วสังกะสีเวทีหมอลำใส่กลุ่มอริเสียงระเบิดดังสนั่นก่อนหลบหนี

ประเสริฐ อินทา/ข่าว

จังหวัดทหารบกร้อยเอ็ด ปล่อยรถบรรทุกน้ำตามโครงการ “ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจช่วยภัยแล้ง”

วันนี้ (26 ก.พ.57) เวลา 10.00 น. ณ หน้ากองบังคับการจังหวัดทหารบกร้อยเอ็ด พลตรี นคร สุขประเสริฐ
ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกร้อยเอ็ด เป็นประธาน พิธีปล่อยรถบรรทุกน้ำตามโครงการ "ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจช่วยภัยแล้ง” ประจำปี 2557 โดยมีรองผู้บังคับการ เสนาธิการ รองเสนาธิการ คณะนายทหาร และกำลังพลร่วมกิจกรรมจำนวนมาก

พลตรี นคร สุขประเสริฐ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกร้อยเอ็ด กล่าวว่า ปัญหาความแห้งแล้ง เป็นปัญหาที่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ ได้ประสบปัญหาเป็นประจำทุก ๆ ปี สาเหตุสำคัญอยู่ที่ทำเลที่ตั้ง ทางภูมิศาสตร์ สภาพลมฟ้าอากาศของภูมิภาคนี้ และการพัฒนาระบบชลประทาน การแก้ปัญหาความแห้งแล้งในระยะยาว ของรัฐบาลยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินงาน ดังนั้น การแก้ปัญหาในระยะสั้น จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่หน่วยงานของรัฐ ได้ให้ความสำคัญเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน โครงการ "ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจช่วยภัยแล้ง” เป็นโครงการหนึ่งที่หน่วยงานของรัฐ ร่วมกับภาคเอกชน เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ขาดแคลนน้ำในห้วงฤดูแล้ง การดำเนินงานจะประสบผลสำเร็จมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับการประสาน และการปฏิบัติงานอย่างจริงจัง และเสียสละของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทุกระดับ โดยการนำรถบรรทุกน้ำ ออกไปแจกจ่ายให้กับพี่น้อง ประชาชนในหมู่บ้านเป้าหมาย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ให้เบาบางลงได้ในอีกระดับหนึ่ง ซึ่งทำให้ประชาชนเหล่านั้น สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ โดยไม่ต้องทิ้งถิ่นฐานที่อยู่อาศัยของตนเอง


ประเสริฐ อินทา/ข่าว

บุรีรัมย์ น้ำมูลตื้นเขินเน่าเสียและอากาศร้อนกระทบปลากระชังไม่กินอาหารเริ่มน็อคตายขณะจังหวัดจ่อประกาศภแล้งเพิ่มอีก 2 อำเภอ

บุรีรัมย์น้ำมูลตื้นเขินเน่าเสียและอากาศร้อนกระทบปลากระชังไม่กินอาหารเริ่มน็อคตายขณะจังหวัดจ่อประกาศภแล้งเพิ่มอีก 2 อำเภอ น้ำมูล อ.สตึก จ.บุรีรัมย์วิกฤตหนักตื้นเขินแห้งขอดในรอบกว่า 10 ปี ซ้ำบางจุดที่มีน้ำเหลืออยู่ยังเน่าเสียมีกลิ่นเหม็นกระทบกับผู้เลี้ยงปลากระชังที่ยังเสี่ยงเลี้ยงอยู่ไม่ถึง 10 รายจากทั้งตำบลกว่า 100 ราย ไม่กินอาหารและเริ่มน๊อคตายแล้ว ขณะจังหวัดจ่อประกาศภัยพิบัติแล้งเพิ่มอีก 2 อำเภอเป็น 3 อำเภอ (26 ก.พ.57) สถานการณ์ภัยแล้งที่จังหวัดบุรีรัมย์ยังขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดน้ำในแม่น้ำมูลที่ไหลผ่าน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ มีสภาพตื้นเขินแห้งขอดลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะบริเวณสะพานข้ามลำน้ำมูล บ.ท่าเรือ ต.ท่าม่วง ที่ใช้ในการอุปโภคบริโภค ทำการเกษตร และประกอบอาชีพเลี้ยงปลาในกระชัง ปัจจุบันมีสภาพตื้นเขินจนมองเห็นตอหม้อสะพานโผล่ และบางจุดแห้งขอดจนสามารถเดินข้ามฝั่งไปมาได้ จากกรณีดังกล่าวได้ส่งผลกระทบทำให้เกษตรกรตำบลท่าม่วงกว่า 100 ราย ไม่สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงปลากระชังได้ ต้องปล่อยกระชังทิ้งร้าง จากทุกปีจะเลี้ยงได้ถึง 3 รอบ ส่งผลทำให้ขาดรายได้

ส่วนเกษตรกรที่ยังเสี่ยงเลี้ยงอยู่ไม่ถึง 10 ราย เพราะหวังจะนำเงินไปใช้จ่ายในครอบครัวและชำระหนี้ที่กู้ยืมมาลงทุน ก็ต้องประสบปัญหาน้ำไม่ไหลเวียน เน่าเสีย เป็นกรดแก๊ส ทำให้ปลาที่เลี้ยงไว้ไม่กินอาหาร และเริ่มทยอยน็อคตาย โดยเกษตรกรเชื่อว่าหากปลายังทยอยตายต่อเนื่อง ก็จะประสบปัญหาขาดทุนอย่างแน่นอน นอกจากนี้สภาพน้ำมูลที่ตื้นเขินเน่าเสียดังกล่าว ยังส่งผลทำให้ปลาธรรมชาติลอยตายอย่างต่อเนื่องอีกด้วย ด้านนายทวน โยงรัมย์ บอกว่า ได้ประสบปัญหาภัยแล้งต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว และจากผลกระทบดังกล่าว จึงอยากเรียกร้องให้ภาครัฐเร่งเข้ามาสำรวจ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน โดยการขุดลอกหรือทำเขื่อนยางเพื่อให้สามารถกักเก็บน้ำมูลไว้ใช้ทั้งการอุปโภคบริโภค ทำการเกษตร และเลี้ยงปลากระชังได้ตลอดทั้งปี ก่อนที่อาชีพเลี้ยงกระชังจะสูญหาย และต้องอพยพไปขายแรงงานยังต่างถิ่น ขณะที่นายสัญญ์ธวัชช์ ริ้วเหลือง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.บุรีรัมย์ ระบุว่า จากสถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้ที่มาเร็วกว่าทุกปี ส่งผลให้แหล่งน้ำต่างๆ มีสภาพตื้นเขินและแห้งขอดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งที่ผ่านมาทางจังหวัดก็ได้มีการประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากภาวะภัยแล้งไปแล้ว 1 อำเภอ คือ อ.พุทไธสง และล่าสุดขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้งเพิ่มอีก 2 อำเภอ คือ อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ และ อ.ปะคำ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 11 ตำบล 140 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 24,054 ครัวเรือน 56,144 คน



สุรชัย พิรักษา สวท.. บุรีรัมย์

สาธารณสุขอำเภอและจ.บุรีรัมย์ แต่งดำพร้อมขึ้นคัชเอาท์ต่อต้านคอรัปชั่นประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ

สาธารณสุขอำเภอและจ.บุรีรัมย์แต่งดำพร้อมขึ้นคัชเอาท์ต่อต้านคอรัปชั่นประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ สาธารณสุขอำเภอ และสาธารณสุขจ.บุรีรัมย์ ขึ้นคัชเอ้าท์ขนาดใหญ่หน้าสำนักงานประกาศเจตนารมณ์พร้อมสร้างกระแสต่อต้านการคอรัปชั่น สนับสนุนการปฏิรูปประเทศ ขณะเจ้าหน้าที่พร้อมใจแต่งชุดดำประณามการใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ ( 26 ก.พ.57) สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ขึ้นคัชเอ้าท์ขนาดใหญ่ที่มีข้อความว่า "ต่อต้านคอรัปชั่นสนับสนุนการปฏิรูปประเทศ ประชาคมสาธารณสุขจ.บุรีรัมย์” และข้อความว่า "หยุดยั้งความรุนแรงทุกรูปแบบ สนับสนุนการปฏิรูประเทศไทย” ที่บริเวณหน้าสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ถนนจิระ ในเขตเทศบาลเมือง เพื่อเป็นการประกาศเจตนารมณ์และสร้างกระแสให้ประชาชนร่วมกันออกมาต่อต้านการคอรัปชั่นทุกรูปแบบ และทุกสาขาอาชีพ ที่จะสร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติบ้านเมือง พร้อมทั้งสนับสนุนการปฏิรูปประเทศเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง

ซึ่งก็สร้างความสนใจให้กับประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา ขณะเดียวกันที่บริเวณด้านหน้าสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมือง ก็ได้มีการขึ้นคัชเอาท์ขนาดใหญ่ที่มีข้อความว่า "ขอประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ ต่อต้านคอรัปชั่น สนับสนุนการปฏิรูปประเทศไทย” ด้วย พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ในสังกัดสาธารณสุขอำเภอเมือง ยังได้พร้อมใจกันแต่งกายด้วยชุดสีดำ เพื่อแสดงพลังต่อต้านการคอรัปชั่น และการใช้ความรุนแรงด้วย ด้านนายรังสรรค์ พนานุสรณ์ ประธานชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทยจ.บุรีรัมย์ ระบุว่า การขึ้นป้ายหรือคัชเอ้าท์ที่มีข้อความต่อต้านการคอรัปชั่น หยุดยั้งการใช้ความรุนแรง และสนับสนุนการปฏิรูปประเทศในครั้งนี้ เป็นมติของประชาคมสาธารณสุข ที่ต้องการประกาศเจตนารมณ์และสร้างกระแสให้ประชาชนลุกขึ้นมาต่อต้านการคอรัปชั่นในทุกรูปแบบ ที่จะสร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติบ้านเมือง พร้อมยืนยันว่าการดำเนินการครั้งนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มใดแต่เป็นการแสดงพลังในฐานะประชาชนคนไทยเท่านั้น พร้อมกันนั้นยังได้เรียกร้องรัฐบาลและกลุ่มผู้ชุมนุมได้หันหน้าเจรจรากันอย่างสันติโดยเร็ว เพื่อเห็นแก่ประเทศชาติบ้านเมือง


สุรชัย พิรักษา สวท. บุรีรัมย์

สธ.บุรีรัมย์ จัดมหกรรมฟิตหุ่นวันนี้สุขภาพดีรับปีใหม่หวังกระตุ้น ปชช.ออกกำลังกายลดอัตราเสี่ยงป่วยตาย

สธ.บุรีรัมย์จัดมหกรรมฟิตหุ่นวันนี้สุขภาพดีรับปีใหม่หวังกระตุ้น ปชช.ออกกำลังกายลดอัตราเสี่ยงป่วยตาย สาธารณสุขจ.บุรีรัมย์ จับมือภาคีเครือข่ายสุขภาพ จัดมหกรรมฟิตหุ่นวันนี้ สุขภาพดีรับปีใหม่ 2557 หวังกระตุ้นประชาชนใส่ใจสุขภาพหันมาออกกำลังกาย และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิต เพื่อลดอัตราเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยเสียชีวิต หลังพบสถิติประชาชนมีภาวะอ้วนลงพุงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ( 26 ก.พ.57) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับภาคีเครือข่ายเพื่อสุขภาพ จัดมหกรรม "ฟิตหุ่นวันนี้ สุขภาพดีรับปีใหม่ 2557” ที่บริเวณสวนรมย์บุรี ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เพื่อหวังกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใส่ใจสุขภาพ โดยการออกกำลังกาย และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตหรือการบริโภคอาหาร ที่เป็นปัจจัยทำให้เกิดภาวะอ้วนลงพุง จนนำไปสู่อัตราเสี่ยงเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง และเสียชีวิตด้วยโรคภัยต่างๆ ตามมา หลังพบสถิติจากจำนวนประชากรทั้งจังหวัดกว่า 1,600,000 คน มีภาวะอ้วนลงพุงถึงร้อยละ 30 หรือประมาณ 480,000 คน ซึ่งการจัดมหกรรมฟิตหุ่นในครั้งนี้ มีเป้าหมายลดภาวะอ้วนลงพุงร้อยละ 80 โดยใช้ยุทธศาสตร์ 3 อ. 2 ส. ในการขับเคลื่อน คือ ใช้องค์ความรู้และทักษะ เป็นพลังเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพด้านออกกำลังกาย อาหาร อารมณ์ ไม่สูบบุหรี่และไม่ดื่มสุรา ตลอดจนผลักดันให้เกิดมาตรการหรือนโยบายในระดับองค์กรท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างศักยภาพขีดความสามารถขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรอื่นๆ รวมทั้งภาคีเครือข่ายในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของประชาชนในชุมชนด้วย

โดยภายในงานได้มีกิจกรรมเต้นแอโรบิค จัดนิทรรศการให้ความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพ มอบรางวัลบุคคลต้นแบบที่สามารถลดน้ำหนักได้ตามเป้าหมาย และจำหน่ายผักปลอดสารพิษด้วย โดยมีข้าราชการ บุคลากรในสังกัดสาธารณสุข อสม.และประชาชนเข้าร่วมกว่า 700 คน นายแพทย์สมพงษ์ จรุงจิตตานุสนธิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ปัจจุบันการดำเนินชีวิตของคนไทย ได้เปลี่ยนจากวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมไปสู่สังคมสมัยใหม่ที่เอื้อให้คนสบายขึ้น ทำให้มีพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่ถูกต้อง ได้แก่ การบริโภคอาหารเกินพอดี บริโภคอาหารหวาน มัน เค็มเพิ่มขึ้น บริโภคผักและผลไม้น้อยลง ขาดการออกกำลังกาย การดื่มสุราและสูบบุหรี่ ส่งผลทำให้เกิดเจ็บป่วย และลุกลามเป็นโรคเรื้อรัง เกิดความพิการ สูญเสียเงิน และเวลาในการรักษา ดังนั้นเชื่อว่าการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ จะสามารถกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพได้มากขึ้น


สุรชัย พิรักษา / สวท.บุรีรัมย์

บุรีรัมย์ ติวเข้มพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครแรงงานเป็นเครือข่ายประสานช่วยเหลือแรงงานในหมู่บ้านตำบล

บุรีรัมย์ติวเข้มพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครแรงงานเป็นเครือข่ายประสานช่วยเหลือแรงงานในหมู่บ้านตำบล สำนักงานแรงงานจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ติวเข้มเพิ่มศักยภาพอาสาสมัครแรงงาน เพื่อเป็นเครือข่ายเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารด้านสิทธิประโยชน์ และประสานงานในการให้ความช่วยเหลือแรงงานในหมู่บ้าน ตำบล (26 ก.พ.57) สำนักงานแรงงานจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน จัดสัมมนาโครงกร "เสริมสร้างศักยภาพเครือข่ายอาสาสมัครแรงงานส่วนภูมิภาค” ที่ห้องประชุมโนนสุวรรณ โรงแรมเทพนคร อ.เมือง โดยมีไชยวัฒน์ พันธ์นรา รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน ซึ่งการจัดสัมมนาในครั้งนี้ เพื่อให้อาสาสมัครแรงงาน ที่ประกอบไปด้วยผู้นำชุมชน ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป ได้มีความรู้ความเข้าใจในการประสานงานด้านการให้ความช่วยเหลือแรงงานในพื้นที่หมู่บ้าน ตำบล ได้อย่างมีประสิทธิภาพทั่วถึงครบถ้วน และเป็นการส่งเสริมให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านแรงงาน เช่น การคุ้มครองดูแลแรงงานในพื้นที่ให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายสูงสุด ทั้งเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการปฏิบัติงานด้านอาสาสมัครแรงงานซึ่งกันและกัน เพื่อให้เกิดการพัฒนาไปในทิศทางเดียวกันและก่อให้เกิดประโยชน์กับแรงงานมากที่สุด ด้านนางสาวอรนุช จันทรชิต นักวิชาการแรงงานชำนาญการ สำนักงานแรงงานจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า อาสาสมัครแรงงานดังกล่าวมีบทบาทหน้าที่หลัก เป็นเสมือนตัวแทนหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานในพื้นที่ ที่จะเป็นตัวจักรสำคัญในการเชื่อมโยงระหว่างภาครัฐกับประชาชน ในด้านการส่งเสริมการมีงานทำ พัฒนาฝีมือแรงงาน คุ้มครองแรงงาน โดยนำข้อมูลข่าวสารไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ให้แรงงานในหมู่บ้าน ตำบลได้รับทราบอย่างทั่วถึง และเป็นเครือข่ายดูแลช่วยเหลือแรงงาน โดยเฉพาะปัญหาการหลอกลวงแรงงานที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งในปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดมีอาสาสมัครแรงงานอยู่ทุกตำบลกว่า 180 คน และในอนาคตจะมีการจัดตั้งอาสาสมัครแรงงานให้ครอบคลุมทุกหมู่บ้าน เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มแรงงานได้มากขึ้นต่อไป


สุรชัย พิรักษา สวท.บุรีรัมย์

เครือข่ายสถานีวิทยุจ.บุรีรัมย์ จัดงานวันวิทยุกระจายเสียงไทยเพื่อรำลึกถึงบิดาแห่งวิทยุกระจายเสียงไทย

เครือข่ายสถานีวิทยุจ.บุรีรัมย์จัดงานวันวิทยุกระจายเสียงไทยเพื่อรำลึกถึงบิดาแห่งวิทยุกระจายเสียงไทย เครือข่ายสถานีวิทยุกระจายเสียงในจังหวัดบุรีรัมย์จัดกิจกรรมวันวิทยุกระจายเสียง เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพลเอกพระบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร พระบิดาแห่งวิทยุกระจายเสียงไทย นายไชยวัฒน์ พันธ์นรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานเปิดงานวันวิทยุกระจายเสียงไทย ประจำปี 2557 ซึ่งสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับ สถานีวิทยุกระแสหลัก เครือข่ายสถานีวิทยุกระจายเสียงภาคประชาชน วิทยุชุมชนในจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ร่วมกันจัดขึ้นที่ลานกีฬา ภายในมหาววิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ เพื่อรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณ พลเอกพระบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร ซึ่งถือเป็นพระบิดาแห่งวิทยุกระจายเสียงไทย และเพื่อส่งเสริมให้ผู้เกี่ยวข้องในวงการวิทยุกระจายเสียงได้พบปะแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น รวมทั้งเสริมสร้าง เครือข่ายความสัมพันธ์อันดีต่อกัน เพื่อร่วมกันใช้สื่อวิทยุกระจายเสียงไปในทางที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อความเจริญรุ่งเรือง มั่นคง และความสงบสุขของประชาชนชาวบุรีรัมย์สืบไป ซึ่งการจัดงานวันวิทยุกระจายเสียงประจำปี 2557 ของเครือข่ายสถานีวิทยุในจังหวัดบุรีรัมย์ ประกอบด้วยการจัดเวทีเสวนา”จากอดีต สู่ปัจจุบัน มุ่งมั่นสู่อนาคต วิทยุกระจายเสียงจังหวัดบุรีรัมย์ ” มีนักวิชาการ ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ประกอบการวิทยุภาคประชาชน กลุ่มผู้ฟัง ร่วมเวทีแลกเปลี่ยน พร้อมกันนี้ยังเปิดโอกาสให้นักจัดรายการวิทยุจากสถานีต่างๆ ได้ร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วย


สุรชัย พิรักษา สวท.บุรีรัมย์

สคร.5 ชวนคนรักสุขภาพออกกำลัง งดอาหารมัน ป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด

นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจาก สคร.5 ว่า ในแต่ละปีประเทศไทยมีผู้ป่วยที่เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจเพิ่มสูงขึ้น หนึ่งในนั้น คือ โรคหัวใจขาดเลือด สคร.5 มีความห่วงใย อยากให้คนรักสุขภาพ หมั่นออกกำลังกาย ควบคุมน้ำหนัก งดอาหารหวานจัด และมันจัด ตรวจเช็คสุขภาพอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด สำหรับการป้องกันไม่ให้เป็นโรคหัวใจขาดเลือด ควรออกกำลังกาย และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ งดอาหารมันจัด หวานจัด และเค็มจัด หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ลดภาวะเครียดทางอารมณ์ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม รักษาค่าความดันโลหิตไม่เกิน 10/80 มิลลิเมตรปรอท และควรตรวจสุขภาพเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

จ.สุรินทร์ มีราษฎรประสบภัยหนาวกว่า 2 แสนคน ได้เร่งแจกจ่ายครบทุกพื้นที่แล้ว

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ได้เริ่มมีอากาศหนาวเย็น โดยมีอากาศหนาวสลับอากาศอุ่น และร้อน ซึ่งคาดว่าจะมีลักษณะเช่นนี้ไปจนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2557 โดยในขณะนี้จังหวัดสุรินทร์ได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ภัยหนาว ครอบคลุม 17 อำเภอ 158 ตำบล 2,120 ได้แก่ อำเภอเมืองสุรินทร์ สังขะ ศรีณรงค์ จอมพระ เขวาสินรินทร์ ศีขรภูมิ ท่าตูม รัตนบุรี สำโรงทาบ ลำดวน บัวเชด กาบเชิง สนม ปราสาท โนนนารายณ์ ชุมพลบุรี และอำเภอพนมดงรัก โดยมีราษฎรประสบภัยหนาวกว่า 2 แสนคน ซึ่งจังหวัดสุรินทร์ยังได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาว พร้อมทั้งจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาวจังหวัดสุรินทร์ พร้อมทั้งแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาว โดยได้มอบเครื่องกันหนาว การขอรับการสนับสนุนเครื่องกันหนาว ผ้าห่ม เวชภัณฑ์ เครื่องอุปโภค-บริโภคตามความจำเป็นให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนระมัดระวังอัคคีภัยจากสภาพอากาศแห้งแล้ง และอุบัติเหตุจากการเดินทาง เนื่องจากหลายพื้นที่มักมีหมอกเกิดขึ้น การดูแลรักษาสุขภาพโดยเฉพาะคนชรา คนพิการ เด็ก สตรีมีครรภ์ ซึ่งอาจเจ็บป่วยจากอากาศหนาวเย็นด้วย

อบจ.สุรินทร์ จัดงานวันข้าวหอมมะลิอินทรีย์ มหกรรมผ้าไหมสุรินทร์ ครั้งที่ 7 เพื่อให้เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลาย สร้างรายได้ สร้างอาชีพให้กับประชาชน

นายกิตติภัทร์ รุ่งธนเกียรติ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่าจังหวัดสุรินทร์ มีชื่อเสียงในเรื่องของข้าวหอมมะลิอินทรีย์ และผ้าไหม จนเป็นที่ยอมรับของทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ซึ่งประชาชนมากกว่าครึ่งมีอาชีพที่ดำรงอยู่ได้โดยมีความเกี่ยวข้องกับการทำการเกษตร โดยมีศักยภาพและความได้เปรียบทั้งทางด้านพื้นที่ฐานการผลิตการเกษตรที่หลากหลาย ข้าวหอมมะลิเป็นพืชหลักและเป็นสินค้าส่งออกของจังหวัดสุรินทร์ เพราะความมีเอกลักษณ์อันโดดเด่น คือ "หอม ยาว ขาว นุ่ม” ในการทำนาของจังหวัดสุรินทร์ที่ผ่านมา มีการใช้ทั้งปุ๋ยเคมี สารเคมีกำจัดโรคแมลงศัตรูพืชฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตจากการสังเคราะห์ จึงทำให้ต้นทุนการผลิตสูง เกษตรกรมีหนี้สินมากขึ้น คุณภาพของผลผลิตต่ำลงก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพของผู้บริโภคและผู้ผลิต ดังนั้น แนวทางการแก้ปัญหาความยากจน ปัญหาหนี้สิน ปัญหาสุขภาพ และปัญหาสิ่งแวดล้อมของพี่น้องเกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ คือการทำนาแบบเกษตรอินทรีย์ หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี และหันกลับมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ผลิตได้เอง เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยพืชสด เพื่อให้เกษตรกรพึ่งพาตัวเองให้มากที่สุด

สำหรับ ผ้าไหมไทยเป็นศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านของไทยอย่างหนึ่ง ซึ่งจังหวัดสุรินทร์เป็นจังหวัดที่ผลิต ผ้าไหมพื้นเมืองที่มีลวดลาย เอกลักษณ์โดดเด่น เป็นที่ยอมรับแก่นานาอารยะประเทศ โดยผู้ทอใช้วิธีการทอทุกขั้นตอนด้วยแรงงานและฝีมือของคนที่มีอาชีพทอผ้าไหม ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้ความรู้ ความสามารถและภูมิปัญญาท้องถิ่นของบรรพบุรุษ ผ้าไหมสุรินทร์มีคุณสมบัติพิเศษ ดูแลรักษาง่าย และใช้ได้ในทุกโอกาส เช่น ใช้กับงานในหน้าที่ประจำ โอกาสพิเศษ เป็นของฝากของที่ระลึก และเป็นสิ่งตอบแทน เป็นต้น

นายกิตติภัทร์ รุ่งธนเกียรติ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ กล่าวต่อไปว่าองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ จัดงานวันข้าวหอมมะลิอินทรีย์ และมหกรรมผ้าไหมสุรินทร์ ครั้งที่ 7 ขึ้น เพื่อส่งเสริมเอกลักษณ์และเพิ่มมูลค่าผลผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์สุรินทร์และผ้าไหมสุรินทร์ ให้เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลาย เพื่อสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้กับประชาชน ส่งเสริมเกษตรกรในจังหวัดสุรินทร์ โดยจัดให้มีกิจกรรมในระหว่างวันที่ 1 – 9 มีนาคม 2557 ณ สวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ 80 พรรษาหรือสวนใหม่

สคร.5 เตือนเด็กไทยจมน้ำเฉลี่ยวันละ 4 คน แนะ ผู้ใหญ่ปลูกฝังเด็กไทย รักษาความปลอดภัยทางน้ำ”

 นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 นครราชสีมาว่า เด็กจมน้ำในแต่ละปีโดยเฉพาะช่วงเดือนมีนาคม/พฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงปิดเทอม ฤดูร้อนมักจะมีเด็กจมน้ำเสียชีวิตทุกปี ส่วนใหญ่มักเสียชีวิตพร้อมกันหลายคน เนื่องจากไม่รู้วิธีการเอาชีวิตรอดในน้ำและวิธีการช่วยเหลือที่ถูกต้อง จึงมักกระโดลงไปช่วยคนที่จมน้ำ เพศชายมีอัตราจมน้ำเสียชีวิตมากกว่าเพศหญิง ภาคที่มีเด็กจมน้ำมากที่สุดคือภาคอีสานช่วงเวลาที่เกิดเหตุมักจะเป็นช่วงเที่ยงวันจนถึงช่วงเย็น เพราะมีอากาศร้อน ทำให้เด็กแอบไปเล่นน้ำ สคร.5 กล่าวต่อไปว่า กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดประเด็นรณรงค์ป้องกันเด็กจมน้ำว่า " ปลูกฝังเด็กไทย รักษาความปลอดภัยทางน้ำ” ผู้ปกครองควรสอนให้เด็กว่ายน้ำเป็น สอนกฎแห่งความปลอดภัย

จังหวัดสุรินทร์ เตือนภัย “โรคพิษสุนัขบ้า แนะผู้เลี้ยงต้องพาสุนัข แมว ไปฉีดวัคซีนทุกปี

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 นครราชสีมา เปิดเผยว่า ในแต่ละปีคนไทยถูกสุนัขกัดไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน หากสุนัขที่กัดเป็นโรคพิษสุนัขบ้าแล้วจะไม่สามารถรักษาให้หายได้ ต้องเสียชีวิตทุกราย โดยปีนี้กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับกรมปศุสัตว์ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สร้างพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้าทั่วประเทศ ภายในปี 2558 ซึ่งโรคนี้ป้องกันได้ด้วยวัคซีน โดยฉีดให้สัตว์เลี้ยงทุกปี ส่วนในคนหากถูกสุนัขหรือแมวกัด ข่วน ให้รีบล้างแผลด้วยน้ำสะอาดและพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันโรคทันที สำหรับโรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคที่พบได้ตลอดปี เป็นแล้วเสียชีวิตทุกราย ในประเทศไทยพบว่าสุนัขและแมวป่วยเป็นโรคนี้มากที่สุด ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข ได้เร่งสร้างพื้นที่ในชนบทและเขตเมืองทั่วประเทศให้ปลอดโรคพิษสุนัขบ้า 100 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2558 เพื่อกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไปจากประเทศไทย ภายใน พ.ศ.2563 โดยร่วมมือกับกรมปศุสัตว์และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในสุนัขตั้งแต่อายุ 3 เดือนขึ้นไป ขึ้นทะเบียนการเลี้ยงทุกหลังคาเรือนและทำหมัน เพื่อควบคุมจำนวนสุนัขโดยเฉพาะสุนัขจรจัด และให้เจ้าของนำสุนัขไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคทุกปี ส่วนอาการของสุนัขที่ป่วยเป็นโรคพิษสุนัขบ้า คือ สุนัขจะมีอารมณ์หงุดหงิด หางตก น้ำลายไหล อาจมีอาการคล้ายกระดูกหรือก้างติดคอ ซึ่งอาจทำให้เจ้าของเข้าใจผิด เอามือไปล้วงที่ปาก คลำหาก้างหรือกระดูก หากพบสุนัขมีอาการดังกล่าว ขอให้นึกถึงโรคพิษสุนัขบ้า และแยกสุนัขไว้ไม่ให้คลุกคลีกับสุนัขอื่นหรือคน และรีบแจ้งปศุสัตว์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หากคนถูกสุนัขกัด ข่วน หรือเลียบริเวณที่มีบาดแผล ขอให้รีบล้างแผลด้วยน้ำสะอาด และไปพบแพทย์ทันที เพื่อรับ บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุด

จังหวัดสุรินทร์ ยังคงมีการแพร่ระบาดของยาเสพติด

นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ยาเสพติดและผลการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของจังหวัดสุรินทร์ พบว่าในเดือน มกราคม 2557 สถานการณ์ยาเสพติดของจังหวัดสุรินทร์ ยังคงปรากฏความเคลื่อนไหวด้านการค้าและการแพร่ระบาดของยาเสพติด ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนักค้ารายย่อยลักลอบนำเข้ายาเสพติดมาจากจังหวัดใกล้เคียงที่ติดแนวชายแดน นำเข้ามาจำหน่ายให้กับกลุ่มอาชีพรับจ้าง กลุ่มว่างงาน กลุ่มเด็กนักเรียนและเยาวชนในพื้นที่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวอีกว่า พื้นที่แพร่ระบาดที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ ที่สาธารณะ สถานบันเทิง โต๊ะสนุ๊กเกอร์ ห้องพัก ห้องเช่า โรงแรม รีสอร์ท หน้าโรงเรียน ในเขตเทศบาล ได้แก่ อำเภอเมืองสุรินทร์ อำเภอปราสาท อำเภอรัตนบุรี อำเภอสังขะ อำเภอกาบเชิง อำเภอศีขรภูมิ อำเภอจอมพระ อำเภอท่าตูม และอำเภอชุมพลบุรี ชนิดยาเสพติดที่มีแพร่ระบาดได้แก่ยาบ้า ตัวยาที่มีแนวโน้มแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้น และกำลังเข้ามาทดแทนยาบ้าคือยาไอซ์ สำหรับพื้นที่ที่มีการจับกุมได้มากที่สุดในเดือนมกราคม 2557 ได้แก่ อำเภอเมืองสุรินทร์ อำเภอปราสาท อำเภอรัตนบุรี อำเภอสังขะ อำเภอชุมพลบุรี อำเภอศีขรภูมิ อำเภอท่าตูม และอำเภอเขวาสินรินทร์ ส่วนใหญ่เป็นข้อหาเสพยาเสพติด ชนิดยาเสพติดที่มีจับกุมได้มากที่สุด ได้แก่ ยาบ้า จับกุมได้ 91 ราย ผู้ต้องหา 104 คน ของกลาง ยาบ้า 4,727 เม็ด รองลงมาได้แก่ ยาไอซ์ จับกุมได้ 4 ราย ผู้ต้องหา 5 คน สารระเหย จับกุมได้ 1 ราย ผู้ต้องหา 1 คน กัญชาแห้ง จับกุมได้ 1 ราย ผู้ต้องหา 1 คน

จ.สุรินทร์ จัดงานวันสหกรณ์แห่งชาติ

จังหวัดสุรินทร์ จัดงานวันสหกรณ์แห่งชาติเพื่อรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของพระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยลงกรณ์ "พระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย” มีกิจกรรมแข่งขันชิงทุนการศึกษา กีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างขบวนการสหกรณ์ และจัดผ้าป่าสามัคคี ได้ทุนร่วม 2000,000บาท

วันนี้ (26 ก.พ.57)  ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนท่านผู้หญิงสุประภาดา เกษมสันต์ ตำบลตะเคียน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ นายถาวร กุลโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์เป็นประธานวางพานพุ่มถวายสักการะพระรูปพระราชวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ "เนื่องในวันสหกรณ์แห่งชาติ ประจำปี 2557 พร้อมกล่าวสดุดีเทิดพระเกียรติฯ "พระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย”ที่ทรงมีพระกรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ที่ทรงวางรากฐานการสหกรณ์ไทย และมีความเจริญก้าวหน้ามาจนถึงปัจจุบัน โดยมีผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ครู นักเรียนและพี่น้องประชาชนเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

จากนั้นประธานในพิธี ได้มอบเกียรติบัตรสหกรณ์ดีเด่นระดับจังหวัด ปี2556/2557 มอบโล่รางวัลให้โรงเรียนต้นแบบการจัดการเรียนรู้สหกรณ์ ปี 2556 รางวัล และได้มอบรางวัลการตอบปัญหาชิงทุนการศึกษา อาทิ การประกวดวาดภาพ การประกวดบันทึกรายงานการประชุมสหกรณ์ มอบเกียรติบัตรครูผู้รับผิดกิจกรรมสหกรณ์นักเรียน และมอบทุนการศึกษาให้เด็กนักเรียนโรงเรียน ตชด.ตามแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ที่เรียนดีแต่ยากจน จำนวน40 ทุนๆละ 1,000 บาท นอกจากนี้ประธานในพิธียังมอบเงินสมทบองค์ผ้าผ้าป่าสามัคคีร่วมกับ ผู้ปกครองนักเรียน ประชาชน ครู ขบวนการสหกรณ์ในจังหวัดสุรินทร์ ที่ตั้งกองผ้าป่าฯ

นายวิโรจน์ ภู่ไพบูลย์ สหกรณ์จังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า จังหวัดสุรินทร์ ได้จัดวันสหกรณ์ แห่งชาติ มาเป็นปีที่7 ทั้งนี้เพื่อรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของพระราชวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ "พระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย”ที่ทรงมีพระกรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ที่ทรงวางรากฐานการสหกรณ์ไทย นอกจากนี้ยังมีการจัดพิธีทางสงฆ์ ในช่วงเช้า พร้อมทั้งมีกิจกรรม แข่งขันชิงทุนการศึกษา กีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างขบวนการสหกรณ์ และจัดผ้าป่าสามัคคี เพื่อเป็นทุนการศึกษาและกิจกรรมของโรงเรียน ตชด.ท่านผู้หญิงสุประภาดา เกษมสันต์แห่งนี้ ซึ่งได้เงินร่วมกว่า 200,000 บาท อีกด้วย


อุทัย  มานาดี / รายงาน

จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 3 แห่งใหม่

นายนิรันดร ชัยศรี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 3 เปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค จัดตั้งขึ้นตามคำสั่งกรมสอบสวนคดีพิเศษที่ 362/2556 ลงวันที่ 14 มีนาคม 2556 เป็นหน่วยงานภายในและราชการส่วนกลางขึ้นตรงต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ต่อมาได้มีคำสั่งที่ 486/2556 ลงวันที่ 9 เมษายน 2556 แต่งตั้งผู้อำนวยการนิรันดร ชัยศรี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 3 สำนักคดีอาญาพิเศษ 1 ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 3 เป็นคนแรก และดำเนินการจัดตั้งศูนย์ฯ สำเร็จเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2556 มีข้าราชการมาปฏิบัติราชการประจำและให้บริการประชาชน ตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2556 โดยมีกรอบอันตรากำลัง รวม 33 คน (ข้าราชการ 25 คนและลูกจ้าง) ศพป. ภาค 3 มีภารกิจ อำนาจ หน้าที่ รับผิดชอบพื้นที่ 8 จังหวัด ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ได้แก่ ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ และยโสธร ที่อยู่ 3164 ข้างวัดราชสีมาราม ถนนมิตรภาพ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา รหัสไปรษณีย์ 30000 โทรศัพท์/โทรสาร 044-351494 Email:dsiregion@gmail.com

จัดหางานจังหวัดสุรินทร์ แจ้งการเก็บเงินประกันเพื่อการส่งคนต่างด้าวกลับประเทศ

นายเทพบัญชา เกตุวิเศษกูล จัดหางานจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงานได้ออกกฎกระทรวงกำหนดงานและจำนวนเงินที่ลูกจ้างซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าว ต้องส่งเข้ากองทุนเพื่อการส่งคนต่างด้าวกลับออกไปนอกราชอาณาจักร หลักเกณฑ์และวิธีการในการส่งเงิน การออกใบรับ หนังสือรับรอง และใบแทนหนังสือรับรองการส่งเงิน (ฉบับที่ 4)พ.ศ. 2556 ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2557 เป็นต้นไป โดยกำหนดให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการมีหน้าที่ต้องหักค่าจ้างจากแรงงานต่างด้าวสัญชาติ พม่า ลาว และกัมพูชา ที่ทำงานในตำแหน่งผู้รับใช้ในบ้าน และตำแหน่งกรรมกร เข้ากองทุนเพื่อส่งคนต่างด้าวกลับออกไปนอกราชอาณาจักร คนละ 1,000 บาท โดยสามารถแบ่งจ่ายได้เป็น 4 งวด หรือจ่ายครั้งเดียวก็ได้ จัดหางานจังหวัดสุรินทร์กล่าวเพิ่มเติมว่า นายจ้างต้องเริ่มหักเงินค่าจ้างจากลูกจ้างตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2557 และส่งเงินเข้ากองทุนฯ ผ่านธนาคารกรุงไทย หรือที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดสุรินทร์ ภายในวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2557 และงวดต่อๆไป ภายในวันที่ 15 ของเดือนพฤษภาคม มิถุนายน และกรกฎาคม 2557 ตามลำดับ แต่หากนายจ้างหรือลูกจ้างประสงค์จะส่งเงินเข้ากองทุนฯ น้อยกว่า 4 เดือน ให้ตกลงกันและทำเป็นหนังสือให้ชัดเจนและนำเงินส่งภายในกำหนด สอบถามรายละเอียด เพิ่มเติม โทร. 0 4415 3021-2 ในวันและเวลาราชการ