นายกิตติภัทร์ รุ่งธนเกียรติ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่าจังหวัดสุรินทร์ มีชื่อเสียงในเรื่องของข้าวหอมมะลิอินทรีย์ และผ้าไหม จนเป็นที่ยอมรับของทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ซึ่งประชาชนมากกว่าครึ่งมีอาชีพที่ดำรงอยู่ได้โดยมีความเกี่ยวข้องกับการทำการเกษตร โดยมีศักยภาพและความได้เปรียบทั้งทางด้านพื้นที่ฐานการผลิตการเกษตรที่หลากหลาย ข้าวหอมมะลิเป็นพืชหลักและเป็นสินค้าส่งออกของจังหวัดสุรินทร์ เพราะความมีเอกลักษณ์อันโดดเด่น คือ "หอม ยาว ขาว นุ่ม” ในการทำนาของจังหวัดสุรินทร์ที่ผ่านมา มีการใช้ทั้งปุ๋ยเคมี สารเคมีกำจัดโรคแมลงศัตรูพืชฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตจากการสังเคราะห์ จึงทำให้ต้นทุนการผลิตสูง เกษตรกรมีหนี้สินมากขึ้น คุณภาพของผลผลิตต่ำลงก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพของผู้บริโภคและผู้ผลิต ดังนั้น แนวทางการแก้ปัญหาความยากจน ปัญหาหนี้สิน ปัญหาสุขภาพ และปัญหาสิ่งแวดล้อมของพี่น้องเกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ คือการทำนาแบบเกษตรอินทรีย์ หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี และหันกลับมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ผลิตได้เอง เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยพืชสด เพื่อให้เกษตรกรพึ่งพาตัวเองให้มากที่สุด
สำหรับ ผ้าไหมไทยเป็นศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านของไทยอย่างหนึ่ง ซึ่งจังหวัดสุรินทร์เป็นจังหวัดที่ผลิต ผ้าไหมพื้นเมืองที่มีลวดลาย เอกลักษณ์โดดเด่น เป็นที่ยอมรับแก่นานาอารยะประเทศ โดยผู้ทอใช้วิธีการทอทุกขั้นตอนด้วยแรงงานและฝีมือของคนที่มีอาชีพทอผ้าไหม ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้ความรู้ ความสามารถและภูมิปัญญาท้องถิ่นของบรรพบุรุษ ผ้าไหมสุรินทร์มีคุณสมบัติพิเศษ ดูแลรักษาง่าย และใช้ได้ในทุกโอกาส เช่น ใช้กับงานในหน้าที่ประจำ โอกาสพิเศษ เป็นของฝากของที่ระลึก และเป็นสิ่งตอบแทน เป็นต้น
นายกิตติภัทร์ รุ่งธนเกียรติ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ กล่าวต่อไปว่าองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ จัดงานวันข้าวหอมมะลิอินทรีย์ และมหกรรมผ้าไหมสุรินทร์ ครั้งที่ 7 ขึ้น เพื่อส่งเสริมเอกลักษณ์และเพิ่มมูลค่าผลผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์สุรินทร์และผ้าไหมสุรินทร์ ให้เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลาย เพื่อสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้กับประชาชน ส่งเสริมเกษตรกรในจังหวัดสุรินทร์ โดยจัดให้มีกิจกรรมในระหว่างวันที่ 1 – 9 มีนาคม 2557 ณ สวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ 80 พรรษาหรือสวนใหม่
สำหรับ ผ้าไหมไทยเป็นศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านของไทยอย่างหนึ่ง ซึ่งจังหวัดสุรินทร์เป็นจังหวัดที่ผลิต ผ้าไหมพื้นเมืองที่มีลวดลาย เอกลักษณ์โดดเด่น เป็นที่ยอมรับแก่นานาอารยะประเทศ โดยผู้ทอใช้วิธีการทอทุกขั้นตอนด้วยแรงงานและฝีมือของคนที่มีอาชีพทอผ้าไหม ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้ความรู้ ความสามารถและภูมิปัญญาท้องถิ่นของบรรพบุรุษ ผ้าไหมสุรินทร์มีคุณสมบัติพิเศษ ดูแลรักษาง่าย และใช้ได้ในทุกโอกาส เช่น ใช้กับงานในหน้าที่ประจำ โอกาสพิเศษ เป็นของฝากของที่ระลึก และเป็นสิ่งตอบแทน เป็นต้น
นายกิตติภัทร์ รุ่งธนเกียรติ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ กล่าวต่อไปว่าองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ จัดงานวันข้าวหอมมะลิอินทรีย์ และมหกรรมผ้าไหมสุรินทร์ ครั้งที่ 7 ขึ้น เพื่อส่งเสริมเอกลักษณ์และเพิ่มมูลค่าผลผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์สุรินทร์และผ้าไหมสุรินทร์ ให้เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลาย เพื่อสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้กับประชาชน ส่งเสริมเกษตรกรในจังหวัดสุรินทร์ โดยจัดให้มีกิจกรรมในระหว่างวันที่ 1 – 9 มีนาคม 2557 ณ สวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ 80 พรรษาหรือสวนใหม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น