เวลา 13.30 น.วันนี้ 19 ก.พ. 57 นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เรียกประชุมนายอำเภอทุกอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง หลังระดับน้ำตามอ่างเก็บน้ำต่างๆมีระดับลดลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงน้ำตามลำน้ำชี และลำน้ำต่างๆ เริ่มแห้งขอดเป็นบางช่วง ทำให้เกิดผลกระทบกับการผลิตน้ำประปา โดยในเขตชลประทาน มีน้ำเหลือใช้งานประมาณ 70 % ในส่วนนี้แทบไม่มีปัญหา ยกเว้นในเขตอำเภอภูเขียว บ้านแท่น ซึ่งมีน้ำเหลือใช้ไม่ถึง 25 % พื้นที่นี้ได้ขอความร่วมมือ ให้เกษตรกรงดทำนาปรังเพิ่มเด็ดขาด เพื่อให้มีน้ำเหลือใช้ เพื่อการอุปโภค บริโภค ส่วนนอกเขตชลประทาน ตามลุ่มน้ำลำปะทาว เดิมคาดว่าจะไม่มีปัญหาขาดแคลนน้ำ ขณะนี้มีแนวโน้มจะขาดแคลน เนื่องจากทำนาปรังกันมาก รวมทั้งมีโรงงานอุตสาหกรรมเกิดขึ้นเยอะ และต้องใช้ผลิตประปาเลี้ยงคนในเขตอำเภอเมืองด้วย ต้องปรับเปลี่ยน สั่งงดทำนาปรังเช่นกัน รวมทั้งรณรงค์ใช้น้ำประชาอย่างประหยัด วางระบบเติมน้ำ หากเกิดภาวะขาดแคลน คาดว่าหากช่วยกันประหยัด และงดทำนาปรังอย่างจริงจังในช่วงนี้ จะสามารถผ่านพ้นวิกฤ๖ ขาดแคลนน้ำช่วงหน้าแล้งไปได้ ตามลำน้ำสำคัญ โดยเฉพาะแม่น้ำชี ชัยภูมิเป็นต้นน้ำ ขณะนี้เกิดวิกฤติทั้งลุ่มน้ำ เนื่องจากในพื้นที่น้ำท่วม เกษตรกรหันมาทำนาปรังจำนวนมาก อัตราการไหลของน้ำเป็น 0 สถานการณ์เช่นนี้ เริ่มมีผลกระทบการการสูบน้ำ มาผลิตประปา ของประปาบ้านค่าย ต้องขอให้งดทำนาปรังเด็ดขาด ไม่ให้ทำเพิ่มอีกเช่นกัน
นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า ขณะนี้ตัวเลขพื้นที่ปลูกพืชฤดูแล้ง อยู่ประมาณ 2 แสนไร่ ส่วนมากเป็นข้าวนาปรัง 1.5 แสนไร่ ต้องควบคุมพื้นที่ไว้ ไม่ให้ทำเพิ่มอีก น้ำถึงจะเพียงพอ ถ้าใครจะปลูกเพิ่ม คิดว่าจะไปเสี่ยงเอาข้างหน้า ขอความกรุณาอย่าไปเสี่ยง เพราะจะได้รับความเสียหายแน่นอน น้ำไม่มีให้แน่นอน จึงขอความร่วมมือ ทุกภาคส่วน ได้ตระหนัก ถึงการแบ่งปัน น้ำน้ำเช่นนี้ ต้องแบ่งปันกันใช้ ให้ทุกฝ่ายพูดคุยกัน ตกลงกัน อย่าแย่งกัน ที่สำคัญทุกคน ต้องช่วยกันประหยัดน้ำ ใช้น้ำให้เกิดคุณค่าสูงสุด เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤติภัยแล้ง ไปให้ได้
สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น