วันนี้ (13 ก.พ.57) เวลา 07.30 น. ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร อส. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปปส.ภาค 3 และเจ้าหน้าที่เรือนจำ กว่า 500 นาย จู่โจมตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายและยาเสพติดใน เรือนจำกลางนครราชสีมา ทั้งเรือนนอน สิ่งของ เครื่องใช้ และจุดเสี่ยงที่คาดว่าจะมีการซุกซ่อนยาเสพติด หรือสิ่งผิดกฏหมาย เพื่อป้องกันกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดใช้เป็นฐานการจำหน่าย หรือลักลอบนำยาเสพติดเข้าไปขายให้กับผู้ต้องขังในเรือนจำ จากการเข้าตรวจค้น สามารถตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ จำนวน 20 เครื่อง พร้อมซิมการ์ด ยาบ้า 110เม็ด ยาไอซ์ 2 ถุง อุปกรณ์การเสพ มีด 150 เล่ม และเหล้าหมัก(สาโท) 1 แกลลอน
ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ระบุว่า การเข้าจู่โจมตรวจค้นเรือนจำถือเป็นอีกมาตรในการป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติด ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการจู่โจมตรวจค้นเป็นประจำทุกเดือน ขณะเดียวกันทางจังหวัดก็ได้มีแผนยุทธศาสตร์ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ภายใต้การขับเคลื่อนของศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดทั้งการกวาดล้าง ปราบปราม จับกุม และบำบัดฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง ส่วนการตรวจค้นในครั้งนี้ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ในเรือนจำว่ามีการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในเรือนจำหลายวิธี ทั้งแอบแฝงมากับสิ่งของ รวมทั้งการโยนข้ามกำแพงคอนกรีต และที่ผ่านมาได้ตรวจพบ การนำซากแมวที่ตายแล้ว มาผ่าท้องก่อนจะนำโทรศัพท์มือถือ4-5เครื่อง ใส่เข้าไปก่อนเย็บและโยนข้ามกำแพงคอนกรีตเข้ามาให้กับผู้ต้องขังในเรือนจำเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ แต่เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดไว้ได้ วิธีการดังกล่าวถือว่าเป็นวิธีการที่โหดเหี้ยมและไร้ซึ่งความเมตตาต่อสัตว์ จึงกำชับให้เจ้าหน้าที่มีการเข้มงวดและตรวจตราอย่างจิงจังมากยิ่งขึ้น ดร.วินัย กล่าว
ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ระบุว่า การเข้าจู่โจมตรวจค้นเรือนจำถือเป็นอีกมาตรในการป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติด ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการจู่โจมตรวจค้นเป็นประจำทุกเดือน ขณะเดียวกันทางจังหวัดก็ได้มีแผนยุทธศาสตร์ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ภายใต้การขับเคลื่อนของศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดทั้งการกวาดล้าง ปราบปราม จับกุม และบำบัดฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง ส่วนการตรวจค้นในครั้งนี้ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ในเรือนจำว่ามีการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในเรือนจำหลายวิธี ทั้งแอบแฝงมากับสิ่งของ รวมทั้งการโยนข้ามกำแพงคอนกรีต และที่ผ่านมาได้ตรวจพบ การนำซากแมวที่ตายแล้ว มาผ่าท้องก่อนจะนำโทรศัพท์มือถือ4-5เครื่อง ใส่เข้าไปก่อนเย็บและโยนข้ามกำแพงคอนกรีตเข้ามาให้กับผู้ต้องขังในเรือนจำเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ แต่เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดไว้ได้ วิธีการดังกล่าวถือว่าเป็นวิธีการที่โหดเหี้ยมและไร้ซึ่งความเมตตาต่อสัตว์ จึงกำชับให้เจ้าหน้าที่มีการเข้มงวดและตรวจตราอย่างจิงจังมากยิ่งขึ้น ดร.วินัย กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น