นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากข้อมูลของสำนักระบาดวิทยา ในปี 2556 ที่ผ่านมาทั่วประเทศพบผู้ป่วยจากโรคฉี่หนู (โรคเล็ปโตสไปโรซิส) ถึง 3,005 คน เสียชีวิต 31 คน จังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อแสนประชากรสูงสุด 5 อันดับแรก คือ จังหวัดศรีษะเกษ รองลงมา คือ จังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ นครศรีธรรมราช กาฬสินธุ์ และขอนแก่น ผู้ป่วยร้อยละ 70 เป็นเพศชายวัยทำงาน และพบว่าโรคฉี่หนูเป็นโรคประจำถิ่นของไทย พบผู้ป่วยได้ตลอดปีทั้งในเขตเมืองและชนบท พื้นที่ที่มีอัตราป่วยสูงสุด คือพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รองลงมา คือ ภาคใต้ ช่วงเดือนกรกฎาคม และเดือนตุลาคมเป็นช่วงที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ขณะที่ผู้ป่วยรอดชีวิตจากโรคฉี่หนูส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ไปพบแพทย์หลังจากเริ่มมีอาการป่วยแล้วไม่เกิน 3 วัน หากสงสัยว่าจะป่วยเป็นโรคฉี่หนูต้องรีบไปพบแพทย์ทันที พร้อมกับเล่าประวัติเสี่ยงเพื่อให้แพทย์รักษาได้อย่างถูกต้องลดการเสียชีวิต จังหวัดสุรินทร์ ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนและเกษตรกรหมั่นสังเกตุอาการผิดปกติของตนเอง หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับน้ำสกปรกโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีบาดแผล หากต้องเดินย่ำน้ำที่ท่วมขังควรสวมรองเท้ายาง หลังจากการสัมผัสน้ำสกปรกควรรีบชำระล้างด้วยน้ำสบู่และเช็ดให้ผิวหนังแห้งอยู่เสมอ
ทั้งนี้ ควรปฏิบัติตามแนวทางดังนี้ หลีกเลี่ยงการสัมผัสสิ่งแวดล้อมที่มีโอกาสมีเชื้อปนเปื้อน เช่น บริเวณที่มีน้ำท่วมขัง ไม่เดินเท้าเปล่าย่ำน้ำหรือพื้นที่ชึ้นแฉะ ไม่แช่น้ำหรือว่ายน้ำอยู่นานๆ ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรป้องกันโดยแต่งกายให้รัดกุม เช่น สวมรองเท้าบู๊ทกันน้ำรีบล้างทำความสะอาดผิวหนัง ขาและเท้าที่ย่ำน้ำมาให้สะอาด เช็ดให้แห้งทุกครั้ง หลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวหนังที่มีแผลหรือรอยถลอกต้องสัมผัสกับน้ำท่วมขังหรือพื้นที่ชื้นแฉะ ควรใช้ปลาสเตอร์กันน้ำปิดแผล ใส่รองเท้ากันน้ำ ไม่ใช้น้ำที่ท่วมขังมาล้างแผล ภายหลังการสัมผัสน้ำท่วมขังต้องรีบทำความสะอาดแผลให้สะอาด ทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมที่อยู่อาศัยให้สะอาด ควบคุมกำจัดหนู และหลีกเลี่ยงอาศัยอยู่ใกล้บริเวณที่มีสัตว์เลี้ยงที่อาจเป็นพาหะของโรคบริโภคอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ ดื่มน้ำสะอาด ล้างผักผลไม้ให้สะอาด ล้างมือก่อนบริโภคอาหารก็จะช่วยป้องกันโรคฉี่หนูได้ หากพบผู้ป่วยมีอาการไม่สบายให้พบแพทย์ใกล้บ้านท่านทันที
ทั้งนี้ ควรปฏิบัติตามแนวทางดังนี้ หลีกเลี่ยงการสัมผัสสิ่งแวดล้อมที่มีโอกาสมีเชื้อปนเปื้อน เช่น บริเวณที่มีน้ำท่วมขัง ไม่เดินเท้าเปล่าย่ำน้ำหรือพื้นที่ชึ้นแฉะ ไม่แช่น้ำหรือว่ายน้ำอยู่นานๆ ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรป้องกันโดยแต่งกายให้รัดกุม เช่น สวมรองเท้าบู๊ทกันน้ำรีบล้างทำความสะอาดผิวหนัง ขาและเท้าที่ย่ำน้ำมาให้สะอาด เช็ดให้แห้งทุกครั้ง หลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวหนังที่มีแผลหรือรอยถลอกต้องสัมผัสกับน้ำท่วมขังหรือพื้นที่ชื้นแฉะ ควรใช้ปลาสเตอร์กันน้ำปิดแผล ใส่รองเท้ากันน้ำ ไม่ใช้น้ำที่ท่วมขังมาล้างแผล ภายหลังการสัมผัสน้ำท่วมขังต้องรีบทำความสะอาดแผลให้สะอาด ทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมที่อยู่อาศัยให้สะอาด ควบคุมกำจัดหนู และหลีกเลี่ยงอาศัยอยู่ใกล้บริเวณที่มีสัตว์เลี้ยงที่อาจเป็นพาหะของโรคบริโภคอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ ดื่มน้ำสะอาด ล้างผักผลไม้ให้สะอาด ล้างมือก่อนบริโภคอาหารก็จะช่วยป้องกันโรคฉี่หนูได้ หากพบผู้ป่วยมีอาการไม่สบายให้พบแพทย์ใกล้บ้านท่านทันที
กัญญรัตน์ เกียรติสุภา ปชส สุรินทร์ /ข่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น