จังหวัดร้อยเอ็ด เชิญชวนสมทบเงินกองทุนช่วยเหลือชาวนา หวังช่วยเหลือเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2556/57 ที่ได้รับความเดือดร้อน เปิดรับเงินสมทบกองทุนฯ ตั้งแต่บัดนี้ – 31 ธันวาคมนี้
นายเลอเกียรติ แก้วศรีจันทร์ รอง ผวจ.ร้อยเอ็ด กล่าวกับ ปชส.รอ ว่า ธ.ก.ส. ได้จัดทำโครงการดังกล่าว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรที่ยังไม่ได้รับเงินตามมูลค่าใบประทวนในโครงการจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2556/57 ซึ่งโครงการดังกล่าวเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2557 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2557 เนื่องจากมีส่วนราชการและองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ต้องการบรรเทาเยียวยา ความทุกข์ยากของเกษตรกร ซึ่งเป็นราษฎรในท้องถิ่น จึงแสดงเจตนาที่จะนำเงินของส่วนราชการ องค์การปกครองท้องถิ่น มาสมทบเข้ากองทุนช่วยเหลือชาวนา และการสมทบเงินกองทุนช่วยเหลือชาวนาถือเป็นการฝากเงินประเภทผลิตภัณฑ์โครงการเฉพาะกิจที่มีวัตถุประสงค์การใช้จ่ายและระยะเวลาดำเนินการอย่างชัดเจน ผู้ฝากจะได้รับสมุดเงินฝากออมทรัพย์พิเศษ และใบฝากเงินไว้เป็นหลักฐาน มีการกำหนดผลตอบแทน และมีการแสดงผลการดำเนินงานโครงการแยกจากการดำเนินงานปกติของธนาคาร ส่วนราชการและองค์การปกครองท้องถิ่น สามารถให้การสนับสนุนกองทุนช่วยเหลือชาวนาได้เป็นปกติ ตามระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากการคลัง การเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. 2551 ผู้ประสงค์จะช่วยเหลือ สมทบกองทุนช่วยเหลือชาวนาบริจาคที่ บริจาคเงินเข้ากองทุนช่วยเหลือชาวนา บัญชีเลขที่ 0200-3-3477-582 ธ.ก.ส. สาขาบางเขน, สมทบเงินเข้ากองทุนช่วยเหลือชาวนาชนิดคืนต้น ไม่มีผลตอบแทน ตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป, สมทบเงินเข้ากองทุนช่วยเหลือชาวนาชนิดคืนต้นและมีผลตอบแทน ตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป อัตราร้อยละ 0.63 ต่อปี
ร่วมบริจาค หรือ สมทบเงินกองทุนช่วยเหลือชาวนาได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 มิถุนายน 2557 ได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ สอบถามและดูรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0-2555-0555 หรือ www.baac.or.th
คาดว่าเกษตรกรได้ประโยชน์ไม่น้อยกว่า 200,000 ราย ส่งผลให้เกิดการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจฐานรากอย่างต่อเนื่อง และส่งเสริมให้เกิดความเอื้ออาทรและสมานฉันท์บนหลักการเกื้อกูลและแบ่งปันซึ่งกันและกัน
นายเลอเกียรติ แก้วศรีจันทร์ รอง ผวจ.ร้อยเอ็ด กล่าวกับ ปชส.รอ ว่า ธ.ก.ส. ได้จัดทำโครงการดังกล่าว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรที่ยังไม่ได้รับเงินตามมูลค่าใบประทวนในโครงการจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2556/57 ซึ่งโครงการดังกล่าวเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2557 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2557 เนื่องจากมีส่วนราชการและองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ต้องการบรรเทาเยียวยา ความทุกข์ยากของเกษตรกร ซึ่งเป็นราษฎรในท้องถิ่น จึงแสดงเจตนาที่จะนำเงินของส่วนราชการ องค์การปกครองท้องถิ่น มาสมทบเข้ากองทุนช่วยเหลือชาวนา และการสมทบเงินกองทุนช่วยเหลือชาวนาถือเป็นการฝากเงินประเภทผลิตภัณฑ์โครงการเฉพาะกิจที่มีวัตถุประสงค์การใช้จ่ายและระยะเวลาดำเนินการอย่างชัดเจน ผู้ฝากจะได้รับสมุดเงินฝากออมทรัพย์พิเศษ และใบฝากเงินไว้เป็นหลักฐาน มีการกำหนดผลตอบแทน และมีการแสดงผลการดำเนินงานโครงการแยกจากการดำเนินงานปกติของธนาคาร ส่วนราชการและองค์การปกครองท้องถิ่น สามารถให้การสนับสนุนกองทุนช่วยเหลือชาวนาได้เป็นปกติ ตามระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากการคลัง การเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. 2551 ผู้ประสงค์จะช่วยเหลือ สมทบกองทุนช่วยเหลือชาวนาบริจาคที่ บริจาคเงินเข้ากองทุนช่วยเหลือชาวนา บัญชีเลขที่ 0200-3-3477-582 ธ.ก.ส. สาขาบางเขน, สมทบเงินเข้ากองทุนช่วยเหลือชาวนาชนิดคืนต้น ไม่มีผลตอบแทน ตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป, สมทบเงินเข้ากองทุนช่วยเหลือชาวนาชนิดคืนต้นและมีผลตอบแทน ตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป อัตราร้อยละ 0.63 ต่อปี
ร่วมบริจาค หรือ สมทบเงินกองทุนช่วยเหลือชาวนาได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 มิถุนายน 2557 ได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ สอบถามและดูรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0-2555-0555 หรือ www.baac.or.th
คาดว่าเกษตรกรได้ประโยชน์ไม่น้อยกว่า 200,000 ราย ส่งผลให้เกิดการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจฐานรากอย่างต่อเนื่อง และส่งเสริมให้เกิดความเอื้ออาทรและสมานฉันท์บนหลักการเกื้อกูลและแบ่งปันซึ่งกันและกัน
กนกอร สัตยามะระ/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
7 พ.ค. 57
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น