วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ผู้ว่าฯมหาสารคาม ระบุ สถานการณ์ภัยแล้ง ยังรับมือได้ แต่ไม่ควรทำนาปรังรอบสอง

จากการตรวจสอบปริมาณน้ำในแหล่งน้ำชลประทาน จังหวัดมหาสารคาม ยังมีเพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภคของประชาชน อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ระบุ สถานการณ์ภัยแล้งขณะนี้ยังรับมือได้ แต่เกษตรกรไม่ควรทำนาปรังรอบสอง เพราะอาจมีผลต่อการทำนาปี ส่วนพื้นที่นอกเขตชลประทานยังน่าห่วง น้ำอาจขาดแคลนในช่วงปลายฤดูกาล

จากการตรวจสอบของสำนักงานโครงการชลประทานจังหวัดมหาสารคาม พบว่าขณะนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำชีเหลืออยู่ประมาณร้อยละ 59 และปริมานน้ำในแม่น้ำชียังสามารถช่วยน้ำปรังได้ ส่วนปริมาณน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นแหล่งน้ำอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดมหาสารคาม พบว่า ความจุในปัจจุบันอยู่ที่ปริมาณ 1,435.1920 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 59.03 ของความจุเก็บกักสูงสุด โดยมีปริมาณน้ำใช้การประมาณ 553.5220 ล้านลูกบาศก์เมตร สำหรับปริมาณน้ำจากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหนองหวาย สำนักชลประทานที่ 6 อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น พบว่ามีปริมาณน้ำเพื่อการเกษตรอยู่ประมาณ 3.696 ล้านลูกบาศก์เมตร

นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า สถานการณ์ภัยแล้ง โดยเฉพาะในเขตชลประทานในขณะนี้ ยังมีน้ำเพียงพอสำหรับการอุปโภค บริโภค และการเกษตร แต่อย่างไรก็ตามเกษตรกร ไม่ควรทำนาปรังรอบสองเพราะอาจส่งผลในการเตรียมแปลงนาปี ฤดูกาลผลิตปี 2557 ขณะเดียวกันขอให้ประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัดและเกิดคุณค่าสูงสุด เพื่อให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัด เพียงพอใช้อย่างไม่ขาดแคลน

ทั้งนี้ ในพื้นที่นอกเขตชลประทานและพื้นที่ทางตอนใต้ของจังหวัดมหาสารคาม ได้แก่ อำเภอบรบือ นาเชือก ยางสีสุราช วาปีปทุม นาดูน พยัคฆภูมิพิสัย ยังน่าเป็นห่วง เพราะปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเหลือน้อย ซึ่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้มีการกักเก็บน้ำไว้สำหรับบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน แล้ว แต่อาจไม่เพียงพอและขาดแคลนในช่วงปลายฤดูกาล



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น