อธิบดีกรมศุลกากร และ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ร่วมเปิดอาคารที่ทำการด่านศุลกากรบ้านนากระเซ็ง อำเภอท่าลี่ เพื่อให้บริการผู้เดินทางเข้า – ออก ประเทศไทย กับ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตามมาตรฐานสากล ที่บริเวณที่ทำการด่านศุลกากร บ้านนากระเซ้ง ตำบลอาฮี อำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย นายราฆพ ศรีศุภอรรถ อธิบดีกรมศุลกากร และ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้ร่วมกันเป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีเปิดอาคารด่านศุลกากรบ้านนากระเซ็ง หรือ ด่านศุลกากรท่าลี่ สืบเนื่องจากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบในปี ๒๕๔๖ ให้ก่อสร้างสะพานมิตรภาพน้ำเหือง ไทย – ลาว ที่บริเวณบ้านนากระเซ็ง ตำบลอาฮี อำเภอท่าลี่ เพื่อเชื่อมเส้นทางระหว่าง ประเทศไทย ด้านจังหวัดเลย กับ สปป.ลาว ด้านเมืองแก่นท้าว แขวงไชยะบุลี ที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันทั้งด้านการค้า และวัฒนธรรมความเป็นอยู่ มาโดยตลอด แต่ต้องเดินทางโดยใช้เรือเล็ก หรือแพ ในการเดินทางข้ามลำแม่น้ำเหือง ซึ่งเป็นเส้นกั้นพรมแดน
นอกจากนี้ด่านพรมแดนแห่งนี้ ยังถือเป็นประตูสำคัญที่จะใช้เดินทางผ่านแขวงไชยะบุลี ไปสู่หลวงพระบางเมืองมรดกโลก ซึ่งปัจจุบันมีรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ ระหว่างจังหวัดเลย – เมืองหลวงพระบาง วิ่งทุกวัน ระยะทาง ๓๔๓ กิโลเมตร และเข้าสู่ประเทศจีนตอนใต้ที่ดินแดนสิบสองปันนา มณฑลยูนาน ระยะทางประมาณ ๖๙๐ กิโลเมตร อาคารปฏิบัติการของด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็ง รวมทั้งอาคารประกอบอื่นๆ เดิมเป็นอาคารชั่วคราว แต่จากสถิติการค้าชายแดน และการเดินทางผ่านแดน ที่ขยายตัวมากขึ้นจนถึงปัจจุบันมีมูลค่าการนำเข้า – ส่งออก ในปี ๒๕๕๖ รวม ๑๐,๓๔๘ ล้านบาท แยกเป็นมูลค่าสินค้านำเข้า ๗๔๗ ล้านบาท และ มูลค่าการส่งออก ๙,๖๐๑ ล้านบาท และเพื่อเป็นการรองรับการขยายตัวที่จะเพิ่มมากขึ้นจากการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่หน่วยงานที่ปฏิบัติหน้าที่ให้บริการประชาชน และนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านช่องทางนี้ รัฐบาลจึงได้อนุมัติงบประมาณ ๙๑.๓ ล้านบาท ให้จัดสร้างอาคารด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็งแห่งใหม่ รวมทั้งอาคารประกอบ เช่น อาคารตรวจเอกซเรย์สินค้า ซึ่งจะทำให้การเดินทาง การค้า และการปฏิบัติงานสะดวกมากขึ้น
นอกจากนี้ด่านพรมแดนแห่งนี้ ยังถือเป็นประตูสำคัญที่จะใช้เดินทางผ่านแขวงไชยะบุลี ไปสู่หลวงพระบางเมืองมรดกโลก ซึ่งปัจจุบันมีรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ ระหว่างจังหวัดเลย – เมืองหลวงพระบาง วิ่งทุกวัน ระยะทาง ๓๔๓ กิโลเมตร และเข้าสู่ประเทศจีนตอนใต้ที่ดินแดนสิบสองปันนา มณฑลยูนาน ระยะทางประมาณ ๖๙๐ กิโลเมตร อาคารปฏิบัติการของด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็ง รวมทั้งอาคารประกอบอื่นๆ เดิมเป็นอาคารชั่วคราว แต่จากสถิติการค้าชายแดน และการเดินทางผ่านแดน ที่ขยายตัวมากขึ้นจนถึงปัจจุบันมีมูลค่าการนำเข้า – ส่งออก ในปี ๒๕๕๖ รวม ๑๐,๓๔๘ ล้านบาท แยกเป็นมูลค่าสินค้านำเข้า ๗๔๗ ล้านบาท และ มูลค่าการส่งออก ๙,๖๐๑ ล้านบาท และเพื่อเป็นการรองรับการขยายตัวที่จะเพิ่มมากขึ้นจากการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่หน่วยงานที่ปฏิบัติหน้าที่ให้บริการประชาชน และนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านช่องทางนี้ รัฐบาลจึงได้อนุมัติงบประมาณ ๙๑.๓ ล้านบาท ให้จัดสร้างอาคารด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็งแห่งใหม่ รวมทั้งอาคารประกอบ เช่น อาคารตรวจเอกซเรย์สินค้า ซึ่งจะทำให้การเดินทาง การค้า และการปฏิบัติงานสะดวกมากขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น