วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

บึงกาฬ เตรียมนำแผนแม่บทชุมชนพึ่งตนเองไปพัฒนาจังหวัด

นายชโลธร ผาโคตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เปิดเผยว่า จากการที่จังหวัดบึงกาฬ เป็นจังหวัดตั้งใหม่จะครบรอบ 3 ปี ในวันที่ 25 มีนาคม 2557 ที่จะถึงนี้ แบ่งการปกครองออกเป็น 8 อำเภอ 53 ตำบล 615 หมู่บ้าน ดังนั้นเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 และ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 ซึ่งมุ่งสู่เป้าหมายหลัก 3 ประการ คือ สังคมมั่นคง สังคมสีเขียวและสังคมวัฒนธรรม ยึดพื้นที่เป็นตัวตั้ง และคนเป็นศูนย์กลางการพัฒนา โดยใช้กระบวนการแผนชุมชน เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนชุมชนให้เข้มแข็ง จังหวัดบึงกาฬจึงจัดทำโครงการ "1 ตำบล 1 แผน แม่บทชุมชนพึ่งตนเองจังหวัดบึงกาฬ” เพื่อปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬอย่างจริงจัง โดยใช้แนวคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และ การจัดทำบัญชีรับ – จ่ายครัวเรือน เป็นกรอบแนวทางการจัดทำแผนชุมชน ระยะแรกจะดำเนินการในพื้นที่ 8 อำเภอ 53 ตำบลๆ ละ 1 หมู่บ้าน รวมทั้งสิ้น 53 หมู่บ้าน ใช้งบประมาณในการจัดทำแผนทั้งสิ้น 2,386,500 บาท (สองล้านสามแสนแปดหมื่นหกพันห้าร้อยบาทถ้วน)

ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เปิดเผยต่อว่า ในการดำเนินงานนี้สิ่งสำคัญที่จะทำให้ แผนชุมชนประสบผลสำเร็จ จะประกอบด้วย การออกคำสั่งแต่งตั้งทีมบูรณาการ และ คณะทำงานสนับสนุนโครงการ "1 ตำบล 1 แผน แม่บทชุมชนพึ่งตนเองจังหวัดบึงกาฬ” ซึ่งได้มีการดำเนินการและจัดการประชุมเพื่อรับทราบบทบาทหน้าที่ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา อีกกิจกรรมหนึ่งที่สำคัญคือ การฝึกอบรมวิทยากรกระบวนการระดับอำเภอ (ครู ก) และทีมวิทยากรกระบวนการระดับหมู่บ้าน (ครู ข) ในพื้นที่เป้าหมาย รายอำเภอ จากนั้นทีมวิทยากรทั้งหมดจะได้ลงพื้นที่ เพื่อร่วมกันจัดเวทีประชาคมวิเคราะห์ข้อมูลบัญชีครัวเรือน รวมทั้งการทบทวน และ ปรับปรุงแผนชุมชนในพื้นที่ ซึ่งกิจกรรมนี้อยู่ระหว่างการดำเนินงาน ทั้งนี้โดยมีสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดบึงกาฬ เป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินงานทั้งหมด และกำหนดระยะเวลาในการดำเนินงานตามโครงการให้แล้วเสร็จภายใน เดือน ธันวาคม 2557 นี้

ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬกล่าวในตอนท้ายว่า หากแผนชุมชนตามโครงการ "1 ตำบล
1 แผน แม่บทชุมชนพึ่งตนเองจังหวัดบึงกาฬ” แล้วเสร็จจะทำให้หมู่บ้านเป้าหมายมีแผนแม่บทชุมชนพึ่งตนเองที่มีคุณภาพตามเกณฑ์ สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิต และ ความเป็นอยู่ของประชาชนตรงตามความต้องการของตนเอง นอกจากนี้ยังทำให้เกิดกระบวนการเรียนรู้การมีส่วนร่วมของชุมชนทุกระดับ และยังเป็นต้นแบบในการจัดทำแผนชุมชน เพื่อนำไปขยายผลในพื้นที่อื่นๆ ของจังหวัดต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น