วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

รัฐบาลพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน และประชาชนเกี่ยวกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ 2 ล้านล้านบาท

ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ขอเชิญชมนิทรรศการ "THAILAND 2020 ก้าวใหม่เชื่อมไทยสู่โลก” 6 – 30 มิถุนายน 2556 นี้ ที่ อาคารเรียนรวม มทร. (มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน) อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา และร่วมแสดงความคิดเห็นได้ในเวทีเสวนา บ่ายวันที่ 6 มิถุนายน 2556 นี้ ที่ อาคารเรียนรวม มทร. (มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน)

ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การจัดนิทรรศการ "THAILAND 2020 ก้าวใหม่เชื่อมไทยสู่โลก”จัดขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชนและนักลงทุน เกี่ยวกับรายละเอียดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ ตามร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการ คมนาคมขนส่งของประเทศวงเงิน 2 ล้านล้านบาท โดยในวันเปิดงานนิทรรศการฯ ในวันที่ 6 มิถุนายน 2556 จะมีการประชุม/เสวนาทางวิชาการด้วย เพื่อรับฟังความคิดเห็นข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ และเอกชน รวมทั้งประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง ของประเทศ 2 ล้านล้านบาท

สำหรับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง ของประเทศ 2 ล้านล้านบาทนี้ เป็นที่ทราบดีว่าภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นประเทศไทยจึงต้องมีการปรับยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าทัน สมัย ซึ่งหนึ่งในยุทธศาสตร์นั้น คือการพัฒนาระบบการขนส่งทางด้านการคมนาคม ที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งเศรษฐกิจโลกกำลังเคลื่อนย้ายมาที่เอเชีย และประเทศไทยได้เปรียบทางด้านภูมิศาสตร์จึงต้องมีการเตรียมพร้อมรองรับความ เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น รัฐบาลจึงมีนโยบายลงทุน 2 ล้านล้านบาท เพื่อเป็นศูนย์กลางของระบบการขนส่งของภูมิภาค

การดำเนินการดังกล่าวถือเป็นการเปลี่ยนโฉมหน้า ระบบเศรษฐกิจของประเทศที่ลดต้นทุนด้าน โลจิสติกส์ และลดการสูญเสียพลังงานทางด้านเชื้อเพลิง ซึ่งจะทำความเจริญเติบโตขยายไปยังเมืองต่าง ๆ และสามารถทำให้ประชาชนเดินทางสัญจรไปมาได้สะดวกรวดเร็วและปลอดภัย มีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น การลงทุนในครั้งนี้ถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่และสำคัญ จึงต้องมีการจัดงานนิทรรศการ THAILAND 2020 ก้าวใหม่เชื่อมไทยสู่โลก เพื่อให้ประชาชนรับทราบเจตนารมณ์ในนโยบายการลงทุน เพื่ออนาคตของประเทศไทยและเพื่อลูกหลานไทยมีความมั่นคงอย่างยั่งยืนตลอดไป 

จังหวัดนครราชสีมา ประชุมคณะอนุกรรมการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์จังหวัดเพื่อติดตามผลการดำเนินงาน

วันนี้ (31 พ.ค. 56) เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมมูลนิธิท้าวสุรนารี ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายสุชาติ นพวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้า มนุษย์จังหวัดนครราชสีมา


การประชุมคณะอนุกรรมการศูนย์ปฏิบัติการ ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์จังหวัดนครราชสีมา ในครั้งนี้ ได้แจ้งถึงแนวทางการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้า มนุษย์จังหวัด (ศปคม.จังหวัด) เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงกับศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้า มนุษย์แห่งชาติและต่างประเทศ ภายใต้ 5 ยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย การเฝ้าระวังและป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์ การปราบปรามและดำเนินคดี การคุ้มครองช่วยเหลือ การพัฒนากลไกเชิงนโยบายและขับเคลื่อน การพัฒนาและบริหารข้อมูล พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานผลการดำเนินงานและความคืบหน้า ส่งให้ฝ่ายเลขาคณะอนุกรรมการฯ เพื่อสรุปรายงานส่วนกลาง

สำหรับผลการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการป้องกัน และปราบปรามการค้ามนุษย์จังหวัดนครราชสีมา ประจำปี 2556 ไตรมาสที่ 1 และไตรมาสที่ 2 มีผู้เสียหายจาการค้ามนุษย์ที่ได้รับการช่วยเหลือ 164 คน เป็นชาย 10 คน หญิง 154 คน และเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี 126 คน อายุ 18-25 ปี 28 คน อายุ 36-45 ปี 8 คน อายุ 45 ปีขึ้นไป 2 คน ได้ให้การช่วยเหลือทางกฎหมาย 18 คน ให้การคุ้มครองสวัสดิภาพที่บ้านพัก 68 คน ส่งกลับภูมิลำเนา 34 คน ส่งกลับประเทศต้นทาง 2 คน สัญชาติไทย 89 คน ลาว 75 คน ส่วนมาเป็นค้าประเวณี 142คน ขอทาน 14คน บังคับใช้แรงงานหรือบริการ 8 คน

ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธา รณภัยเขต5นครราชสีมาเตือนประชาชนระวังอันตรายจากฟ้าผ่าจากสภาพอากาศที่แปรปรวน

ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธา รณภัยเขต5นครราชสีมาเตือนประชาชนระวังอันตรายจากฟ้าผ่าจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ในช่วงฤดูฝน
 

นายวัลลภ เทพภักดี ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 5 นครราชสีมา เปิดเผยว่า จากสภาพอากาศที่แปรปรวนและมีลมมรสุมในช่วงนี้จึงอยากเตือนไปพี่น้องประชาชน ระวังอันตรายจากสภาพอากาศ ฟ้าผ่า และลมกรรโชกแรง เพื่อความปลอดภัยในขณะที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนองและลมกรรโชกแรงขอให้ประชาชนหลบ ในอาคาร ไม่หลบใต้ต้นไม้ใหญ่ ใกล้สิ่งปลูกสร้างหรือป้ายโฆษณาขนาดใหญ่เพราะเสี่ยงต่อการถูกล้มทับ หลีกเลี่ยงการประกอบกิจกรรมกลางแจ้ง อยู่ให้ห่างสื่อนำไฟฟ้า งดใช้เครื่องมือสื่อสารและโทรศัพท์มือถือ หรือสวมใส่อุปกรณ์ที่เป็นสื่อนำไฟฟ้า ทั้งเงิน ทองแดง นาก ในที่โล่งแจ้ง ขณะเกิดพายุฝนฟ้าคะนองเพราะจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดฟ้าผ่า รวมทั้งควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ทั้งนี้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต5นครราชสีมา ได้เตรียมความพร้อมทั้งเครื่องมือและเจ้าหน้าที่ไว้คอยให้ความ ช่วยเหลือ รวมทั้งสายด่วนนิรภัย 1784 ไว้ 24 ชั่วโมง

จังหวัดนครราชสีมาประชุมซักซ้อมแผนระงับอัคคีภัยในอาคารสูง

วันนี้ (31 พ.ค. 56) ที่โรงพยาบาลค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดการประชุม การฝึกซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจากอัคคีภัยในอาคารสูงและอาคารขนาด ใหญ่ ระดับกลุ่มจังหวัด 45 จังหวัดอีสานตอนล่าง ประกอบด้วยจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ ชัยภูมิ และนครราชสีมา ซึ่งจัดขึ้นโดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 5 นครราชสีมา ร่วมกับ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา เพื่อเสริมสร้างทักษะให้เจ้าหน้าที่สามารถปฎิบัติการระงับเหตุและช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยได้อย่างถูกต้อง รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมให้ประชาชนในพื้นที่ได้เรียนรู้วิธีการ ปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยกรณีเกิดเพลิงไหม้อาคารขนาดใหญ่ ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า สำหรับการประชุมฝึกซ้อมแผนป้องกันและระงับอัคคีภัยในอาคารสูงและอาคารขนาด ใหม่ในครั้งนี้ได้มีการจำลองเหตุการณ์เกิดเพลิงไหม้อาคารผู้ป่วยในของโรง พยาบาลค่ายสุรนารีในช่วงเวลากลางคืนจนต้องประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยและระงับเหตุเพลิงไหม้จามขั้น ตอนที่กำหนดไว้ทั้งนี้การฝึกซ้อมในครั้งนี้เป็นการบูรณาการหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องและเตรียมความพร้องของเจ้าหน้าที่ เครื่องมืออุปกรณ์ด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจาดอัคคีภัยและสารเคมี ซึ่งจะเป็นการพัฒนาทักษะในการระงับเหตุและการช่วยเหลือ อพยพผู้ประสบภัยแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จังหวัดนครราชสีมา แถลงข่าวการจัดนิทรรศการ Thailand 2020 ก้าวใหม่เชื่อมไทยสู่โลก

ที่ห้องประชุมสำนักงานทางหลวงที่ 8 นครราชสีมา ดร.วินัยบัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมนายอดุลย์เชาว์วาทิน ผู้อำนวยการสำนักทางหลวงที่ 8 นครราชสีมา และนายสมบูรณ์ชัยศิรินิรันดร์ ผู้อำนวยการสำนักทางหลวงชนบทที่ 5 นครราชสีมา ร่วมแถลงจัดนิทรรศการ " Thailand 2020 ก้าวใหม่เชื่อมไทยสู่โลก ” กำหนดจัดระหว่างวันที่ 6 -30 มิถุนายน โดยใช้สถานที่ อาคารเรียนรวม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน อ.เมือง นครราชสีมา ภายในงานการมีจัดเสวนาทางวิชาการและร่วมกิจกรรมบนเวทีกลาง เลือกชมและเลือกซื้อสินค้า OTOP และสินค้าธงฟ้าราคาประหยัด ซึ่งจะมีพิธีเปิดงานในวันที่ 6 มิถุนายน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธี
 

ด้านดร.วินัยบัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า สำหรับการจัดนิทรรศการThailand 2020 ก้าวใหม่เชื่อมไทยสู่โลก ซึ่งจะจัดขึ้นที่จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 6-30 มิถุนายน 2556 จะเป็นการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับแผนการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคม ขนส่ง พ.ศ.2556-พ.ศ.2563 โดยเฉพาะโครงการด้านคมนาคมขนส่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น โครงการรถไฟทางคู่ โครงการรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพ-นครราชสีมาโครงข่ายทางหลวงเชื่อมโยง ระหว่างประเทศ 7 โครงการ 5 จังหวัดโครงการบูรณะทางหลวงสายหลักระหว่างภาค ใน 4 จังหวัด จำนวน 18 โครงการ และโครงการอื่นๆ จึงขอเชิญชวนประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา และใกล้เคียงร่วมชมนิทรรศการ Thailand 2020 ก้าวใหม่เชื่อมไทยสู่สากล ระหว่างวันที่ 6-30 มิถุนายน 2556 ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จังหวัดนครราชสีมา

กระทรวงการพัฒนาสังคมฯออกหน่วยบริการประชาชนในวันต่อต้านการค้ามนุษย์ที่บุรีรัมย์

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ออกหน่วยบริการทางสังคมและงานวันรณรงค์ต่อต้านการค้ามนุษย์ที่จังหวัดบุรีรัมย์

วันนี้ (31 พ.ค. 56) ที่องค์การบริหารส่วนตำบลนางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเปิดโครงการออกหน่วยบริการทางสังคม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และงานวันรณรงค์ต่อต้านการค้า มนุษย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ประจำปี ๒๕๕๖ เพื่อนำบริการสวัสดิการสังคมต่างๆของกระทรวง และเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชนในจังหวัดมาบูรณาการในการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทุกข์ยาก และเดือดร้อนในพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านการค้ามนุษย์ในรูปแบต่างๆ เพื่อปลุกกระแสให้ประชาชนในพื้นที่มีความตื่นตัวในการช่วยป้องกันและแจ้ง เบาะแสการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะการให้บริการศูนย์ช่วยเหลือทางสังคม (OSCC) ตลอดจนการสาธิตอาชีพจากกระทรวงแรงงาน บริการตรวจสุขภาพ จากกระทรวงสาธารณสุข ร่วมด้วย

ในการนี้ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ยังได้ตรวจเยี่ยม โครงการศูนย์ ๓ วัย สานสายใยรักนางรองในพระบรมราชูปถัมภ์ฯ พร้อมทั้งมอบรถเข็นนั่งพระราชทานแก่ด.ญ.อุไรศณี ต่างประเทศ มอบทุนการศึกษาแก่โรงเรียนด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิต และโล่รางวัลแก่สถานรับเลี้ยงเด็กเอกชนดีเด่น อาสาสมัครดีเด่น รวมถึงทุนการศึกษาและทุนสงเคราะห์แก่ผู้พิการและผู้ยากไร้อีกด้วย




สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์

เปิดถนนเด็กเดิน พื้นที่สร้างสรรค์เพื่อเด็กและเยาวชนมหาสารคาม

จังหวัดมหาสารคาม เปิดพื้นที่บางส่วนของตลาดไนท์บาซ่า ให้เป็นถนนเด็กเดิน เพื่อสร้างกิจกรรม ร้อง เล่น เต้น โชว์ เป็นเวทีสร้างสรรค์ สำหรับเด็กและเยาวชนจังหวัดมหาสารคาม

พื้นที่บางส่วน ของตลาดไนท์บาซ่า อำเภอเมืองมหาสารคาม ถูกจัดให้เป็นพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็ก และเยาวชน ถนนเด็กเดินจังหวัดมหาสารคาม ครั้งที่ 1 ซึ่งสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดมหาสารคาม พร้อมหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด มหาสารคาม ตลอดจนเครือข่ายภาคประชาชน และภาคเอกชน ได้เปิดพื้นที่ ร้อง เล่น เต้น โชว์ สำหรับเด็กและเยาวชนจังหวัดมหาสารคาม โดยมีทั้งการแสดงบนเวที การวาดภาพ ระบายสี การเขียนความฝันบนต้นไม้หัวใจ นิทรรศการและการเล่นเกมส์ที่หลากหลาย

นายยิ่งยศ ธนะจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า กิจกรรมสร้างสรรค์ถนนเด็ก เป็นการสนับสนุนและระดมพลังเยาวชนสร้างพื้นที่ที่ดี เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้มาใช้ประโยชน์ร่วมกัน สร้างพัฒนาการตั้งแต่วัยเด็กและสร้างความอบอุ่นในครอบครัว โดยที่โครงการวิจัย Child Watch สถาบันรามจิตติได้ศึกษาสถานการณ์เด็กไทยทั่วประเทศ พบว่าจังหวัดมหาสารคาม เป็นจังหวัดที่มีระบบคุ้มครองเด็กดี จึงพร้อมสนับสนุนการสร้างพื้นที่ที่ดีสำหรับเด็กให้มากขึ้นในจังหวัด มหาสารคาม

กิจกรรม ร้อง เล่น เต้น โชว์ ในถนนเด็กเดิน กำหนดจัดเดือนละ 1 ครั้ง ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กันยายน 2556 รวม 5 ครั้ง หมุนเวียนจัดใน 5 อำเภอนำร่อง คือ อำเภอเมืองมหาสารคาม เป็นพื้นที่ดำเนินการหลักร่วมกับอำเภอกันทรวิชัย อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย เป็นพื้นที่ดำเนินการหลัก ร่วมกับอำเภอยางสีสุราช และ อำเภอนาดูน อำเภอแกดำ เป็นพื้นที่ดำเนินการหลัก ร่วมกับอำเภอวาปีปทุม อำเภอเชียงยืนเป็นพื้นที่ดำเนินการหลักร่วมกับอำเภอชื่นชมและอำเภอโกสุม พิสัย และอำเภอนาเชือก เป็นพื้นที่ดำเนินการหลัก ร่วมกับอำเภอบรบือและอำเภอกุดรัง



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

สโมสรไลออนส์จังหวัดมหาสารคามเตรียมจัดงานราตรีแห่งดาวสโมสรไลออนส์จังหวัดมหาสารคามครั้งที่ 1

สโมสรไลออนส์จังหวัดมหาสารคามเตรียมจัดงานราตรีแห่งดาวสโมสรไลออนส์ จังหวัดมหาสารคาม ครั้งที่ 1 พร้อมประกาศรายชื่อคณะกรรมการบริหารสโมสรฯ ปี 2556-2557

31-05-56 ที่ห้องประชุมโรงแรมยัวเพลส อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคามสโมสรไลออนส์จังหวัดมหาสารคามจัดงานแถลงข่าวการจัดงานราตรี แห่งดาวสโมสรไลออนส์จังหวัดมหาสารคาม ครั้งที่ 1 พร้อมกับประกาศรายชื่อคณะกรรมการบริหารสโมสรฯ ปี 2556-2557 โดยมีนายยิ่งยศ ธนะจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานเปิดงานพร้อมบรรยายพิเศษเรื่องบทบาทขององค์กรเอกชนที่มีส่วนช่วย เหลือสังคม แนวคิดและแนวทางการทำงานสังคมแบบมีส่วนร่วม 

ไลออน แพทย์หญิง ดร.กัญญา เกตุบรรลุ อุปนายกสโมสรไลออนส์จังหวัดมหาสารคามกล่าวว่า สโมสรไลออนส์เป็นองค์กรการกุศลที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นองค์กรหนึ่งที่มี ประสิทธิภาพที่สุดทางด้านการบริการสังคมและเจตนารมณ์ที่มุ่งมั่นต่อการ บริการสังคม ช่วยเหลือผู้ด้วยโอกาสไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือคนตาบอด ผู้ที่มีความบกพร่องทางการมองเห็นหรือการช่วยเหลือเยาวชนผู้ด้อยโอกาสรวมไป ถึงกิจกรรมต่างที่สโมสรได้จัดขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ของเยาวชน และกิจกรรมด้านอื่นๆ อีกมากมายเพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของสโมสรไลออนส์คือเพื่อสร้างสรรค์ และผดุงไว้ซึ่งความเข้าใจอันดีระหว่างมนุษยชาติของโลก ส่งเสริมหลักธรรมของรัฐบาลที่ดีและการเป็นพลเมืองที่ดี ให้ควมร่วมมือในงานสวัสดิการสงเคราะห์ของท้องถิ่นทั้งในด้านกิจการสารธารณะ วัฒนธรรม สังคมและศีลธรรมจรรยา การจัดงานแถลงข่าวในครั้งนี้ประกอบด้วยการประกาศรายชื่อของคณะกรรมการบริหาร สโมสรไลออนส์จังหวัดมหาสารคาม ปีบริหาร 2556-2557 โดยในปีนี้นายปฏิมา เหล่าชัย ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำนายกสโมสรไลออนส์จังหวัดมหาสารคาม

ในโอกาสเดียวกันนี้ยังได้ร่วมแถลงข่าวการจัดงานราตรีแห่งดาวสโมสรไลออนส์ ครั้งที่ 1 ซึ่งเป็นการจัดแฟชั่นโชว์ผ้าไทยในเอกลักษณ์ของจังหวัดมหาสารคาม พร้อมกับชมการแสดงแฟชั่นโชว์ชุดยูนิฟอร์มของสโมสรไลออนส์จังหวัดมหาสารคาม โดยนายธนาคาร แสงอรุณ แมคยีนส์ปีล่าสุดและนางสาวอัลดา กุลาสา นางสาวมหาสารคามประจำปี 2556  


นายปฏิมา เหล่าชัย นายกสโมสรไลออนส์จังหวัดมหาสารคามรับเลือกตั้งกล่าวว่า การจัดแฟชั่นโชว์ดังกล่าวได้รับเกียรติจากคุณนาตาลี เกลโบวา นางงามจักรวาล มาร่วมแสดงผ้าไทยในเอกลักษณ์ของจังหวัดมหาสารคามและร่วมชมคอนเสิร์ตโดยคุณสุ นารี ราชสีมา และนักร้องกิตติมศักดิ์ของจังหวัดมหาสารคาม ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2556 ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มหาลัยราชภัฎ มหาสารคาม จองบัตรได้ที่ห้องเสื้อปฏิมา หมู่บ้านเฮาควอลิตี้เฮาส์ ตำบลตาด อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม โทร 043-710841,081-1712977


ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

มหาสารคามเปิดตัวรายการ “บอกเล่าข่าวกองทุนสตรีสารคาม”

สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดมหาสารคาม เปิดตัวรายการ "บอกเล่าข่าวกองทุนสตรีสารคาม” เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ความเคลื่อนไหวของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดมหาสารคาม

นายธาดา กิจชัย หัวหน้ากลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน สำนักงานชุมชนจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ขณะนี้จังหวัดมหาสารคามได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามและสนับสนุนการ ดำเนินงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัด ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และมีผู้แทนภาคราชการ ภาคเอกชน และผู้ทรงคุณวุฒิในจังหวัดฯ รวม 15 คนเป็นกรรมการ โดยที่จังหวัดมหาสารคามได้รับงบประมาณดำเนินโครงการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี จำนวน 100 ล้านบาท ขณะงบประมาณดังกล่าวได้โอนมาที่จังหวัดเรียบร้อยแล้ว ซึ่งความคืบหน้าดังกล่าว ตลอดจนข้อมูล ข่าวสารที่เกี่ยวกับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดมหาสารคาม จะมีการเผยแพร่ผ่านสื่อวิทยุกระจายเสียง โดยความร่วมมือของ คณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดมหาสารคาม และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดมหาสารคาม ที่ได้ให้เวลาในการออกอากาศประชาสัมพันธ์ โดยชื่อรายการว่า "บอกเล่าข่าวกองทุนสตรีสารคาม” ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 10.35-11.00 น. ทางระบบ เอฟเอ็ม 106.50 เมกกะเฮิร์ซท์ โดยจะเริ่มในเดือนมิถุนายน 2556 นี้

จังหวัดมหาสารคาม ได้รับการสนับสนุนงบประมาณดำเนินโครงการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจำนวน 100 ล้านบาทและกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดได้โอนงบประมาณให้โครงการที่ได้รับ อนุมัติแล้วเป็นเงิน 11,019,012 บาท จาก 370 โครงการ สำหรับจำนวนสมาชิกกองทุนฯ จนถึงเดือนเมษายน 2556 มีผู้ลงทะเบียนแล้ว 164,432 คน และกำลังเปิดรับสมัครอยู่ จึงขอเชิญชวนสตรีไทย อายุ 15 ปีขึ้นไปสนใจสมัครเข้าเป็นสมาชิกกองทุนฯ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดมหาสารคาม โทรศัพท์/โทรสาร 043-777351 หรือสมัครได้ที่เว็บไซต์ http://www.womenfund.in.th




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

เตรียมเปิดเวที ‘พูดจาหาทางออกประเทศไทย’ 108 เวทีทุกจังหวัด มิ.ย. - ก.ค. 56

เตรียมเปิดเวที ‘พูดจาหาทางออกประเทศไทย’ 108 เวทีทุกจังหวัด มิ.ย.-ก.ค. 56 หวังถกปัญหาลดขัดแย้งชาติ ‘ปลัดสำนักนายกฯ’ ไม่หวั่นฝ่ายการเมืองจะนำไปหาประโยชน์ ย้ำมีสิทธิสานต่อโครงการทุกกลุ่ม

ศ.พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการประสานงานและติดตามผลฯ ปคอป. กล่าวว่า การจัดเวที ‘พูดจาหาทางออกประเทศไทย’ เพื่อจุดมุ่งหมายในการหาแนวทางที่สร้างสรรค์ในการลดความขัดแย้งในไทยที่เกิด ขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีความซับซ้อนอย่างสันติวิธี ซึ่งจะดำเนินการ 108 เวทีทั่วประเทศ ใน 76 จังหวัด จังหวัดละ 1-3 เวที ตามขนาดของพื้นที่ รวม 105 เวที และกทม. อีก 3 เวที ตั้งแต่เดือนมิ.ย.-ก.ค. 56 โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมราว 80,000-100,000 คน ซึ่งเป็นตัวแทนจากภาคส่วนต่าง ๆ ได้แก่ ภาคเกษตร ภาคแรงงาน ภาคอุตสาหกรรม การบริการและการค้า เจ้าหน้าที่ของรัฐ แพทย์ พยาบาล นักเรียน นักศึกษา นักวิชาการ ผู้นำชุมชน องค์กรภาคประชาชน ภาคการเมือง ผู้นำศาสนา สื่อมวลชน ตามสัดส่วนที่เหมาะสม คิดเป็นร้อยละ 75 สำหรับอีกร้อยละ 25 จะมาจากการสมัครเข้าร่วมเวทีของประชาชนที่สนใจจะเข้ามามีส่วนร่วมแสดงความ คิดเห็น แต่หากมีผู้สมัครเกินจำนวนจะใช้วิธีจับสลาก ทั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากนักวิชาการในสถาบันอุดมศึกษาต่าง ๆ เป็นที่ปรึกษา
          ปลัดสำนักนายกฯ กล่าวต่อว่า หลังจากดำเนินโครงการฯ เสร็จสิ้น จะใช้ระยะเวลาในการรวบรวมข้อคิดเห็นทั้งหมดราว 1 เดือน ก่อนจะนำเสนอรายงานต่อปคอป.และสาธารณะต่อไป เพื่อสังคมจะได้นำไปตกผลึกเป็นแนวทางแก้ไขปัญหา อย่างไรก็ตาม ไม่คิดว่าข้อคิดเห็นจาก 108 เวทีจะเป็นคำตอบสุดท้ายที่ทุกคนต้องเห็นด้วย แต่หากมองในแง่บวกผลจากเวทีนี้จะไม่สูญเปล่า เพราะถือเป็นโอกาสที่ประชาชนจะได้เข้ามาเรียนรู้กระบวนการแก้ไขปัญหาบนพื้น ฐานสันติวิธี

สำหรับโอกาสที่จะนำความคิดเห็นทั้งหมดดำเนินการให้เป็นรูปธรรมนั้น ผมจะต้องรายงานให้ปคอป.ทราบว่าประชาชนมีความเห็นอย่างไร แต่จะปฏิบัติได้หรือไม่ ตอนนี้อาจจะเร็วเกินไปที่จะตอบ เพราะยังไม่ทราบว่าข้อเสนอจะมีลักษณะอย่างไร ศ.พิเศษ ธงทอง กล่าวอีกว่า ส่วนข้อกังวลว่าฝ่ายการเมืองจะนำความคิดเห็นของประชาชนไปใช้ประโยชน์เพื่อ หวังผลทางการเมืองนั้น คงไม่เฉพาะฝ่ายการเมือง แต่หวังว่าทุกฝ่ายจะหยิบยกไปใช้ประโยชน์ในเมืองไทย โดยจะไปหวงห้ามว่าไม่ให้นำไปใช้ จะทำไม่ได้ ที่สำคัญการทำรายงานแล้วขึ้นหิ้งไว้คงไม่คุ้มประโยชน์ที่จะจัดเวทีนี้ นอกจากนี้ยังกล่าวถึงข้อกังวลการจัดเวทีครั้งนี้กำลังสวนทางกับการเดินเกม ผลักดันพ.ร.บ.นิรโทษกรรม และพ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติของฝ่ายการเมืองว่า การจัดทำเวทีไม่มีคำตอบสุดท้ายว่าใช่หรือไม่ใช่ และไม่มีสิทธิห้ามใครเคลื่อนไหวทางการเมือง เพราะทุกคนอยู่ในระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นจึงมีกลไก ความรับผิดชอบตามสิทธิและหน้าที่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเคารพ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผลการศึกษาที่ได้จากเวทีนี้จะสร้างประโยชน์กับประเทศในระยะยาว


เวทีพูดจาหาทางออกประเทศไทย เป็นกิจกรรมที่เปลี่ยนชื่อจาก เวทีเสวนาหาทางออกประเทศไทย โดยได้รับงบประมาณตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อ 19 มี.ค. 56 จำนวน 77.9 ล้านบาท ซึ่งมีคณะที่ปรึกษาทางวิชาการเพื่อการจัดทำเวทีประชาเสวนา ได้แก่ 1.รศ.อัษฎางค์ ปาณิกบุตร อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ ม.รามคำแหง, ศ.ดร.นันทวัฒน์ บรมานันท์ คณะนิติศาสตร์ จุลาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ มรภ.สวนดุสิต, รศ.ยุทธพร อิสรชัย สาขาวิชารัฐศาสตร์ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช, รศ.ภาณินี กิจพ่อค้า สาขาวิชานิติศาสตร์ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช, ดร.วรรณภา ติระสังขะ คณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์, อาจารย์พงศ์จิรา เชิดชู สาขาวิชานิติศาสตร์ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช และผศ.ดร.ชลวิทย์ เจียรจิตต์ คณะสังคมศาสตร์ มศว.ประสานมิตร ทั้งนี้ สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมเเสดงความคิดเห็นต่อเเนวทางสร้างความปรองดองเเละเเก้ป ัญหาประเทศ สามารถเข้าดูรายละเอียดได้ที่ www.tangork-thailand.com

ปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่มหาสารคาม 20 - 26 พ.ค. 56 ไม่มีฝนตก

ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและเติมน้ำลงในอ่างเก็บน้ำ พื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ระหว่างวันที่ 20-26 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งผลการปฏิบัติไม่มีฝนตกในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ขณะที่อุตุฯคาด สัปดาห์นี้ จะมีฝนร้อยละ 30-40 ของพื้นที่

นายพัฒนา นุศรีอัน เกษตรและสหกรณ์จังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้รายงานผลการปฏิบัติการฝนหลวงของหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดขอนแก่น จังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดอุบลราชธานี ที่ได้ปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและเติมน้ำลงในอ่างเก็บน้ำ ต่าง ๆ ของพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ระหว่างวันที่ 20-26 พฤษภาคม 2556 โดยได้ขึ้นบินปฏิบัติการในช่วงวันดังกล่าว จำนวน 1 วัน รวม 2 เที่ยวบิน ใช้ระยะเวลา 2.40 ชั่วโมง ผลการปฏิบัติการฝนหลวงไม่มีฝนตกในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม

อย่างไรก็ตาม กรมอุตุนิยมวิทยา ได้มีการคาดหมายลักษณะอากาศในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม- 6 มิถุนายน ว่าจะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ย 25-37 องศาเซลเซียส .




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ยโสธรออกตรวจประเมินร้านรับซื้อของเก่าสีเขียว

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 31 พฤษภาคม 2556 จังหวัดยโสธร คณะกรรมการออกตรวจประเมินร้านรับซื้อของเก่าสีเขียว โดยการนำของ นายประเดิม ภาคแก้ว นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการพิเศษ ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมการจัดการสิ่งแวดล้อมภาคที่ 12

สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 12 อุบลราชธานี ร่วมกับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดยโสธร ได้ดำเนินการกิจกรรมตามโครงการร้านรับซื้อของเก่าสีเขียว ประจำปี 2556 ในพื้นที่จังหวัดยโสธร โดยมีผู้ประกอบการร้านรับซื้อของเก่า ได้แจ้งความประสงค์สมัครเข้าร่วมโครงการ จำนวน 15 ร้าน ซึ่งร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการจะต้องเป็นร้านที่ได้รับใบอนุญาตกิจการขายทอด ตลาดและค้าของเก่า เพื่อให้ตรงตามวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมสนับสนุนร้านรับซื้อของเก่าให้มี ระบบการจัดการที่ดี ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม การให้ความสำคัญด้านความสะอาด สุขอนามัยที่ดีของลูกจ้าง และความปลอดภัยในภาพรวมให้กับร้านรับซื้อของเก่า

สำหรับจังหวัดยโสธร ได้ประเมินร้านรับซื้อของเก่าสีเขียว ครั้งที่ 1 ปรากฎว่า มีร้านรับซื้อของเก่าที่ ผ่านเกณฑ์ระดับพื้นฐานอยู่ จำนวน 5 ร้าน ได้แก่ ร้านทวีคูณ ร้านเจริญโชค ร้านวงษ์พาณิชย์ยโสธร ร้าน ต.บัณฑิตทรัพย์ และร้านวงษ์พาณิชย์ สาขาทรายมูล ซึ่งทั้ง 5 ร้านที่ผ่านการตรวจประเมินครั้งที่ 1 เห็นควรปรับปรุงในด้านอาชีวะอนามัยและความปลอดภัย และด้านการดำเนินงานเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งได้ให้คำแนะนำข้อควรปฏิบัติที่ถูกต้อง ปลอดภัย ให้แก่ผู้ประกอบการรับซื้อของเก่านำไปปรับปรุง แก้ไขแล้ว


ซึ่งครั้งนี้ เป็นการตรวจประเมินร้านซื้อของเก่าสีเขียว ครั้งที่ 2 รางวัลสำหรับร้านรับซื้อของเก่าสีเขียวที่ผ่านการตรวจประเมิน จะได้รับโล่รางวัล ประกาศนียบัตร และเงินรางวัล จากกรมควบคุมมลพิษ คือ ระดับดีเยี่ยม ได้รับโล่รางวัล และเงินรางวัล 5,000 บาท, ระดับดี ได้รับโล่รางวัล และเงินรางวัล 3,000 บาท และระดับพื้นฐาน ได้รับ

ร้อยเอ็ดจัดเวทีสรุปบทเรียนการดำเนินงานแลการจัดแผนงาน เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2556

รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติ การเวทีสรุปบทเรียนการดำเนินงานและการจัดทำแผนโครงการขับเคลื่อนร้อยเอ็ดสู่ การเป็นจังหวัดน่าอยู่ที่สุด

ด้วยองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ได้จัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกับสำนักงานกิงทุนสนับสนุนสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ภายใต้  "โครงการขับเคลื่อนร้อยเอ็ดสู่การเป็นจังหวัดน่าอยู่ที่สุด ในการขับเคลื่อนการดำเนินงานต้องมีการบูรฯการความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยการสร้างขบวนการขับเคลื่อนและผลักดันให้ร้อยเอ็ดเป็นจังหวัดน่าอยู่ที่สุด ที่มีคุณลักษณะที่สำคัญคือ "ร้อยเอ็ดจังหวัดน่าอยู่ ส่งเสริมการขาย สร้างและกระจายรายได้ ผลิตสินค้ามาตรฐาน สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์พันธุ์ข้าวพื้นบ้าน มีมากพื้นที่เกษตรปลอดภัยขยายเครือข่ายเด็กและเยาวชน ส่งเสริมแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง สวัสดิการคลอบคลุมชุมชนร่วมรับประโยชน์ รักษ์ป่าสร้างร้อยเอ็ดเมืองสีเขียว การเมืองภาคพลเมืองเข้มแข็ง เกิดสุขภาวะประชาธิปไตยชุมชน เพิ่มทุนทางปัญญา ค้นหาปราชญ์ท้องถิ่น ทำกินถิ่นบ้านเกิด” โดยมีความคลอบคลุมในพื้นที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เข้าร่วมในกระบวนการในเครือข่าย ประเด็น คือ เครือข่ายเศรษฐกิจชุมน ป่าชุมชน เกษตรกรรมยั่งยืน สวัสดิการชุมชน พัฒนาครอบครัว  เด็ก เยาวชน  พัฒนาประชาธิปไตย และต้นทุนทางปัญญา  พร้อมทั้งมีการพัฒนาเป็นนโยบายสาธารณะของจังหวัด อันจะส่งผลให้เกิดกระบวนการจัดการความรู้ที่เป็นการเสริมพลังปฏิบัติการพื้นที่ทั้ง 20 อำเภอได้
 

 
บุญมี  เพ็งรัตน์/ข่าว
กมลพร  คำนึง/บรรณาธิการข่าว

31 มี.ค. 56   

ร้อยเอ็ดอบรมสมาชิกวิสาหกิจชุมชน โดยการเพิ่มศักยภาพการผลิตและสร้างมูลค่าเพิ่มข้าวหอมมะลิ

วันที่ 31 พ.ค. 2556  เวลา 10.00 น. นายพศิน  โกมลวิชญ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นปรานเปิดการอบรมสมาชิกวิสาหกิจชุมชน โดยการเพิ่มศักยภาพการผลิตและสร้างมูลค่าเพิ่มข้าวหอมมะลิที่โรงแรมเพชรรัตน์การ์เด้น การส่งเสริมการเพิ่มศักยภาพการผลิต การตลาด ละสร้างมูลค่าเพิ่มของผลผลิตข้าวหอมมะลิ และปัจจุบันจังหวัดร้อยเอ็ด มีวิสาหกิจชุมชนที่ได้รับการจดทะเบียนแล้ว 3,349 แห่งมีสมาชิก 73,472 รายและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน จำนวน 4 แห่ง มีสมาชิก 117 ราย ซึ่งมากที่สุดในประเทศไทย

จังหวัดร้อยเอ็ดเป็นจังหวัดแรก และปัจจุบันยังเป็นจังหวัดเดียวในประเทศไทยที่มีการส่งเสริมและสนับสนุนให้มีวิสาหกิจชุมชน ตั้งโรงงานผลิตแป้งข้าวหอมมะลิเพื่อทดแทนแป้งข้าวสาลีที่ต้องสั่งเข้ามาจากต่างประเทศ แป้งข้าวหอมมะลิร้อยเอ็ดสามารถนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ขนม ในรูปแบบต่างๆเพิ่มเป็นการเพิ่มมูลค่าผลผลิตข้าวหอมมะลิให้สูงขึ้น และเป็นการสร้างงาน และสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดอย่างมากมาย และมีแนวโน้มจะขยายออกไปสู่ต่างจังหวัด และในระดับประเทศต่อไป


 
บุญมี  เพ็งรัตน์/ข่าว
กมลพร  คำนึง/บรรณาธิการข่าว

31 มี.ค. 56   

วัฒนธรรมจังหวัดเลยจัดโครงการประกวดสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์

สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเลย จัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการการถ่ายทำ และตัดต่อคลิปวีดีโอ ภายใต้โครงการประกวดสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ คลิปโทรศัพท์มือถือภาพยนตร์สั้นหัวข้อ ป้องกันการตั้งครรภ์ ไม่พร้อม จังหวัดเลย ปีงบประมาณ 2556 นายสัมฤทธิ์ สุภามา วัฒนธรรมจังหวัดเลย กล่าวว่า สืบเนื่องจากรัฐบาลได้ตระหนักถึงปัญหาทางสังคม และวัฒนธรรม ที่มีความซับซ้อน และรุนแรงมากขึ้น สาเหตุสำคัญมาจากสังคมไทยได้รับอิทธิพลของอารยธรร มและวัฒนธรรม จากนานาประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบทำให้วิถีชีวิตของคนไทย และสังคมโลก มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีสารสนเทศ ตามลักษณะจองโลกยุคการสื่อสารไร้พรมแดนในปัจจุบันเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปว่า นอกจากจะนำมาซึ่งข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศแล้ว ยังมีส่วนหนึ่งที่นำมาซึ่งปัญหาทางสังคมและวัฒนธรรมนานัปการ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า นักเรียน นักศึกษา จะได้นำความรู้ที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการมีโอกาสนำเสนอแนวความคิด หรือทัศนคติของตนออกสู่สังคม ซึ่งผลผลิตของความคิดสร้างสรรค์จะก่อให้เกิดนวัตกรรมกระบวนการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ส่งเสริม การศึกษา มีภูมิคุ้มกัน มีวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง เกิดจิตสำนึก ความรับผิดชองร่วมกันของคนในสังคมต่อไป ขอขอบคุณคณะวิทยากรทุกท่านทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้การดำเนินโครงการฯ ในครั้งนี้ประสบความสำเร็จได้ด้วยดี

อภิสิทธิ์ปราศรัยผ่าความจริงที่จังหวัดเลย

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายชำนิ ศักดิเศรษฐ และนายสาธิต วงศ์หนองเตย ได้เดินทางมาเปิดเวทีปราศรัยผ่าความจริงที่ห้องประชุมขุมทองวิไล มหาวิทยาลัยราชภัฎเลย โดยเริ่มเปิดปราศรัยในเวลา 16.00 น. ปรากฏว่าเวลาประมาณ 14.00 น. มีกลุ่มคน เสื้อแดงจากจังหวัดเลย และมีแกนนำบางคนจากอุดรธานี และหนองบัวลำภู ประมาณ 100 คน นำเวทีปราศรัยรถบรรทุกขนาดใหญ่ มาตั้งที่ประตูเข้าทางเข้ามหาวิทยาลัยราชภัฎเลย โดยมีตัวแทนผลัดกันปราศรัยโจมตีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อย่างหนัก ที่หน้าหอประชุมขุมทองวิลัย ซึ่งเป็นเวทีปราศรัย มีประชาชนทยอยมาฟังการปราศรัยตอนแรกเข้ามาลำบาก เพราะเสื้อแดงปิดประตูไม่ให้เข้า โดยแยกย้ายเข้ามาหลายประตูโดยเฉพาะในช่วงนายอภิสิทธิ์ ฯ เดินทางมาถึง ทางตำรวจโดย พล.ต.ต.ศักดิ์ดา วงศ์ศิริยานนท์ ผู้บังคับการตำรวจจังหวัดเลย ซึ่งนำกำลังชุดควบคุมฝูงชนจาก สภ..ต่าง ๆ ประมาณ 300 คน มารักษาความสงบเรียกร้อยภายในมหาวิทยาลัยราชภัฎเลย โดยทางคนเสื้อแดงพยายามจะฝ่าด่านตำรวจที่ประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ ทางตำรวจจึงต้องระดมตำรวจชุดควบคุมฝูงชนจากจุดอื่นร่วมร้อยมาสกัด จนคนเสื้อแดงไม่สามารถเข้าไปได้ และได้จัดให้คณะของนายอภิสิทธิ์ฯ ที่เดินทางมา เข้าที่ประตู 4 หลังวิทยาลัยฯ ในการปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวโจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรื่องของการรับจำนำข้าวเปลือก, การแก้ไขรัฐธรรมนูญ,การเผาเซ็นทรัลเวิล, การกู้เงิน 2.2 พันล้านบาท และเรื่องของการไปกล่าวปราศรัยในเรื่องของระบบประชาธิไตย ของนายกรัฐมนตรี โดยมีประชาชนมาฟังประมาณ 1,000 คน

ปชส.สระแก้วและกกต.สระแก้วจัดแข่งขันตอบปัญหาเยาวชนประชาธิปไตย

วันนี้ 31 พ.ค. 56 ณ ห้องประชุม สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสระแก้ว สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสระแก้ว ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสระแก้ว จัดทำโครงการจัดแข่งขันชิงรางวัลเยาวชนตอบปัญหาประชาธิปไตย ตามโครงการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหา กษัตริย์เป็นประมุข ประจำปี 2556 การแข่งขันในระดับจังหวัด โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเป็นผู้จัดการแข่งขันดังกล่าว โดยมีนายเจริญเดช ศัลยพงษ์ ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานพิธีเปิด ซึ่งมีโรงเรียนในจังหวัดสระแก้วเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ จำนวน 15 โรงเรียน

นางสมพร มโนรัตน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัด เปิดเผยว่า การจัดการแข่งขันตอบปัญหาเยาวชนประชาธิปไตยนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้เยาวชน นักเรียน นักศึกษา ได้เข้าเรียนรู้และเสริมสร้างประสบการณ์ร่วมกันในเรื่องของการเมืองการ ปกครองในระบอบประชาธิปไตย ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจในระบอบประชาธิปไตยแก่เยาวชน และเปิดโอกาสให้เยาวชนมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์ ระบอบประชาธิปไตย กระตุ้นเยาวชนให้ตระหนักถึงสิทธิหน้าที่ของตนและผู้อื่น รวมถึงการแสดงออกตามวิถีทางการปกครองระบอบประชาธิปไตยอย่างถูกต้องเหมาะสม

กิจกรรมในช่วงเช้าจะเป็นการตอบปัญหาประชาธิปไตยของกกต.สระแก้วตามโครงการ แข่งขันตอบปัญหาประชาธิปไตยและการเลือกตั้งชิงแชมป์ โดยโรงเรียนที่ชนะเลิศได้แก่โรงเรียนอรัญประเทศ รองชนะเลิศโรงเรียนวังน้ำเย็นวิทยาคม


ส่วนในช่วงบ่ายสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสระแก้วจัดการแข่งขันตอบปัญหา ประชาธิปไตยตามโครงการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์เป็นประมุข ประจำปี 2556 ซึ่งกิจกรรมประกอบด้วยการแข่งขันตอบปัญหาและกิจกรรมการจำลองหาเสียงเลือก ตั้ง โรงเรียนที่ชนะเลิศได้แก่ โรงเรียนวังน้ำเย็นวิทยาคาร รองชนะเลิศโรงเรียนคลองน้ำใสวิทยาคาร สำหรับโรงเรียนชนะเลิศจะเข้าไปแข่งขันในระดับเขตอีกต่อไป

จังหวัดอำนาจเจริญจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการดำเนินงานตามนโยบายลดอบายมุข สร้างสุขให้สังคม

วันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ที่ห้องประชุมพระมงคลมิ่งเมือง ศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ  นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการดำเนินงานตามนโยบายลดอบายมุข สร้างสุขให้สังคม ของส่วนราชการจังหวัดอำนาจเจริญที่เกี่ยวข้อง โดยมี นายสัจจะ ฤทธิกุลประเสริฐ ปลัดจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการลงนามบันทึกข้อตกลงครั้งนี้ว่า  กระทรวง มหาดไทย ได้กำหนดนโยบาย "ลดอบายมุข สร้างสุขให้สังคม” เพื่อดำเนินการกับสถานบริการ ร้านจำหน่ายสุรา ที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อน รำคาญให้ประชาชน หรือขัดต่อภาพลักษณ์ วัฒนธรรมอันดีงามของไทย และแหล่งอบายมุขอื่นๆ ที่ส่งผลต่อปัญหา ยาเสพติด บ่อนการพนัน  ขณะเดียวกันให้ส่งเสริมการจัดกิจกรรมด้านศิลปะ ดนตรี เพื่อปลูกจิตสำนึกและค่านิยมที่ดีแก่เยาวชนและประชาชนทั่วไป

ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการตามนโยบายลดอบายมุข สร้างสุขให้สังคม เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ ทางจังหวัดอำนาจเจริญ จึงได้จัดทำบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการลดอบายมุขและสร้างสุขให้ สังคมขึ้น โดยมีส่วนราชการที่ร่วมลงนาม ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ  ที่ทำการปกครองจังหวัด  ตำรวจภูธรจังหวัด  สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด  สรรพสามิตจังหวัด  พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด  วัฒนธรรมจังหวัด  ท้องถิ่นจังหวัด  พาณิชย์จังหวัด  และนายอำเภอทั้ง ๗ อำเภอ 

โอกาส นี้ นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ กำชับให้ทุกหน่วยงานที่ลงนามในบันทึกข้อตกลงขอให้เอาใจใส่ และทำงานอย่างเข้มงวดตามอำนาจหน้าที่รับผิดชอบ เพื่อให้ เกิดผลดีแก่ประชาชน  ขณะ เดียวกันก็ขอให้ทุกภาคส่วนของสังคม ให้ความร่วมมือกับทางราชการในการสอดส่องดูแล และแจ้งข้อมูลข่าวสารการกระทำผิดกฎหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทราบและ ดำเนินการตามกฏหมาย ก็จะสามารถลดปัญหาอบายมุขและสร้างสุขให้สังคมได้ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่าง แน่นอน 




สุรพล  บุตรวงศ์ / ข่าว

ประชุมคณะกรรมการติดตามและสนับสนุนจังหวัด ในคณะกรรมการบทบาทสตรีจังหวัดอุดรธานี

วันนี้ (27 พ.ค. 56) ณ ห้องประชุมคำชะโนด ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี ชั้น 2 นายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการติดตามและสนับสนุนการดำเนินงานจังหวัด ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติ ได้แต่งตั้งขึ้นเพื่อเสนอแผนการติดตามและสนับสนุนการดำเนินงานในเขตพื้นที่ จังหวัดต่อคณะกรรมการประเมินผล และกำกับ ดูแล ของคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดและคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาท สตรีตำบล พร้อมทั้งรายงานผลการดำเนินงาน ปัญหา อุปสรรค รวมทั้งรายงานการเงินของกองทุนของคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดและ คณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีตำบล เสนอต่อคณะกรรมการประเมินผลอย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง

โดยที่ประชุมฯ ได้รับทราบการรายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ที่ผ่านมา ในเบื้องต้นได้รับเงินกองทุนฯ จากรัฐบาลเป็นเงิน 130 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินกู้หมุนเวียน 80% เป็นเงิน104 ล้านบาท เงินอุดหนุน 20% เป็นเงิน 26 ล้านบาท แบ่งเป็นงบบริหาร 3% 780,000 บาท ได้ปล่อยกู้ไป รอบ ที่ 1 จำนวน 22 โครงการเป็นเงิน 2 ล้าน 8 หมื่นบาท รอบที่ 2 จำนวน 63 โครงการ เป็นเงิน 4 ล้าน 6 แสน 1 หมื่น 3 พันบาท รอบที่ 3 จำนวน 147 โครงการ เป็นเงิน 10 ล้าน 6 หมื่น 6 พัน 4 ร้อยบาท รอบที่ 4 จำนวน 298 โครงการ เป็นเงิน 25 ล้าน 5 แสน 1 หมื่น 9พันบาท รวมทั้ง 4 รอบ เป็นเงินที่ปล่อยกู้เงินทุนหมุนเวียน 42 ล้าน 2 แสน 7 หมื่น 8 พัน 4 ร้อยบาท คงเหลือเงินปล่อยกู้ 62 ล้านบาท ส่วนเงินอุดหนุนอนุมัติไป 3 ล้าน 7 แสน 9 หมื่น 2 พันบาท คงเหลือ 21 ล้านบาท

สำหรับการประชุมคณะกรรมการติดตามและสนับสนุนการดำเนินงานของจังหวัดจะให้มี การประชุมทุกเดือนเดือนละครั้ง และคณะกรรมการติดตามและสนับสนุนการดำเนินงานของจังหวัด จะออกติดตามโครงการที่ประสบความสำเร็จ และโครงการที่มีปัญหา โดยจะแบ่งเป็นโซนในการออกติดตามเพื่อนำผลรายงานให้คณะกรรมการกองทุนบทบาท สตรีแห่งชาติได้ทราบต่อไป นอกจากนี้ประธานกองทุนบทบาทสตรีจังหวัดอุดรธานีได้รายงานปัญหาอุปสรรคในการ ดำเนินการ เช่น งบดำเนินงานมีไม่เพียงพอ บุคลากรมีเพียง 1 คน ซึ่งเสนอให้มีการจัดงบประมาณให้เพียงพอกับการดำเนินงาน และจัดหาสถานที่ทำการของกองทุนฯในแต่ละระดับ เป็นต้น



ทีมข่าวส.ปชส.อด.พัฒนเดช ยศกรกุล / ข่าว
ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา / ภาพ

บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุบลราชธานี ให้ความรู้อาสาสมัครประชาบดี เน้นส่งเสริมบทบาทและหน้าที่ของอาสาสมัคร การให้คำปรึกษาเบื้องต้น เทคนิคการรับแจ้งเหตุผ่านศูนย์ประชาบดี 1300

นายณัฐคณิน มาลาสาย หัวหน้าบ้านพักเด็ก และครอบครัวจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวภายหลังเปิดการอบรม อาสาสมัครประชาบดี ซึ่งจัดขึ้น ที่ โรงแรมกิจตรงวิลล์ รีสอร์ท จังหวัดอุบลราชธานีว่า บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุบลราชธานี จัดอบรมอาสาสมัครประชาบดี ประจำปีงบประมาณ 2556 เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทาง สังคม กระตุ้นให้ประชาชนสนใจการทำกิจกรรมจิตอาสา รวมทั้งเผยแพร่ประชาสัมพันธ์บทบาทของศูนย์ประชาบดี ในการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคม และเป็นการเสริมสร้างเครือข่ายอาสาสมัครในพื้นที่ ที่ปฏิบัติงานในการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคม

นายณัฐคณิน มาลาสาย หัวหน้าบ้านพักเด็ก และครอบครัวจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวเพิ่มเติม สำหรับปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ ปัญหายาเสพติด ปัญหาความยากจน และวิวัฒนาการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจที่ให้บริการสวัสดิการสังคม การสังคมสงเคราะห์แก่ผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ คนไร้ที่พึ่ง รวมทั้งส่งเสริมสนับสนุนให้ชุมชนและท้องถิ่นจัดสวัสดิการสังคม โดยมุ่งเน้นให้กลุ่มเป้าหมายที่ประสบปัญหาทางสังคมสามารถดำรงชีวิต และพึ่งพาตนเองได้อย่างมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ในการช่วยเหลือผู้ประสบ ปัญหาทางสังคมในพื้นที่หรือชุมชนของตนเอง สามารถสร้างเครือข่ายที่จะสนับสนุนการช่วยเหลือการปฏิบัติงานด้านสังคมได้ อย่างกว้างขวาง รวมทั้งการเฝ้ากระวังกลุ่มเสี่ยง และการวางแผนกิจกรรมที่ดำเนินงานร่วมกัน เพื่อให้เกิดการทำงานที่ยั่งยืน สุดท้ายสามารถจัดตั้งเป็นชมรมอาสาสมัครประชาบดี และสามารถเผยแพร่การทำงานไปยังประชาชน องค์กรภาครัฐและเอกชน รวมทั้งมีส่วนร่วมเป็นจิตอาสาในการทำกิจกรรมต่างๆ ของบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุบลราชธานี และศูนย์ประชาบดี 1300 สามารถสนองตอบต่อความต้องการของประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่ประสบปัญหาทางสังคม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
 


จักรกฤษณ์ มาลาสาย/ข่าว

ทองปัก ทวีสุข/ภาพ

โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดกิจกรรมรณรงค์วันงดสูบบุหรี่โลก หวังลดอัตราผู้สูบหน้าใหม่ หลังพบเด็กและเยาวชนที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปี ยังคงเป็นกลุ่มเสี่ยง

(31 พ.ค. 56) ที่บริเวณลานหน้าพลับพลาเรือนไทย โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานปล่อยป้ายการจัดกิจกรรมรณรงค์วันงดสูบบุหรี่โลก ประจำปี 2556 ภายใต้ชื่อ ”ชาวอุบลร่วมใจ ต้านภัยบุหรี่ "เพื่อสร้างกระแสให้ประชาชนเกิดความตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่ ที่ก่อให้เกิดโรคภัยต่างๆ ตามมา นอกจากนี้ยังเป็นการกระตุ้นให้ผู้สูบบุหรี่เลิกสูบบุหรี่ได้อย่างเด็ดขาด ซึ่งบุหรี่นับเป็นสาเหตุของปัญหาทางสังคมในปัจจุบัน

การจัดกิจกรรมในวันนี้ มีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคีเครือข่ายและประชาชนทั่วไป เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก โดยก่อนจะมีการปล่อยป้ายรณรงค์ ได้มีการมอบเกียรติบัตรให้กับผู้ที่สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้สำเร็จ จำนวน 18 คน จากนั้นได้ปล่อยขบวนเดินรณรงค์”ชาวอุบลร่วมใจ ต้านภัยบุหรี่ " ซึ่งขบวนจะเดินไปตามถนนสายหลักภายในจังหวัดอุบลราชธานี รวมระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร

นายแพทย์ชลิต ทองประยูร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ เปิดเผยว่า ผู้ป่วยทางโรคหลอดลมที่เกิดจากการสูบหรี่ยังมีจำนวนมาก และปัจจุบันประเทศไทยพบว่าผู้สูบบุหรี่เป็นเด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ำสุด อายุ 6 ปี เข้ามาเป็นกลุ่มเสี่ยง และประชาชนตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไป จำนวน 11 ล้าน 5 แสนคน เป็นชายร้อยละ 95 หญิงร้อยละ 5 เป็นผู้เสพติดบุหรี่ โดยพื้นที่ภาคใต้พบอัตราการสูบบุหรี่สูงสุด รองลงมาคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพบว่ามีผู้เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ปีละ 51,710 คน เฉลี่ยวันละ 138 คน สำหรับปีนี้ประเทศไทยได้กำหนดการณรงค์การสูบบุหรี่ภายใต้ชื่อ "ไม่ใช้ ไม่รับ ไม่สนับสนุนโฆษณายาสูบร้าย ทำลายชีวิต” ทั้งนี้มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ได้ชูประเด็น "บุหรี่ คือยาเสพติด” และปีนี้จังหวัดอุบลราชธานี ได้เน้นการควบคุมการสูบบุหรี่ในชุมชน โดยเน้นกลุ่มเด็กและเยาวชน


 
จักรกฤษณ์ มาลาสาย/ข่าว

ทองปัก ทวีสุข/ภาพ

วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

กาฬสินธุ์เตือนหญิงไทยที่ใฝ่สามีต่างชาติระวังถูกหลอกให้ขนยาเสพติด

ด้วยในปัจจุบันหญิงไทยนิยม มีสามีต่างชาติเป็นจำนวนมาก เพราะเห็นว่าทำให้มีฐานะความเป็นอยู่ดีขึ้น แต่บางรายกลับถูกหลอกให้ขนยาเสพติด ทำให้มีความผิดถูกจับกุมคุมขังอยู่ในประเทศจำนวนมาก

ซึ่งรายงานข่าวจากศูนย์ช่วยเหลือหญิงไทยถูกหลอกขนยาเสพติดได้ทราบว่า ตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบัน มีหญิงไทยถูกหลอกเข้าสู่กระบวนยาเสพติด รวม 292 ราย ใน 35 ประเทศ กลับมาแล้ว 21 ราย ทั้งตาย พ้นโทษและส่งผู้ร้ายข้ามแดน ประเทศที่หญิงไทยถูกหลอกให้ขนยาเสพติดมากที่สุด คือ ใต้หวัน 50 ราย บราซิล 49 ราย บาห์เรน 25 ราย จีน 21 ราย อาเจนตินา 20 ราย นอกจากนั้นกระจายกันทั่วไปใน 35 ประเทศ ทั้งในอเมริกา ในแอฟริกา อินเดีย มาเลเซีย พม่า เป็นต้น โดยเป็นคนภาคอีสาน 147 ราย ภาคกลาง 63 ราย ภาคเหนือ 40 ราย ภาคตะวันออก 15 ราย ภาคใต้ 8 ราย และภาคตะวันตก 4 ราย

รูปแบบการหลอกนั้น มีตั้งแต่การติดต่อทางอินเตอร์เน็ตหรือโซเชียลมิเดีย ด้วยการตีสนิท ขอเป็นคู่รักหรือชักชวนไปเที่ยวต่างประเทศฟรี ไปทำงานที่ได้ค่าแรงสูง ๆ หรือขอแต่งงาน เป็นต้น ซึ่งหากหญิงใดหลงเชื่อเมื่อเดินทางไปแล้วจะถูกยึดหนังสือเดินทาง บังคับทำร้ายร่างกายหรือข่มขู่ว่าจะทำร้ายญาติพี่น้อง หากไม่ยอมทำตามจึงทำให้อยู่ในภาวะจำยอมต้องขนยาเสพติดให้ ซึ่งวิธีการขนยาเสพติดมีตั้งแต่ การกลืนลงท้อง บางรายถึงกับตายทันที การซุกซ่อนในสัมภาระและให้หญิงไทยถือ ซุกซ่อนตามร่างกาย ช่องคลอด เย็บติดกับชุดชั้นใน ซุกซ่อนในรองเท้าส้นสูงและซุกซ่อนในกระเป๋าที่ดัดแปลง เป็นต้น

สำหรับจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยศูนย์ปฏิบัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ จึงขอเตือนบรรดาสุภาพสตรีที่มีความใฝ่ฝันอยากมีสามีฝรั่งหรือสามีต่างชาติ เพื่อหารายได้ในการเพิ่มฐานะความเป็นอยู่ของตนเองและครอบครัวให้ระมัดระวัง หากได้รับการติดต่อจากชาวต่างชาติในรูปแบบต่าง ๆ หากไม่มีความมั่นใจสามารถตรวจสอบประวัติได้ที่ ศูนย์ให้ความช่วยเหลือหญิงไทยที่ถูกหลอกลวงขนยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด โทร. 02-511-2246-7 หรือสอบถามที่สายด่วน กรมการจัดหางาน 1694 ตลอด 24 ชั่วโมง
 


สุรพล คุณภักดี / ข่าว

เจาะสำรวจปิโตรเลียมแปลงสำรวจหมายเลข L26/50 จังหวัดกาฬสินธุ์

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์แจ้ง ว่า บริษัท เทเท็ก ไทยแลนด์ ||| แอลแอลซี ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ได้รับสิทธิในการสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ 11/2551/102 แปลงสำรวจบนบกหมายเลข L16/50 จากกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน โดยบริษัทได้รับอนุมัติ โครงการเจาะสำรวจปิโตรเลียม แปลงสำรวจบนบกหมายเลข L16/50 หลุมสำรวจ TEW-F TEW-G TEW-H TEW-I TEW-J และ TEW-K จากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2556

โดยบริษัทฯจะเริ่มสำรวจหลุม TEW-K ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านโนนสง่า ตำบลหนองกุง อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นหลุมแรก ตามกำหนดการในแต่ละระยะดังนี้ ระยะก่อสร้าง ประมาณ 60 วัน ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน-30 กรกฎาคม 2556 ระยะเจาะสำรวจ ประมาณ 60 วัน ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม- 30 กันยายน 2556 ระยะทดสอบหลุม ประมาณ 30 วัน ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม – 31 ตุลาคม 2556 และระยะปิดหลุม/สละหลุม และปรับสภาพพื้นที่ ประมาณ 15 วัน จึงขอแจ้งกำหนดการเจาะสำรวจปิโตเลียมให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่เจาะสำรวจ และประชาชนทั่วไปได้รับทราบ
 


สุวรรณ ศรีอาภรณ์ ข่าว

จ.กาฬสินธุ์จัดประกวดเกษตรกรปราดเปรื่องด้านการผลิตข้าว

นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์เปิดเผยว่า จังหวัดกาฬสินธุ์ได้จัดทำโครงการประกวดเกษตรกรปราดเปรื่องด้านการผลิตข้าว จังหวัดกาฬสินธุ์ ข้าวนาปี ปีการเพาะปลูก 2556/57 เพื่อพัฒนาเกษตรกรให้มีความรู้ในด้านการผลิตข้าวให้มีคุณภาพสูง ผลผลิตต่อไร่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งด้านการผลิตและการตลาดเพื่อการส่งออก ซึ่งจะเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรและเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม เกษตรกรผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการประกวด ขอรับและยื่นใบสมัครได้ที่ สำนักงานเกษตรอำเภอทุกอำเภอที่มีภูมิลำเนาอยู่ ตั้งแต่วันที่ 29 พฤษภาคม – 14 มิถุนายน 2556 ในวันและเวลาราชการ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกอำเภอ สำนักงานเกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวกาฬสินธุ์ สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดกาฬสินธุ์ในวัน เวลา ราชการ
 


สุวรรณ์ ศรีอาภรณ์ / ข่าว

ชาวอำเภอภูเวียงทุกภาครวมพลังประกาศเจตนารมณ์ไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติดปลุกกระแสเอาจริงกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้หมดจากพื้นที่

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นประธานมอบนโยบาย จังหวัดขอนแก่นไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดให้กับหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารสถานศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน กลุ่มพลังสตรี กลุ่ม อสม.นักเรียนนักศึกษาในอำเภอภูเวียงทั้ง 11 ตำบลเพื่อสร้างกระแสให้ชาวภูเวียง 104 หมู่บ้านเลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด นายอำเภอภูเวียงกล่าวว่าทางอำเภอภูเวียงได้จัดตั้งอาสาสมัครเป็นเวรยามหมู่ บ้าน ช่วยเป็นหูเป็นตาในการแจ้งเบาะแสยาเสพติดให้เหมือนกับตาสับปะรดอยู่ที่ไหนก็ เห็นพฤติกรรมผู้ค้าผู้เสพยาเสพติดที่สำคัญภูเวียงถือเป็นบ้านเกิดของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยคนปัจจุบันต้องทำให้เข้มขึ้น ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นก็ฝากให้ทุกภาคส่วนร่วมกันป้องกันยาเสพติด ให้เข้มขึ้นรวมทั้งการสร้างกระแสประชาสัมพันธ์ปัญหายาเสพติดให้ต่อเนื่องทำ กันทุกชุมชนทุกหมู่บ้าน วัด โรงเรียนต้องทำพร้อมกันถึงจะสำเร็จแม้จะไม่ปลอดยาเสพติด 100 % แต่ก็ให้ลดน้อยลงหรือไม่สร้างปัญหาให้สังคมเหมือนในปัจจุบันเพราะยาเสพติด ตอนนี้มันเข้าไปในทุกชุมชนแล้ว หากเราช่วยกันปัญหาก็จะลดน้อยลงในงานนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นก็ได้มอบ ธงต่อต้านยาเสพติดให้กับส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในอำเภอภู เวียงด้วย จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นก็นำชาวอำเภอภูเวียงทุกภาคส่วนร่วมปฏิญาณ ตนต่อต้านยาเสพติดต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีตัว แทนชาวอำเภอภูเวียงร่วมงานร่วมพันคน


29 พ.ค. 2556      

ส่งทีมกฎหมายทะเบียนราษฎร์ติวเข้มชุดตรวจสอบบ้านผี

กรมปกครองส่งทีมกฎหมาย ติวเข้มหัวหน้าทีมตรวจสอบบ้านผี ทั้ง 5 ชุด หลังระดมกำลังเข้าตรวจสอบผ่านไป 2 วัน ยังได้ข้อมูลไม่ครบถ้วน และชัดเจน บางชุดต้องลงสำรวจใหม่ เป็นรอบที่ 2 ย้ำหากพบการสร้างบ้านออกเลขที่บ้าน ผิดปกติ ส่อไปในทางฉ้อฉล ดำเนินคดีอาญาทุกราย

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ 30 พ.ค.56 นายพิสุทธิ บุษยพรรณพงศ์ ปลัดจังหวัดชัยภูมิ ได้ประชุมหัวหน้าชุดทั้ง 5 ชุด ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีก่อสร้างบ้าน ขุดสระและสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ เพื่อค่าชดเชยเวนคืนจากการสร้างอ่างเก็บน้ำโปร่งขุนเพชรและยางนาดี หลังระดมกำลังลงพื้นที่สำรวจมา 2 วันแล้ว มีความคืบหน้าไปกว่าครึ่งแล้ว แต่ยังพบว่าข้อมูลที่ได้ยังไม่ครอบคลุม ชัดเจน ทั้งเรื่องของเจ้าของบ้าน ผู้ให้ข้อมูล สภาพของบ้าน ที่อยู่อาศัย การเข้าอาศัย บ่อน้ำ ต้นไม้ พยานแวดล้อมต่างๆ หากไม่แก้ไขข้อมูลที่ได้มา ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ จึงขอตัวเจ้าหน้าที่ จากสำนักสอบสวน และนิติกร กรมการปกครอง จำนวน 3 คน มาให้คำแนะนำ ก่อนลงพื้นที่อีกครั้งในช่วงบ่ายวันนี้

นายพิสุทธิ บุษยพรรณพงศ์ ปลัดจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า วันนี้นายชวน ศิรินันนพร อธิบดีการการปกครองได้ส่งทีมกฎหมาย มาช่วยดู เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ได้อย่างสมบูรณ์ โดยแนะนำวิธีการลงเก็บข้อมูลอีกรอบ เนื่องจากที่ผ่านมา ได้เพียงข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น จำเป็นต้องลงไป เพื่อให้ได้ข้อมูลชัดเจนขึ้น เพียงต่อการการพิจารณาดำเนินการในขั้นตอนต่อไป โดยเฉพาะในเรื่องของการออกเลขที่บ้าน การแจ้งย้าย ต้องสำรวจให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพื่อให้มีพยาน หลักฐานชี้ชัดได้ว่า มีเจตนาเป็นอย่างอื่น เข้าข่ายทำเพื่อหวังค่าชดเชย หรือทำด้วยความบริสุทธิ์ใจเพื่ออยู่อาศัย หากเข้าข่ายทำเพื่อหวังค่าชดเชย ก็จะต้องดำเนินการเพิกถอนการออกเลขที่บ้าน และดำเนินคดีอาญา

ซึ่งเบื้องต้นหากพบเบาะแส จะมีหนังสือเชิญมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ชี้แจง ถ้าไม่มีก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย มีโทษทั้งจำทั้งปรับ จึงขอฝากถึงประชาชน หากรู้ตัวว่าถูกหลอกให้หลงเชื่อ เข้าไปร่วมขบวนการดังกล่าว ขอให้รีบไปติดต่อกับทางอำเภอ เพื่อดำเนินการให้ถูกต้อง ตามระเบียบต่อไป


 

สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว

จังหวัดนครราชสีมา ประชุมกรมการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการ ประจำเดือนพฤษภาคม 2556 เพื่อติดตามผลการปฏิบัติงานของส่วนราชการในห้วงที่ผ่านมา

วันนี้ (30 พ.ค. 56) ที่หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ด็อกเตอร์วินัย บัวประดิษฐ์ ผุ้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประชุมกรมการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการ ประจำเดือนพฤษภาคม 2556 เพื่อติดตามผลการปฏิบัติงานของส่วนราชการในห้วงที่ผ่านมา โดยก่อนเริ่มการประชุมได้ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้ทำการมอบประกาศเกียรติบัตรให้กับ 13 อำเภอที่ประสบผลสำเร็จในการปฏิบัติงานในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2556 โดยไม่มีผู้เสียชีวิตเลยในช่วงดังกล่าว จากนั้น จึงเน้นย้ำทุกภาคส่วนได้เตรียมหามาตรการรับมือกับสถานการณ์กระแสไฟฟ้าขัด ข้องและวิกฤตพลังงาน ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในเรื่องฐานข้อมูลราชการ หรือเป็นอุปสรรคในการปฏิบัติงาน นอกจากนี้ ให้หน่วยงานสังกัดกระทรวงพลังงาน ได้เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ได้ทราบเกี่ยวกับการขยายเวลาปรับ ขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม LPG จากวันที่ 1 มิถุนายน 2556 เป็นวันที่ 1 กรกฎาคม 2556 เพื่อป้องกันผู้ค้าฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาก่อนกำหนด นอกจากนี้ ในเรื่องของสถานการณ์น้ำและภัยแล้งของจังหวัด ขอให้ทุกภาคส่วนติดตามสถานการณ์น้ำและพยากรณ์สภาพอากาศอย่างใกล้ชิด พร้อมประชาสัมพันธ์ไปยังเกษตรกร อย่าเร่งปลูกข้าวนาปีในช่วงนี้ เนื่องจากปริมาณน้ำในพื้นที่ยังมีน้อยไม่เพียงพอสำหรับการเพาะปลูกข้าวนาปี แต่สามารถเพาะปลูกพืชใช้น้ำน้อยได้ โดยคาดว่า ราวปลายเดือนมิถุนายน จะมีฝนตกลงมาตามฤดูกาลทำให้มีน้ำมาเติมในแหล่งกักเก็บน้ำของพื้นที่ สำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาในเร็วๆนี้ ทั้งการแข่งขันกีฬาผู้สูงอายุ ,การแข่งขันวอลเล่ย์บอลหญิง อายุต่ำกว่า 18 ปี ชิงแชมป์โลก ,การแข่งขันวอลเล่ย์บอลหญิงชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย และการแข่งขันกิจกรรมเดิน-วิ่ง 2013 โอลิมปิค เดย์ 357 ปี โคราชสู่มหานครแห่งอนาคต ขอความร่วมมือพี่น้องชาวโคราชทุกภาคส่วน ได้เป็นเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับนักกีฬาและนักท่องเที่ยวที่จะมาเยือน จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกัน พร้อมกับวางแผนเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวก และดูแลภูมิทัศน์ให้สะอาดสวยงาม สมกับเป็น "โคราชเมืองสะอาด” และมหานครแห่งอีสานในอนาคต

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ให้ผู้แทนพระองค์ อัญเชิญ พวงมาลาหลวงวางหน้าหีบศพ ดาบตำรวจนริศ หอสูงเนิน ที่เสียชีวิตจากเหตุความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

วันนี้ (29 พ.ค. 56) เวลา18.30 น ที่วัดสามัคคี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้อัญเชิญพวงมาลาหลวง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพวงมาลาพระราชทาน พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ เพื่อไว้อาลัยในโอกาสบำเพ็ญกุศลแด่ศพ ดาบตำรวจนริศ หอสูงเนิน ผู้บังคับหมู่ หมวดเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 2101 ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ภาคใต้ บริเวณสะพานลาขอ ตำบลมะนังดาลำ อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 27 พค 2556 ที่ผ่านมา ท่ามกลางความปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นของบรรดาญาติๆ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา


สำหรับศพ ดาบตำรวจนริศ หอสูงเนิน จะตั้งสวดอภิธรรมศพที่วัดสามัคคี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ไปจนถึงวันที่ 1 มิ.ย. ก่อนจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 2 มิย. เวลา 16.00 น.

พุทธศาสนิกชนจังหวัดบึงกาฬร่วมกันทำบุญเนื่องในงานวันวิสาขบูชา

วันนี้ (24 พฤษภาคม 2556) นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ได้นำ ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน พุทธศาสนิกชน ชาวจังหวัดบึงกาฬ ร่วมทำบุญตักบาตร ฟังเทศน์ฟังธรรม ถวายผ้าป่าพุทธชยันตีเพื่อนำเงินสมทบกองทุนส่งเสริมพระพุทธ ศาสนาแห่งประเทศไทย และได้ปลูกต้นมเหสักข์ เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา ณ วัดป่าบ้านพันลำ หมู่ที่ 2 ตำบลวิศิษฐ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ถึงแม้จะมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงเช้าแต่พุทธศาสนิกชนจังหวัดบึงกาฬก็หลั่ง ไหลมาร่วมทำบุญกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งวันและในตอนเย็นก็จะมีกิจกรรมเวียนเทียนและปฏิบัติธรรมตลอดทั้งคืน ณ วัดป่าบ้านพันลำแห่งนี้


วันวิสาขบูชา ถือเป็นวันสำคัญยิ่งทางพระพุทธศาสนา เพราะเป็นวันที่เกิด 3 เหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวกับวิถีชีวิตของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เวียนมาบรรจบกันในวันเพ็ญเดือน 6 แม้จะมีช่วงระยะเวลาห่างกันนับเวลาหลายสิบปี ซึ่งเหตุการณ์อัศจรรย์ 3 ประการ ได้แก่ วันวิสาขบูชา เป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ วันวิสาขบูชา เป็นวันที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้อนุตตรสัมโพธิญาณ วันวิสาขบูชา เป็นวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จเจ้าสู่ปรินิพพานวันวิสาขบูชา ถือเป็นวันสำคัญที่สุดทางพระพุทธศนา เนื่องจากล้วนมีเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการถือกำเนิดของพระพุทธศาสนา คือ เป็นวันที่พระศาสนดา คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ดังนั้นพุทธศาสนิกชนทั่วโลก จึงให้ความสำคัญกับวันวิสาขบูชานี้ และในวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ.2542 องค์การสหประชาชาติได้ยอมรับญัตติที่ประชุม กำหนดให้วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญของโลก และได้กำหนดวันวิสาขบูชานี้ถือเป็นวันหยุดวันหนึ่งของสหประชาชาติอีกด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อให้ชาวพุทธทั่วโลกได้มีโอกาสบำเพ็ญบุญเนื่องในวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระบรมศาสดา โดยการที่สหประชาชาติได้กำหนดให้วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญของโลกนั้น ได้ให้เหตุผลไว้ว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นมหาบุรุษผู้ให้ความเมตตาต่อหมู่มวล มนุษย์ เปิดโอกาสให้ทุกศาสนาสามารถเข้ามาศึกษาพุทธศาสนา เพื่อพิสูจน์หาข้อเท็จจริงได้โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธ และทรงสั่งสอนทุกคนโดยใช้ปัญญาธิคุณ โดยไม่คิดค่าตอบแทน

ขนส่งจังหวัดบึงกาฬสร้างบุคลากรค้นแบบในการขับรถเพื่อความปลอดภัยทางถนน

วันนี้ (23 พฤษภาคม 2556) ณ ห้องประชุมมังกรทอง โรงแรมเดอะวัน อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ นายเทวัญ สรรค์นิกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการเสริมสร้างศักยภาพพนักงานขับรถของหน่วย งานราชการจังหวัดบึงกาฬ ประจำปี 2556 ซึ่งจัดโดยสำนักงานขนส่งจังหวัดบึงกาฬ และได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานราชการต่างๆในจังหวัดบึงกาฬส่งพนักงานขับรถ เข้าร่วมอบรมเพื่อพัฒนาบุคลากรและเป็นต้นแบบของการขับขี่อย่างปลอดภัย


โดยนายเอกบดินทร์ จำเนียรการ ขนส่งจังหวัดบึงกาฬ ได้กล่าวถึงการจัดอบรมในครั้งนี้ว่ากรมการขนส่งทางบกโดยสำนักงานขนส่ง จังหวัดบึงกาฬเห็นว่าพนักงานขับรถของหน่วยงานราชการเป็นบุคลากรส่วนหนึ่งที่ มีบทบาทหน้าที่โดยตรงในการป้องกันแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนและเป็นแบบย่าง ที่ดี เนื่องจากเป็นผู้ดูแลความปลอดภัย รวมทั้งเป็นผู้บริการและอำนวยความสะดวกในกาเดินทางไปปฏิบัติราชการตามสถาน ที่ต่างๆของเจ้าหน้าที่ในแต่ละหน่วยงานราชการดังนั้นพนักงานขับรถของหน่วย งานราชการจึงจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการขับรถเชิงป้องกัน อุบัติเหตุ รวมทั้งมีทัศนคติที่ดี มีจิตสำนึกด้านความปลอดภัยและมีจริยธรรมที่ดีแก่เพื่อนร่วมทางเพื่อให้เกิด ความปลอดภัยต่อการใช้รถใช้ถนน ซึ่งการจัดโครงการในครั้งนี้เป็นการเพิ่มพูนทักษะความรู้ที่จำเป็นสำหรับ พนักงานขับรถ ปลุกจิตสำนึกด้านความปลอดภัย ความมีน้ำใจและวินัยจราจรในการใช้รถใช้ถนนร่วมกัน และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้ขับขี่ทั่วไปเพื่อเป็นการร่วมรณรงค์ป้องกันและลด อุบัติเหตุทางถนน ด้านนายเทวัญ สรรค์นิกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬได้กล่าวกับผู้เข้ารับการอบรมในครั้งนี้ว่า ฝากให้ทุกท่านรักษาระเบียบวินัยในการทำงาน การขับขี่และให้รักษาเรื่องการตรงเวลาเป็นเรื่องสำคัญเพราะท่านคือบุคลากร อีกส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญในการทำงานและการเดินทางในแต่ละครั้งทุกคนที่ ร่วมเดินทางด้วยล้วนฝากชีวิตและความปลอดภัยไว้กับท่านทั้งหลายดังนั้น ท่านจะต้องรักษาวินัยอย่างเคร่งครัดและรักษาไว้ซึ่งความไม่ประมาทและ ต้องเตรียมพร้อมทั้งคนและรถอยู่เสมอเพื่อไม่ไห้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงปารถนาขึ้น 

ศพส.อ.กันทรวิชัย เปิดโรงเรียนผู้นำชุมชน เสริมพลังมวลชนต่อต้านยาเสพติด

ศพส.อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม จัดโครงการโรงเรียนผู้นำชุมชน เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของกลุ่มพลังมวลชนในพื้นที่ ให้ร่วมกันเป็นพลังแผ่นดินในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด

ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอำเภอกันทรวิชัย ร่วมกับ สถานีตำรวจภูธรกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม เครือข่ายประชาสังคมอำเภอ และชมรม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จัดอบรมผู้นำหมู่บ้าน ชุมชน ตามโครงการโรงเรียนผู้นำชุมชน ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยมี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน ในอำเภอก้นทรวิชัย รวม 120 คน เข้ารับการอบรม ในระหว่างวันที่ 29 พฤษภาคม-1 มิถุนายน 2556 ณ วัดพุทธมงคล (วัดพระยืน) อำเภอกันทรวิชัย เพื่อเป็นการสร้างพลังแผ่นดิน เสริมสร้างความเข้มแข็งแก่หมู่บ้าน ชุมชน ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยยึดแนวทางสันติวิธีและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหา

นายสุรพล เทียนสุวรรณ ปลัดจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า โครงการโรงเรียนผู้นำชุมชน เป็นแนวทางหนึ่งที่จะถึงพลังมวลชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมแก้ไขปัญหายาเสพ ติด อีกทั้งอำเภอกันทรวิชัย เป็นอำเภอนำร่องของจังหวัดที่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดได้กำหนดให้เป็นอำเภอเน้นหนักในการแก้ไข ปัญหา ดังนั้น หากผู้นำชุมชนมีความเข้มแข็ง มุ่งมั่น และมีจิตอาสาในการแก้ไขปัญหายาเสพติดแล้ว ก็จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้สำเร็จได้อย่างยั่งยืนต่อไป



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

คณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีมหาสารคาม ร่วมแสดงความคิดเห็นต่อยุทธศาสตร์กองทุนฯ

จังหวัดมหาสารคาม เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นยุทธศาสตร์กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี 4 ภาค ระดับจังหวัด เพื่อให้คณะกรรมการกองทุนฯ ระดมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ พร้อมรวบรวมไปนำเสนอต่อเวทีรับฟังความคิดเห็นฯ ระดับภาค ที่จังหวัดขอนแก่น ในวันที่ 6 มิถุนายน นี้

ในการเปิดเวทีเพื่อรับฟังความคิดเห็น ตามโครงการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นยุทธศาสตร์กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี 4 ภาค ที่คณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดมหาสารคาม จัดขึ้น เป็นการระดมความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้อง ผู้ทรงคุณวุฒิในจังหวัดมหาสารคาม มาร่วมกันแสดงความคิดเห็นพร้อมข้อเสนอแนะต่อยุทธศาสตร์และกฎระเบียบที่ เกี่ยวข้องกับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี โดยมีประเด็นยุทธศาสตร์หลัก 4 ประเด็น คือ การพัฒนาศักยภาพสตรี การพัฒนาอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การพัฒนาคุณภาพชีวิตของสตรีและผู้ด้อยโอกาส การพัฒนาศักยภาพกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี รวมทั้ง ระเบียบ ประกาศที่เกี่ยวกับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ซึ่งแต่ละจังหวัดจะต้องดำเนินการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นทั้งในระดับอำเภอ และจังหวัด เพื่อรวบรวมเสนอต่อคณะกรรมการฯระดับภาคและระดับประเทศต่อไป

นายธาดา กิจชัย หัวหน้ากลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน สำนักงานชุมชนจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า การเปิดเวทีเพื่อรับฟังความคิดเห็นต่อยุทธศาสตร์กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ของจังหวัดมหาสารคาม ในครั้งนี้ เป็นการรวบรวมข้อคิดเห็น ข้อเสนอ ปัญหา อุปสรรค ที่คณะกรรมการฯได้ดำเนินการไปแล้วระยะหนึ่ง ว่ามีผลการดำเนินงานอย่างไร เพื่อจะได้รวบรวมข้อคิดเห็นดังกล่าว นำเสนอในภาพรวมของจังหวัดมหาสารคาม ต่อเวทีรับฟังความคิดเห็นในระดับภาค ซึ่งคณะกรรมการฯ จาก 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะไปประชุมร่วมกันในวันที่ 6 มิถุนายน 2556 ที่จังหวัดขอนแก่น




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

เกิดเหตุคนเมาจมน้ำที่หนองเลิงบ่อ อ.เมืองมหาสารคาม ใช้เวลา 2 ชม.พบเสียชีวิตแล้ว

หนุ่มวัย 37 ปี นั่งดื่มสุราข้างหนองน้ำกับเพื่อน ขณะอากาศร้อนจึงลงว่ายน้ำเล่น เกิดหมดแรงจากฤทธิ์สุราจนเป็นตะคริว จมน้ำ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาร่วม 2 ชั่วโมงในการค้นหา พบเสียชีวิตแล้ว

เจ้าหน้าที่มูลนิธิมหาสารคามการกุศล จีเสียงเกาะ และชมรมกู้ภัยศรีโสภณมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ใช้ความพยายามในการงมหาศพคนจมน้ำเสียชีวิต ที่บริเวณหนองเลิงบ่อ ตำบลแก่งเลิงจาน อำเภอเมืองมหาสารคาม โดยใช้เวลาร่วม 2 ชั่วโมง จึงสามารถนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากน้ำ ทราบชื่อภายหลัง คือ นายศุภศักดิ์ พลศิริ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 335 ชุมชนศรีสวัสดิ์ 2 ตำบลตลาด อำเภอเมืองมหาสารคาม สวมเสื้อสีดำ กางเกงขาสั้นเทา อยู่ในสภาพเนื้อตัวขาวซีด ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบขวดสุราขาวพร้อมแก้วน้ำ วางอยู่ หลังพบศพเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้แจ้งแพทย์เวรโรงพยาบาลมหาสารคาม และ ร.ต.ท.สุรเดช ประสงค์ใด พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม ร่วมชันสูตรและนำศพไปเก็บไว้ที่โรงพยาบาลมหาสารคาม เพื่อรอญาติมารับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

จากการสอบถามชาวบ้านซึ่งเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายซึ่งยังไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง และเป็นคนชอบดื่มสุราขาวเป็นประจำ ได้ไปซื้อเหล้าขาวมานั่งดื่มกับเพื่อนรวม 5 คน ที่หนองน้ำดังกล่าว ซึ่งชาวบ้านนั่งตกปลาอยู่เป็นประจำ เห็นผู้ตายลงไปว่ายน้ำเล่นในหนองน้ำนานกว่า 10 นาที โดยมุดน้ำดำอยู่หลายรอบ จากนั้นก็เงียบหายไป เพื่อนๆ จึงช่วยกันดำน้ำหานานกว่า 10 นาที แต่ไม่พบ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือดังกล่าว


สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้อาจเป็นไปได้ว่าขณะที่นายศุภศักดิ์ได้ ว่ายน้ำเล่นอยู่นั้น แล้วเกิดหมดแรงเพราะฤทธิ์ของสุรา หรืออาจเกิดเป็นตะคริว จนทำให้จมน้ำเสียชีวิตได้


ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

จังหวัดมหาสารคาม คัดเลือก สนง.ขนส่ง-อุตสาหกรรม นำร่องศูนย์ข้อมูลข่าวสารของราชการ

จังหวัดมหาสารคาม คัดเลือกสำนักงานขนส่งจังหวัดและสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด เป็นหน่วยงานนำร่อง เข้ารับการตรวจประเมินจากคณะกรรมการฯ เพื่อให้เป็นหน่วยงานต้นแบบในการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลข่าวสารฯ หลังจากสำนักงานจังหวัดมหาสารคาม ได้รับคัดเลือกเป็นหน่วยงานต้นแบบแล้วเมื่อปี 2555

นายเสนอ พิศเพ็ง หัวหน้าสำนักงานจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ตามที่จังหวัดมหาสารคาม ได้เชิญชวนให้ทุกส่วนราชการเข้าร่วมโครงการพัฒนาหน่วยงานต้นแบบในการจัดตั้ง ศูนย์ข้อมูลข่าวสารของราชการ ตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 หลังจากที่สำนักงานจังหวัดมหาสารคาม ได้รับการคัดเลือกเป็นหน่วยงานต้นแบบแล้ว เมื่อปี พ.ศ. 2555 และจังหวัดมหาสารคาม ได้คัดเลือกหน่วยงานระดับจังหวัด 2 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานขนส่งจังหวัดและสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด เป็นหน่วยงานนำร่องของจังหวัดในการจัดตั้งเป็นศูนย์ข้อมูลดังกล่าว ซึ่งจะต้องได้รับการตรวจประเมินให้คะแนนจากสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร ของราชการ สำนักนายกรัฐมนตรี หลังจากการประเมินให้คะแนนแล้ว หากได้รับการคัดเลือกก็จะลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ว่าด้วย พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ต่อไป

ด้านนายเยี่ยมศักดิ์ คุ้มอินทร์ ผู้อำนวยการส่วนงานวินิจฉัยและอุทธรณ์ สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในโอกาสลงพื้นที่มาติดตามและตรวจประเมินหน่วยงานนำร่องของจังหวัด มหาสารคาม ว่า การเดินทางมาครั้งนี้ เป็นการมาให้รายละเอียดแก่หน่วยงานราชการที่จะต้องมีการพัฒนาเป็นหน่วยงาน ต้นแบบในการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลข่าวสารของราชการ ตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ซึ่งการตรวจประเมินรอบแรก กำหนดในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม รอบสองเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ซึ่งหน่วยงานที่เข้ารับการตรวจจะต้องดำเนินการตามมาตรฐาน 17 ประเด็นหลัก โดยมีคะแนนเต็ม 300 คะแนน และจะต้องได้คะแนนร้อยละ 80 ขึ้นไป ซึ่งในระดับภูมิภาคทั่วประเทศ มีหน่วยงานเข้ารับการตรวจประเมินจำนวน 65 หน่วยงาน ใน 37 จังหวัด ส่วนระดับประเทศ มีจำนวน 18 กระทรวง 15 หน่วยงาน



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ประกันสังคมจังหวัดมุกดาหารขอให้แรงงานนอกระบบสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40

นายทวีวัฒน์ ประสงค์ธรรม ประกันสังคมจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สร้างหลักประกันความมั่นคงทางสังคม โดยการขยายความคุ้มครองระบบประกันสังคม เพื่อให้แรงงานนอกระบบ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ได้แก่ ผู้รับจ้างทั่วไป ผู้รับจ้างทำงานบ้าน ผู้ขับรถรับจ้าง ช่างซ่อมรถยนต์-รถจักรยานยนต์ ช่างเสริมสวย ช่างตัดผม ช่างตัดเย็บเสื้อผ้า ผู้ประกอบอาชีพนวดแผนไทย ผู้ประกอบอาชีพค้าขาย ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ฯลฯ ที่มีอายุ 15-16 ปี ได้มีหลักประกันความมั่นคงในการดำรงชีวิต ด้วยการสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40เพื่อรับสิทธิประโยชน์จากกองทุนประกันสังคมตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ กำหนด เพียงจ่ายเงินประกันสังคมเดือนละ 100บาท เมื่อเจ็บป่วยนอนโรงพยาบาล จะได้รับเงินค่าชดเชย วันละ 200บาท หากร่างกายพิการจนเป็นผู้ทุพพลภาพ จะได้รับเงินประโยชน์ทดแทนเป็นรายเดือน เมื่อเสียชีวิตจะได้รับเงินค่าทำศพ นอกจากนั้นยังมีเงินออมชราภาพอีกเดือนละ 50 บาท เก็บออมไว้แล้วคืนให้เมื่ออายุครบ 60 ปี เอาไว้ใช้จ่ายในยามชราภาพ นับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ยังไม่มีหลักประกันความมั่นคง ผู้ประสงค์จะสมัคร ติดต่อสมัครได้ที่ ณ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดมุกดาหาร หรือ ณ หอประชุมอำเภอในวันประชุมกำนัน/ผู้ใหญ่บ้านของอำเภอ หรือสมัครผ่านอาสาสมัครแรงงานประจำตำบลทุกแห่ง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัดมุกดาหาร หมายเลข 042-612287 หรือ 042-630273 ในวันเวลาราชการ
 

 

สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

จังหวัดมุกดาหารจัดประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด

ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร นายบุญยืน คำหงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด จังหวัดมุกดาหาร ครั้งที่ ๕/๒๕๕๖ เพื่อรับทราบปัญหา อุปสรรค และความคืบหน้าในการขับเคลื่อนนโยบายด้าน การป้องกันและปราบปราม การแก้ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ ของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์และกลไกตามนโยบายของรัฐบาล

ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้เน้นย้ำให้ทุกส่วนราชการในพื้นที่ดำเนินการ ตามแผนสร้างพลังสังคม และพลังชุมชนเอาชนะยาเสพติด การดำเนินงานตามแผนสร้างความคุ้มกัน และ ป้องกันยาเสพติดในสถานศึกษา สถานประกอบการ อาทิ การจัดระเบียบสังคมในพื้นที่เสี่ยง เช่น หอพัก ห้องเช่า รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดยขอให้ทุกภาคส่วนในพื้นที่ มีการบูรณาการการทำ งานร่วมกันอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
 


สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

จังหวัดมุกดาหาหารสนองนโยบายรัฐบาล จัดจำหน่ายไข่ไก่ธงฟ้าราคาประหยัด

นายแสงทอง อนันตภักดิ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า สำนักงานการค้าภายในจังหวัดมุกดาหาร ร่วมกับผู้ประกอบการฟาร์มเลี้ยงไข่ไก่ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร นำไข่ไก่เบอร์ ๓ จำนวนประมาณ ๙,๐๐๐ ฟอง ต่อวัน เพื่อจำหน่ายให้ประชาชนในพื้นที่ ในราคาฟองละ ๓ บาท หรือราคาต่อแผง ๙๐ บาท ถูกกว่าราคาในท้องตลาดทั่วไป ซึ่งจำหน่ายในราคาแผงละประมาณ ๑๑๐ บาท

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน และเป็นการลดภาระค่าครองชีพ ให้กับประชาชนผู้ บริโภคในช่วงที่ไข่ไก่มีการปรับราคาสูงขึ้น โดยมีประชาชนทั่วไปให้ความสนใจและเดินทางมาเข้าคิวเพื่อซื้อ ไข่ธงฟ้ากันเป็นจำนวนมากและได้จำกัดปริมาณการซื้อไข่ไก่ไม่เกินคนละ ๑ แผง เพื่อให้ประชาชนผู้บริโภค ได้ซื้อไข่ไก่ธงฟ้าราคาถูก ได้อย่างทั่วถึง โดยการค้าภายในจังหวัดมุกดาหารได้เปิดการจำหน่ายไข่ไก่ธงฟ้า ระหว่างวันที่ ๒๙-๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ในขณะที่จากการสำรวจ ราคาไข่ไก่ในท้องตลาดทั่วไป พ่อค้าแม่ค้าได้ปรับขึ้นราคาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากราคาไข่ไก่ที่แพงขึ้น ทำให้ประชาชนผู้บริโภคได้รับผลกระทบไปด้วย


 

สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

การออกอากาศรายการเมืองเรืองแสง

ตามที่ สถานีโทรทัศน์ไทย พีบีเอส (Thai PBS) ได้มาถ่ายทำสารคดีเมืองเรืองแสง ตอน "บนถนนสายความสุข" งานถนนคนเดินเมืองเก่า 200 ปี บ้านสิงห์ท่า ตำบลในเมือง อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร ในช่วงเดือนมีนาคม 2556 โดยมีดารานักแสดง "กัสจัง" นางสาวจิรันธนิน พิทักษ์พรตระกูล เป็นผู้แสดงนำ นั้น

สถานีโทรทัศน์ ไทย พีบีเอส (Thai PBS) ได้กำหนดเวลาออกอากาศ รายการเมืองเรืองแสง ตอน "บนถนนสายความสุข" ในวันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม 2556 เวลา 20.20 - 21.15 น. และออกอากาศซ้ำอีกครั้ง (Rerun) ในวันเสาร์ที่ 1 มิถุนายน 2556 เวลา 05.00-05.30 น.

ขอเชิญชวนผู้สนใจรับชมการออกอากาศรายการเมืองเรืองแสง ที่แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตของชาวยโสธร ตามวัน เวลาดังกล่าว




ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช 30 พ.ค.56

ประชุมคณะอำนวยการ ศพส.อุดรธานี

จังหวัดอุดรธานี จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการดำเนินงานตามนโยบายปลอด อบายมุขสร้างสุขให้สังคมระหว่าง 12 หน่วยงานหลักและ 20 อำเภอในพื้นที่

ในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการศูนย์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัด อุดรธานี ครั้งที่ 5/2556 ที่ห้องประชุมทองใหญ่ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี บ่ายวันนี้ ( 30 พ.ค.56 ) นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้ประชุมติดามผลการดำเนินงานป้องกัน ปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ อาทิ คำสั่ง ศพสจ.ที่ 11/2556 ลงวันที่ 30 เมษายน 2556 เรื่องโครงการทศวรรษกองทุนแม่ของแผ่นดิน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ การติดตามผลการดำเนินงานคณะอนุกรรมการกำกับติดตามผลการดำเนินงานป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติด การจัดสรรงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2556 โครงงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด กิจกรรมฝึกอาชีพให้กับผู้ติด ผู้เสพยาเสพติด ที่ผ่านการบำบัด งวดที่ 1 สรุปผลการดำเนินงานเทียบกับเป้าหมายในแต่ละแผนงาน รายงานผลการจับกุมคดียาเสพติดที่สำคัญในรอบเดือน พฤษภาคม 2556 รายงานผลการดำเนินงานของส่วนราชการ ศพส.อ.และ ศพส.อปท.ที่มีผลการปฏิบัติดีเด่นในรอบเดือน พฤษภาคม 2556 ปัญหาและอุปสรรคและข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ข้อราชการของสำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 4

ทั้งนี้ภายหลังประชุม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการดำเนินงานตามนโยบายลด อบายมุข สร้างุขให้สังคมกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องและ 20 อำเภอในพื้นที่ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง นายอำเภอ หรือผู้แทนร่วมลงนาม

สำหรับข้อตกลงมีวัตถุประสงค์ 3 ประการคือ รณรงค์ประชาสัมพันธ์การดำเนินนโยบาย "ลดอบายมุข สร้างสุขให้สังคม”ทุกช่องทางเพื่อสร้างความเข้าใจและสร้างจิตสำนึกแก่ผู้ ประกอบการสถานบริการ สถาน ประกอบการ ที่มีความคล้ายสถานบริการ ร้านจำหน่ายสุรา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร้านเกมส์อินเตอร์เน็ต และสถานประกอบกิจการอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ประชุมชี้แจงสร้างความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการแต่ละประเภทที่อยู่ในการกำกับ ดูแลรับผิดชอบโดยทำความตกลงที่จะปฏิบัติให้ถูกต้องตามระเบียบกฏหมาย บังคับใช้กฏหมาย ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดลานกิจกรรมด้านดนตรี และศิลปะ เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกและค่านิยมที่ให้เยาวชนห่างไกลยาเสพติด และส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมขนบธรรมเนียบประเพณี ทางศาสนา


ทีมข่าว ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา / ข่าว

อุดรธานีจัดประชุมกรมการจังหวัด(หัวหน้าส่วน)ประจำเดือนพฤษภาคม 2556

จังหวัดอุดรธานีจัดประชุมหัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารสถานศึกษา นายอำเภอ จังหวัดอุดรธานี ครั้งที่ 5/2556

เช้าวันนี้ ( 30 พ.ค.56 ) ที่ห้องประชุมทองใหญ่ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานการประชุมกรมการจังหวัดอุดรธานี หรือ การประชุมหัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารสถานศึกษา นายอำเภอ จังหวัดอุดรธานี ครั้งที่ 5/2556 โดยมีนายสาโรช แสงอรุณ นายชยพล ธิติศักดิ์ และนายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารสถานศึกษา ร่วมประชุม

โดยวาระก่อนประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำเสนอประเด็นประชาสัมพันธ์ซึ่งเป็นการถ่าย ทอดการรประชุมให้กับประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียง แห่งประเทศไทย และโฮมเคเบิ้ลทีวี โดยประเด็นที่นำเสนอในเดือนนี้ประกอบด้วยการเตรียมความพร้อมด้านแรงงานเข้า สู่ประชาคึมอาเซียน การพัฒนาศักยภาพเพิ่มแรงงาน 300 บาท การเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และกำหนอฤดูปลาที่มีไข่และวางไข่เลี้ยงลูก กำหนดชนิด ขนาดและวิธีใช้เครื่องมือทำการประมง เพื่อประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน โดยในช่วงฤดูต้นฝนเป็นช่วงของการวางไข่ จะมีกฏหมายห้ามจับสัตว์น้ำ มีการกำหนดชนิด ขนาดและวิธีใช้เครื่องมือทำการประมง และในระหว่างวันที่ 16 มิถุนายน -15 ตุลาคม 2556 ได้มีประกาศรณรงค์ห้ามจับสัตว์น้ำก่อนและหลังวันพระ 1 วัน ฝ่าฝืนปรับ 5,000 บาท จำคุก 6 เดือน หรือทั้งปรับและจำ

จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีมอบเงินสนับสนุนกิจการมูลนิธิอุดรพิทยา นุกูลเพื่อการศึกษา 100,000 บาท มอบรางวัลการประกวดหนังสั้นมาก โครงการปล่อยของ 1 ให้กับนักศึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดธานี และเชิญหัวหน้าส่วนราชการที่ย้ายมาดำรงตำแหน่งแนะนำตัว อาทิ นายเพนิน บุญยืน หัวหน้าสถานีวิจัยและทดสอบพันธ์สัตว์อุดรธานี ย้ายมาจากศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์ท่าพระจังหวัดขอนแก่น นายคำพัน บุตรราช ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาอุดรธานีย้ายมาจากสถานีอุตุนิยมวิทยาเลย น.ส.อาภาภรณ์ บูรณะกนิษฐ์ อัยการจังหวัด นายนิรันด์ ยั่งยืน อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงอุดรธานี และนางอรทัย หวังวิวัฒนา อัยการจังหวัดคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุดรธานี 

ผู้ว่าราชการจังหวัด ชี้แจงแนวทางการจัดกิจกรรม โครงการเฉลิมฉลองอุดรธานี ครบ 121 ปี การปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 103/7 ประชุมติดตามความกว้าหน้างานและโครงการตามนโยบายสำคัญ อาทิ การติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ ประจำปี 2556 รายงานผลการเฝ้าระวังคุณภาพน้ำ ลำห้วยหลวง การประชาสัมพันธ์หนังสือ 1+10 ภาษษอาเซียน ASEAN Languaqes การถ่ายสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนแบบเอนกประสงค์ หรือ Smart Card โครงการเรียกคืนวัสดุอะลูมิเนียม เพื่อจัดทำข้อมูลขาเทียมพระราชทาน ขอเชิญหน่วยงาน/องค์กร/เครือข่าย ร่วมส่งประเด็นปัญหาที่มีผลกระทบต่อสุขภาพและสุขภาวะของคนอุดรธานี การขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การดำเนินงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองจังหวัดอุดรธานี การแก้ไขปัญหาความยากจนแบบบูรณาการ รายงานผลการปฏิบัติงานของสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดอุดรธานี รายงานผลการดำเนินงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดธานี 


ทีมข่าว ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา / ข่าว

จังหวัดอุบลราชธานีจัดโครงการเสริมสร้างความพร้อมแก่ท้องถิ่นหลักสูตร “กระบวนการเสริมสร้างผู้นำนักประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม”

วันที่ 30 พฤษภาคม 2556 เวลา 09.00 น. ณ ห้องบอลรูมเอบี โรงแรมลายทอง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา เป็นประธานเปิดการอบรมโครงการเสริมสร้างความพร้อมแก่ท้องถิ่น หลักสูตร "กระบวนการเสริมสร้างผู้นำนักประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม” ครั้งที่ 8 ประจำปี งบประมาณ 2556 ณ จังหวัดอุบลาชธานี ในวันนี้ ด้วยมีนางนภา ศกุนตนาค รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีร่วมเป็นเกียรติในงานนี้ด้วย


โครงการนี้ได้จัดขึ้นเพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้มีความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยของไทยรวมถึงบทบาทอำนาจ หน้าที่ของวุฒิสภาตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญและแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับ ความคิดและวิถีชีวิตของประชาธิปไตยตลอดจนเป็นการเสริมสร้างบทบาทของเครือ ข่ายในการเผยแพร่ประชาธิปไตยให้บังเกิดพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง อันจะยังผลดีต่อประเทศชาติในภาพรวม กลุ่มเป้าหมายในครั้งนี้ได้แก่ กลุ่มผู้นำสตรีจังหวัดอำนาจเจริญซึ่งเป็นผู้นำสตรีหรือผู้แทนสตรีจาก 3 ภาคส่วน ทั้งจากภาคราชการซึ่งเป็นหัวหน้าส่วนต่าง ๆ จากภาคเอกชนเป็นผู้แทนจากสภาหอการค้าและสภาอุตสาหกรรม และภาคประชาชนจากองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นและผู้นำชุมชนรวมทั้งสิ้น 120 คน นอกนี้จะมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ตามหัวข้อวิชาต่าง ๆ แล้ว ยังจะมีการนำผู้เข้ารับการอบรมศึกษาดูงานโครงการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้น แบบเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา ปี 2554 ระดับ "มั่งมีศรีสุข” บ้านกระเดียน อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี อีกด้วย

สุรินทร์สร้างเครือข่ายเยาวชนอาสารักษาดินแดนต้านยาเสพติด

วันที่ 30 พ.ค. 2556 ที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดสุรินทร์ ที่ 1 ต. เฉนียง อ. เมือง จ. สุรินทร์ นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานในการปิดค่ายโครงการลดกลุ่มเสี่ยงนอกสถานศึกษาต้านยาเสพติด หลักสูตร " เยาวชนอาสารักษาดินแดนต้านภัยยาเสพติด ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างเครือข่ายเยาวชน ในการเฝ้าระวังเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ในการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของ ยาเสพติดในพื้นที่ชุมชน หมู่บ้านของตนเอง ซึ่งเป็นช่องทางหนึ่งที่นำเอาเยาวชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงนอกสถานศึกษามามีส่วน ร่วมในการเป็นเครือข่ายในการเฝ้าระวังยาเสพติด และเป็นการลดปริมาณกลุ่มเสี่ยงทางด้านยาเสพติดของจังหวัดสุรินทร์ได้อีกทาง หนึ่ง สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดยาเสพติดของจังหวัดสุรินทร์ยังคงเบาบาง ซึ่งจังหวัดสุรินทร์ได้ดำเนินการป้องกันและปรามปรามอย่างต่อเนื่อง แต่จังหวัดสุรินทร์ยังคงมีความเคลื่อนไหวด้านการค้า และแพร่ระบาดซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนักค้ารายย่อยในพื้นที่ที่ลักลอบนำข้าว ยาเสพติดมาจากจังหวัดใกล้เคียงที่ติดแนวชายแดน


 ประนนท์ ไม้หอม / ข่าว/ส.ปชส.สุรินทร์

ในการประชุมหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดสุรินทร์ได้ยืนไว้อาลัย ผ. สวท. สุรินทร์ซึ่งเป็นหัวหน้าส่วนราชการที่เสียชีวิต

วันนี้ ( 30 พ.ค. 2556 ) ที่ห้องประชุมโรงแรมทองธารินทร์ จังหวัดสุรินทร์ จัดให้มีการประชุมหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดสุรินทร์ โดยมีนายยุทธนา วิริยะกิตติ และนายวิเชียร จันทรโณทัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานการประชุม ซึ่งก่อนที่ประชุมจะเริ่มตามระเบียบวาระ ได้จัดให้มีการมอบเครื่องหมายรักษาดินแดนยิ่งชีพให้แก่ผู้ประกอบคุณงามความ ดีเพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติ มอบเงินอุดหนุนเพื่อเป็นรางวัลให้แก่สหกรณ์ออมทรัพย์อนามัยสุรินทร์ จำกัด โดยสำนักงานสหกรณ์จังหวัดสุรินทร์ มอบรางวัลและประกาศเกียรติคุณผลการดำเนินงานป้องกันอุบัติเหตุทางถนนช่วง เทศกาลสงกรานต์ ปี 2556 ให้แก่อำเภอที่สามารถลดอุบัติเหตุทางถนนได้มากที่สุด และในโอกาสนี้ในที่ประชุมได้ลุกขึ้นยืนเพื่อไว้อาลัยแก่ นายยุทธพงษ์ อยู่กาญจนเศรฐ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2556 ที่ผ่านมาเป็นการไว้อาลัยในฐานะหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดสุรินทร์ที่เสีย ชีวิต โดยตั้งศพบำเพ็ญกุศล ณ ศาลาวัดศาลาลอง พระอารามหลวง และกำหนดพระราชทานเพลิงศพในวันอาทิตย์ที่ 2 มิ.ย. 2556 นี้เวลา 16.00 น.


 ประนนท์ ไม้หอม /ข่าว / ส.ปชส. สุรินทร์