วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556

โคราชจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 500 นาย ออกปฏิบัติการตรวจสอบโกดังและโรงสีข้าวโครงการรับจำนำข้าว 49 จุดใน 14 อำเภอ พบความผิดปกติระดับกระสอบไม่เท่ากัน รองผู้ว่าฯ ย้ำสรุปให้เสร็จภายในวันนี้ หากพบการทุจริตพร้อมแจ้งดำเนินคดีถึงที่สุด

วันนี้ ( 27 มิ.ย. 2556 ) เวลา 08.00 น. ที่โรงสีเจียเม้ง ต.หนองงูเหลือม อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา นายชยาวุธ จันทร รอง ผวจ.นครราชสีมา พร้อมด้วย พ.ต.อ.วณัฐ อรรถกวิน รอง ผบก.ภ.นครราชสีมา, พาณิชย์จังหวัดฯ , การค้าภายในจังหวัดฯ , ธกส. , อคส., สรรพากรจังหวัดฯ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันตรวจสอบปริมาณข้าวคงเหลือ ทั้งข้าวเปลือกและข้าวสาร โครงการรับจำนำข้าวของ จ.นครราชสีมา โดยมีกำลังของชุดที่มาจากกระทรวงการคลัง ร่วมตรวจสอบในครั้งนี้ด้วย โดยคณะทั้งหมดได้ตรวจสอบโกดังทั้ง 4 โกดัง ภายในโรงสีเจียเม้ง ซึ่งมีปริมาณข้าวอยู่ทั้งหมดประมาณ 50,000 ตัน และมีการวางกระสอบเรียงเป็นชั้นๆ ละ 30 กระสอบ แต่จากการขึ้นไปตรวจสอบข้างบน พบว่ามีความผิดปกติ เพราะระดับความสูงแตกต่างกัน จึงให้เจ้าหน้าที่เดินคำนวณอย่างละเอียด เพื่อหาปริมาณที่ชัดเจนอีกครั้ง
 
ทั้งนี้นายชยาวุธ จันทร รอง ผวจ.นครราชสีมา กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจาก ผวจ.นครราชสีมาโดยได้รับนโยบายเร่งด่วนจากส่วนกลาง กรมการปกครอง กระทรวงการคลังให้จัดชุดปฏิบัติการออกตรวจสอบจุดรับจำนำข้าวเปลือกที่โรงสี ข้าว และตรวจสอบข้าวสารที่รับจำนำไว้ ที่โกดังกลาง ซึ่ง จ.นครราชสีมามีด้วยกัน 49 แห่ง/จุด ในจำนวน 14 อำเภอ มีปริมาณข้าวเปลือกที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำ ปีการผลิต 2555/2556 จำนวน 236,375 ตัน และมีการจ่ายออกแล้วจำนวน 64,507 ตัน คงเหลือจำนวน 171,867 ตัน โดยคณะกรรมการที่ออกตรวจสอบครั้งนี้ ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้บริหารจากกระทรวงการคลัง คลังจังหวัด สรรพากร สรรพสามิตจังหวัดฯ การค้าภายในจังหวัดฯ, พาณิชย์จังหวัด, ธกส. และผู้ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ โดยได้ทำการตรวจสอบพร้อมกันทั้ง 49 จุด ในช่วงเวลา 08.00 น. ซึ่งจะมีแบบตรวจปริมาณของข้าวเปลือก และการนับจำนวนข้าวสารทุกกระสอบ หลังจากตรวจสอบแล้วจะมาสรุปรายงานผลภายในวันนี้ (27 มิ.ย. 56) หากพบว่ามีปริมาณข้าวขาดเหลือในปริมาณไม่มากนัก ก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร แต่หากตรวจสอบพบว่ามีปริมาณข้าวหายไปเป็นจำนวนมากก็ต้องแจ้งความดำเนินคดี อย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ตนขอให้เจ้าหน้าที่ทุกแผนกที่รับผิดในการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล ครั้งนี้ต้องดำเนินการตรวจสอบอย่างจริงจัง เพราะเป็นนโยบายที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลให้ความสำคัญ โดยเฉพาะโครงการนี้จะมีผลประโยชน์อย่างยิ่งต่อการยกระดับรายได้ของพี่น้อง เกษตรกรชาวนา หากพบว่าโกดังกลางหรือโรงสีมีพฤติการณ์ที่ไม่ถูกต้องขอให้ดำเนินการอย่างตรง ไปตรงมาและจริงจังด้วยความละเอียดรอบครอบ นายชยาวุธกล่าว
 

ด้าน พ.ต.อ.วณัฐ อรรถกวิน รอง ผบก.ภ.นครราชสีมา หัวหน้าชุดการตรวจสอบโกดังและโรงสีข้าวของ จ.นครราชสีมา กล่าวว่า การปฏิบัติครั้งนี้ตำรวจต้องทำให้ดีที่สุด เพราะรัฐบาลหวังพึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลเกี่ยวกับการรับจำนำข้าวให้ ถูกต้องตามระเบียบกฎหมาย อย่าให้มีการตรวจสอบพบในสิ่งที่ทุจริตแล้วละเลยไม่ปฏิบัติ หากพบแล้วต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ทั้งนี้การปฏิบัติลงพื้นที่ตรวจสอบมีการกระจายกำลังพร้อมกันโดยเราใช้กำลัง กว่า 500 นาย ทั้ง 49 จุด ใน 14 อำเภอ โดยมีอำเภอที่มีโกดังและโรงสีมากที่สุดที่ต้องตรวจสอบเข้มข้นเป็นพิเศษ ประกอบด้วย อ.สูงเนิน , อ.ปักธงชัย , อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ .พิมาย ส่วนจะพบการทุจริตหรือไม่คงต้องรอสรุปอีกครั้งช่วงค่ำวันนี้ พ.ต.อ.วณัฐฯกล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น