ราชภัฏบุรีรัมย์เปิดเวทีเสวนารวมพลังสร้างภูมิคุ้มกันเด็กเยาวชนหลังพบอัตราเสี่ยงเด็กติดยาและท้องก่อนวัยอันควรเพิ่มขึ้น มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ระดมหลายภาคส่วนร่วมเวทีเสวนา "รวมพลังสร้างภูมิคุ้มกันเด็กและเยาวชนในท้องถิ่น” เพื่อร่วมหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหา หลังพบอัตราเสี่ยงเด็กเยาวชนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ( 23 ม.ค.57) ศูนย์บริการวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ จัดเวทีเสวนาวิชาการ "รวมพลัง สร้างภูมิคุ้มกันเด็กและเยาวชนในท้องถิ่นจังหวัดบุรีรัมย์” ภายใต้โครงการการบริการวิชาการแก่สังคมต้นแบบ พลังสร้างภูมิคุ้มกันเด็ก เยาวชน และครอบครัวในท้องถิ่น ที่ห้องประชุมศิวาลัย ศูนย์วัฒนธรรมอีสานใต้ มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ เพื่อทบทวนสถานการณ์ปัญหาเด็กและเยาวชน ตามบทบาทหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจและแนวทางหนุนเสริม ในการดำเนินงานแบบบูรณาการด้านเด็ก เยาวชน เพื่อรวมพลังสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็ก เยาวชนในท้องถิ่นซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง ให้มีเกราะป้องกันตนเองจากภัยต่างๆ ทางสังคมได้ หลังปัจจุบันพบอัตราเสี่ยงเด็ก เยาวชน เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยการจัดเวทีเสวนาในครั้งนี้ได้มีนักเรียน นักศึกษาจากหลายสถานศึกษา รวมทั้งตัวแทนผู้ปกครอง แกนนำชุมนุม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมกว่า 200 คน ทั้งนี้ยังได้มีวิทยากรผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับปัญหาเด็ก เยาวชน อาทิ นายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา , ตัวแทนจากสำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็กเยาวชน ผู้ด้อยโอกาสและผู้สูงอายุ (ส่วนกลาง) , ตัวแทนศูนย์ประชาบดี และอีกหลายภาคส่วนเข้าร่วมเสวนา และให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย ด้าน ผศ.ดร.ธนวุฒิ ตั้งสอนบุญ ผู้อำนวยการศูนย์บริการวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ กล่าวว่า เด็กและเยาวชนไทยในปัจจุบันส่วนใหญ่อยู่ในภาวะของการขาดภูมิคุ้มกัน ไม่รู้เท่าทันตนเองและความเปลี่ยนแปลงของสังคมเท่าที่ควร ทำให้ขาดจิตสำนึก เกิดปัญหาเสื่อมถอยทางคุณธรรม จริยธรรมและวัฒนธรรม ซึ่งปัญหาเหล่านี้ไม่ได้เกิดเฉพาะในเมือง แต่ในระดับหมู่บ้าน ตำบล ก็มีแนวโน้มของปัญหาสูงขึ้นเช่นกัน ดังนั้นทางมหาวิทยาลัยราชภัฎได้เล็งเห็นความสำคัญ จึงจัดโครงการดังกล่าวขึ้น เพื่อต้องการให้เด็ก เยาวชนกลุ่มเสี่ยงได้มีเกราะป้องกันตนเอง รวมถึงภาคส่วนต่างๆ จะได้หาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นร่วมกันในอีกทางหนึ่งด้วย
สุรชัย พิรักษา / บุรีรัมย์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น