โรงเรียนโสตศึกษาสุรินทร์ ปรับสูตรการเรียนเน้นด้านเกษตรพอเพียงและอาชีพสอนเด็กพิการทางการได้ยิน สามารถปฎิบัติได้จริง เพื่อนำไปต่อยอดเป็นอาชีพ หลังจบการศึกษาออกไป
วันนี้ (25 ม.ค. 57) โรงเรียนโสตศึกษาสุรินทร์ ตำบลเชื้อเพลิง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนผู้พิการทางการได้ยิน ซึ่งเปิดการเรียนตั้งแต่ระดับประถมศึกษา จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปัจจุบันนักเรียนจำนวน 337 คน และเป็นโรงเรียนประจำ มีนโยบายการจัดการศึกษา เต็มตามศักยภาพ พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม การอนุรักษ์วัฒนธรรม ดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยเน้นฝึกอาชีพเพื่อการมีงานทำและความร่วมมือกับชุมชน
ปัจจุบันนอกจากการเปิดสอนภาคปกติแล้ว ยังมีการปรับเปลี่ยนส่งเสริมเด็กนักเรียน มุ่งเน้นทางด้านการเกษตรพอเพียงอาชีพและอาชีพ โดยมีการส่งเสริมให้เด็กนักเรียนได้เรียนรู้ด้านการเกษตรเช่นการเลี้ยงปลาดุก เลี้ยงกบ การปลูกผักปลอกสารพิษ การเลี้ยงไก่ การเพาะเห็ดฟาง ร่วมไปถึงการทำการเกษตรแบบพอเพียง และการสอนด้านอาชีพให้กับเด็ก เช่นการทำขนม กระเป๋า ช่างตัดผมและอีกหลายอย่าง ส่งผลให้ภายในโรงเรียนแห่งนี้ เกิดบ่อปลา และแปลงเกษตร รวมถึงคอกเลี้ยงสัตว์ ไก่ หมู่ป่า การทำเกษตรพอเพียง เกิดขึ้นให้เห็นชัดเจน และจัดไว้อย่างเป็นระบบ และทั้งหมดจะเป็นฝีมือของน้องๆนักเรียนในการดำเนินงาน โดยมีครูเป็นพี่เลี้ยง
ที่สำคัญโรงเรียนกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านเกษตรพอเพียงให้กับชุมชนที่ใกล้ๆได้เป็นอย่างดี ซึ่งในแต่ละกิจกรรมจะให้เด็กๆได้เลือกเรียนตามความถนัดของตนเองเท่านั้น ทำให้เด็กๆมีความตื่นตัวและให้ความสนใจในการศึกษาและเรียนรู้เป็นอย่างมาก จากผลของการส่งเสริมด้านการทำการเกษตรและด้านอาชีพให้กับเด็กนักเรียนของโรงเรียนโสตศึกษาสุรินทร์ ทำให้ในแต่ละปีมีผลผลิตออกมาให้น้องได้เป็นอาหารกลางวัน และบางส่วนก็ออกจำหน่าย และบางรุ่นที่จบการศึกษาออกไป นำไปเป็นอาชีพ หรือต่อยอดจากการเรียนมาได้เป็นอย่างดี
นายบุญรักษ์ คลองมิ่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนโสตศึกษาสุรินทร์ กล่าวว่า ปัจจุบันต้องยอมรับว่าระบบการศึกษามีความก้าวหน้าไปมาก การเรียนรู้ของนักเรียนเปิดได้หลายช่องทาง โดยเฉพาะเด็กนักเรียนที่ปกติ เมื่อจบการศึกษาไปแล้วจะมีโอกาสที่จะเลือกศึกษาต่อและประกอบอาชีพได้มากกว่าเด็กที่พิการ ดังนั้นการทำการเกษตรพอเพียงและด้านอาชีพ นับเป็นช่องทางหนึ่งที่จะสามารถส่งเสริมให้เด็กพิการทางการได้ยินนำไปประกอบเป็นอาชีพได้เมื่อจบการศึกษาไป รวมถึงต่อยอดเพื่อดำเนินเป็นธุรกิจไปได้ ซึ่งจะสามารถให้เขามีอาชีพที่ดีและมีรายได้ เลี้ยงตนเองต่อไปในอนาคต โรงเรียนโสตศึกษาสุรินทร์ได้เห็นความสำคัญดังกล่าว จึงได้ส่งเสริมสนับสนุนให้เด็กๆได้เรียนรู้ในด้านดังกล่าว
วันนี้ (25 ม.ค. 57) โรงเรียนโสตศึกษาสุรินทร์ ตำบลเชื้อเพลิง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนผู้พิการทางการได้ยิน ซึ่งเปิดการเรียนตั้งแต่ระดับประถมศึกษา จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปัจจุบันนักเรียนจำนวน 337 คน และเป็นโรงเรียนประจำ มีนโยบายการจัดการศึกษา เต็มตามศักยภาพ พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม การอนุรักษ์วัฒนธรรม ดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยเน้นฝึกอาชีพเพื่อการมีงานทำและความร่วมมือกับชุมชน
ปัจจุบันนอกจากการเปิดสอนภาคปกติแล้ว ยังมีการปรับเปลี่ยนส่งเสริมเด็กนักเรียน มุ่งเน้นทางด้านการเกษตรพอเพียงอาชีพและอาชีพ โดยมีการส่งเสริมให้เด็กนักเรียนได้เรียนรู้ด้านการเกษตรเช่นการเลี้ยงปลาดุก เลี้ยงกบ การปลูกผักปลอกสารพิษ การเลี้ยงไก่ การเพาะเห็ดฟาง ร่วมไปถึงการทำการเกษตรแบบพอเพียง และการสอนด้านอาชีพให้กับเด็ก เช่นการทำขนม กระเป๋า ช่างตัดผมและอีกหลายอย่าง ส่งผลให้ภายในโรงเรียนแห่งนี้ เกิดบ่อปลา และแปลงเกษตร รวมถึงคอกเลี้ยงสัตว์ ไก่ หมู่ป่า การทำเกษตรพอเพียง เกิดขึ้นให้เห็นชัดเจน และจัดไว้อย่างเป็นระบบ และทั้งหมดจะเป็นฝีมือของน้องๆนักเรียนในการดำเนินงาน โดยมีครูเป็นพี่เลี้ยง
ที่สำคัญโรงเรียนกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านเกษตรพอเพียงให้กับชุมชนที่ใกล้ๆได้เป็นอย่างดี ซึ่งในแต่ละกิจกรรมจะให้เด็กๆได้เลือกเรียนตามความถนัดของตนเองเท่านั้น ทำให้เด็กๆมีความตื่นตัวและให้ความสนใจในการศึกษาและเรียนรู้เป็นอย่างมาก จากผลของการส่งเสริมด้านการทำการเกษตรและด้านอาชีพให้กับเด็กนักเรียนของโรงเรียนโสตศึกษาสุรินทร์ ทำให้ในแต่ละปีมีผลผลิตออกมาให้น้องได้เป็นอาหารกลางวัน และบางส่วนก็ออกจำหน่าย และบางรุ่นที่จบการศึกษาออกไป นำไปเป็นอาชีพ หรือต่อยอดจากการเรียนมาได้เป็นอย่างดี
นายบุญรักษ์ คลองมิ่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนโสตศึกษาสุรินทร์ กล่าวว่า ปัจจุบันต้องยอมรับว่าระบบการศึกษามีความก้าวหน้าไปมาก การเรียนรู้ของนักเรียนเปิดได้หลายช่องทาง โดยเฉพาะเด็กนักเรียนที่ปกติ เมื่อจบการศึกษาไปแล้วจะมีโอกาสที่จะเลือกศึกษาต่อและประกอบอาชีพได้มากกว่าเด็กที่พิการ ดังนั้นการทำการเกษตรพอเพียงและด้านอาชีพ นับเป็นช่องทางหนึ่งที่จะสามารถส่งเสริมให้เด็กพิการทางการได้ยินนำไปประกอบเป็นอาชีพได้เมื่อจบการศึกษาไป รวมถึงต่อยอดเพื่อดำเนินเป็นธุรกิจไปได้ ซึ่งจะสามารถให้เขามีอาชีพที่ดีและมีรายได้ เลี้ยงตนเองต่อไปในอนาคต โรงเรียนโสตศึกษาสุรินทร์ได้เห็นความสำคัญดังกล่าว จึงได้ส่งเสริมสนับสนุนให้เด็กๆได้เรียนรู้ในด้านดังกล่าว
อุทัย มานาดี / รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น