จากสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ได้เรียกประชุมคณะกรรมการระดับจังหวัด/อำเภอ เพื่อหาแนวทางการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม โดยให้เร่งดำเนินการสำรวจ ตรวจสอบข้อมูลด้านแหล่งน้ำดิบ แหล่งน้ำประปา ข้อมูลด้านการเกษตรทั้ง การทำนา การปศุสัตว์ การประมง และความต้องการน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคของประชาชนในพื้นที่ พร้อมเปิดศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งที่ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม และให้ทุกอำเภอจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจช่วยเหลือประชาชนทุกอำเภอ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาภัยแล้งอย่างใกล้ชิดทันสถานการณ์ ทั้งด้านน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค การซ่อมแซมบ่อบาดาล การเป่าล้างภาชนะกักเก็บน้ำ และการส่งเสริมอาชีพระยะสั้นให้ประชาชนได้มีรายได้ นอกเหนือจากการทำนาปรังซึ่งต้องใช้น้ำปริมาณมาก
สำหรับสถานการณ์น้ำในจังหวัดมหาสารคาม ณ วันที่ 3 มีนาคม 2557 พบว่า ปริมาณน้ำในแม่น้ำชียังอยู่ในเกณฑ์ปกติ ส่วนอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ซึ่งมีจำนวน 17 แห่ง ขณะนี้มีปริมาณกักเก็บรวมเพียง 25.72 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปกติสามารถกักเก็บได้ทั้งสิ้น 81.42 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งมีปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการด้านเกษตรกรรม การทำนาข้าว แต่เพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภคเท่านั้น
นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ขอให้ประชาชนช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัด และขณะนี้จังหวัดได้ประกาศให้เกษตรกรงดทำนาปรับในรอบที่สองแล้ว พร้อมให้ทุกอำเภอ ตำบลได้ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรทุกพื้นที่ได้รับทราบ และหากมีเกษตรกรฝ่าฝืนทำนาปรังในรอบที่สอง ทางจังหวัดจะไม่ให้การช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้น
ส.ปชส.มหาสารคาม / ข่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น