วัดช้างหมอบ (วัดมงคลคชาราม) ต.แนงมุด อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ 32210
พระพิมลพัฒนาทร (หลวงพ่อพวน วรมงฺคโล) เจ้าคณะตำบลคอโค และเจ้าอาวาสวัดมงคลรัตน์ ตำบลคอโค อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์เป็นพระสงฆ์ผู้มีพรหมวิหารธรรม เป็นพระสุปฏิปันโน เป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อชาวจังหวัดสุรินทร์ พุทธศาสนิกชนทั่วไปนิยมไปกราบนมัสการ เพื่อความเป็นมงคลแก่ชีวิต โดยไปไถ่ชีวิตโคกระบือที่วัด และรับมอบวัตถุมงคลจากหลวงพ่อเนื่องในเทศกาลต่าง ๆ เป็นประจำ
หลวงพ่อพวน เกิดเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2471 ตรงกับวันอาทิตย์ แรม 11 ค่ำ เดือน 5 ปีมะโรง อายุ 86 พรรษา บวชเป็นสามเณรที่วัดคอโค (วัดสง่างาม) อำเภอเมืองฯ จังหวัดสุรินทร์ เมื่อครบอายุบรรพชา ได้หลวงปู่อวง เป็นพระอุปัชญา และศึกษาปฏิบัติธรรมกับ หลวงปู่มา และมีหน้าที่สอนหนังสือการปฏิบัติธรรมแก่พระภิกษุสงฆ์ ท่านชอบธรรมชาติ จึงชอบธุดงค์ไปปฏิบัติธรรมตามสถานที่ต่าง ๆ
ในสมัยก่อน ประมาณ ปี 2517 พื้นที่ตามแนวชายแดน เป็นป่าทึบและยังเป็นดินแดนสีแดง หรือเรียกว่ากลุ่มคอมมิวนิสต์เข้ามาหลบอยู่ในป่า ทำให้ชาวบ้านไม่ค่อยกล้าเข้าในป่าลึก โดยเฉพาะตามแนวชายแดน ได้มาธุดงค์ในป่าแถวบริเวณนี้ ชอบความสงบตามธรรมชาติและมีถ้ำอยู่ จึงได้มาพำนักปฏิบัติธรรมในถ้ำใกล้ ๆ บริเวณวัดช้างหมอบแห่งนี้ ในช่วงนั้น ไป ๆ มา ระหว่างวัดคอโคและสถานที่แห่งนี้ และมีความรู้สึกว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มาก ควรจะมีการสร้างวัดขึ้น
ค้นพบรอยพระพุทธบาท
จนถึง ปี พ.ศ. 2527 ได้กลับมาอย่างถาวร โดยจะสร้างเป็นวัดในการปฏิบัติธรรม และพบรอยพระพุทธบาทอยู่เหนือถ้ำ เนื่องจากมีแสงสว่างขึ้นมาในช่วงกลางคืน เป็นแสงหลายสี แต่ส่วนใหญ่จะเป็นสีขาว เขียว แดง เหลือง ลำแสงสว่างอยู่เหนือยอดไม้ 1 – 2 เมตร จนชาวเขมรต่ำ เห็นและคิดว่าที่วัดมีไฟฟ้าใช้ ได้พากันขึ้นมาขอไฟฟ้าใช้บ้าง แต่เมื่อมาถึง ก็เห็นเป็นวัดเล็ก ๆ ไม่มีไฟฟ้าแต่อย่างใด
ต่อมาบริเวณรอยพระพุทธบาท ที่มีลำแสงให้เห็นยามค่ำคืน จนถึงประมาณตี 1 นั้น มีต้นตะเคียนใกล้ ๆ ได้โค่นลงมาทับก้อนหินแตก ทำให้เห็นรอยพระพุทธบาทชัดเจนขึ้น และรอยหินได้แยกออกประมาณ 1 เมตร ทำให้เป็นรอยพระพุทธบาทหันพระบาทไปทางทิศตะวันออก มีขนาดกว้าง 33 นิ้ว ยาว 56 นิ้ว
วัดมงคลรัตน์ ตำบลคอโค อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์เป็นพระสงฆ์ผู้มีพรหมวิหารธรรม เป็นพระสุปฏิปันโน เป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อชาวจังหวัดสุรินทร์ พุทธศาสนิกชนทั่วไปนิยมไปกราบนมัสการ เพื่อความเป็นมงคลแก่ชีวิต โดยไปไถ่ชีวิตโคกระบือที่วัด และรับมอบวัตถุมงคลจากหลวงพ่อเนื่องในเทศกาลต่าง ๆ เป็นประจำ เริ่มสร้างโบสถ์ ปี 2527 โดยมีสามี ภรรยา คู่หนึ่ง ได้รับโชคลาภจากการขอพรรอยพระพุทธบาท ที่ราษฎรจะมาขอกันเป็นประจำ เช่น ขอบุตร ขอตำแหน่ง ขอความร่ำรวย สามี ภรรยาคู่นี้ก็มาขอเช่นเดียวกัน และหอบเงินมาขอสร้างโบสถ์ให้วัดช้างหมอบ ปัจจุบันได้รับการตั้งชื่อเป็นทางการว่าวัดมงคลคชาราม ตั้งอยู่หมู่ที่ 14 บ้านช้างหมอบ ตำบลแนงมุด อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์
ส่วนการก่อสร้างพระปรางค์กุญชรมณีศรีไตรยอดเพชร นั้น สร้างขึ้นเพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระสารีริกธาตุของพระอริยะสงฆ์และพระธาตุที่เสด็จมาและเก็บไว้ที่วัดแห่งนี้เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาและให้พุทธศาสนิกชนได้เคารพบูชาสักการะ โดยก่อนที่จะสร้างนั้น ได้มีการบวงสรวงขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ต่อมาได้มีหญิงสาวอายุ 17 ปี มาพร้อมชายวัยกลางคน ประมาณ 50 ปี เศษ มาขอออกแบบพระปรางค์พร้อมแกะลายยอดพระปรางค์ให้ด้วย ทำงานตลอดไม่พูดจากับใคร ไม่ทราบว่ามาจากไหนโดยใช้เวลาเพียง 15 วัน ได้นำแบบทั้งหมดมาให้และบอกว่า ต่อไปจะมีคนมาสร้างให้ หลังจากนั้นก็จากไป ไม่ได้เจอกันอีกเลย
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2555 นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้นำพุทธศาสนิกชนทั่วทุกหมู่เหล่า ร่วมกันอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมด้วยพระพุทธรูปและพระไตรปิฎกฉบับภาษาลาว นั่งช้าง เวียนประทักษิณรอบพระปรางค์กุญชรมณีศรีไตรยอดเพชรเนื่องจากในปีนี้เป็นปีพุทธชยันตี 2600 ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า และเป็นการเฉลิมพระเกียรติถวายเป็นพระราชกุศล แด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ 85 พรรษา และสมเด็จ พระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเจริญพระชันษา 99 ปี จังหวัดสุรินทร์ จึงได้ขอประทานพระบรมสารีริกธาตุ จากพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ซึ่งพระองค์ทรงเมตตาประทาน พระบรมสารีริกธาตุ เพื่ออัญเชิญไปประดิษฐานไว้ ณ พระปรางค์กุญชรมณีศรีไตรยอดเพชร วัดมงคลวราภรณ์ บ้านช้างหมอบ ต.แนงมุด อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เพื่อเป็นที่สักการะ บูชา เป็นที่ตั้งมั่นแห่งพระพุทธศาสนา เป็นสิริมงคล และเป็นกำลังใจแก่คณะสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนตามแนชายแดนไทย – กัมพูชา
สำหรับครั้งนี้ นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ในฐานะประธานฝ่ายฆราวาส กล่าวว่าจังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับส่วนราชการจังหวัดสุรินทร์ ภาคเอกชน พ่อค้า ประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์ กำหนดจัดงานทอดผ้าป่าสามัคคี ในวันที่ 14 ก.พ. 2557 ณ วัดมงคลคชาราม (วัดช้างหมอบ ) หมู่ที่ 14 บ้านช้างหมอบ ต. แนงมุด จ. สุรินทร์ เพื่อสมทบทุนในการก่อสร้างพระปรางค์กุญชรมณีศรีไตรยอดเพชร เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะ และเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา และเพื่อพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดสุรินทร์อีกแห่ง จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดสุรินทร์ร่วมเป็นเจ้าภาพในการทอดผ้าป่าสามัคคีดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน
จังหวัดสุรินทร์จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคีในครั้งนี้โดยทั่วกัน โดยประสานรายละเอียดและส่งปัจจัยได้ที่ สำนักงานจังหวัดสุรินทร์ กลุ่มงานอำนวยการ โทร 044-512039 (นายสันทัด แสนทอง หัวหน้ากลุ่มงานอำนวยการ โทร 086-7215312 ) ที่ทำการปกครองจังหวัดสุรินทร์ กลุ่มงานการเงินและบัญชี โทร 044-511891 (นางสาวรัชนีภรณ์ สุยะ เสมียนตราจังหวัดสุรินทร์ โทร081-7534853 ) หรือโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสุรินทร์ ประเภทออมทรัพย์ ชื่อบัญชี ก่อสร้างพระปรางค์กุญชรมณีศรีไตรยอดเพชร เลขที่ บัญชี 310-0-69691-3 และขอความกรุณาแฟกซ์ใบโอนให้ทราบด้วย
หมายเหตุ : หลวงพ่อพวน เป็นเกจิอาจารย์ชื่อดังของอีสานใต้ เป็นพระเมตตาธรรมสูง ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด ใครที่เดือดร้อนมาจะช่วยโดยให้ยึดหลักธรรมะ ให้เก่งงาน เก่งอาชีพ ใช้อย่างประหยัดคุ้มค่า
พระพิมลพัฒนาทร (หลวงพ่อพวน วรมงฺคโล) เจ้าคณะตำบลคอโค และเจ้าอาวาสวัดมงคลรัตน์ ตำบลคอโค อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์เป็นพระสงฆ์ผู้มีพรหมวิหารธรรม เป็นพระสุปฏิปันโน เป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อชาวจังหวัดสุรินทร์ พุทธศาสนิกชนทั่วไปนิยมไปกราบนมัสการ เพื่อความเป็นมงคลแก่ชีวิต โดยไปไถ่ชีวิตโคกระบือที่วัด และรับมอบวัตถุมงคลจากหลวงพ่อเนื่องในเทศกาลต่าง ๆ เป็นประจำ
หลวงพ่อพวน เกิดเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2471 ตรงกับวันอาทิตย์ แรม 11 ค่ำ เดือน 5 ปีมะโรง อายุ 86 พรรษา บวชเป็นสามเณรที่วัดคอโค (วัดสง่างาม) อำเภอเมืองฯ จังหวัดสุรินทร์ เมื่อครบอายุบรรพชา ได้หลวงปู่อวง เป็นพระอุปัชญา และศึกษาปฏิบัติธรรมกับ หลวงปู่มา และมีหน้าที่สอนหนังสือการปฏิบัติธรรมแก่พระภิกษุสงฆ์ ท่านชอบธรรมชาติ จึงชอบธุดงค์ไปปฏิบัติธรรมตามสถานที่ต่าง ๆ
ในสมัยก่อน ประมาณ ปี 2517 พื้นที่ตามแนวชายแดน เป็นป่าทึบและยังเป็นดินแดนสีแดง หรือเรียกว่ากลุ่มคอมมิวนิสต์เข้ามาหลบอยู่ในป่า ทำให้ชาวบ้านไม่ค่อยกล้าเข้าในป่าลึก โดยเฉพาะตามแนวชายแดน ได้มาธุดงค์ในป่าแถวบริเวณนี้ ชอบความสงบตามธรรมชาติและมีถ้ำอยู่ จึงได้มาพำนักปฏิบัติธรรมในถ้ำใกล้ ๆ บริเวณวัดช้างหมอบแห่งนี้ ในช่วงนั้น ไป ๆ มา ระหว่างวัดคอโคและสถานที่แห่งนี้ และมีความรู้สึกว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มาก ควรจะมีการสร้างวัดขึ้น
ค้นพบรอยพระพุทธบาท
จนถึง ปี พ.ศ. 2527 ได้กลับมาอย่างถาวร โดยจะสร้างเป็นวัดในการปฏิบัติธรรม และพบรอยพระพุทธบาทอยู่เหนือถ้ำ เนื่องจากมีแสงสว่างขึ้นมาในช่วงกลางคืน เป็นแสงหลายสี แต่ส่วนใหญ่จะเป็นสีขาว เขียว แดง เหลือง ลำแสงสว่างอยู่เหนือยอดไม้ 1 – 2 เมตร จนชาวเขมรต่ำ เห็นและคิดว่าที่วัดมีไฟฟ้าใช้ ได้พากันขึ้นมาขอไฟฟ้าใช้บ้าง แต่เมื่อมาถึง ก็เห็นเป็นวัดเล็ก ๆ ไม่มีไฟฟ้าแต่อย่างใด
ต่อมาบริเวณรอยพระพุทธบาท ที่มีลำแสงให้เห็นยามค่ำคืน จนถึงประมาณตี 1 นั้น มีต้นตะเคียนใกล้ ๆ ได้โค่นลงมาทับก้อนหินแตก ทำให้เห็นรอยพระพุทธบาทชัดเจนขึ้น และรอยหินได้แยกออกประมาณ 1 เมตร ทำให้เป็นรอยพระพุทธบาทหันพระบาทไปทางทิศตะวันออก มีขนาดกว้าง 33 นิ้ว ยาว 56 นิ้ว
วัดมงคลรัตน์ ตำบลคอโค อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์เป็นพระสงฆ์ผู้มีพรหมวิหารธรรม เป็นพระสุปฏิปันโน เป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อชาวจังหวัดสุรินทร์ พุทธศาสนิกชนทั่วไปนิยมไปกราบนมัสการ เพื่อความเป็นมงคลแก่ชีวิต โดยไปไถ่ชีวิตโคกระบือที่วัด และรับมอบวัตถุมงคลจากหลวงพ่อเนื่องในเทศกาลต่าง ๆ เป็นประจำ เริ่มสร้างโบสถ์ ปี 2527 โดยมีสามี ภรรยา คู่หนึ่ง ได้รับโชคลาภจากการขอพรรอยพระพุทธบาท ที่ราษฎรจะมาขอกันเป็นประจำ เช่น ขอบุตร ขอตำแหน่ง ขอความร่ำรวย สามี ภรรยาคู่นี้ก็มาขอเช่นเดียวกัน และหอบเงินมาขอสร้างโบสถ์ให้วัดช้างหมอบ ปัจจุบันได้รับการตั้งชื่อเป็นทางการว่าวัดมงคลคชาราม ตั้งอยู่หมู่ที่ 14 บ้านช้างหมอบ ตำบลแนงมุด อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์
ส่วนการก่อสร้างพระปรางค์กุญชรมณีศรีไตรยอดเพชร นั้น สร้างขึ้นเพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระสารีริกธาตุของพระอริยะสงฆ์และพระธาตุที่เสด็จมาและเก็บไว้ที่วัดแห่งนี้เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาและให้พุทธศาสนิกชนได้เคารพบูชาสักการะ โดยก่อนที่จะสร้างนั้น ได้มีการบวงสรวงขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ต่อมาได้มีหญิงสาวอายุ 17 ปี มาพร้อมชายวัยกลางคน ประมาณ 50 ปี เศษ มาขอออกแบบพระปรางค์พร้อมแกะลายยอดพระปรางค์ให้ด้วย ทำงานตลอดไม่พูดจากับใคร ไม่ทราบว่ามาจากไหนโดยใช้เวลาเพียง 15 วัน ได้นำแบบทั้งหมดมาให้และบอกว่า ต่อไปจะมีคนมาสร้างให้ หลังจากนั้นก็จากไป ไม่ได้เจอกันอีกเลย
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2555 นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้นำพุทธศาสนิกชนทั่วทุกหมู่เหล่า ร่วมกันอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมด้วยพระพุทธรูปและพระไตรปิฎกฉบับภาษาลาว นั่งช้าง เวียนประทักษิณรอบพระปรางค์กุญชรมณีศรีไตรยอดเพชรเนื่องจากในปีนี้เป็นปีพุทธชยันตี 2600 ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า และเป็นการเฉลิมพระเกียรติถวายเป็นพระราชกุศล แด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ 85 พรรษา และสมเด็จ พระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเจริญพระชันษา 99 ปี จังหวัดสุรินทร์ จึงได้ขอประทานพระบรมสารีริกธาตุ จากพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ซึ่งพระองค์ทรงเมตตาประทาน พระบรมสารีริกธาตุ เพื่ออัญเชิญไปประดิษฐานไว้ ณ พระปรางค์กุญชรมณีศรีไตรยอดเพชร วัดมงคลวราภรณ์ บ้านช้างหมอบ ต.แนงมุด อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เพื่อเป็นที่สักการะ บูชา เป็นที่ตั้งมั่นแห่งพระพุทธศาสนา เป็นสิริมงคล และเป็นกำลังใจแก่คณะสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนตามแนชายแดนไทย – กัมพูชา
สำหรับครั้งนี้ นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ในฐานะประธานฝ่ายฆราวาส กล่าวว่าจังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับส่วนราชการจังหวัดสุรินทร์ ภาคเอกชน พ่อค้า ประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์ กำหนดจัดงานทอดผ้าป่าสามัคคี ในวันที่ 14 ก.พ. 2557 ณ วัดมงคลคชาราม (วัดช้างหมอบ ) หมู่ที่ 14 บ้านช้างหมอบ ต. แนงมุด จ. สุรินทร์ เพื่อสมทบทุนในการก่อสร้างพระปรางค์กุญชรมณีศรีไตรยอดเพชร เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะ และเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา และเพื่อพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดสุรินทร์อีกแห่ง จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดสุรินทร์ร่วมเป็นเจ้าภาพในการทอดผ้าป่าสามัคคีดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน
จังหวัดสุรินทร์จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคีในครั้งนี้โดยทั่วกัน โดยประสานรายละเอียดและส่งปัจจัยได้ที่ สำนักงานจังหวัดสุรินทร์ กลุ่มงานอำนวยการ โทร 044-512039 (นายสันทัด แสนทอง หัวหน้ากลุ่มงานอำนวยการ โทร 086-7215312 ) ที่ทำการปกครองจังหวัดสุรินทร์ กลุ่มงานการเงินและบัญชี โทร 044-511891 (นางสาวรัชนีภรณ์ สุยะ เสมียนตราจังหวัดสุรินทร์ โทร081-7534853 ) หรือโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสุรินทร์ ประเภทออมทรัพย์ ชื่อบัญชี ก่อสร้างพระปรางค์กุญชรมณีศรีไตรยอดเพชร เลขที่ บัญชี 310-0-69691-3 และขอความกรุณาแฟกซ์ใบโอนให้ทราบด้วย
หมายเหตุ : หลวงพ่อพวน เป็นเกจิอาจารย์ชื่อดังของอีสานใต้ เป็นพระเมตตาธรรมสูง ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด ใครที่เดือดร้อนมาจะช่วยโดยให้ยึดหลักธรรมะ ให้เก่งงาน เก่งอาชีพ ใช้อย่างประหยัดคุ้มค่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น