จังหวัดร้อยเอ็ด โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดงานเยาวชนร้อยเอ็ด "ร่วมแรงแข็งขัน ช่วยกันพัฒนา ใฝ่หาสันติ " พร้อมสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในวันเยาวชนแห่งชาติ ณ เกาะกลางบึงพลาญชัย จังหวัดร้อยเอ็ด
เมื่อช่วงเช้าวันนี้ 19 กันยายน 2556 นายพศิน โกมลวิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดงาน
เยาวชนร้อยเอ็ด "ร่วมแรงแข็งขัน ช่วยกันพัฒนาใฝ่หาสันติ " พร้อมสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในวันเยาวชนแห่งชาติ ณ เกาะกลางบึงพลาญชัย จังหวัดร้อยเอ็ด นายอาณัติ ทัศนกิจ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า สืบเนื่ององค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้ปี พ.ศ. 2528 เป็นปีเยาวชนสากล ดังนั้น เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2528 คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติกำหนดให้วันที่ 20 กันยายนของทุกปี เป็นวันเยาวชนแห่งชาติ เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันพระราชาสมภพในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2396 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ทรงพระราชสมภพเมื่อ วันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2468 และพระมหากษัตริย์ทั้งสองพระองค์ ได้ขึ้นครองราชย์สมบัติขณะยังทรงพระเยาว์ โดยมีวัตถุประสงค์คือ เพื่อให้เยาวชนได้ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาตนเอง พัฒนาชุมชน พัฒนาประเทศ, เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้ตระหนักถึงความสำคัญของเยาวชนต่อประเทศชาติ ทั้งในด้านคุณภาพ คุณธรรม และเพื่อให้นโยบายส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง สัมฤทธิ์ผล
นายพศิน โกมลวิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวให้โอวาทเยาวชนว่า การร่วมแรงแข็งขัน (participation) หมายถึง การยอมรับในศักยภาพของแต่ละบุคคล ที่จะสามารถวินิจฉัยและตัดสินใจในเรื่องที่เกี่ยวกับตนเอง และตระหนักว่าตนมีโอกาสได้ใช้โอกาสและพึงพอใจที่ได้ใช้โอกาสด้วยตนเองอย่างเกิดคุณค่าโดยไม่ตกเป็น เครื่องมือของผู้ใด การที่เยาวชนสามารถมีส่วนร่วมและมีบทบาทต่อชาติบ้านเมืองได้อย่างเต็มที่ นั้น เป็นความสำเร็จของสังคมและประเทศชาติที่สำคัญ , การช่วยกันพัฒนา (development) การพัฒนานั้นมองได้ 2 มิติ มิติหนึ่งคือ การพัฒนาตนเองของแต่ละบุคคล และอีกมิติหนึ่งคือ การพัฒนาสังคมและประเทศชาติ หากบุคคลพัฒนาตนเองได้ดีก็จะเป็นกำลังสำคัญและมีคุณค่าต่อการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ ขณะเดียวกัน การพัฒนาสังคมและประเทศชาติก็จะเป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนาของบุคคลด้วย กระบวนการพัฒนา 2 ส่วนนี้ จึงมีความต่อเนื่อง สัมพันธ์กัน และในสภาวะปัจจุบัน ความร่วมมือในระดับนานาชาติ จะมีผลอย่างสำคัญยิ่งต่อความก้าวหน้าในการพัฒนาประเทศ และการใฝ่หาสันติ (peace) สันติภาพเป็นหลักการพื้นฐานของชีวิต ความต้องการสันติภาพ เป็นความต้องการของสากลโลก ซึ่งทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกันเพื่อให้เกิดสันติภาพและดำรงคงไว้ คนหนุ่มสาวจึงต้องร่วมมือกันในเรื่องนี้ ผลักดันให้เกิดมาตรการที่จะสร้างความเชื่อมั่นในวิถีการพัฒนาด้วยสันติ และสร้างสำนึกสันติภาพจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปลูกฝังสั่งสอนเยาวชนให้รู้จักเคารพในศักดิ์ศรี ความเป็นมนุษย์ และสิทธิมนุษยชน มีความอดกลั้น ความเป็นประชาธิปไตย และเสรีภาพพื้นฐาน ทั้งนี้ ทุกคนจะพร้อมกันเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในอีก 2 ปี ข้างหน้า จะต้องมีความพร้อมเป็นอย่างดี ขอให้เด็กและเยาวชนจังหวัดร้อยเอ็ดนำคำขวัญที่ว่า "เยาวชนร้อยเอ็ดร่วมแรงแข็งขัน ช่วยกันพัฒนาใฝ่หาสันติ” ยึดถือเป็นแนวปฏิบัติ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ใหญ่ใจดีทั้งหลาย ช่วยกันส่งเสริม สนับสนุน การพัฒนาเด็กและเยาวชนจังหวัดร้อยเอ็ดให้เป็นพลังสำคัญในการพัฒนาสังคม และประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าต่อไป
การจัดงานครั้งนี้ ประกอบด้วยการแสดงบนเวทีของเยาวชนจากสถานศึกษาต่างๆ การแสดงชุดอาเซียนจากวิทยาลัยนาฏศิลป์ร้อยเอ็ด การออกร้านผลงานของนักเรียน – นักศึกษา และอื่นๆอีกมากมาย ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 200,000 บาท สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 100,000 บาท ได้รับความร่วมมือจากสถานศึกษาทั้งระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และระดับอุดมศึกษาตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนในจังหวัดร้อยเอ็ด สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด นักเรียน นักศึกษา สภาเด็กและเยาวชน และเครือข่ายเด็กและเยาวชน กว่า 2 พันคน
เมื่อช่วงเช้าวันนี้ 19 กันยายน 2556 นายพศิน โกมลวิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดงาน
เยาวชนร้อยเอ็ด "ร่วมแรงแข็งขัน ช่วยกันพัฒนาใฝ่หาสันติ " พร้อมสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในวันเยาวชนแห่งชาติ ณ เกาะกลางบึงพลาญชัย จังหวัดร้อยเอ็ด นายอาณัติ ทัศนกิจ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า สืบเนื่ององค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้ปี พ.ศ. 2528 เป็นปีเยาวชนสากล ดังนั้น เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2528 คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติกำหนดให้วันที่ 20 กันยายนของทุกปี เป็นวันเยาวชนแห่งชาติ เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันพระราชาสมภพในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2396 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ทรงพระราชสมภพเมื่อ วันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2468 และพระมหากษัตริย์ทั้งสองพระองค์ ได้ขึ้นครองราชย์สมบัติขณะยังทรงพระเยาว์ โดยมีวัตถุประสงค์คือ เพื่อให้เยาวชนได้ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาตนเอง พัฒนาชุมชน พัฒนาประเทศ, เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้ตระหนักถึงความสำคัญของเยาวชนต่อประเทศชาติ ทั้งในด้านคุณภาพ คุณธรรม และเพื่อให้นโยบายส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง สัมฤทธิ์ผล
นายพศิน โกมลวิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวให้โอวาทเยาวชนว่า การร่วมแรงแข็งขัน (participation) หมายถึง การยอมรับในศักยภาพของแต่ละบุคคล ที่จะสามารถวินิจฉัยและตัดสินใจในเรื่องที่เกี่ยวกับตนเอง และตระหนักว่าตนมีโอกาสได้ใช้โอกาสและพึงพอใจที่ได้ใช้โอกาสด้วยตนเองอย่างเกิดคุณค่าโดยไม่ตกเป็น เครื่องมือของผู้ใด การที่เยาวชนสามารถมีส่วนร่วมและมีบทบาทต่อชาติบ้านเมืองได้อย่างเต็มที่ นั้น เป็นความสำเร็จของสังคมและประเทศชาติที่สำคัญ , การช่วยกันพัฒนา (development) การพัฒนานั้นมองได้ 2 มิติ มิติหนึ่งคือ การพัฒนาตนเองของแต่ละบุคคล และอีกมิติหนึ่งคือ การพัฒนาสังคมและประเทศชาติ หากบุคคลพัฒนาตนเองได้ดีก็จะเป็นกำลังสำคัญและมีคุณค่าต่อการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ ขณะเดียวกัน การพัฒนาสังคมและประเทศชาติก็จะเป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนาของบุคคลด้วย กระบวนการพัฒนา 2 ส่วนนี้ จึงมีความต่อเนื่อง สัมพันธ์กัน และในสภาวะปัจจุบัน ความร่วมมือในระดับนานาชาติ จะมีผลอย่างสำคัญยิ่งต่อความก้าวหน้าในการพัฒนาประเทศ และการใฝ่หาสันติ (peace) สันติภาพเป็นหลักการพื้นฐานของชีวิต ความต้องการสันติภาพ เป็นความต้องการของสากลโลก ซึ่งทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกันเพื่อให้เกิดสันติภาพและดำรงคงไว้ คนหนุ่มสาวจึงต้องร่วมมือกันในเรื่องนี้ ผลักดันให้เกิดมาตรการที่จะสร้างความเชื่อมั่นในวิถีการพัฒนาด้วยสันติ และสร้างสำนึกสันติภาพจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปลูกฝังสั่งสอนเยาวชนให้รู้จักเคารพในศักดิ์ศรี ความเป็นมนุษย์ และสิทธิมนุษยชน มีความอดกลั้น ความเป็นประชาธิปไตย และเสรีภาพพื้นฐาน ทั้งนี้ ทุกคนจะพร้อมกันเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในอีก 2 ปี ข้างหน้า จะต้องมีความพร้อมเป็นอย่างดี ขอให้เด็กและเยาวชนจังหวัดร้อยเอ็ดนำคำขวัญที่ว่า "เยาวชนร้อยเอ็ดร่วมแรงแข็งขัน ช่วยกันพัฒนาใฝ่หาสันติ” ยึดถือเป็นแนวปฏิบัติ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ใหญ่ใจดีทั้งหลาย ช่วยกันส่งเสริม สนับสนุน การพัฒนาเด็กและเยาวชนจังหวัดร้อยเอ็ดให้เป็นพลังสำคัญในการพัฒนาสังคม และประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าต่อไป
การจัดงานครั้งนี้ ประกอบด้วยการแสดงบนเวทีของเยาวชนจากสถานศึกษาต่างๆ การแสดงชุดอาเซียนจากวิทยาลัยนาฏศิลป์ร้อยเอ็ด การออกร้านผลงานของนักเรียน – นักศึกษา และอื่นๆอีกมากมาย ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 200,000 บาท สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 100,000 บาท ได้รับความร่วมมือจากสถานศึกษาทั้งระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และระดับอุดมศึกษาตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนในจังหวัดร้อยเอ็ด สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด นักเรียน นักศึกษา สภาเด็กและเยาวชน และเครือข่ายเด็กและเยาวชน กว่า 2 พันคน
คมกฤช พวงศรีเคน ข่าว/ภาพ
กมลพร คำนึง บก.ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด
กมลพร คำนึง บก.ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น