ชาวบ้าน 2 หมู่บ้านที่บุรีรัมย์เดือดร้อนต้องชื้อน้ำกินหลังน้ำฝนเก็บสำรองเหือดแห้งซ้ำประปาหมู่บ้านเป็นขุ่นโคลน ชาวบ้าน 2 หมู่บ้านที่บุรีรัมย์เดือดร้อนหนัก น้ำฝนที่กักเก็บตามโอ่งและภาชนะ สำรองไว้ทุกครัวเรือนแห้งขอด ต้องชื้อน้ำกินเพิ่มค่าใช้จ่ายมานานนับเดือน ซ้ำน้ำผลิตประปายังมีสภาพเหลืองเป็นขุ่นโคลน ไม่สามารถนำมาอุปโภคบริโภคได้ วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือ ( 28 ก.พ.57 ) ชาวบ้านบ้าน ตาหล่ำ หมู่ 9 และบ้านตาหล่ำน้อย หมู่ 17 ต.หินเหล็กไฟ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ทั้ง 2 หมู่บ้าน กว่า 200 ครัวเรือน เดือดร้อนหนักได้รับผลกระทบปัญหาภัยแล้งที่มาเร็วกว่าทุกปี เนื่องจากน้ำฝนที่รองกักเก็บไว้ในโอ่งหรือภาชนะกักเก็บน้ำฝนสำรองไว้ทุกครัวเรือน เพื่อใช้อุปโภคบริโภคในครัวเรือนได้เหือดแห้งและหมดลง ชาวบ้านต้องชื้อน้ำบรรจุขวด และน้ำจากพ่อค้ารถเร่ความจุถังละ 2 ลูกบาศก์เมตร ในราคา 250 บาท เพื่อนำมาอุปโภคบริโภคมานานกว่า 1 เดือน สร้างความเดือดร้อนซ้ำเติมชาวบ้านส่วนมากเป็นเกษตรกร และมีรายได้น้อยอยู่แล้ว ประกอบกับสระน้ำกลางหมู่บ้าน ที่ใช้ในการผลิตประปามีสภาพที่ตื้นเขิน เหลือง ทั้งเป็นขุ่นโคลน ไม่สามารถนำมาประกอบอาหาร ซักผ้า ล้างจาน และไม่สามารถนำไปใช้ในการอุปโภคบริโภคได้
เนื่องจากสาเหตุประปาหมู่บ้านทั้ง 2 หมู่บ้าน ไม่มีระบบกรองน้ำที่สะอาดและได้มาตรฐาน หากนำมาอาบก็ทำให้เกิดผื่นคันตามร่างกาย เกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของตนเอง และบุตรหลาน ถึงขั้นอาจจะทำให้ป่วยด้วยโรคผิวหนังได้ จึงร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ จัดสรรงบประมาณมาสำรวจสร้างระบบกรองน้ำ หรือแก้ไขสระน้ำกลางหมู่บ้านที่ใช้ผลิตประปาหมู่บ้าน ให้ได้มาตรฐานและสะอาดสามารถใช้อุปโภคบริโภคได้อย่างเช่นหมู่บ้านอื่นดังกล่าวด้วย เพราะชาวบ้านประสบปัญหาความเดือดร้อนซ้ำซากมานานนับ 10 ปีแล้ว นางอนงค์ เทินทองหลาง ระบุว่า ปัญหาภัยแล้งขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคของชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้าน เป็นปัญหาซ้ำซากมานานนับ 10 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน จึงร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งเข้ามาช่วยเหลือ ดูแลแก้ไขเพื่อคลายความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน โดยช่วยสร้างระบบกรองน้ำประปาที่ได้มาตรฐาน และสระน้ำกลางหมู่บ้านที่เป็นขุ่นโคลน ไม่สามารถนำน้ำประปามาใช้ในการอุปโภคบริโภคได้
เนื่องจากสาเหตุประปาหมู่บ้านทั้ง 2 หมู่บ้าน ไม่มีระบบกรองน้ำที่สะอาดและได้มาตรฐาน หากนำมาอาบก็ทำให้เกิดผื่นคันตามร่างกาย เกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของตนเอง และบุตรหลาน ถึงขั้นอาจจะทำให้ป่วยด้วยโรคผิวหนังได้ จึงร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ จัดสรรงบประมาณมาสำรวจสร้างระบบกรองน้ำ หรือแก้ไขสระน้ำกลางหมู่บ้านที่ใช้ผลิตประปาหมู่บ้าน ให้ได้มาตรฐานและสะอาดสามารถใช้อุปโภคบริโภคได้อย่างเช่นหมู่บ้านอื่นดังกล่าวด้วย เพราะชาวบ้านประสบปัญหาความเดือดร้อนซ้ำซากมานานนับ 10 ปีแล้ว นางอนงค์ เทินทองหลาง ระบุว่า ปัญหาภัยแล้งขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคของชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้าน เป็นปัญหาซ้ำซากมานานนับ 10 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน จึงร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งเข้ามาช่วยเหลือ ดูแลแก้ไขเพื่อคลายความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน โดยช่วยสร้างระบบกรองน้ำประปาที่ได้มาตรฐาน และสระน้ำกลางหมู่บ้านที่เป็นขุ่นโคลน ไม่สามารถนำน้ำประปามาใช้ในการอุปโภคบริโภคได้
สุรชัย พิรักษา สวท. บุรีรัมย์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น