ด้วยรัฐบาล ได้ปรับราคารับจำนำข้าวเปลือก โครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2555/56 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน – 15 กันยายน 2556 ซึ่งปรับราคารับจำนำข้าวเปลือกเจ้า 100 % ณ ความชื้นไม่เกิน 15 % จากราคาตันละ 15,000 บาท เป็นราคาตันละ 12,000 บาท และข้าวเปลือกอื่นๆ ปรับลด 20 % จากราคาที่กำหนดไว้เดิม นั้น
นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า เพื่อให้การดำเนินการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2555/56 สอดรับมติคณะรัฐมนตรีที่กำหนดปริมาณการรับจำนำรวมไม่เกิน 22.0 ล้านตัน และกรอบวงเงินที่ใช้ในการรับจำนำไม่เกิน 345,000 ล้านบาท เป็นวงเงินกูจำนวน 410,000 ล้านบาท และเงินทุนของ ธ.ก.ส. จำนวน 90,000 ล้านบาท รวมทั้งรักษาวินัยทางการคลังตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง ประกอบกับเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรให้มีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการเปิดตลาด AEC และสถานการณ์ภาวะการค้าข้าวในตลาดโลกที่เปลี่ยนแปลงไป จึงจำเป็นต้องปรับราคารับจำนำ วงเงินรับจำนำของเกษตรกรแต่ละครัวเรือน รวมทั้งมาตรการกำกับดูแลโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2555/56 เพิ่มเติม เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2556 มีประเด็นสำคัญดังนี้
1. ปรับราคารับจำนำข้าวเปลือกเจ้า 100 % ณ ความชื้นไม่เกิน 15 % จากราคาตันละ 15,000 บาท เป็นราคาตันละ 12,000 บาท และข้าวเปลือกอื่นๆ ปรับลด 20 % จากราคาที่กำหนดไว้เดิม โดยราคาที่ปรับลดลงใกล้เคียงกับราคาต้นทุนการผลิตข้าวเปลือกเจ้านาปรังบวกเพิ่มผลตอบแทนเกษตรกรประมาณร้อยละ 40 ซึ่งเป็นเกณฑ์ช่วยเหลือที่สูงกว่ามาตรฐานการช่วยเหลือสินค้าเกษตรทั่วไป โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2556
2. จำกัดวงเงินรับจำนำของเกษตรกรแต่ละครัวเรือนจากเดิมไม่จำกัดจำนวนเป็นไม่เกินครัวเรือนละ 500,000 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน 2556 เป็นต้นไป
3. มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกันกำหนดมาตรการเพื่อรองรับการลดต้นทุนการผลิตข้าว เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรมีความเข้มแข็ง ลดต้นทุนการผลิตลง รวมทั้งให้มีรายได้เพิ่มขึ้น
4. มอบหมายให้คณะอนุกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติระดับจังหวัด และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ตรวจสอบใบประทวนที่ยังไม่ได้จ่ายเงินให้เกษตรกรอย่างรอบคอบรัดกุมว่าข้าวเปลือกที่เกษตรกรนำมาจำนำเป็นข้าวเปลือกของเกษตรกรอย่างแท้จริง
5. คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อมูลปริมาณข้าวคงเหลือขององค์กรการคลังสินค้าและองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ที่ กขช. แต่งตั้งขึ้น จะมีการเร่งรัดตรวจสอบสต๊อกข้าวของทั้งโรงสีและโกดังกลางที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 นาปรังปี 2555 และปีการผลิต 2555/56 กรณีตรวจสอบพบการทุจริต จะมีการดำเนินคดีทั้งทางเพ่งและอาญาโดยเคร่งครัด
จังหวัดสระแก้ว จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปและเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดสระแก้วได้ทราบ ผู้ใดมีข้อสงสัยต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสระแก้ว โทร. 0-3742-5011 หรือที่ สำนักงานการค้าภายในจังหวัดสระแก้ว โทร. 0-3742-5017-8
นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า เพื่อให้การดำเนินการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2555/56 สอดรับมติคณะรัฐมนตรีที่กำหนดปริมาณการรับจำนำรวมไม่เกิน 22.0 ล้านตัน และกรอบวงเงินที่ใช้ในการรับจำนำไม่เกิน 345,000 ล้านบาท เป็นวงเงินกูจำนวน 410,000 ล้านบาท และเงินทุนของ ธ.ก.ส. จำนวน 90,000 ล้านบาท รวมทั้งรักษาวินัยทางการคลังตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง ประกอบกับเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรให้มีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการเปิดตลาด AEC และสถานการณ์ภาวะการค้าข้าวในตลาดโลกที่เปลี่ยนแปลงไป จึงจำเป็นต้องปรับราคารับจำนำ วงเงินรับจำนำของเกษตรกรแต่ละครัวเรือน รวมทั้งมาตรการกำกับดูแลโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2555/56 เพิ่มเติม เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2556 มีประเด็นสำคัญดังนี้
1. ปรับราคารับจำนำข้าวเปลือกเจ้า 100 % ณ ความชื้นไม่เกิน 15 % จากราคาตันละ 15,000 บาท เป็นราคาตันละ 12,000 บาท และข้าวเปลือกอื่นๆ ปรับลด 20 % จากราคาที่กำหนดไว้เดิม โดยราคาที่ปรับลดลงใกล้เคียงกับราคาต้นทุนการผลิตข้าวเปลือกเจ้านาปรังบวกเพิ่มผลตอบแทนเกษตรกรประมาณร้อยละ 40 ซึ่งเป็นเกณฑ์ช่วยเหลือที่สูงกว่ามาตรฐานการช่วยเหลือสินค้าเกษตรทั่วไป โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2556
2. จำกัดวงเงินรับจำนำของเกษตรกรแต่ละครัวเรือนจากเดิมไม่จำกัดจำนวนเป็นไม่เกินครัวเรือนละ 500,000 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน 2556 เป็นต้นไป
3. มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกันกำหนดมาตรการเพื่อรองรับการลดต้นทุนการผลิตข้าว เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรมีความเข้มแข็ง ลดต้นทุนการผลิตลง รวมทั้งให้มีรายได้เพิ่มขึ้น
4. มอบหมายให้คณะอนุกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติระดับจังหวัด และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ตรวจสอบใบประทวนที่ยังไม่ได้จ่ายเงินให้เกษตรกรอย่างรอบคอบรัดกุมว่าข้าวเปลือกที่เกษตรกรนำมาจำนำเป็นข้าวเปลือกของเกษตรกรอย่างแท้จริง
5. คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อมูลปริมาณข้าวคงเหลือขององค์กรการคลังสินค้าและองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ที่ กขช. แต่งตั้งขึ้น จะมีการเร่งรัดตรวจสอบสต๊อกข้าวของทั้งโรงสีและโกดังกลางที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 นาปรังปี 2555 และปีการผลิต 2555/56 กรณีตรวจสอบพบการทุจริต จะมีการดำเนินคดีทั้งทางเพ่งและอาญาโดยเคร่งครัด
จังหวัดสระแก้ว จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปและเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดสระแก้วได้ทราบ ผู้ใดมีข้อสงสัยต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสระแก้ว โทร. 0-3742-5011 หรือที่ สำนักงานการค้าภายในจังหวัดสระแก้ว โทร. 0-3742-5017-8
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น