วันนี้ ( 11 ก.ค. 56 ) เวลา 09.30 น. ที่หอประชุมเปรม
ติณสูลานนท์ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ดร.วินัย บัวประดิษฐ์
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นำหัวหน้าส่วนราชการ
หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ
ร่วมประกอบพิธีวางพวงมาลาถวายเครื่องราชสักการะเนื่องในวันสมเด็จพระนารายณ์
มหาราช เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าประสาททอง
พระมหากษัตริย์ผู้ครองกรุงศรีอยุธยา กับพระมารดา
ผู้ทรงเป็นพระราชธิดาในสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม พระราชสมภพเมื่อวันจันทร์
เดือนยี่ ปีวอก พุทธศักราช 2175
เมื่อทรงพระเยาว์ได้ทรงศึกษาวิชาการจนแตกฉาน มีความเชี่ยวชาญในทุกด้าน
ทั้งศิลปะวิชาไตรเภท ยุทธศาสตร์ และการปกครอง ครั้นเมื่อพระชนมายุได้ 25
พรรษา ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ
โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกขึ้นเสวยราชสมบัติ
เป็นพระมหากษัตริย์ องค์ที่ 27 แห่งกรุงศรีอยุธยา พระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ประวัติศาสตร์ของชาติได้จารึกพระราชกรณียกิจของพระองค์ในด้านต่างๆ ไว้นานัปการ ทั้งในด้านการที่ทรงเป็นกษัตริย์นักรบผู้กล้าหาญ ทรงปกครองอาณาประชาราษฎร์ด้วยทศพิธราชธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระราชกรณียกิจที่เกี่ยวกับการเจริญสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์เพียงพระองค์เดียวในบูรพาที่เป็นมิตร และสนิทสนมกับชาวยุโรป ด้วยพระปรีชาญาณ ได้ทรงตัดสินพระทัยเลือกเจริญสัมพันธไมตรีอย่างแน่นแฟ้นกับประเทศฝรั่งเศส เพื่อถ่วงดุลอำนาจกับประเทศฮอลันดาได้ดำเนินการทางการทูตด้วยความละเอียด สุขุม รอบคอบ ทรงจัดให้มีการแลกเปลี่ยนทูต ยังปกครองอาณาประชาราษฎร์ด้วยทรงขอเวลาศึกษาไตร่ตรองหลักคำสอนของคริสต์ ศาสนา ผลแห่งการกระชับสัมพันธไมตรีกับประเทศต่างๆ ในยุโรป เป็นผลให้เกิดการถ่ายเทอารยธรรม ยังความเจริญในด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ การค้า และสถาปัตยกรรมแก่สยามประเทศ นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงมีพระปรีชาในด้านศิลปะวรรณคดีเป็นอย่างยิ่ง ได้ทรงพระราชนิพนธ์วรรณคดีไทยไว้หลายเรื่อง เช่น พระราชนิพนธ์โคลงเรื่องทศรถสอนพระราม พาลีสอนน้อง ราชสวัสดิ์ และสมุทรโฆษคำฉันท์ เป็นต้น
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เสด็จดำรงราชสมบัตินานถึง 32 ปี จึงทรงพระประชวร และเสด็จสวรรคตเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม พุทธศักราช 2231 สิริรวมพระชนมายุได้ 56 พรรษา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น