นายพินิจ วงษ์โสภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ
รายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ก.ค. 56
ที่ศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์อันเนื่อง มาจากพระราชดำริ อำเภอภูสิงห์
จังหวัดศรีสะเกษ นายประลอง ดำรงไทย ผู้อำนวยการสำนักจัดการป่าชุมชน
เป็นประธานเปิดเวทีเสวนาแก้ไขปัญหาป่าชุมชนอำเภอภูสิงห์ ภายใต้หัวข้อ
อดีตที่ผ่านมา ปัญหาที่พบในปัจจุบัน วันเวลาที่จะไปข้างหน้า
ซึ่งศูนย์ประสานงานป่าไม้ศรีสะเกษ ประสานความร่วมมือกับ
สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 นครราชสีมา สำนักจัดการป่าชุมชน กรมป่าไม้
และกลุ่มเครือผู้ร่วมอนุรักษ์ป่าไม้ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ
ร่วมกันจัดขึ้น เพื่อระดมความคิดในการแก้ไขปัญหาการรุกพื้นที่ป่าไม้
ตามแนวชายแดนไทย กัมพูชา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีนาย ชวน
ธีรวุฒิอุดม หัวหน้าศูนย์ประสานงานป่าไม้ศรีสะเกษ พร้อมด้วย
ประชาชนในเขตพื้นที่อำเภอภูสิงห์
ร่วมเวทีเสวนาเพื่อระดมความคิดเห็นและหาทางออกของปัญหาดังกล่าว
นายประลอง กล่าวว่า ปัญหาเรื่่องการบุกรกุที่ป่าชุมชนและป่าสาธารณะรัฐบาล ได้ให้ความสนใจอย่างมาก โดยได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ปักหลักดินแดนระหว่างพื้นที่ป่าให้ชัดเจน แต่ในหลักความเป็นจริงนั้น พื้นที่ป่าอย่างไรก็คือพื้นที่ป่า ซึ่งชาวบ้านจะมาอ้างว่า พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ของชาวบ้าน นั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะมีหลักฐานที่สามารถระบุชัดเจนแล้วว่า เป็นพื้นที่ป่าชุมชน หรือพื้นที่ป่าสงวน สำหรับในส่วนจุดใด ที่ไม่ถูกต้องหรือมีผลกระทบกับชาวบ้าน ก็ต้องเป็นส่วนที่แก้ไขกันต่อไป
ทั้งนี้ ทางรัฐบาลได้ทำ แผนที่มาตรฐาน ซึ่งจะสามารถกำหนดขอบเขตของพื้นที่ป่าได้อย่างชัดเจน และเป็นแผนที่ ซึ่งสามารถใช่ร่วมกันได้ทั่วประเทศ ซึ่งหากมีผู้ใดที่ฝ่าฝืน หรือบุกรุกพื้นที่ป่า เจ้าหน้าของรัฐ ก็จะสามารถดำเนินการตามกฎหมายได้ทันที
นายประลอง กล่าวว่า ปัญหาเรื่่องการบุกรกุที่ป่าชุมชนและป่าสาธารณะรัฐบาล ได้ให้ความสนใจอย่างมาก โดยได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ปักหลักดินแดนระหว่างพื้นที่ป่าให้ชัดเจน แต่ในหลักความเป็นจริงนั้น พื้นที่ป่าอย่างไรก็คือพื้นที่ป่า ซึ่งชาวบ้านจะมาอ้างว่า พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ของชาวบ้าน นั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะมีหลักฐานที่สามารถระบุชัดเจนแล้วว่า เป็นพื้นที่ป่าชุมชน หรือพื้นที่ป่าสงวน สำหรับในส่วนจุดใด ที่ไม่ถูกต้องหรือมีผลกระทบกับชาวบ้าน ก็ต้องเป็นส่วนที่แก้ไขกันต่อไป
ทั้งนี้ ทางรัฐบาลได้ทำ แผนที่มาตรฐาน ซึ่งจะสามารถกำหนดขอบเขตของพื้นที่ป่าได้อย่างชัดเจน และเป็นแผนที่ ซึ่งสามารถใช่ร่วมกันได้ทั่วประเทศ ซึ่งหากมีผู้ใดที่ฝ่าฝืน หรือบุกรุกพื้นที่ป่า เจ้าหน้าของรัฐ ก็จะสามารถดำเนินการตามกฎหมายได้ทันที
จิรภัทร หมายสุข /ภาพ/ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น